ทารกเสียชีวิตในครรภ์ อายุครรภ์16สัปดาห์ สอดยา ยุติการตั้งครรภ์ ในโรงพยาบาล

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งในพันทิปเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เพื่อเป็นแนวทาง ให้คนที่เจอเหตุการณ์เดียวกันได้ทราบและเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับกับความจริงค่ะ
ย้อนกลับไปในวันแรกที่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์คือวันที่23/12/2563 ได้ทำการตรวจครรภ์โดยใช้ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่มมีขีดขึ้นจางๆซึ่งไม่เคยมีมาก่อน(ต้องการมีลูกมาเป็นเวลา9ปีตรวจไม่เคยขึ้นเลย)เลยบอกสามีว่าอาจจะท้อง แต่ยังไม่แน่ใจเพราะตรวจตอนเย็น 
ตั้งใจมาจะตรวจอีกครั้งตอนเช้าของวันที่24/12/63ได้ตรวจซ้ำอีกรอบขึ้นขีดจางๆเหมือนเดิมเริ่มแน่ใจแล้ว 
วันที่26/12/63ทนรอไม่ไหวตรวจอีก1อันปรากฎว่าขีดเข้มขึ้น แน่ใจแล้ว คุยกับสามีว่าเราไปฝากท้องเถอะลูกเราจะได้ยาบำรุง เมื่อไปคลีนิคหมอซาวให้และยืนยันว่าท้องจริงและท้องในมดลูกแต่ยังไม่เห็นตัวน้อง ยังไม่ได้ยินเสียงหัวใจ แต่ก็ดีใจสุดๆ อายุครรภ์ครรภ์5วีค(ประจำเดือนครั้งสุดท้าย15/11/63) ตรวจเลือดทั้ง2คนค่ะ
ผลตรวจเลือดออกมาเป็นพาหะเลือดจางทั้ง2คน ความกังวลมาอีกแล้ว คลีนิคให้เขาไปตรวจเลือดอีกรอบ ผลอีกรอบผ่านค่ะไม่มีผลต่อการตั้งครรภ์ทั้ง2คน โล่งใจไปอีกเปราะนึง
วันที่25/1/64 อายุครรภ์10สัปดาห์ หมอซาวน์เจอน้องแล้วค่ะ ได้ยินเสียงหัวใจแล้วปกติดี (ก่อนไปหาหมอเป็นกังวลมากกลัวท้องลมกลัวไม่เจอน้อง)
วันที่22/2/64 อายุครรภ์14สัปดาห์  น้องตัวโตแล้วหมอบอกว่าพ้นระยะอันตรายแล้วแม่สามารถเที่ยวได้และบอกให้ลูบท้องบ่อยๆและคุยกับน้องเปิดเพลง แม่เริ่มผ่อนคลาย (ท้องเริ่มออกละนะใส่ชุดคลุมแล้วจ้า)
พอวันที่10-12มีนาคม 64เริ่มมีอาการตกขาว และอาการแพ้ท้องหายไป จึงขอหมอไปตรวจเนื่องจากตกขาวเยอะในวันที่12/3/64 ซึ่งไปก่อนนัด (ตามกำหนดหมอนัดวันที่18/3/64)
หมอได้ทำการตรวจดูภายในมีการตกขาวจากเชื้อราไม่กระทบต่อครรภ์หมอสอดยาให้และให้ยาฆ่าเชื้อมากินหมอบอกว่ายาจะไม่มีผลกระทบต่อน้องในครรภ์
หลังจากตรวจเสร็จหมอแจ้งว่ามาก่อนนัดแบบนี้ใกล้ถึงวันนัดแล้วหมอขอดูน้องเลยเพื่อที่จะไม่ต้องมาอีกรอบ หมอได้คุยกับเราว่าโรงบาลของรัฐมีการตรวจดาวน์ฟรีถามเราว่าจะตรวจไหม เราตกลงตรวจนัดกับหมอว่าจะไปวันจันทร์ที่จะถึงนี้เลย
หมอให้ขึ้นนอนบนเตียงเรียกสามีมาดูด้วยกันค่ะ
