👧🏻💁🏽💖 ถุงมือเรื่องสั้น สมัยสุดท้าย Week#3 เรื่องที่ 7 "เพื่อน" - ถุงมือ ถนนมิตรภาพ 💖💁🏽👧🏻

กระทู้คำถาม
อมยิ้ม49
เริ่มถุงมือเรื่องสั้น เรื่องแรก........สัปดาห์นี้ มีให้อ่านกัน 3 เรื่องครับ ^^

เรื่องแรกนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนๆ ด้วยกัน

เพื่อนกัน ไม่ว่าชายหรือหญิง บางทีก็อาจมีความรู้สึก ไม่ชอบใจ หรือถึงขั้นเบื่อหน่าย บางทีก็ทะเลาะกันเป็นธรรมดา

สาวนางหนึ่ง ก็รู้สึกประมาณอย่างที่ว่ามากับเพื่อนๆ จนวันหนึ่งเกิดความเอือมระอา คิดจะไปเสียให้พ้นๆ ถึงกับตัดสินใจจะขอลาออกจากงานที่ตัวเองทำอยู่เพื่อไปมีชีวิตใหม่ มีเพื่อนใหม่

เธอจะทำได้ดั่งใจหมาย หรือไม่ อย่างไร ? ติดตามดูเธอไปด้วยกันครับ ^^


อมยิ้ม50
เบื่อ เบื่อ เบื่อ ทนไม่ไหวแล้ว...

ไฉไล สาวสำนักงาน ร้องตะโกนอยู่ในใจ ขณะเก็บข้าวของจากลิ้นชัก โต๊ะทำงาน ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตของชีวิต เธอกำลังจะขอลาออกจากบริษัทแห่งนี้ ด้วยความเหลือที่จะอดทนกับเพื่อนร่วมงาน  

เมือถึงจุดที่ทนไม่ไหว ก็ต้องหนี หนีไปให้ไกล นั่นคือหลักการชีวิตของไฉไล คนมากไปด้วยความสามารถต้องหางานใหม่ได้สบาย เธอบอกย้ำกับตัวเอง

การทำงานไม่ว่าจะที่ไหน สิ่งแวดล้อมมันมีความสำคัญมาก เพราะการทำงานจำเป็นต้องเผชิญหน้า ปะทะ ร่วมมือ กับคนหลายคนอย่างเลี่ยงไม่ได้

น่าเสียดายว่า เพื่อนในกลุ่มของไฉไลมีแต่คนแย่ๆ ทั้งนั้น

เธอคิดถึงเพื่อนแต่ละคน ที่ยังไม่รู้ว่า เธอกำลังจะลาออก เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องประกาศ เดี๋ยวพวกหล่อนเหล่านั้นรู้ข้อมูล จะต้องเอาไปป่าวประกาศ แล้วคงลงท้ายด้วยการนินทาว่าร้ายตามหลัง ว่าสมควรแล้ว ทุกคนจะพากันยินดีและแสดงความโล่งอก ถ้าเธอไม่อยู่  ไฉไลไม่อยากรับรู้ภาพแบบนั้น

สุดใจ เพื่อนคนแรกของเธอที่รู้จักคุ้นเคย ชื่อเชย ๆ ของหล่อนกับอาการพูดคุยจนน่ารำคาญ หล่อนมักจะตั้งข้อสังเกตไฉไลเสมอ ในเรื่องการแต่งตัวที่ไม่ค่อยไปเดินหน้าไปกับแฟชั่น ซึ่งทำให้ไฉไลหงุดหงิด ในสายตาของเธอ สุดใจเป็นผู้หญิงที่น่าจะมีปมด้อยเรื่องหน้าตา เพราะหล่อนไม่ใช่คนหน้าตาสวย แต่ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่  เรียกว่าพอไปวัดไปวาได้ จึงหันเหความสนใจไปทางเสื้อผ้าและแฟชั่นการแต่งกายแทน เป็นการชดเชย

