เรื่องราวเกิดขึ้น ณ ป่าดงดิบแถบชายแดน รามราช(ปีเตอร์ ไนท์) ภูไพร และเพื่อนร่วมสาบานอีก2คนที่เกิดเวลาเที่ยงคืน ในคืนจันทรุปราคา คนที่เกิดวันเดียวปีเดียวกัน ตามความเชื่อที่พูดสืบต่อกันมาว่าใครเกิดวันดังกล่าวผู้นั้นคือทายาทซาตานที่สามารถฝึกมนต์ดำ จนบรรลุไสยเวทย์ขั้นสูงได้  เมื่อทั้ง 4 คนทำพิธีมอบวิญญาณเป็นทายาทซาตานจนสำเร็จ แต่ด้วยความโลภของรามราชทำให้สังหารเพื่อนสองคนอย่างเลือดเย็น ภูไพรเห็นจึงแอบขโมยตำราหนีไม่ให้ตกอยู่ในมือคนชั่ว แต่ถูกรามราชขัดขวางเกิดการห้ำหั่นแย่งชิงตำรากันจนถ้ำถล่มฝังชีวิตของภูไพรและตำราซาตานจนหายสาบสูญไป 
              และในการพบกันครั้งแรกของ 4 สาวธิดาซาตาน เมื่อ ธารใส (สกาย-มาเรีย) เพลิงพิศ (เจสซี่-กิระนา) วายุตา (เทีย ทวีพาณิชย์พันธุ์) และเอื้องทราย (แอปเปิ้ล-ลาภิสรา) ทั้งสี่คนหนีจากเรื่องร้ายจนได้พบกัน ในวันเปิดเรียนวันแรก ณ สถาบันมารตี เชนทร์ (ฟิลลิปส์ ทินโรจน์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมารตี(น้อง-พรสุดา) เชนทร์ยังมีตำแหน่งเป็นประธานสภาสโมสรนักศึกษา เชนทร์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับธารใส คอยหาเรื่องให้ธารใสถูกไล่ออกแต่ยิ่งแกล้งก็ยิ่งทำให้เชนทร์หลงรักธารใสโดยไม่รู้ตัว 
             เชนทร์จัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ใกล้ถ้ำที่มีตำราซาตานซ่อนอยู่ วิญญาณภูไพรมาเตือนธารใสให้ระวังอันตรายแต่ถูกรามราชกับนงลักษณ์(ตู่-จารุศิริ) สะกดวิญญาณไว้ พวกธารใสเข้าไปสำรวจในถ้ำเจอโครงกระดูกของภูไพรและพบตำราซาตาน เพลิงพิศแอบนำตำรากลับไป รามราชทำพิธีตามหาตำราซาตาน กระตุ้นให้พวกธารใสอยู่ในช่วงวิกฤตเพื่อที่ตำราซาตานจะได้ปรากฏออกมาช่วย แต่สุดท้ายตำราซาตานก็ไม่ปรากฏ ทำให้รามราชรู้ว่าการจะเรียกตำราซาตานออกมาทายาททั้งสี่จะต้องรวมพลังกัน เรื่องราวของพลังซาตาน และเพื่อนรักทั้ง 4 จะจบลงอย่างไร ต้องไปติดตามใน “ธิดาซาตาน”