พอนอนแล้วหมอซาวด์สักพัก หมออุทานว่าเอะทำไมไม่เจอ พอเจอแล้วหมอก็บอกว่าน้องหัวใจไม่เต้นแล้วนะคะ เรียกให้สามีให้มาดูใกล้ๆและอธิบายไปด้วยซาวด์ไปด้วย บอกว่าน้องหัวใจไม่เต้น หยุดการเจริญเติบโต เพราะว่าหัวของน้องมีถุงน้ำ และดันให้สมองออกมานอกกะโหลก นี่คือสาเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิต
และหมอก็อธิบายว่าถ้าหากน้องหัวใจยังเต้นอยู่น้องก็ไม่สมบูรณ์เพราะน้องมีถุงน้ำขนาดใหญ่ในสมอง ถ้าคลอดออกมาก็จะเป็นเด็กหัวโต ไม่สมบูรณ์อยู่ดี เป็นแบบนี้ก็คือไม่ต้องตัดสินใจ ไม่ต้องลำบากใจ ธรรมชาติทำการคัดสรรน้องแล้ว เมื่อไม่แข็งแรงน้องก็ไม่ได้ไปต่อ หมอพยายามพูดปลอบใจเรา2คนมากๆเลยค่ะ
ตอนนั้น2คนกับสามีพูดไม่ออกค่ะ มันเป็นข่าวร้ายมากๆ ที่จริงเดือนนี้หมอนัดว่าจะดูเพศ เราจะได้ทราบเพศกันแล้ว 
จากนั้นหมอก็ส่งตัวเราเพื่อแอดมิทเพื่อทำการสอดยา ความจริงหมอให้แอทมิทเย็นวันนั้นเลย แต่เรากับสามีขอกลับไปทำใจ และกลับไปเตรียมขอใช้ต่างๆ และลางานเพราะต้องแอทมิท หมอเลยนัดให้เข้าไปที่โรงพยาบาลในตอนเช้าของวันถัดไป
พอขึ้นรถกลับบ้านเราปล่อยโฮแบบสุดๆเลยจากที่กลั้นไว้ตอนคุยกับหมอ ร้องไห้แทบขาดใจ สงสารสามีมากๆเพราะรอมานาน สามีคุยกับลูกทุกคืน กลับถึงบ้านไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน ร้องไห้จนหลับไปสะดุ้งตื่นมาคิดว่าฝันไป แต่ความจริงยังไงก็คือความจริง
วันที่13/3/64 อาบน้ำสระผมเตรียมตัวเตรียมใจ เพราะเคยเห็นมาแล้วว่าน้องสาวผ่านการยุติการตั้งครรภ์มาก่อนน้องเจ็บท้องจนเตียงสั่น ทราบมาบ้างว่าเหมือนการคลอดลูก ทักไปหาเพื่อนที่เป็นพยาบาล เพื่อนบอกว่าจะเจ็บมากกว่าปกติเพราะจะได้ยาสอดกระตุ้น  
เมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลทำการเจาะใส่เข็มที่เตรียมใส่สายน้ำเกลือ เปลี่ยนชุดและส่งตัวไปที่ห้องคลอด 
เมื่อถึงห้องคลอดก็รอเวลา ตอนนั้นพยาบาลยังให้กินข้าว และโทรปรึกษากับหมอเจ้าของไข้ให้ค่ะ 
เริ่มสอดยาเม็ดแรกบ่ายโมง ยาเม็ดแรกมันจะยังไม่เจ็บท้องนะคะ ใช้เวลาอีกนานเลยกว่าจะเริ่มเจ็บ
14.00น.อาการเจ็บท้องเริ่มมาแต่นิดหน่อย สามีเข้ามาเฝ้าได้นะคะ โทรศัพมือถือก็เอาเข้ามาเล่นได้ 
16.00น. เริ่มเจ็บมากขึ้นแต่ยังทนไหว พยาบาลยกข้าวเย็นมาให้กินค่ะยังกินข้าวไหว รุ้สึกเหมือนเจ็บท้องประจำเดือนมาเป็นพักๆ หมอโทรมาถามอาการได้ยินพยาบาลแจ้งไป พยาบาลเปลี่ยนเวรพอดี ใจไม่อยากให้เปลี่ยนเลยเพราะพยาบาลคนแรกที่สอดยาให้ใจดีพูดเพราะมากๆให้กำลังใจตลอดเลย
หลังจากทานข้าวอิ่มซักพักเริ่มเจ็บท้องถี่ขึ้นค่ะ พยาบาลมาขอสอดยาอีกเม็ด ก่อนสอดเค้าขอตรวจปากมดลูก และกระตุ้นปากมดลูกด้วย เจ็บนะคะเจ็บกว่าการตรวจภายในทั่วไป พยาบาลแจ้งว่าปากมดลูกเปิด1เซ็น แล้วก็สอดยาให้ค่ะ 
