เรื่องเล่าจากพื้นดิน

กระทู้สนทนา
เรื่องนี้เป็นเรื่องตอนที่ผมประสบอุบัติเหตุ กับ การพยายามเอาตัวให้รอด  ผมมีความเจ็บป่วยหลายอย่างในลักษณะอาการเรื้อรัง  อันเป็นผลมาจากการดื่มสุราอย่างหนัก  ส่งผลเสียต่อระบบอวัยวะภายใน และระบบการหายใจ กับ อาการที่ขาหน้าแข้งกระดูกร้าว เอ็นเข่าขาด  ต้นแขนหัก การสูญเสียแม่กับพี่ชายในระยะเวลาใกล้เคียงกัน  อาจกล่าวได้ว่า ความเจ็บป่วยของผมนั้นเกิดทั้งทางด้านร่างกายทั้งทางจิตใจเลยก็ได้.

        ว่าด้วยความเจ็บป่วยทางจิตใจ ทำให้ผมว้าเหว่ ท้อแท้ และโดดเดี่ยว  ใกล้ในความตายทุกวัน  เมื่อความคิดมากในเรื่องนี้เกิดขึ้นทีไร ก็มีอาการเหนื่อยหอบ ทำท่าจะตายลงทุกที  ได้แก่ การหายใจไม่เต็มอิ่มนั้นเอง  ภาวะจิตใจจากการดื่มเหล้าขนาดหนัก กับ อาการสูญเสีย ไม่มีแหล่งยึดเหนียวเป็นกำลังใจต่อชีวิต  ทำให้ผมท้อแท้  ซึ่งเมื่อผมผ่านมาแล้ว ก็ให้นึกขำตัวเองอยู่สักหน่อยว่า เพราะความอ่อนแอของตัวเองแท้ ๆ ทำให้ชีวิตของเราย่ำแย่  แต่ใครกันล่ะ? จะสู้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน โดยมิรู้เนื้อรู้ตัว  เมื่อเราผ่านมา มันดีอยู่หรอกว่าต้องแก้ต้องทำอย่างไรต่อไป  เพื่อมิให้ตกไปในอาการอย่างเก่า ๆ  มันอาจจะเป็นโชคช่วยก็ได้  ที่ผมฟื้นฟูร่างกายของตัวเองขึ้นมาได้โดยบังเอิญ ด้วยการค้นพบด้วยการเรียนรู้ในตัวของตัวเอง  เมื่อผมเดินทางลงสู่พื้นดินในผืนนา.

        ไม่น่าเชื่อว่า  การคลุกคลีหากินกับพื้นดินในท้องนาจะทำให้ร่างกายกับจิตใจของผม แข็งแรงขึ้นมาเกือบเท่าเดิม  แม้จะไม่สมบูรณ์เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างเก่าก็ตาม.

        ไม่น่าเชื่อว่า กลิ่นหญ้า  กลิ่นรากหญ้าที่ผมขุดหาหอยหาปู คุ้ยเขี่ย หาแมลงต่าง ๆ จะช่วยฟอกเลือดของผมให้ดีขึ้นกว่าเดิม  ทำให้ผมคิดถึงยาหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ที่โฆษณาในทีวี  สู้ยาจากท้องนาไม่ได้เลย

         ไม่น่าเชื่อว่าอากาศในท้องนาจะทำให้ผมหายใจเต็มอิ่ม  หายใจได้ทั่วปอด  รู้สึกมีพลังในการต่อสู้กับชีวิตประจำวันต่อมา หลังจากกลับมาจากท้องนา

         และ ไม่น่าเชื่อว่า  ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในการทำมาหากินอย่างอด ๆ อยาก ๆ จะทำให้ผมแข็งแรงมากกว่า  การกินอาหารที่ว่ากันเป็นสิ่งดี ๆ ที่โฆษณาร่ำลือกัน.

