อึดอัดกับการมาทำงาน เพราะไม่มีงานอะไรทำ

ขอลบเนื้อหานะคะ เม่าเหม่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
พนักงานใหม่ จำเอาไว้!

เป็นทุกองค์กรที่ พนักงานใหม่ จะรู้สึกแบบนี้ ว่า พี่ไม่สอนงาน ไม่จ่ายงาน งานยุ่งแต่ทำไมไม่ให้เราทำ สิ่งที่พนักงานใหม่ควรทำคือ สังเกตว่าเขาทำอะไรบ้างใน 1 วัน สังเกตุแบบไม่ต้องไปถามเขานะ ผมคิดว่าเด็กที่ก้าวสู่โลกการทำงาน น่าจะพอมีสกิลนี้

พอคุณรู้แล้วว่า วันๆเขาทำอะไร ค่อยๆเอางานที่เขาทำเสร็จแล้วมาดู ลองมาต่อจิกซอว์ดู ว่างานที่ 1 งานที่ 2 งานที่ 3 .......งานที่ 10 มันทำเพื่ออะไร สำคัญยังไง งานนี้ทำส่งใคร แล้วใครใช้ประโยชน์จากมัน

พี่ๆไม่ว่าง แต่ส่วนใหญ่ว่างตอนกินข้าวและเลิกงาน ครับ เป็นทุก office เวลารุ่นพี่เขาเม้าท์มอยก็ เข้าไปแจมๆกลุ่มเขา

สัก 3 เดือน โดยค่าเฉลี่ย คุณจะรู้ประมาณ 70% ของเนื้องานแล้วว่า หน้าที่คุณต้องทำอะไร ส่วนสกิลลงลึก เมื่อคุณได้พื้นแล้ว นั้นคือประสบการณ์ ถ้าต้องรอคนมาป้อน นี่ไม่ใช่โรงเรียน เขาจ้างเงินคุณมาทำงาน เขาคาดว่าคุณจะทำงานได้  

โหดร้ายเนอะ แต่ผมเห็นลูกน้องที่ครูลักพักจำ เรียนรู้ วิเคราะห์เองได้ จะไปไวมาก แปปๆ 1 ปี ได้ 70% ของคนที่ทำงานแล้ว

ส่วนแบบน้องที่เข้างานเพียงเดือนเดียว แล้วคิดแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่รอด เปลี่ยนงานไป 4 - 5 ที่แล้วก็จะพบปัญหาเดิมๆ อย่างที่กล่าวไป เป็นกันทุกที่

แล้วทำไมพี่ไม่จ่ายงาน?

ถามกลับ

จ่ายไปแล้วทำได้ไหม รับผิดชอบได้ไหม?

งานบางงาน ผิด พลาด นี่ไม่มีตัดคะแนนเหมือนตอนเรียนนะครับ เขาเรียกค่าปรับกัน .......รับผิดชอบไหวไหม
ดังนั้น เรียนรู้ครับ ถ้าครบปียังทำไม่ได้ แนะนำให้ลาออกครับ
เพี้ยนสวัสดี
** กลับเข้ามาแก้วันที่ 4/5//64 **

ผมไปนั่งอ่าน comment น้องเจ้าของกระทู้แล้ว เห็นชอบถูกใจกระทู้ที่บอกว่า ให้หางานใหม่ หรือ จะให้นั่งดูไปกี่วันกี่เดือนอีกนานไหม  และจากการที่ลบ เนื้อหากระทู้อีก

หลายๆอย่างที่น้องแสดงออกมา แสดงถึงวุฒิภาวะที่ยังไม่โต ยังรับผิดชอบ รับแรงกดดัน รับความเห็นในเชิงลบไม่ได้ ถือว่าอันตรายมากในสังคมการทำงาน ซึ่งเชื่อว่าทุกคนต้องเจอ ผลกระทบเชิงลบไม่มีใครต้องการเจอ พี่ก็ไม่อยากเจอ แม้จะเป็นหัวหน้างานแต่ก็ต้องเจอครับ แต่จะแรงอีก level สำหรับหัวหน้างาน

