รูปนี้คือตู้กดสินค้า 7-eleven ที่ผมใช้ประจำ ปกติผมซื้อสินค้าผ่าน 7-eleven ผ่านตู้นี้โดยใช้บัตรเครดิต และพร้อมเพย์ ตู้นี้ตั้งอยู่กลางห้างแห่งหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยสถานที่ละกันนะครับ) อัตราการใช้ของผมประมาณ 10-15 ครั้งจะโดนตู้ไม่จ่ายสินค้า 1 ครั้ง
~ซึ่งทุกครั้งโทรไปจะเป็นแพทเทิร์นเดิมๆที่พนักงานถามจนครั้งล่าสุด ครั้งที่ 5 เมื่อประมาณเดือนที่แล้วตู้ไม่จ่ายสินค้าก็เลยโทรเข้าไปที่ระบบ ตามเบอร์ที่ตู้ให้ไว้ สินค้าที่ผมกินประจำคือ Pepsi Max 19 บาท ทุกครั้งที่โทรเข้าไปจะต้องรอประมาณ 10 นาทีกว่าจะได้คุย(ค่าโทรศัพท์นาทีละ 1 บาท) ทุกครั้งที่คุยกับเจ้าหน้าที่ก็จะถามชื่อนามสกุลเบอร์โทร (แบบเดิมๆที่ถามทุกครั้งแทนที่จะเอาเบอร์โทรกดดูข้อมูล)ซึ่งผมเข้าใจว่าในระบบน่าจะมีข้อมูลูกค้าอยู่ ต้องตอบแบบเดิมทุกครั้ง ที่ต่างคือ เวลาที่ซื้อสินค้าแต่ละครั้งซึ่ง พนง.บางคนถามถึงวินาที
~~ แต่ประเด็นทั้งหมดทั้งมวลอยู่ ในครั้งที่ 5 ที่ไม่ได้รับสินค้าและ ผมโทรไปแจ้งทางเจ้าหน้าที่ผมได้ทำการถามถึงยอดเงินที่ก่อนหน้านี้ ประมาณ4 ครั้งได้คืนผมหรือยัง ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ ผมเลยบอกว่าถ้างั้นช่วยเช็คให้หน่อยไม่งั้ คุณทำระบบแบบนี้เท่ากับคุณเอาเงินลูกค้าไปกองไว้แล้วไม่แจ้งเจ้าของเงินว่าคืนหรือไม่คืนเป๊ปซี่ 1 ขวด 19 บาทโดนซักแสนคนเป็นเงินเท่าไหร่ บอกว่าจะคืนเงินใน 7-15 วัน ก็ไม่มีการแจ้งเตือนหรือเงินเข้าใดๆทั้งสิ้น หลังจากผมวางหูมีสัก30นาทีเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นผู้จัดการโทรกลับมา แจ้งว่าเงินคืนให้แล้วผมก็เลยไล่ถามไปว่าคืนให้กี่ครั้งสรุป คืนเงินมาให้แค่ 2 ครั้งแล้วอีก2ครั้งรอพิจารณาอยู่ ซึ่งการรอพิจารณาในตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้งคือใช้เวลาผ่านมาประมาณ30 วันโดยประมาณ จากวันที่โทรไปสินค้าครั้งที่5ทางผมซึ่งผมก็ลืมไปเลยว่าต้องตามเงินอีก2ยอดถ้าไม่มีเหตุการณ์เครื่องไม่จ่ายสินค้าในวันนี้เป็นครั้งที่ 6 ที่เจอ รายการสินค้าเดิมๆแต่วันนี้เปลี่ยนการซื้อเป็นการจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งทางผมได้กดชำระเงินเรียบร้อยแต่สินค้าไม่ออกมาให้ผมก็เลยได้ทำการโทรเช่นเดิม รอสายประมาณ 15 นาที โดยโทรแยกกัน 2 ครั้ง ทางเซเว่นเขาจะทราบไหมว่าทุกครั้งที่ลูกค้าโทรไปหาเขานานๆแบบนี้ มันมีค่าใช้จ่าย แล้วทางเซเว่นเขาจะทราบไหมว่าการที่เขาจ่ายเงินคืนลูกค้าช้าขนาดนี้มันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับบริษัท ครั้งนี้เช่นกันผมได้สอบถามเงินคงค้างที่จะจ่ายคืนผมทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่สามารถตรวจสอบได้จะส่งเรื่องเร่งรัดให้ทางผม ถามว่าแล้วผมจะทราบได้อย่างไรว่าเงินสินค้าได้คืนให้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ส่งเรื่องเร่งรัดให้ (การเร่งรัดครั้งนี้ผ่านมาจะ 2 เดือนแล้ว)เดี๋ยวทักไปสาขาจะโอนเงินคืน