ช่วงเวลาหลังจากสอดยาเม็ดที่2 เป็นการเจ็บท้องที่ถี่มากๆ เจ็บแบบเหมือนเป็นประจำเดือนแต่มากกว่า10เท่ามั้ง แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ เจ็บจนเตียงสั่นเหมือนน้องสาวบอกเลยค่ะ มันจะเจ็บบีบตรงมดลูกบีบบบบบบ แล้วคลายยยย แล้วเจ็บมาอีก วนไปเรื่อยๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
อยู่ในห้องรอคลอดรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากๆเลยค่ะ หนาวด้วย
ประมาณ18.30 เจ็บจนเกือบทนไม่ไหวแล้วตั้งใจว่าจะขอยาแก้ปวดแล้วค่ะ เพราะหมอสั่งยาแก้ปวดให้ด้วย พยาบาลบอกว่าถ้าทนไม่ไหวให้ขอได้ แต่ก็ยังไม่ขอนะเพราะคิดว่ามันยังจะเจ็บยิ่งกว่านี้เพราะปากมดลูดยังเปิดแค่1เซนและพยาบาลบอกว่าปากมดลูกยังแข็งอยู่เลยยังไม่ค่อยนุ่ม อาจจะอีกนาน บางคนต้องหลายวันกว่าจะคลอด
เมื่อเจ็บจนจะทนไม่ไหวเลยบอกลูกในท้องว่าออกมาเถอะนะลูก แม่เจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว สักพักน้ำคร่ำแตกเลยค่ะ  แล้วก็หายเจ็บท้องเลย สามีก็เรียกพยาบาลมา ไม่ได้เข้าห้องคลอดนะคะ คลอดตรงเตียงรอคลอดเลย 
พยาบาลถามว่าอยากเบ่งไหม เราไม่รู้สึกอยากเบ่งเลย แต่พยาบาลบอกว่าลองเบ่งคล้ายๆแบ่งอึแต่แบ่งลงก้นดู เลยลองเบ่งตามพยาบาลบอก น้องก็ออกมาค่ะ พยาบาลบอกออกแล้วออกแล้ว 
พอออกมาขอพยาบาลดูเลยค่ะ เพราะอยากรู้เพศของน้อง น้องเป็นผู้ชายค่ะ เห็นปิกาจูอันเล็กๆ พยาบาลเรียดสามีมาดูน้อง สามีพลิกน้องดูและดูตรงหัว เห็นหัวน้องนูนๆสมองไหลออกมาอยู่นอกกะโหลกตามที่หมอแจ้งเลยค่ะ
จากนั้นสักพักก็รอคลอดรก พยาบาลมากดๆท้องแล้วให้เราเบ่งอีก รกก็ออกมา ตอนที่น้องออกกับรกออกเราหนาวมากกกกกหนาวจนสั่นฟันสับกันเลย พยาบาลบอกว่าเป็นผลข้างเคียงของยา พยาบาลเอาผ้าห่มมาห่มเพิ่มให้ค่ะ
พยาบาลเอารกมาตรวจดูและบอกว่าน่าจะออกยังไม่หมด เพราะตรงรกมีรอยแหว่ง โทรแจ้งหมอเจ้าของไข้ ให้นอนรอดูอาการ เพราะหมอติดเคสผ่าตัดด่วน พยาบาลแจ้งว่าอาจจะต้องได้ขูดมดลูก ให้งดน้ำงดอาหารรอหมอ
น้องคลอดตอน18.39 น้ำหนัก56กรัม
รกออก 18.50 น้ำหนักรก51กรัมค่ะ
รอหมอจนถึง4ทุ่มมั้งคะ หมอมาแล้วและซาวด์ดูพบว่ารกยังออกไม่หมดจริงๆด้วย 
พยาบาลถามว่าต้องขูดไหม แต่หมอบอกว่านิดเดียวดูดออกแป๊ปเดียว หมอใช้ศัพท์หมอคุยกันเราฟังไม่ค่อยเข้าใจ
