การทำ Grounding หรือ Earthing หมายถึงการเชื่อมต่อร่างกายกับพื้นโลกโดยตรง เช่น การเดินเท้าเปล่าบนดิน หญ้า หรือทราย การนั่งหรือนอนบนพื้นธรรมชาติ หรือการใช้แผ่นกราวด์ (Grounding Mats) ที่เชื่อมต่อกับพื้นดิน ประโยชน์ของการทำ Grounding มีหลายด้านดังนี้:
1. ลดการอักเสบ (Anti-Inflammatory)
การทำ Grounding ช่วยลดการอักเสบในร่างกายโดยการเพิ่มอิเล็กตรอนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งช่วยลดสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ
2. ปรับปรุงการนอนหลับ (Improved Sleep)
การทำ Grounding ช่วยปรับปรุงการนอนหลับ โดยการลดระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) และปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาท
3. ลดความเจ็บปวด (Pain Reduction)
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการทำ Grounding สามารถช่วยลดความเจ็บปวดเรื้อรังได้ เช่น ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
4. ปรับสมดุลระบบประสาท (Nervous System Balance)
การทำ Grounding ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล โดยการส่งเสริมระบบประสาทให้ทำงานในสภาวะที่สมดุลมากขึ้น
5. ส่งเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Health)
การทำ Grounding ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ลดความเหนียวของเลือด ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
6. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System Support)
การทำ Grounding สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยการลดการอักเสบและปรับปรุงการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
7. ส่งเสริมการรักษาบาดแผล (Wound Healing)
มีการวิจัยที่แสดงว่าการทำ Grounding สามารถช่วยเร่งกระบวนการรักษาบาดแผลได้ โดยการลดการอักเสบและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด
การทำ Grounding ในชีวิตประจำวัน
เดินเท้าเปล่า: เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน หญ้า หรือทราย อย่างน้อยวันละ 30 นาที
นั่งหรือนอนบนพื้นธรรมชาติ: นั่งหรือนอนบนหญ้าหรือพื้นดินธรรมชาติ
ใช้แผ่นกราวด์: ใช้แผ่นกราวด์ที่เชื่อมต่อกับพื้นดินโดยตรง
ข้อควรระวัง
ตรวจสอบความสะอาด: ตรวจสอบพื้นดินหรือหญ้าที่คุณเดินเท้าเปล่าให้สะอาดและไม่มีของมีคม
ความปลอดภัยในการเชื่อมต่อ: หากใช้แผ่นกราวด์ ตรวจสอบการเชื่อมต่อให้ถูกต้องและปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้า
สรุป
การทำ Grounding มีประโยชน์หลายด้านที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่สนับสนุนประโยชน์เหล่านี้ แต่ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์เหล่านี้ การทำ Grounding เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการส่งเสริมสุขภาพที่ดี ควรลองนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ
ที่มา
ขออนุญาตแชร์ ประโยชน์ของการทำ grounding
1. ลดการอักเสบ (Anti-Inflammatory)
การทำ Grounding ช่วยลดการอักเสบในร่างกายโดยการเพิ่มอิเล็กตรอนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งช่วยลดสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ
2. ปรับปรุงการนอนหลับ (Improved Sleep)
การทำ Grounding ช่วยปรับปรุงการนอนหลับ โดยการลดระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) และปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาท
3. ลดความเจ็บปวด (Pain Reduction)
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการทำ Grounding สามารถช่วยลดความเจ็บปวดเรื้อรังได้ เช่น ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
4. ปรับสมดุลระบบประสาท (Nervous System Balance)
การทำ Grounding ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล โดยการส่งเสริมระบบประสาทให้ทำงานในสภาวะที่สมดุลมากขึ้น
5. ส่งเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Health)
การทำ Grounding ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ลดความเหนียวของเลือด ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
6. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System Support)
การทำ Grounding สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยการลดการอักเสบและปรับปรุงการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
7. ส่งเสริมการรักษาบาดแผล (Wound Healing)
มีการวิจัยที่แสดงว่าการทำ Grounding สามารถช่วยเร่งกระบวนการรักษาบาดแผลได้ โดยการลดการอักเสบและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด
การทำ Grounding ในชีวิตประจำวัน
เดินเท้าเปล่า: เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน หญ้า หรือทราย อย่างน้อยวันละ 30 นาที
นั่งหรือนอนบนพื้นธรรมชาติ: นั่งหรือนอนบนหญ้าหรือพื้นดินธรรมชาติ
ใช้แผ่นกราวด์: ใช้แผ่นกราวด์ที่เชื่อมต่อกับพื้นดินโดยตรง
ข้อควรระวัง
ตรวจสอบความสะอาด: ตรวจสอบพื้นดินหรือหญ้าที่คุณเดินเท้าเปล่าให้สะอาดและไม่มีของมีคม
ความปลอดภัยในการเชื่อมต่อ: หากใช้แผ่นกราวด์ ตรวจสอบการเชื่อมต่อให้ถูกต้องและปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้า
สรุป
การทำ Grounding มีประโยชน์หลายด้านที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่สนับสนุนประโยชน์เหล่านี้ แต่ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์เหล่านี้ การทำ Grounding เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการส่งเสริมสุขภาพที่ดี ควรลองนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ
ที่มา