โดยทางลูกค้าอย่างผมไม่สามารถเช็คได้เลยว่าเงินจะเข้าเมื่อไหร่แล้วต้องไปตามที่ใคร ผมมองว่าเงินของผมซื้อครั้งละ 19 บาทไม่แพงหรอกเงินมันไม่เยอะ แต่การที่คุณทำแบบนี้ หนึ่งแสนคน 1 ล้านคนเป็นเงินเท่าไหร่ เอานิสัยคนไทยที่ขี้ลืมมาใช้แบบนี้ ภาพลักษณ์เสียหายมากๆ ความซื่อสัตย์สุจริตอยู่ตรงไหน หน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนนี้น่าจะมีมาตรการอะไรที่ดีมากกว่านี้ เทคโนโลยี SMS หรือช่องทางติดต่อทาง Social ต่างๆก็มีให้ติดต่อหนือเซเว่นก็สามารถทำ application ให้ลูกค้าไว้ตามได้ จากเลข Number ที่ทาง Operator ให้ไว้ได้ ฝากไว้ให้คิดอันนี้คือข้อแนะนำจากผู้บริโภค ฝากไว้ให้ผู้บริหารระดับใหญ่ๆของ เซเว่นคิดได้ว่าเงินไม่เยอะแต่ควรจะให้ลูกค้าตามเงินเขาคืนได้ ถ้าท่านคิดไม่ได้ผมเสนอตามที่ผมบอกไว้นั่นแหละให้ทำ applicationไม่น่าจะยากสำหรับบริษัทใหญ่ๆอย่างท่าน แล้วอย่าไปโทษระดับปฏิบัติงานที่รับสายโทรศัพท์ เพราะหน้าที่น้องๆเขามีมีหน้าที่แค่นั้นระดับหัวหน้าควรจะหาทางแก้ไข ที่ดีกว่าเป็นที่เป็นอยู่ฝากไว้ให้เป็นข้อคิดจากผู้บริโภคครับ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆท่านใด เคยโดนเหตุการณ์อย่างผม อย่าลืมโทรไปตามเงินนะครับ เงินไม่เยอะ แต่มันก็คือเงินของเรา
~~ ขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านฟังความอัดอั้นตันใจของผม เวลาคอแห้งแล้วโมโหจริงๆขอบคุณครับ555
มีใครใช้ตู้กดสินค้าเซเว่น จ่ายเงินแล้วไม่จ่ายสินค้า ถ้าไม่โทรทวงเงินก็เงียบบ้าง
รูปนี้คือตู้กดสินค้า 7-eleven ที่ผมใช้ประจำ ปกติผมซื้อสินค้าผ่าน 7-eleven ผ่านตู้นี้โดยใช้บัตรเครดิต และพร้อมเพย์ ตู้นี้ตั้งอยู่กลางห้างแห่งหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยสถานที่ละกันนะครับ) อัตราการใช้ของผมประมาณ 10-15 ครั้งจะโดนตู้ไม่จ่ายสินค้า 1 ครั้ง
~ซึ่งทุกครั้งโทรไปจะเป็นแพทเทิร์นเดิมๆที่พนักงานถามจนครั้งล่าสุด ครั้งที่ 5 เมื่อประมาณเดือนที่แล้วตู้ไม่จ่ายสินค้าก็เลยโทรเข้าไปที่ระบบ ตามเบอร์ที่ตู้ให้ไว้ สินค้าที่ผมกินประจำคือ Pepsi Max 19 บาท ทุกครั้งที่โทรเข้าไปจะต้องรอประมาณ 10 นาทีกว่าจะได้คุย(ค่าโทรศัพท์นาทีละ 1 บาท) ทุกครั้งที่คุยกับเจ้าหน้าที่ก็จะถามชื่อนามสกุลเบอร์โทร (แบบเดิมๆที่ถามทุกครั้งแทนที่จะเอาเบอร์โทรกดดูข้อมูล)ซึ่งผมเข้าใจว่าในระบบน่าจะมีข้อมูลูกค้าอยู่ ต้องตอบแบบเดิมทุกครั้ง ที่ต่างคือ เวลาที่ซื้อสินค้าแต่ละครั้งซึ่ง พนง.บางคนถามถึงวินาที
~~ แต่ประเด็นทั้งหมดทั้งมวลอยู่ ในครั้งที่ 5 ที่ไม่ได้รับสินค้าและ ผมโทรไปแจ้งทางเจ้าหน้าที่ผมได้ทำการถามถึงยอดเงินที่ก่อนหน้านี้ ประมาณ4 ครั้งได้คืนผมหรือยัง ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ ผมเลยบอกว่าถ้างั้นช่วยเช็คให้หน่อยไม่งั้ คุณทำระบบแบบนี้เท่ากับคุณเอาเงินลูกค้าไปกองไว้แล้วไม่แจ้งเจ้าของเงินว่าคืนหรือไม่คืนเป๊ปซี่ 1 ขวด 19 บาทโดนซักแสนคนเป็นเงินเท่าไหร่ บอกว่าจะคืนเงินใน 