เป็นเรื่องที่เราเก็บมาหลายปีที่เรารู้สึกอยากระบายค่ะ เพราะเราคิดมากที่มีหลายคนมองว่าเราแย่ที่พ่อเสียแต่ไม่ร้องไห้ไม่เสียใจเลยหรอ?
ซึ่งเราก็เสียใจเหมือนกันแต่เพราะเราเคยโดนพ่อลวนลามค่ะซึ่งสำหรับเรามันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากเราไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องนี้กับใครเพราะเราอาย แต่ไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดี และเราก็เคยบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ที่รู้จักแต่เค้าทำเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่แหละปล่อยผ่านเรื่องนี้เหมือนเค้าไม่เชื่อเรื่องที่เราเล่าว่าเราโดนพ่อแท้ๆของเราลวนลาม หรือเค้าอาจจะรู้สึกว่ายังไม่โดนข่มขืนก็คงไม่เป็นไรหรือยังไงเราไม่รู้แต่สำหรับเรามันเป็นเรื่องใหญ่มากเรารู้สึกเหมือนเราโดนหักหลังเราโดนทำหลายจิตใจและมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เราโดนลวมลามแต่เราโดนพ่อแท้ๆลวนลามหลายครั้งแล้วจนหัวใจของเรามันแตกสลายไปแล้ว ถึงเราจะไม่ได้โดนข่มขืนแต่ความรู้สึกนี้มันฝังอยู่ในใจของเราตลอดแต่ทุกคนที่รู้เรื่องกับทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไร ไม่มีการปลอบเราไม่มีการถามความรู้สึกเราว่าเราโอเครรึป่าว มีแค่ถามว่า"โดนสอดใส่มั้ย"คือสำหรับเรา
โคตรเป็นคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกของเรามากๆ แล้วพอเราบอกว่าไม่เค้าก็ไม่สนใจไม่คิดถามแล้วทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น คือเราต้องโดนสอดใส่ก่อนใช่มั้ยมันถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่รู้จะทำยังไงเรามืดแปดด่านมากในตอนนั้นเพราะเรายังอายุแค่16-17 ตอนนั้นเราเหลือแค่พ่อกับน้องชาย เพราะแม่เราเสียตั้งแต่เราอายุ12-13ปีซึ่งตอนนั้นหลังแม่ตายได้2-3เดือนเราเริ่มถูกพ่อลวนลามแล้วแต่ตอนนั้นเราไม่ค่อยรู้เรื่องตอนนั้นพ่อเราขับรถแท็กซี่แกจะกลับบ้านช่วงเช้ามืดซึ่งเราจะเป็นคนตื่นไปเปิดประตูให้พ่อซึ่งเค้าก็จะบอกให้เราไปนอนด้วยเพราะเค้าอยากกอดเราแต่มือของเค้าก็จะค่อยลวนลามจับหน้าจับไปตามตัวเราและหอมเราซึ่งตอนนี้เราไม่รู้จริงๆว่าเราถูกพ่อลวนลามเราแค่รู้สึกกลัวและไม่ชอบมากๆๆๆที่พ่อทำแบบนี้พอตอนนี้เรากลับไปนึกถึงมันเราถึงรู้และรู้สึกขยะแขยงพ่อของตัวเองมากๆเพราะนอกจากเค้าจะลวนลามเราแล้วเค้ายังกินเหล้าเมามายมาตะคอกมากด่ามาตีเรากับน้อง ซึ่งในช่วงนี้นั้นเราเหมือนคนบ้าทุกๆวันจะต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่เสียแม่มาทะเลาะกับพ่อมาฟังพ่อด่าหรือไม่ก็โดนลวนลามในตอนนั้นเด็กอายุ13อย่างคิดอยากจะฆ่าตัวตายอะหรือไม่ก็ฆ่าพ่อให้ตาย เราเขียนข้อความว่า"อยากตายๆๆๆ"หรือไม่ก็"อยากให้พ่อตายๆๆๆๆ"ลงไปในสมุดโน๊ตของเราซ่ำๆแทบจะทุกวันคิดว่าทำไมแม่ไม่พาเราไปด้วย ทำไมต้องทิ้งให้เราอยู่กับพ่อ คือในตอนนั้นสำหรับเราแม่คือทุกอย่าง แม่เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นคนที่หารายได้หลักของบ้านเป็นคนที่อยู่กับเราในทุกช่วงเวลา