" Sundiata Keita " ตำนานราชสีห์แห่งมาลี




(Sundiata Keita " The Lion King " ในชีวิตจริง)


Sundiata Keita (อ่านว่า Soon-jah-ta) เป็นผู้ปกครองที่มีอิทธิพลและเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรมาลีที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น " Lion King of Mali " ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นวีรบุรุษผู้โด่งดังในมหากาพย์  Sundiata ยังเป็นที่รู้จักในชื่อต่างอีกเช่น Mari Djata I, Songolon Djata, Sundjata Keyita ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าสนใจที่เต็มไปด้วยคำทำนาย เวทมนตร์ และความเฉลียวฉลาด 

ก่อนหน้านี้ Sundiata เป็นกษัตริย์ / หัวหน้าของชนเผ่า Mandinka ขนาดเล็กที่คลุมเครือในอาณาจักรกานา ด้วยความเสื่อมโทรมของจักรวรรดิกานาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13  Sundiata จึงคว้าโอกาสในการเพิ่มอำนาจของเขา จนในที่สุดก็ปราบจักรวรรดิกานาจนกลายเป็นเมืองขึ้นหนึ่งของเขา
(อาณาจักรกานา มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ถึงศตวรรษที่12 ครอบคลุมพื้นที่ซึ่งรวมบางส่วนของมาลีในปัจจุบันได้แก่ Mauretania, Chad และ Senegal)

ชีวิตของ Sundiata ที่รู้จักส่วนใหญ่นั้น จะผ่านทางบทกวีมหากาพย์ที่เล่าส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นของเผ่าMandinka ที่เรียกว่ามหากาพย์ " Epic of Sundiata " มาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งจากงานเขียนของนักเดินทางมุสลิมหลายคนที่ได้ยินเรื่องการครองราชย์ของเขาและไปเยี่ยมมาลี

ตามมหากาพย์ Epic of Sundiata บอกเล่าถึง ผู้ก่อตั้งอาณาจักรมาลีซึ่งเป็นบุตรชายของกษัตริย์ที่ชื่อ Maghan Kon Fatta (รู้จักกันในชื่อ Frako Mahgan Keigu หมายถึง 'Maghan the Handsome') กับ Sogolon Kedjou ภรรยาคนที่สองของเขา โดยเริ่มเรื่องในดินแดนของกษัตริย์ Maghan ที่ตั้งอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำ Niger ทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่รู้จักกันในชื่อกินีในปัจจุบัน ซึ่งในมหากาพย์มีคำทำนายที่บอกล่วงหน้าถึงความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น



แผนที่จักรวรรดิมาลี (ค.ศ. 1240-1645) ที่จุดสูงสุดค.ศ. 1337 CE หลังจากรัชสมัยของ Mansa Musa (1312-1337 CE)


คำพยากรณ์นั้นบอกว่า กษัตริย์จะมีบุตรชายคนหนึ่งที่จะเป็นกษัตริย์มาลีจะยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยในเวลานั้น กษัตริย์มีภรรยาหลายคน รวมถึง
" Sassouma " ที่มีลูกชายวัยแปดขวบชื่อ " Dankaran Touman " ซึ่งเป็นรัชทายาทอยู่แล้ว พร้อมกับลูกชายอีก 10 คนกับภรรยาคนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สิ่งนี้สำเร็จกษัตริย์ Maghan จะต้องแต่งงานกับ Sogolon ตามที่มหากาพย์ได้อธิบายไว้ว่า เป็นผู้หญิงที่น่าเกลียดและมีดวงตาที่น่ากลัว ซึ่งทุกคนเรียกเธอว่า " buffalo woman " โดยกษัตริย์ Maghan ได้พบกับ Sogolon เมื่อเธอถูกนักล่าหนุ่มสองคนไล่ล่ามาที่ศาลของเขา ซึ่งสุดท้ายนักล่าก็ตัดสินใจยก Sogolon ให้กับกษัตริย์ ในขณะที่กษัตริย์ Maghan ก็หวังว่าจะสำเร็จตามคำทำนายจึงแต่งงานกับ Sogolon

ในที่สุด Sogolon ก็ให้กำเนิด " Sundiata " บุตรชายของกษัตริย์ ซึ่งเป็นเด็กที่ขี้เกียจ ตะกละและพิการ เมื่ออายุได้ 7 ขวบ นอกจากจะไม่มีเพื่อนแล้ว
เขายังไม่ยอมเดิน แต่ใช้วิธีคลานสี่ขาแทน  สิ่งนี้สร้างความห่วงใยให้แก่กษัตริย์อย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อกษัตริย์กำลังจะสิ้นพระชนม์ เขาได้มอบรถม้าให้ Sundiata เป็นของขวัญเพื่อแสดงความปรารถนาของเขาที่จะให้เด็กชายคนนี้ได้เป็นกษัตริย์

เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ ภรรยาคนแรกของเขาให้ Dankaran บุตรชายของเธอมีสิทธิ์ในบัลลังก์ ในขณะที่ Sundiata ที่ยังคงคลานอยู่ทำอะไรไม่ได้เลย
เมื่อ Dankaran ขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาได้จัดตั้งสภาผู้สำเร็จราชการโดย Saussoma พระมารดาของเขาเองให้สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ส่วนแม่ลูก Sundiata และ Sogolon นั้นได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้ายมากจาก Saussoma 

 
Sogolon Kedjou ( Cr.emaze.com )
ในตำนานกล่าวว่า จิตตานุภาพและความเข้มแข็งจะทำให้ Sundiata สามารถเอาชนะความท้าทายทางกายภาพของเขาได้ ซึ่งในที่สุดเขาก็สามารถเดินได้ เมื่ออายุ 10 ขวบ และนี่คือสัญญาณว่าเขาถูกลิขิตให้เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