สิริมา เพื่อนคนที่สองของไฉไล รายนี้หน้าตาสวย แต่นิสัยเสียร้ายกาจ ที่ทำให้ทนไม่ได้ คือการคุยอวดร่ำอวดรวยอยู่เสมอ แต่ละวันสิริมามักจะเล่าเรื่องบ้าน เครื่องใช้ราคาแพง เล่าเรื่องทรัพย์สิน เงินในบัญชี  พูดถึงเรื่องรถคันใหม่ โดยไม่สนใจว่าจะมีคนฟังไม่ฟัง บอกเล่าชีวิตที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนา จนเพื่อน ๆ จำไม่ได้ว่า เคยไปที่ไหนมาบ้าง จนหลายครั้งที่ไฉไลคิดว่าสิริมากำลังคุยข่มทับถมเธอ  เพราะในชีวิตของไฉไล เมืองนอกที่เคยไปก็คือประเทศเขมรเท่านั้น  เครื่องบงเครื่องบินไม่เคยนั่งกับเขา เลยกลายเป็นจุดที่เพื่อนข่มได้ตลอด

โอปอ เพื่อนคนที่สามในสายงานเดียวกัน รายนี้เป็นคนที่ ไม่เคยมีความลับกับใคร เพราะไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร มากน้อยแค่ไหน สำคัญหรือไม่สำคัญ หล่อนจะเอาไปโพนทะนา ให้ประชากรโลกรู้กันทั่ว  รู้ในบริษัทไม่พอ ยังเอาไปเล่าในเพจของหล่อนอย่างสนุกสนานอีกด้วย โอปอเป็นคนพูดเก่งและพูดมากที่สุดในกลุ่ม  เรียกว่าถ้าจับกลุ่มไปไหนมาไหน โอปอจะเป็นคนพูดแบบปืนกล และมักเอาเรื่องของเพื่อน ๆ นั่นเองมาล้อเลียนอย่างสนุกปาก แน่นอนว่าเหยื่อคนสำคัญที่สุด  จะเป็นใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่ ไฉไล เป็นที่น่าสงสัยว่าก่อนเกิด ผีคงเจาะบอกมาให้หล่อนพูดโดยเฉพาะ

นี่คือเพื่อนร่วมงานทั้งสามคน ทำงานสายเดียวกัน จึงไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ จากความรำคาญครั้งแรก กลายเป็นความเบื่อหน่าย ที่เริ่มทนไม่ไหวขึ้นทุกที จนอยากหนีไปให้ไกล

แล้วความอดทนของไฉไลก็สิ้นสุด

ใบสมัครงานที่เธอแอบเขียนแอบส่ง แบบไม่บอกใคร มีการตอบรับ ด้วยเงินเดือนที่น้อยกว่าเดิมอยู่บ้าง แต่ถ้าแลกกับการไปเจอเพื่อนใหม่ งานใหม่ หนีห่างจากกลุ่มคนที่แสนน่ารำคาญ มันก็คุ้มเกินคุ้ม

ไว้ให้ถึงวันสำคัญ วันที่ทุกอย่างเรียบร้อยเตรียมพร้อมลงตัว  ไฉไลจะประกาศต่อหน้าทุกคนอย่างสะใจ ว่า วันนี้ที่รอคอย ฉันขอโบกมือพวกหล่อนทั้งหลายที่น่ารำคาญ น่าเบื่อเสียที  หลุดพ้นจากมลพิษทางเพื่อน ไปสู่สังคมที่ดีกว่า และไร้มลพิษทางจิตใจ ทนอยู่ต่อไป คงบ้าเป็นแม่แท้

บ่ายของวันนี้ ไฉไลมีโอกาสมีเวลา ที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนตัวแสบทั้งหลาย เพราะทั้งสามคนต้องออกไปทำงานนอกบริษัท  โดยไม่มีชื่อของไฉไลพ่วงไปด้วย โอกาสแบบนี้หาไม่ง่าย อยากหาโอกาสนั่งโต๊ะอย่างสงบสุขเช่นนี้มานาน เธอจึงเก็บสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ใส่กระเป๋าถือใบใหญ่ กะว่าจะค่อยทยอยขนข้าวของออกไปให้หมดภายในสองสามวัน งานใหม่ เพื่อนใหม่ ชีวิตใหม่ รออยู่ในอนาคตสวยงาม