เป็นความฝันความหวังและอนาคตของเราแต่พอเราเสียแม่ไปมันก็เหมือนกันความฝันของเราหายไปด้วย และเพราะเสียแม่ไปทำให้บ้านเราเหลือแค่พ่อผู้ที่ค่อยสร้างภาระหนี้สินต่างๆให้แม่แต่ไม่รู้จักหายเงิน ในตอนนั้นพ่อเริมเราของมีค่าทุกๆอย่างในบ้านไปขาย เพื่อที่จะหาเงินมาใช้เป็นค่าอยู่ค่ากินและค่าพนันของพ่อไม่ว่าจะเป็นรถมอไซต์ เครื่องเกมps2 โทรศัพท์ คอมหรือของมือค่าต่างๆที่พอจะขายได้ จนมาวันนหนึ่งพ่อก็ประสบอุบัติเหตุทำให้กระดูกส้นเท้าแตกเดินไม่ได้ไปทำงานไม่ได้สุดท้ายตอนกลับไปรักษาตัวที่ต่างจังหวัดซึ่งในตอนนี้อามารับน้องกลับพ่อไปส่งที่บ้างแต่เราตอนนั้นเรียนม.1กำลังจะจบเลยไม่ได้ไปด้วยต้องอยู่กรุงเทพคนเดียวซึ่งช่วงนั้นแรกก็มีความสุขอยู่บ้างที่ไม่ต้องเจอพ่อจนต่อมาผู้ดูแลอพาร์ทเม้นท์ที่เราอยู่ก็มาบอกเราว่าต้องล็อกห้องที่เราอยู่เพราะพ่อไม่ได้จ่ายค่าห้องค้างมา3เดือนแต่ซึ่งสิ่งที่เราสามารถเก็บของออกจากห้องได้มีแค่เสื้อผ้ากับเอกสารบ้างอยากเท่านั้นซึ่งตอนนั้นเราเป็นแค่เด็กอายุ13ที่พึ่งเสียแม่ไปช่วงต้นปีอะเราทำอะไรไม่เป็นเลยเราไม่มีโทรศัพท์ไม่มีใครเราเป็นแค่เด็กโง่ๆที่ถูกทิ้งไว้ที่กรุงเทพอะ พอเราเก็บของออกมาเราก็ไม่มีที่ไปแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปที่ไหนพ่อเราก็ไม่มีมือถือยายที่รู้จักกันในอพาร์ทเม้นท์เห็นแกก็สงสารเลยให้ฉันไปอยู่ด้วย จนแกจะให้หลานสาวแกช่วยรับเราไปเลี้ยงดูเพราะติดต่อใครพ่อหรือญาติไม่ได้เลย แต่ยังดีที่เราเจอเบอร์น้าซึ่งแกเลยจะเอาเราไปอยู่ด้วยซึ่งเราก็อยู่กับน้าได้1ปีซึ่งในตลอด1ปีนั้นพ่อไม่เคยส่งเงินมาให้ฉันสักบาทแล้วฉันก็แทบจะไม่รู้เรื่องราวของพ่อเลย ซึ่งต่อมาน้าก็ส่งฉันกลับไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดกับพ่อเพราะปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้ส่งเราไม่ไหวเพราะน้าเรามีน้องคนที่สองแล้วน้าเขยต้องทำงานคนเดียว และมีความคิดทีาจะย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดด้วย เราจึงกลับมาอยู่กับพ่อช่วงม.3ซึ่งตอนนั้นหลังจากอยู่ที่บ้านน้าสภาพจิตเราก็ดีขึ้นมาบ้างแต่พอกลับมาอยู่กับพ่อเราก็เริ่มคิดอยากจะฆ่าตัวตายมากขึ้นไปอีกเราเคยจะกรีดข้อมือแต่เพราะมือมันไม่คมทำให้กรีดไม่ค่อยเข้าและพอรู้สึกเจ็บแผลเราก็เลยเลิกทำเพราะเราเป็นคนที่กลัวเจ็บมาก แต่ช่วงนั้นพ่อไม่ได้ลวนลามเรานะเพราะมีปู่อยู่ด้วยและเราก็นอนแยกจากพ่อกันน้องซึ่งหลังจากจบม.3เราก็ไปเรียนที่โรงเรียนประจำที่น้าที่เรียนเคยอยู่ด้วยแนะนำให้ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่อยู่ใกล้ๆกลับบ้านที่ต่างจังหวัดของน้า(ในปีนั้นน้าย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว)ซึ่งมันก็ทำให้เราไม่ได้อยู่กับพ่อซึ่งเราก็ไม่อยากอยู่จนช่วงปิดเทอมจะขึ้นม.5ปู่เราเสียและเราก็ต้องกลับบ้าน หลังจากปูเสียก็มีการจัดบ้านใหม่ทำให้เราต้องมานอนกับพ่อและน้องรวมกัน ซึ่งเรากับน้องชายเป็นคนที่หลับลึกมาก แล้วเราก็เริ่มสังเกตว่าสายชุดชั้นในของเราชอบหลุดทุกครั้งที่เราหลับซึ่งเราก็ไม่ได้คิดมากเพราะคิดว่าชุดชั้นในเรามันเก่าแล้ว และเริมเอะใจว่าทำไใกระดุมที่การยืนขาสั้นเราหลุดจนคืนนึงเรารู้สึกนอนไม่ค่อยหลับ เรานอนหลับๆตื่นๆ จนเรารู้สึกว่าพ่อเริ่มขยับข้ามน้องมานอนใกล้ๆเราและเริ่มกอดเราซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนพ่อเอามือมาจับที่หน้าอกเราซึ่งตอนนั้นมันทำให้เราช็อกมากเราไม่คิดว่าพ่อจะทำอะไรแบบนี้กับเรา เรานอนตัวแข็งไม่กล้าขยับไม่กล้าให้พ่อรู้ว่าเราตื่นเพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องคุยหรือทำหน้ายังไงกับพ่อจนเค้าเริ่มปิดชุดชั้นในเราแหละกางเกงและดูดหน้าอกเราเราตกใจจนทำเป็นตื่นขึ้นมาส่วนพ่อก็ดูเหมือนจะตกใจแต่คือตอนนั้นเราไม่รู้จริงๆว่าต้องทำยังไงเรารับไม่ได้เราสั้นเรากลัวเราแกล้งลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วตั้งสติเรากลับเข้าห้องเห็นพ่อนั่งอยู่แต่เราไม่รู้จะพูดอะไรและไม่กลับอยู่ในห้องนั้นต่อเราเลยแกล้งทำเป็นไปหยิบนิยายที่อยู่ในห้องออกมาจะอ่านแต่เราเดินออกมาแล้วเดินไปที่ห้องครัวแล้วหยิบมีดออกมาเล่มนึงในใจเราเราคิดว่าถ้าพ่อออกมาทำอะไรเราเราจะเอามืดในมือแทงพ่อเราให้ตายเราทำกลัวทั้งโกธรทั้งเสียใจเรานั่งร้องไห้น้ำตาออกมาจนจะขาดใจและกำมีดในมือแน่นคิดไปต่างๆนานาใจนึงก็คิดว่าพรุ่งนี้จะไปนอนที่ไหนใจนึงก็คิดขึ้นมาได้ว่าที่ชุดชั้นในเราชอบหลุดต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ แล้วก็คิดขึ้นมาได้ถึงตอนที่เรายังเด็กช่วงนี้ที่พ่อเข้ามากอดมาจับเค้าไปได้รักเราแต่กำลังลวนลามเรา ในตอนนั้นเราเหมือนคนใจสะลายอะเพราะช่วงหนึ่งปีที่เรียนย้ายไปเรียนที่อื่นเราก็เริ่มคิดได้อะว่าถึงพ่อจะไปดีแต่อย่างน้อยๆเค้าก็เป็นคนในครอบครัว นอกจากพ่อแม่แล้วจะมีใครรักเราไปมากกว่านี้แต่ในวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดมันก็พังทลายไปหมดเราเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เรารู้สึกเหมือนไม่มีใครอีกแล้วที่ต้องการเรา พอเช้าพระอาทิตย์เราก็รีบปั่นจักรยานไปที่บ้านย่าน้อยซึ่งยายน้องเป็นน้องสาวของย่าเราไปขออยู่กับย่าเราพูดเราบอกเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งย่าน้อยก็รับฟังแต่เหมือนแกจะไม่เชื่อเรื่องที่เราพูดแต่ยังดีที่แกให้เราอยู่ในเพราะไปอย่างนั้นเราก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน พอย่าอนุญาตเราก็รีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าของเราออกมาทั้งที่แหละบอกน้องว่าจะไปอยู่กับย่าแล้วก็รีบไปทั้งที่เราร้องไห้อยู่หลายวันมากขณะที่อยู่ที่นั้นและพอใกล้ถึงวันเปิดเทอมเราก็กลับไปเรียน และเราก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปเจอหน้าพ่อและกลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย ซึ่งเราก็ทำแบบนั้นจริงถึงแม้ผ่านมา3-4ปีเราจะติดต่อและพูดคุยกับพ่ออยู่บ้างแต่เราไม่เคยกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเรา จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา5-6ปีแล้วและย่าก็โทรมาบอกว่าพ่อปวดหนักเราเลยกลับเมื่อจะไปเยี่ยมพ่อแต่ก็ติดโควิคโรงพยาบาลไม่ให้เข้าเยี่ยมจนพ่อเสียและเราได้เห็นหน้าพ่ออีกครั้งในวันที่เค้านอนอยู่ในโล่งเราก็รู้สึกเสียใจแหละเพราะยังไงเค้าก็เป็นพ่อเราแต่พอนึกถึงพ่อเราก็จะนึกถึงเรื่องราวร้ายๆที่เค้าทำกับเราตลอดซึ่งเราก็ยังคงจดจำมันได้ไม่เคยลืม