        อ๋อ  แทรกภาพแล้วเขียนต่อได้นี่นา?  ฮ่า ๆ แต่ผมเขียนถึงไหนแล้วนะ? เรื่องที่ผมเขียน ท่าทางจะไม่ลงตัวหรือสมดุลกับรูปภาพเอาเสียเลย เคยแต่ตะลุยเขียนเป็นตัวหนังสืออย่างเดียว ไม่มีรูปภาพแทรก  ต่อไปต้องเรียนรู้การใช้รูปภาพแทรกเสียบ้างล่ะ? ต้องพยายามเขียนต่อไป กับ ปรับปรุงไปเรื่อย ๆ โอเครครับ  หวังว่าสักวันคงลงตัวดีนะครับ ตอนนี้ พอแค่นี้ก่อนครับ ค่อยมาเขียนต่อในคราวหน้า.ผมสมควรเขียนเรื่องใหม่สอดแทรกในนี้ดีหรือเปล่านะ?  เรื่องต่อ ๆ ไป คล้าย ๆ จะเป็นเรื่องเล่าเสียอย่างนั้นล่ะ? ส่วนมาก ผมเขียนแต่เรื่องเหล้า  เอ้า! เขียนผิดเสียแล้วหรือนี่? อย่ากระนั้นเลย  ผมเขียนเรื่องเล่า เหล้า ท่าทางจะดีเหมือนกัน  เพราะเคยกินเหล้ามาก่อน พอเป็นวัตถุดิบในการเขียนได้กระมัง?  เรื่องเหล้าสงสัยเขียนไม่ได้อีกกระมัง?  เป็นแต่ว่าเขียนอย่างเรื่อยเปื่อยไปเสียแล้วล่ะทีนี้. เรื่องนี้ผมเขียนได้แค่สองพันกว่าคำเท่านั้นยังเหลืออีกมาก พอจะเขียนแก้ไขได้ต่อไปอีก....  ผ่านมาเข้าเป็นปีที่สองแล้ว ของการระบาดโรคโควิด 19 ที่ฆ่าชีวิตคนเกือบครึ่งค่อนโลกไปแล้ว และตอนนี้ก็ยังมีปัญหาเรื่องวัคซีนต่อกันมาอีกอย่างยุ่งเหยิง ที่ไม่มีท่าทีจะยุติลงสักทีว่า  อะไรคือวัคซีนที่ดีที่สุดในตอนนี้  ส่วนมากกลายเป็น  ฉีดเหมือนกับเสี่ยงโชคซื้อหวยเอาเสีย  เพราะหากใครฉีดแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก็เป็นการดีไป หากมีปัญหาเกิดขึ้นมา บางรายก็ตายด้วยการฉีดวัคซีน แทนท่ี่จะตายด้วยการติดโรคระบาด  แถมมีบางยี่ห้อส่งผลในระยะยาวเข้าไปอีก  เหมือนกับว่าเป็นการผลิดวัคซีนขึ้นมาเพื่อทดลองในหมู่คนกันเอง  เพื่อจะได้หายาวัคซีนที่ดีที่สุด  เขียนเรื่องวัคซีนก็ไม่พ้นเรื่องการเมือง ไม่น่าจะเขียนสักเท่าไหร่? เป็นเรื่องยุ่งเหยิงน่ารำคาญในการพยายามจะหาทางออก.  ชีวิตคนเราจึงเพียงแค่นี้  บทจะตายก็ตายแสนอย่างง่ายดาย อันทุเรศนัยน์ตาเหมือนกัน. มาอ่านเรื่องชีวิตของผมกับเมียในข้อ พันะสัญญาระหว่างกันดีไหมเอ่ย?  ผมกับเมียนี่อยู่ด้วยกันในพันธะอะไรสักอย่างที่ต่างคน ต่างตกลงเอาไว้ในใจในแต่ละคนเท่านั้นเอง  สาเหตุในการอยู่ร่วมกัน คือ ต่างคนต่างไม่มีที่ไป หรือ ทางเลือกที่ดีกว่า ณ ปัจจุบันกาล  ขอเพียงแต่ให้มีทาง หรือ โอกาสที่ดีกว่าขึ้นมาเพื่อจะเลือกเดิน  เราทั้งสองคนย่อมก้าวเดินไปคนละเส้นทาง  ชีวิตอย่างนี้ คุณคิดว่ามันทรมานหรือเปล่า?  เปล่าหรอก สำหรับผม ๆ คิดว่าไม่ทรมาน  คิดว่ามันคือทางเผื่อเลือกในการจะทำชีวิตของตัวเองให้รอดพ้นจากความตาย  ให้เดินทางไปบนเส้นทางของการหายใจให้โล่งให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น  เพราะความรักสำหรับผมแล้ว ไม่ได้มีอะไรมั่นคงแน่นอนตายตัวแม้แต่เมล็ดงาเดียว  มันคงเหมือนกับการเดินทางมาของโรคระบาดนี่แหละ  เมื่อความหายนะเดินทางมาหา ย่อมหมายความว่าทางเลือกของผมมีโอกาสในการจะสิ้นลมหายใจ เท่ากับการแยกทางกันเดิน  มันก็แค่นี้เอง  สำหรับชีวิตสับปะรังเคของผม อันไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นมาเลยสักนิด ตั้งแต่ผมรู้จักชีวิตดีขึ้น  กับ พยายามจะบังคับมันให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ อย่างน้อย ๆ ก็แค่เท่าเทียวชาวบ้านชาวช่องเขาเท่านั้น  ไม่ใช่ตกต่ำ หรือ มีชีวิตทุเรศบัดซบในหลายสายตาของคนทั่วไป  ผมพยายามทำ ผมอยากทำ  ต่อมา ผมไม่อยากทำ หรือ ไม่มีความพยายามในการอยากจะทำเสียแล้ว ช่างแมร่งมัน....ไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ท่าทางจะสับสนอยู่เหมือนกัน  หากมิตั้งสติให้ดี ๆ ชีวิตเเค่นี้ รักษาตัวเองให้รอดเป็นวัน ๆ ก็ดีแล้ว  ต้องค่อย ๆ เขียนเพราะกลัวระบบจะเออเร่อ  ด้วยเขียนในมือถือ  การค่อย ๆ เขียนก็ดีไปอีกอย่างเหมือนกัน ทำให้มีสติในการค่อยคิดค่อยเขียนต่อ ๆ ไป.
.
มาเขียนต่อกับเรื่องมิเป็นเรื่องต่อไปครับ  ผมเขียนเกือบห้าพันคำแล้ว  เหลืออีกห้าพันคำ  แต่การแตะสเปคบาร์มิทราบจะนับคำหรือเปล่า? เห็นเลื่อนเหมือนกัน.  ผมเข้ามาเขียนทีละนิดละหน่อย เพราะเขียนในมือถือ ไม่ค่อยสะดวก กับ สัญญาณติดขัด  แต่ก็รู้สึกดีที่ได้เขียนเพิ่มเติมเรื่อย ๆ แม้ไม่มีคนอ่านก็ตามที  มันคือสันดานของผมในการชอบเขียนหนังสืออย่างมิหยุดหย่อน... วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ  คราวหน้าค่อยเขียนอีก  สัญญาว่าจะเขียนไปเรื่อย ๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่