แต่ถึงกระนั้น ไฉไลก็รู้สึกใจวาบหวิวชอบกล คนเราทำงานคิดที่อยู่นาน  ถ้าจากไป ก็คงอดคิดถึงไม่ได้

แต่ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป

ขณะเก็บสิ่งของจากลิ้นชักด้านล่างสุดเกือบหมด ไฉไล เห็นภาพถ่ายใบหนึ่ง

กี่ปีมาแล้วนะ ภาพถ่ายใบนี้ นานมาก ตั้งแต่สมัยที่เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ แล้วก็เริ่มคุ้นเคยกับเพื่อนตัวแสบทั้งสามคน

ไฉไลและเพื่อนร่วมก๊วน ถ่ายภาพนี้สมัยไปอบรมนอกสถานที่ ชายหาดขาว ต้นมะพร้าว ปรากฏในภาพแห่งความทรงจำที่นานหลายปีดีดัก จนลืมเลือน  ทุกคนในภาพมีรอยยิ้มแจ่มใส  กอดไหล่กอดคอกันอย่างสนิทสนม

ไฉไลถอนลมหายใจ หยิบภาพนั้นขึ้นมาวางบนโต๊ะ จ้องมองและปล่อยความทรงจำไปยังอดีต ที่พวกเธอพากันท่องเที่ยวกันตามโอกาสวาระ  เป็นช่วงแห่งความสนุกสนาน ตอนนั้นทุกคนยังไม่มีครอบครัว

ภาพในอดีตที่จางหาย กลับมาอีกครั้ง

ความสนุกสนานมีชีวิตชีวา อย่างสมัยก่อนหายไปไหน

สุดใจ สาวคนขี้โอ่เครื่องตกแต่งร่างกาย บ้าแฟชั่น จนน่ารำคาญ แต่สุดใจก็มีของฝากติดไม้ติดมือมาให้ไฉไลเสมอมา แต่หลัง ๆ จะห่างไปบ้างแต่ก็เพราะหน้าที่การงาน ที่มีเวลาออกไปเที่ยวซื้อของน้อยลง

สิริมา สาวจอมโว เรื่องร่ำรวย แต่เวลาไปงานเลี้ยงสังสรรค์ข้างนอก สิริมามักจะเป็นฝ่ายชิงจ่ายเงินเลี้ยงเพื่อนเสมอ  ก็สมแล้วกับที่รวย  แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่ง ก็คือน้ำใจ

โอปอ จอมพูดมาก จอมนินทา หรืออะไรก็ตาม แต่หล่อนเป็นคนคล่องตัวที่สุดในกลุ่ม มีปัญหาติดต่ออะไรยังไง โอปอจะออกหน้าเสมอ ไปจัดการแทนเพื่อนเรียบร้อยถ้าทำได้ มีเรื่องเล่าให้เพื่อนหัวเราะได้เสมอ แล้วเป็นตัวกันชนชั้นดี ถ้าใครคิดจะมาหาเรื่องราวีกลุ่ม โอปอเคยลุกขึ้นมีเรื่องชายขี้เมา ในร้านอาหารที่มารุ่มร่ามกับพวกเธออย่างไม่เกรงกลัว

แล้วตอนที่ไฉไลนอนป่วยในโรงพยาบาลสองสามวัน เพราะผ่าตัดใส้ติ่ง เพื่อนทั้งสามไม่ใช่หรือ ที่อดหลับอดนอน ผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคอยเฝ้าเอาใจใส่ จนออกจากโรงพยาบาล ทั้งพากันเป็นธุระต่าง ๆ สรรพเสร็จ ไม่มีใครผละหนีเมื่อเธอเดือดร้อนมีปัญหา

แล้วเธอล่ะ ทำอะไรเพื่อเพื่อนบ้าง แอบลาออกย้ายที่ทำงานนี่นะ....?