7-15 วัน ก็ไม่มีการแจ้งเตือนหรือเงินเข้าใดๆทั้งสิ้น หลังจากผมวางหูมีสัก30นาทีเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นผู้จัดการโทรกลับมา แจ้งว่าเงินคืนให้แล้วผมก็เลยไล่ถามไปว่าคืนให้กี่ครั้งสรุป คืนเงินมาให้แค่ 2 ครั้งแล้วอีก2ครั้งรอพิจารณาอยู่ ซึ่งการรอพิจารณาในตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้งคือใช้เวลาผ่านมาประมาณ30 วันโดยประมาณ จากวันที่โทรไปสินค้าครั้งที่5ทางผมซึ่งผมก็ลืมไปเลยว่าต้องตามเงินอีก2ยอดถ้าไม่มีเหตุการณ์เครื่องไม่จ่ายสินค้าในวันนี้เป็นครั้งที่ 6 ที่เจอ รายการสินค้าเดิมๆแต่วันนี้เปลี่ยนการซื้อเป็นการจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งทางผมได้กดชำระเงินเรียบร้อยแต่สินค้าไม่ออกมาให้ผมก็เลยได้ทำการโทรเช่นเดิม รอสายประมาณ 15 นาที โดยโทรแยกกัน 2 ครั้ง ทางเซเว่นเขาจะทราบไหมว่าทุกครั้งที่ลูกค้าโทรไปหาเขานานๆแบบนี้ มันมีค่าใช้จ่าย แล้วทางเซเว่นเขาจะทราบไหมว่าการที่เขาจ่ายเงินคืนลูกค้าช้าขนาดนี้มันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับบริษัท ครั้งนี้เช่นกันผมได้สอบถามเงินคงค้างที่จะจ่ายคืนผมทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่สามารถตรวจสอบได้จะส่งเรื่องเร่งรัดให้ทางผม ถามว่าแล้วผมจะทราบได้อย่างไรว่าเงินสินค้าได้คืนให้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ส่งเรื่องเร่งรัดให้ (การเร่งรัดครั้งนี้ผ่านมาจะ 2 เดือนแล้ว)เดี๋ยวทักไปสาขาจะโอนเงินคืน โดยทางลูกค้าอย่างผมไม่สามารถเช็คได้เลยว่าเงินจะเข้าเมื่อไหร่แล้วต้องไปตามที่ใคร ผมมองว่าเงินของผมซื้อครั้งละ 19 บาทไม่แพงหรอกเงินมันไม่เยอะ แต่การที่คุณทำแบบนี้ หนึ่งแสนคน 1 ล้านคนเป็นเงินเท่าไหร่ เอานิสัยคนไทยที่ขี้ลืมมาใช้แบบนี้ ภาพลักษณ์เสียหายมากๆ ความซื่อสัตย์สุจริตอยู่ตรงไหน หน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนนี้น่าจะมีมาตรการอะไรที่ดีมากกว่านี้ เทคโนโลยี SMS หรือช่องทางติดต่อทาง Social ต่างๆก็มีให้ติดต่อหนือเซเว่นก็สามารถทำ application ให้ลูกค้าไว้ตามได้ จากเลข Number ที่ทาง Operator ให้ไว้ได้ ฝากไว้ให้คิดอันนี้คือข้อแนะนำจากผู้บริโภค ฝากไว้ให้ผู้บริหารระดับใหญ่ๆของ เซเว่นคิดได้ว่าเงินไม่เยอะแต่ควรจะให้ลูกค้าตามเงินเขาคืนได้ ถ้าท่านคิดไม่ได้ผมเสนอตามที่ผมบอกไว้นั่นแหละให้ทำ applicationไม่น่าจะยากสำหรับบริษัทใหญ่ๆอย่างท่าน แล้วอย่าไปโทษระดับปฏิบัติงานที่รับสายโทรศัพท์ เพราะหน้าที่น้องๆเขามีมีหน้าที่แค่นั้นระดับหัวหน้าควรจะหาทางแก้ไข ที่ดีกว่าเป็นที่เป็นอยู่ฝากไว้ให้เป็นข้อคิดจากผู้บริโภคครับ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆท่านใด เคยโดนเหตุการณ์อย่างผม อย่าลืมโทรไปตามเงินนะครับ เงินไม่เยอะ แต่มันก็คือเงินของเรา
~~ ขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านฟังความอัดอั้นตันใจของผม เวลาคอแห้งแล้วโมโหจริงๆขอบคุณครับ555