ณ ห้องแถลงข่าวของโรงพยาบาล
ตอนนี้เต็มไปด้วยนักข่าวและตำรวจ
ครรชิตกับสิริกัลยาณีได้นั่งแถลงข่าวกันสองคน
นักข่าวมีคำถามกับพวกเขามากมาย
"คุณสิริกัลยาณีครับ คุณคิดว่ามือปืนคนนั้น
ต้องการเอาชีวิตคุณไหมครับ"
"ฉันไม่แน่ใจค่ะ"
"แล้วคุณหมอครรชิตละครับ เห็นว่าอย่างไร"
"คือผมคิดว่ามือปืนคนนั้นน่าจะเล็งปืนมาที่คุณสิริกัลยาณีครับ
แต่นี่ก็เป็นการคาดเดาของผมเองนะครับ"
สิริกัลยาณีหันไปมองครรชิต
"ถ้าไม่ได้คุณหมอครรชิตช่วยไว้ ฉันคงตายไปแล้วค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะ"
แทนที่สิริกัลยาณีจะตกใจ เครียดและกลัวกับเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น หล่อนกลับคิดถึงแต่ครรชิต
หล่อนกำลังมีแผนในหัวบางเรื่อง
ขณะที่หล่อนกำลังคิดแผนอยู่นั้น กุสุมาก็โผล่มาพอดี
พอเข้ามาในห้องแถลงข่าว กุสุมาเดินเข้าไปนั่งข้างๆครรชิตทันที
ทำให้คนที่นั่งแถลงข่าวมีสามคนคือกุสุมา ครรชิตและสิริกัลยาณี
นักข่าวหันมาถามกุสุมาบ้าง
"ดร.กุสุมาครับ เห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ"
"พอเห็นข่าว ฉันตกใจมากเลยค่ะ มันเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก
ฉันเป็นห่วงทั้งสามีและคุณสิริกัลยาณีค่ะ"
เมื่อสิริกัลยาณีได้ยินดังนั้น หล่อนขำในลำคอ
กุสุมาแสดงเก่งมากๆ หล่อนกำลังทำตัวเป็นนางฟ้าผู้มีเมตตา
แต่จริงๆแล้ว ที่รีบมาที่นี่ก็เพราะห่วงผัว
กลัวว่าผัวจะมายุ่งกับฉัน ที่มาเนี่ย ก็เพราะแรงหึงมากกว่าความห่วงใย
หลังจากนักข่าวได้ซักถามจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว
ตำรวจขออยู่กับครรชิตและสิริกัลยาณีเป็นการส่วนตัว
ส่วนกุสุมาก็มายืนรอด้านนอก
หล่อนยืนรอด้วยความกังวล หล่อนไม่แน่ใจว่าหล่อนคิดมากไปรึเปล่า
หรือทั้งหมดเป็นแผนของสิริกัลยาณี
หล่อนคิดว่ายัยบ้านั่นไม่น่าจะเสียสติขนาดนั้น
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ครรชิตกับสิริกัลยาณีมาเจอกันอีกครั้ง
ที่หล่อนห่วงมากขนาดนี้เพราะทั้งคู่เคยรักกัน
กว่าหล่อนจะทำให้พวกเขาห่างกันได้
และแย่งครรชิตมาเป็นของหล่อน หล่อนก็ต้องเหนื่อยพอสมควร
ตอนนี้หล่อนกังวลมาก กลัวถ่านไฟเก่าจะคุ
ตอนนั้น ครรชิตเดินออกมาก่อน เขาเดินมาทักกุสุมา
"คุณไม่เห็นจะต้องรีบมาที่นี่เลย"
"ฉันเป็นห่วงคุณมากๆเลยนะคะ"
"ผมไม่เป็นไรหรอก"
ตอนนั้นสิริกัลยาณีเดินออกมาพอดี
"สวัสดีค่ะ ดร.กุสุมา เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีไหม"
กุสุมายิ้ม "สบายดีค่ะ แล้วคุณละคะ เป็นยังไงบ้าง"
"ฉันปลอดภัยดีค่ะ นายแพทย์ ดร. ครรชิตดูแลฉันดีมาก
ถ้าไมไ่ด้เขาช่วยไว้ ฉันคงแย่"
"สามีฉันห่วงใยผู้คนเสมอค่ะ เขาเป็นคนจิตใจดี
และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว"
"ค่ะ เขาเป็นคนจิตใจดีจริงๆ"
ครรชิตหันไปหาสิริกัลยาณี
"เชิญครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ"
ทำเอากุสุมาฉุนมากที่เห็นทั้งคู่เดินไปด้วยกัน
หล่อนหงุดหงิดจนงง เลยยืนรออยู่ตรงนั้น
หล่อนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น ยิ่งเห็นสายตาของสิริกัลยาณี
ที่มองมาที่ครรชิตแล้ว หล่อนอดวิตกกังวลไม่ได้
ถึงแม้มันจะยากมากที่ครรชิตจะหันไปหาสิริกัลยาณีในตอนนี้
แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
หล่อนไม่อยากให้สิริกัลยาณีต้องมาเจอกับครรชิตอีก
หล่อนไม่อยากประมาท ผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างครรชิตก็หาได้ยากยิ่ง
หล่อนกำลังคิดว่าหล่อนจะทำอย่างไรดี
หล่อนพยายามคิดว่าหล่อนสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
หล่อนต้องคิดให้ได้ หล่อนเองบริหารงานเก่งอยู่แล้ว
เรื่องแค่นี้หล่อนจะต้องคิดให้ออก
หล่อนยังหลอนอยู่เลย ยังจำแววตาที่สิริกัลยาณีมองครรชิตได้
แม่นั่นทำเหมือนอยากกลืนกินสามีหล่อนทั้งตัว
ผู้หญิงอย่างหล่อน เสียทองเท่าหัวแต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใครอย่างแน่นอน
สิ่งที่หล่อนต้องทำก็คือตัดไฟเสียแต่ต้นลม
และหล่อนจะต้องทำมันให้สำเร็จให้ได้
เก้ากัลยา ตอนที่ 3 กุสุมา vs สิริกัลยาณี
ณ ห้องแถลงข่าวของโรงพยาบาล
ตอนนี้เต็มไปด้วยนักข่าวและตำรวจ
ครรชิตกับสิริกัลยาณีได้นั่งแถลงข่าวกันสองคน
นักข่าวมีคำถามกับพวกเขามากมาย
"คุณสิริกัลยาณีครับ คุณคิดว่ามือปืนคนนั้น
ต้องการเอาชีวิตคุณไหมครับ"
"ฉันไม่แน่ใจค่ะ"
"แล้วคุณหมอครรชิตละครับ เห็นว่าอย่างไร"
"คือผมคิดว่ามือปืนคนนั้นน่าจะเล็งปืนมาที่คุณสิริกัลยาณีครับ
แต่นี่ก็เป็นการคาดเดาของผมเองนะครับ"
สิริกัลยาณีหันไปมองครรชิต
"ถ้าไม่ได้คุณหมอครรชิตช่วยไว้ ฉันคงตายไปแล้วค่ะ
ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะ"
แทนที่สิริกัลยาณีจะตกใจ เครียดและกลัวกับเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น หล่อนกลับคิดถึงแต่ครรชิต
หล่อนกำลังมีแผนในหัวบางเรื่อง
ขณะที่หล่อนกำลังคิดแผนอยู่นั้น กุสุมาก็โผล่มาพอดี
พอเข้ามาในห้องแถลงข่าว กุสุมาเดินเข้าไปนั่งข้างๆครรชิตทันที
ทำให้คนที่นั่งแถลงข่าวมีสามคนคือกุสุมา ครรชิตและสิริกัลยาณี
นักข่าวหันมาถามกุสุมาบ้าง
"ดร.กุสุมาครับ เห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ"
"พอเห็นข่าว ฉันตกใจมากเลยค่ะ มันเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก
ฉันเป็นห่วงทั้งสามีและคุณสิริกัลยาณีค่ะ"
เมื่อสิริกัลยาณีได้ยินดังนั้น หล่อนขำในลำคอ