คนเรา มีดี มีเสีย ทำไมถึงคิดแต่ข้อเสียของเพื่อนนะ 

ไฉไลเริ่มนั่งเหม่อลอย ปล่อยความคิดล่องลอย

“นี่หล่อนทำอะไร เอารูปไหนมาดู” เสียงแหลมลั่นดังข้างหูจนไฉไลสะดุ้ง

เสียงแบบนี้จะมีใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่โอปอ

เพื่อนทั้งสามมาตอนไหนไม่รู้ เพราะมัวแต่นั่งใจลอย

โอปอถือวิสาสะหยิบรูปบนโต๊ะขึ้นมา โชว๋ให้เพื่อนดูด้วยท่าทางสนุกสนาน วิจารณ์คนในรูปไปหัวเราะไป ยัยคนนี้จะร้องไห้เป็นกับเขาไหมนี่ ไฉไลคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

“วันนี้เป็นอะไร ผีเข้าเหรอ เอานี่ของกันผี”  สุดใจพูดขึ้น ขณะเอาสร้อยลูกปัดเส้นหนึ่งมาสวมให้ไฉไลแบบไม่ต้องถาม  ซึ่งก็แน่นอนว่าเครื่องประดับที่สุดใจหามาแต่ละชิ้น ไม่ได้มีราคาแพงมากมาย แต่มันสวยงามดูดีทุกอย่าง สมกับที่เป็นผู้นำทางแฟชั่นความงามของกลุ่ม

“เหมาะกับเธอจะตาย”  สุดใจเอียงคอมองพลางบอกอย่างพอใจกับผลงาน ในขณะที่สิริมาทำท่าดึงแขนของไฉไลขึ้น

“ป่ะ ไปกัน วันนี้สิเป็นเจ้ามือเอง วันนี้วันเกิด

“วันเกิดใคร”  ไฉไลทำหน้างง สิริมาหัวเราะพลางบอกว่า

“แหม...ก็วันเกิดอยากจะกินยังไงล่ะ เลิกงานแล้ว มานั่งงมโข่งอะไรแถวนี้ ไป...ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เจ้าของวันเกิดอยู่นี่  ห้ามใครยุ่งเรื่องบิลเป็นอันขาด สิจัดการเอง เข้าใจ๋”

ไฉไลลุกขึ้นยืน มองหน้าเพื่อน เหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่าง ...บางอย่างที่รบกวนจิตใจมาเนิ่นนาน... บางอย่างที่ควรสลัดมันไปให้หลุดพ้นเสียที เธอก็ยังคงเป็นไฉไลคนเดิม แต่มุมมองและความรู้สึกเปลี่ยนไป—ก็เท่านั้น

ในที่สุด ไฉไลยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย แอบเอาเท้าเขี่ยกระเป๋าใบใหญ่หลบข้างโต๊ะ หลบพ้นสายตาคนอื่น เข้าไปสวมกอดเพื่อนสาวทีละคน หอมแก้มคนละครั้ง อย่างที่ไม่ได้ทำมานานแล้ว โอปอทำเป็นร้องเสียงหลงแบบตกใจว่า ผีเข้าไฉไล หรือไม่ก็เกิดอาการเบี่ยงเบนทางเพศ ...ทุกคนพากันหัวเราะ  

แล้วทั้งสี่สาว ก็พากันเดินออกจากสำนักงาน ในช่วงเย็นอย่างร่าเริง

///  จบ  ///

งานกวี โปรดส่งถึงล็อกอินชื่อ "หวางเจ๋" = https://ppantip.com/profile/4606455#topics

งานเรื่องสั้น โปรดส่งถึงล็อกอินชื่อ "อสูรโลหิต" = https://ppantip.com/profile/188630#topics

***** เริ่มทายกันได้เลยครับ *****
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่