หมอหันมาพูดกับเราว่าให้ยาแก้ปวดมาไม่ใช้ เก่งมากๆเลยนะ ทนความเจ็บปวดได้ดี (พยาบาลบอกว่าไม่ใช้ก็ดีแล้วเพราะยามีฤทธิ์ทำให้มึนๆเบลอๆค่ะ) หมอถามต่อว่าดูดสดเลยมั้ยเจ็บแต่ไม่มากน่าจะทนได้ เราสายหัวเลยค่ะ ไม่เอาแล้วกลัวเจ็บ หมอก็หัวเราะและบอกว่างั้นหลับเนอะ สัก5นาที  เราก็ตอบตกลง
พยาบาลก็เตรียมของ พอวิสัญญีมา ก็ถามเราสัพเพเหระ ปิดตาเราด้วยนะ ยังไม่ทันฉีดยาเลยหมอพูดว่าพร้อมรึยัง เราตกใจเลยบอกว่าหมอยังบ่หลับเด้อหมอ(คนเหนือ)หมอก็หัวเราะ หมอใจดีมากๆพูดเล่นทำให้เราหายกลัว 
พอวิสัญญีฉีดยานอนหลับ เราหมุนติ้ววววววเลย  พอมีสติกลับมา เห็นเท้าตัวเองผ่านช่องตาที่โดนผ้าปิดอยู่ มีผ้าห่มขาวคลุมจนถึงคอนึกว่าตัวเองตายแล้วซะอีก เรียกพยาบาล/หมอ/สามี ไม่มีใครได้ยินเลย เราก็นอนสักพัก รู้สึกเลือดไหลตลอดเลย หน่วงๆปวดท้องนิดๆ
จนพยาบาลมาเอาผ้าปิดตาออก และลองให้ลุก และย้ายไปนอนที่เตียงเพื่อดูอาการ เอาโทรสัพมาให้ ดูเวลาเที่ยงคืนกว่าๆเลยค่ะ พยาบาลบอกว่าพักผ่อนเลยนะคะ เราก็หลับเลยค่ะ ตื่นแค่ตอนพยาบาลมาวัดไข้2รอบ และพาเข้าห้องน้ำเท่านั้น (สามีไม่ได้นอนเฝ้านะคะเพราะเป็นห้องรอคลอด)
หลังจากดูดเสร็จก็ไม่ได้เจอหมออีกเลย แต่สามีได้เจอตอนที่หมอออกห้องคลอดมา หมอแจ้งว่านัดตรวจหลังคลอดวันที่27/3/64 หมอสั่งยาไว้ให้ เป็นยาฆ่าเชื่อ /ยาแก้ปวด/ยาบำรุงเลือด3อย่าง ตอนเช้าก็ได้ออกโรงบาลเลยค่ะ 
ศพของน้องทางโรงบาลถามนะคะว่าจะไปทำพิธีเองหรือให้โรงบาลจัดการให้ ของเราไปทำพิธีเองค่ะ ไปฝังที่ป่าช้า (สัปเหร่อบอกว่าเด็กบรรสุทธิ์เค้าไม่ให้เผาค่ะ)และสวดบังสกุล ป่าช้าที่เราไปฝังมีศพเด็กฝังเยอะเหมือนกันนะ บางคนพ่อแม่เค้าก็เอาต้นไม้มาปลูกไว้บนหลุมศพค่ะ 
จากตอนเช้าที่เราเข้าโรงบาลเราไม่ร้องไห้เลยนะ แต่กลับถึงบ้านนี้สิอาการแย่เหมือนกันค่ะ ว่าจะทำใจได้ประมาณเดือนนึงเลย เลือดออกเหมือนประจำเดือนอยู่ประมาณ2อาทิตย์ก็หายนะคะเจ็บท้องนิดหน่อยตอนออกโรงบาลมา2วันแรก
วันที่27/3/64 ตรวจหลังคลอดหมอบอกว่าไม่มีอะไร ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยค่ะ ผลออกมาปกติ (ทราบผล9/4/64) 
หมอแจ้งว่าถ้าต้องการปล่อยเลย ต้องรอประจำเดือนมา1รอบแล้วเริ่มกินยาคุมให้หมด 1แผง เพื่อปรับมดลูก จากนั้นยาหมดประจำเดือนมาก็สามารถปล่อยมีน้องได้เลยค่ะ 
ประจำเดือนมาวันที่19/4/64 
ตอนนี้แค่รอน้องกลับมาอีกครั้งค่ะ เป็นกำลังใจหื้อแม่จิ่มเน้อเจ้า(คนเหนือ)✌🏻✌🏻✌🏻
****พยาบาลหมอที่โรงพยาบาลใจดีมากๆค่ะ เจอทั้งหมด6คนทุกคนใจดีและดูแลดีมากๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
****และสุดท้ายกำลังใจจากสามีสำคัญที่สุดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่