ในเวลานั้น Sogolon คิดว่า ถ้าเธอยังคงอยู่ต่อไปลูกและเธอจะกลายเป็นเหยื่อของ Saussoma ดังนั้นเพื่อ Sundiata และโชคชะตาของเขา เธอจึงตัดสินใจลี้ภัยไปพร้อมกับลูกของเธอ จนกระทั่งมาถึงราชสำนักของราชาแห่ง Mema โดยกษัตริย์ Moussa Tounkara ซึ่งอนุญาตให้พวกเขาลี้ภัย ส่วนรถม้าของ ขวัญ Dankaran ได้ส่งมันไปให้กษัตริย์ของ Sosso ทำให้ Sundiata โกรธมากและสาบานว่าจะกลับมาเพื่ออ้างสิทธิ์ในตำแหน่งของกษัตริย์

ในอาณาจักร Mema นี้ Sundiata กลายเป็นที่ชื่นชอบของกษัตริย์ Moussa Tounkara ซึ่งชื่นชมในความกล้าหาญจากการเอาชนะความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆของเขา จนเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ในที่สุดเขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นมหาอุปราชและปกครองแทนในช่วงที่กษัตริย์ไม่อยู่ แต่ชะตาที่ยิ่งใหญ่ของ Sundiata ในที่สุดเขาก็กลับไปยังที่ที่เขาจากมา

เมื่อ Sundiata กลับมาเป็นเวลาเดียวกับที่เผ่า Mandinka ถูกทำลายโดยกษัตริย์ Soumaoro Kante ราชาแห่ง Sosso ทำให้ Sundiata มากโกรธที่ผู้คนของเผ่าโดนทำร้าย เขาจึงทำสงครามกับกษัตริย์ Soumaoro Kante พร้อมกับกองทัพครึ่งหนึ่งที่ได้จากอาณาจักร Mema  แต่ภารกิจข้างหน้าของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายซึ่งเกี่ยวข้องกับการรวมเผ่าต่างๆเข้าด้วยกัน



นี่คือ Kirina ในสมัยปัจจุบัน
เมืองนี้เคยเป็นฐานที่มั่นหลักแห่งหนึ่งของจักรวรรดิมาลี โดยการต่อสู้ครั้งสำคัญของ Kirina เกิดขึ้นที่นี่ในปีค. ศ. 1235
Cr.ถ่ายภาพโดย Werner Forman

โดยในการรบที่เมือง Kirina กษัตริย์ Soumaoro Kante พ่ายแพ้ให้กับ Sundiata และพันธมิตรของเขา ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกในการขยายตัวของจักรวรรดิมาลีซึ่งจะกลายเป็นมหาอำนาจที่โดดเด่นในแอฟริกาตะวันตก โดย Sundiata ได้รับตำแหน่งใหม่เรียกว่า 'Mansa' ซึ่งหมายถึงกษัตริย์หรือจักรพรรดิในเผ่า Mandinka

นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ตำนานกล่าวว่า Sundiata ได้ปกครองมาจักรวรรดิมาลีมาหลายปี ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักในนาม
'ราชาสิงโตแห่งมาลี' (Lion King of Mali) และสำหรับชื่อ 'Lion King' ของ Sundiata นั้น เป็นไปได้ว่ามาจาก " Sogolon Djata " โดยคำว่า 'Sogolon' คือแม่ของเขาและ Djata หรือ Jata ที่แปลว่าสิงโต (Lion) ดังนั้น เขาจึงเป็นทั้งสิงโตของ Sogolon และราชาแห่งมาลี นั่นคือ " Lion King of Mali "

เป็นที่คาดว่า Sundiata เสียชีวิตในราวปีค.ศ.1255 แม้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของเขายังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ส่วนหนึ่งบอกว่าเขาถูกยิงโดยบังเอิญด้วย
ลูกศรพิษ บางคนก็บอกว่าเขาอาจเป็นเหยื่อของการลอบสังหารทางการเมือง แต่สาเหตุที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดของการเสียชีวิตของ Sundiata Keita คือการจมน้ำในแม่น้ำ Sankarani ซึ่งยังคงมีศาลเจ้าที่มีชื่อของเขาให้เห็นอยู่

หลังจากการตายของ Sundiata จักรวรรดิมาลียังคงรุ่งเรืองอีกยาวนาน และหนึ่งในจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงที่สุดของจักรวรรดินี้คือหลานชายของเขาเอง
" Mansa Musa " (Musa I of Mali) ทั้งนี้ เรื่องของ Sundiata Keita เป็นแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลัง หนึ่งในภาพยนตร์คลาสสิกที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดของดิสนีย์ในภาพยนตร์เรื่อง " The Lion King "

 
สถาปัตยกรรมในอาคารของมาลี ที่สร้างขึ้นจากโคลนตากแดด
ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี 1988



ชื่อเสียงของ" Mansa Musa " และความมั่งคั่งอันน่าอัศจรรย์ของเขาแพร่กระจายไป ในขณะที่เขาเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ยังนครเมกกะ
หลังจากนั้นเขาก็ใส่ตัวเองและอาณาจักรของเขา " West Africa's Mali" (มาลีแห่งแอฟริกาตะวันตก)ลงบนแผนที่
นี่เป็นภาพวาดTimbuktu ของมาลี โดย Heinrich Barth ในปี 1858 
Cr.ถ่ายภาพโดย FL Historical 1D




(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่