แต่สิ่งที่พวกพี่เจอคือ การยอมรับความจริง แล้วนำเอามาปรับแก้  เพื่อไม่ให้มันเกิดอีก
การที่น้อง แสดงออกว่าเห็นด้วยกับการที่บอกว่าให้หางานใหม่เลย นั้นนู้นนี่ มันคือ การหนีปัญหา หรือ ต้องการคำตอบเฉพาะที่ตัวเองต้องการ เตือนด้วยความหวังดีนะครับว่า พยายามปรับและฝึกตนเอง ยกระดับตนเองขึ้นไป
งานน้องเป็นประสานงานใช่ไหม ถ้าใช่ บอกเลยว่ายิ่งง่าย สังเกตุครับว่าเขาคุยกับใคร คุยเรื่องอะไร แล้วงานไหนต้องคุยกับใคร นั้นคือน้องต้องเรียนรู้ครูลักพักจำ แล้วหาจังหวะคุยกับพี่ หรือ take hand เข้าไปทำกับพี่
เชื่อสิ คุณทำไปๆมาๆ งานคุณจะมีตลอดจนไม่ได้พัก

เข้าใจว่าไฟแรง แต่จำที่พี่เขียนได้ไหม ว่า งานยุ่ง งานยาก งานซับซ้อน งานเร่งแต่ต้องการคุณภาพ เขาไม่ให้เด็กใหม่ทำ
อยากยุ่ง ไม่อยากรอเวลากลับบ้านให้เปล่าประโยชน์ คำถาม ระหว่างทำงาน  8.30-17.00 น. คุณเรียนรู้ได้หรือยัง หรือ พิสูจน์การเรียนรู้ให้คนอื่นเห็นว่าคุณทำได้รับผิดชอบได้ไหม
ผมเคยเจอเด็กจบใหม่ ประมาณนี้ เลยลองยกงานให้ทำ 1 ชิ้น (ที่จริงผมทำเสร็จแล้วหละ) ให้เขาไปลองทำดู ผมบอกขอเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง แล้วผมก็ไม่ได้ไปบอกอะไรเขาต่อ เขาก็ไปงมกันงาน
เมื่อครบกำหนด 2 ชั่วโมงผมเดินไปทวงงานเขา เด็กบอกว่าทำยังไง ทำไม่ได้ ยังไงอะไรทำไม บลา บลา บลา
ผมก็ยังทวงงานเขา แลลทวงถี่ๆ ทวงกดกัน จนคนหันมามอง แล้วบอกว่า งานนี่สำคัญ คนอื่นต้องเอามาทำต่อ งานนี้ถ้าไม่เสร็จ งานอื่นจะไม่เดิน เสียหายกันหมด เริ่มคุยเรื่องการรับผิดชอบว่า คุณจะรับผิดชอบยังไง
และเริ่มลงลึกว่า ด้วยคำถามที่ว่า "......รู้ไหมงานนี้ทำเสร็จแล้วต้องส่งใคร?.........'

คำถามง่ายๆ ที่ไม่ได้ใช้สกิลอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กจบใหม่ ต่อให้ทำงานแผนกอื่นมา 20 ปี ก็อาจจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ สังเกตุสังกา ใน Detail ว่า อาชีพตัวเองทำอะไร?

เด็กตอบไม่ได้ ........ จนผมต้องบอกว่า back to basic นะหนู ค่อยๆเรียนรู้ เวลายังมีอีกมาก
เด็กคนนี้ ตอนนี้ลาออกจากองค์กรไปแล้ว ทุกวันนี้เจอกันยังทักทายแล้วบอกว่า ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้างานแล้ว เขารู้แล้วที่ผมบอกคืออะไร แล้วเขาก็เอาวิธีนี้ไปเทรนเด็ก

สิ่งสำคัญที่สุดในใช้ความรู้ แต่เป็นทัศนะคติในหัวครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่