3 คณบดี โรงเรียนแพทย์ ห่วง กทม.หลังยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันวอนสังคมตระหนักร่วมกันฉีดวัคซีนป้องกันโรค ลดภาวะผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ขณะนี้โรงเรียนแพทย์ทุกแห่ง ร้อยละ 85 รับผู้ป่วยหนัก
วันนี้ ( 11 พ.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ระลอกล่าสุด โดยยอมรับว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในกทม.ยังสูงดังนั้นการควบคุมโรคที่ดีที่สุด คือ ต้องเร่งคัดกรองผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนแออัดให้เร็ว ก็จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้
ขณะนี้โรงเรียนแพทย์หลายแห่ง มีผู้ป่วยหนักที่ต้องดูแลรักษาประมาณ 150 - 300 คน มีผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจทั่วประเทศ 400 คน ในจำนวนนี้จะพบอัตราการเสียชีวิต 1 ใน 4 ถึง 1 ใน 5 และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตต่อไปอีก 80-100 คน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคงอยู่ในภาวะตึงมือกับการรับผู้ป่วยหนัก ซึ่งแต่ละแห่งก็ต้องมีระบบหมุนเวียนเตียงเพื่อรักษาผู้ป่วยหนัก
ผู้เชี่ยวชาญ ยังเห็นตรงกันว่า การระบาดระลอกนี้หนักกว่ารอบที่ผ่านมาถึง 15 เท่า จึงทำให้เห็นตัวเลขผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้นตามสัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ไวรัสกลายพันธุ์ ยังเป็นอีกปัจจัยทำให้พบการติดเชื้อรุนแรงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยงของประชาชนที่การด์ตก ขณะเดียวกัน ภาวะอ้วนยังเป็นปัจจัยร่วมของการระบาดระลอกนี้ เพราะกลุ่มนี้หากรับเชื้อแล้ว ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นและอาการหนัก
ดังนั้น แนวทางการลดอัตราการติดเชื้อ คือการที่คนไทยต้องร่วมกันฉีดวัคซีน หยุดเชื้อช่วยชาติ เพื่อป้องกันคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่ยังมีกิจกรรมออกนอกบ้าน ซึ่งโรงเรียนแพทย์เตรียมปรับยุทธศาสตร์ สร้างความเข้าใจในสังคมรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนอย่างถูกต้อง
ส่วนแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ยอมรับว่า เรามีประสบการณ์มากพอในการรักษาผู้ติดเชื้อทั้งเรื่องการให้ยาที่เหมาะสมและการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เร็วขึ้น
ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ยังเป็นยาหลักในการรักษาผู้ติดเชื้อที่มีภาวะปอดอักเสบรุนแรงแต่การให้ยานั้น แพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคลและความรุนแรงของโรค และจะไม่ให้ในผู้ป่วยทุกคน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
ที่มา :
https://news.thaipbs.or.th/content/304235
3 คณบดีโรงเรียนแพทย์ ห่วง กทม. เหตุผู้ติดเชื้อยังสูง
วันนี้ ( 11 พ.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ระลอกล่าสุด โดยยอมรับว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในกทม.ยังสูงดังนั้นการควบคุมโรคที่ดีที่สุด คือ ต้องเร่งคัดกรองผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนแออัดให้เร็ว ก็จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้
ขณะนี้โรงเรียนแพทย์หลายแห่ง มีผู้ป่วยหนักที่ต้องดูแลรักษาประมาณ 150 - 300 คน มีผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจทั่วประเทศ 400 คน ในจำนวนนี้จะพบอัตราการเสียชีวิต 1 ใน 4 ถึง 1 ใน 5 และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตต่อไปอีก 80-100 คน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคงอยู่ในภาวะตึงมือกับการรับผู้ป่วยหนัก ซึ่งแต่ละแห่งก็ต้องมีระบบหมุนเวียนเตียงเพื่อรักษาผู้ป่วยหนัก
ผู้เชี่ยวชาญ ยังเห็นตรงกันว่า การระบาดระลอกนี้หนักกว่ารอบที่ผ่านมาถึง 15 เท่า จึงทำให้เห็นตัวเลขผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้นตามสัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ไวรัสกลายพันธุ์ ยังเป็นอีกปัจจัยทำให้พบการติดเชื้อรุนแรงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยงของประชาชนที่การด์ตก ขณะเดียวกัน ภาวะอ้วนยังเป็นปัจจัยร่วมของการระบาดระลอกนี้ เพราะกลุ่มนี้หากรับเชื้อแล้ว ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นและอาการหนัก
ดังนั้น แนวทางการลดอัตราการติดเชื้อ คือการที่คนไทยต้องร่วมกันฉีดวัคซีน หยุดเชื้อช่วยชาติ เพื่อป้องกันคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่ยังมีกิจกรรมออกนอกบ้าน ซึ่งโรงเรียนแพทย์เตรียมปรับยุทธศาสตร์ สร้างความเข้าใจในสังคมรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนอย่างถูกต้อง
ส่วนแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ยอมรับว่า เรามีประสบการณ์มากพอในการรักษาผู้ติดเชื้อทั้งเรื่องการให้ยาที่เหมาะสมและการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เร็วขึ้น
ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ยังเป็นยาหลักในการรักษาผู้ติดเชื้อที่มีภาวะปอดอักเสบรุนแรงแต่การให้ยานั้น แพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคลและความรุนแรงของโรค และจะไม่ให้ในผู้ป่วยทุกคน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/304235