กุสุมาแสดงเก่งมากๆ หล่อนกำลังทำตัวเป็นนางฟ้าผู้มีเมตตา
แต่จริงๆแล้ว ที่รีบมาที่นี่ก็เพราะห่วงผัว
กลัวว่าผัวจะมายุ่งกับฉัน ที่มาเนี่ย ก็เพราะแรงหึงมากกว่าความห่วงใย
หลังจากนักข่าวได้ซักถามจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว
ตำรวจขออยู่กับครรชิตและสิริกัลยาณีเป็นการส่วนตัว
ส่วนกุสุมาก็มายืนรอด้านนอก
หล่อนยืนรอด้วยความกังวล หล่อนไม่แน่ใจว่าหล่อนคิดมากไปรึเปล่า
หรือทั้งหมดเป็นแผนของสิริกัลยาณี
หล่อนคิดว่ายัยบ้านั่นไม่น่าจะเสียสติขนาดนั้น
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ครรชิตกับสิริกัลยาณีมาเจอกันอีกครั้ง
ที่หล่อนห่วงมากขนาดนี้เพราะทั้งคู่เคยรักกัน
กว่าหล่อนจะทำให้พวกเขาห่างกันได้
และแย่งครรชิตมาเป็นของหล่อน หล่อนก็ต้องเหนื่อยพอสมควร
ตอนนี้หล่อนกังวลมาก กลัวถ่านไฟเก่าจะคุ
ตอนนั้น ครรชิตเดินออกมาก่อน เขาเดินมาทักกุสุมา
"คุณไม่เห็นจะต้องรีบมาที่นี่เลย"
"ฉันเป็นห่วงคุณมากๆเลยนะคะ"
"ผมไม่เป็นไรหรอก"
ตอนนั้นสิริกัลยาณีเดินออกมาพอดี
"สวัสดีค่ะ ดร.กุสุมา เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีไหม"
กุสุมายิ้ม "สบายดีค่ะ แล้วคุณละคะ เป็นยังไงบ้าง"
"ฉันปลอดภัยดีค่ะ นายแพทย์ ดร. ครรชิตดูแลฉันดีมาก
ถ้าไมไ่ด้เขาช่วยไว้ ฉันคงแย่"
"สามีฉันห่วงใยผู้คนเสมอค่ะ เขาเป็นคนจิตใจดี
และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว"
"ค่ะ เขาเป็นคนจิตใจดีจริงๆ"
ครรชิตหันไปหาสิริกัลยาณี
"เชิญครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ"
ทำเอากุสุมาฉุนมากที่เห็นทั้งคู่เดินไปด้วยกัน
หล่อนหงุดหงิดจนงง เลยยืนรออยู่ตรงนั้น
หล่อนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น ยิ่งเห็นสายตาของสิริกัลยาณี
ที่มองมาที่ครรชิตแล้ว หล่อนอดวิตกกังวลไม่ได้
ถึงแม้มันจะยากมากที่ครรชิตจะหันไปหาสิริกัลยาณีในตอนนี้
แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
หล่อนไม่อยากให้สิริกัลยาณีต้องมาเจอกับครรชิตอีก
หล่อนไม่อยากประมาท ผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างครรชิตก็หาได้ยากยิ่ง
หล่อนกำลังคิดว่าหล่อนจะทำอย่างไรดี
หล่อนพยายามคิดว่าหล่อนสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
หล่อนต้องคิดให้ได้ หล่อนเองบริหารงานเก่งอยู่แล้ว
เรื่องแค่นี้หล่อนจะต้องคิดให้ออก
หล่อนยังหลอนอยู่เลย ยังจำแววตาที่สิริกัลยาณีมองครรชิตได้
แม่นั่นทำเหมือนอยากกลืนกินสามีหล่อนทั้งตัว
ผู้หญิงอย่างหล่อน เสียทองเท่าหัวแต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใครอย่างแน่นอน
สิ่งที่หล่อนต้องทำก็คือตัดไฟเสียแต่ต้นลม
และหล่อนจะต้องทำมันให้สำเร็จให้ได้