และเป็นหนึ่งบาทแผลที่ฝังลึกในใจเรามาตลอด เราเคยคุยกับพ่อครั้งนึ่งเรื่องที่พ่อทำกับเราผ่านทางโทรศัพท์ตอนที่ทะเลาะกันแต่เค้ากับทำเป็นไม่รู้ และทำเหมือนว่าเค้าไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกันเราและไม่เคยขอโทษเราซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเค้าไม่เคยสำนักผิดเลยกับเรื่องที่เค้าทำกับเรา มันเลย...จนใจเรามันด้านชามากกับพูดชายที่เรียกว่าพ่อ
ดังนั้นเราผิดมากหรอที่วันหนึ่งที่เค้าเสียชีวิตไปเราไม่ได้ร้องไห้เสียใจขนาด แต่ตอนเราร้องไห้เสียใจเคยมีใครปลอบเราสักคนมั้ย
บ้านไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ซึ่งเราก็เสียใจเหมือนกันแต่เพราะเราเคยโดนพ่อลวนลามค่ะซึ่งสำหรับเรามันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากเราไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องนี้กับใครเพราะเราอาย แต่ไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดี และเราก็เคยบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ที่รู้จักแต่เค้าทำเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่แหละปล่อยผ่านเรื่องนี้เหมือนเค้าไม่เชื่อเรื่องที่เราเล่าว่าเราโดนพ่อแท้ๆของเราลวนลาม หรือเค้าอาจจะรู้สึกว่ายังไม่โดนข่มขืนก็คงไม่เป็นไรหรือยังไงเราไม่รู้แต่สำหรับเรามันเป็นเรื่องใหญ่มากเรารู้สึกเหมือนเราโดนหักหลังเราโดนทำหลายจิตใจและมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เราโดนลวมลามแต่เราโดนพ่อแท้ๆลวนลามหลายครั้งแล้วจนหัวใจของเรามันแตกสลายไปแล้ว ถึงเราจะไม่ได้โดนข่มขืนแต่ความรู้สึกนี้มันฝังอยู่ในใจของเราตลอดแต่ทุกคนที่รู้เรื่องกับทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไร ไม่มีการปลอบเราไม่มีการถามความรู้สึกเราว่าเราโอเครรึป่าว มีแค่ถามว่า"โดนสอดใส่มั้ย"คือสำหรับเราโคตรเป็นคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกของเรามากๆ แล้วพอเราบอกว่าไม่เค้าก็ไม่สนใจไม่คิดถามแล้วทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น คือเราต้องโดนสอดใส่ก่อนใช่มั้ยมันถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่รู้จะทำยังไงเรามืดแปดด่านมากในตอนนั้นเพราะเรายังอายุแค่16-17 ตอนนั้นเราเหลือแค่พ่อกับน้องชาย เพราะแม่เราเสียตั้งแต่เราอายุ12-13ปีซึ่งตอนนั้นหลังแม่ตายได้2-3เดือนเราเริ่มถูกพ่อลวนลามแล้วแต่ตอนนั้นเราไม่ค่อยรู้เรื่องตอนนั้นพ่อเราขับรถแท็กซี่แกจะกลับบ้านช่วงเช้ามืดซึ่งเราจะเป็นคนตื่นไปเปิดประตูให้พ่อซึ่งเค้าก็จะบอกให้เราไปนอนด้วยเพราะเค้าอยากกอดเราแต่มือของเค้าก็จะค่อยลวนลามจับหน้าจับไปตามตัวเราและหอมเราซึ่งตอนนี้เราไม่รู้จริงๆว่าเราถูกพ่อลวนลามเราแค่รู้สึกกลัวและไม่ชอบมากๆๆๆที่พ่อทำแบบนี้พอตอนนี้เรากลับไปนึกถึงมันเราถึงรู้และรู้สึกขยะแขยงพ่อของตัวเองมากๆเพราะนอกจากเค้าจะลวนลามเราแล้วเค้ายังกินเหล้าเมามายมาตะคอกมากด่ามาตีเรากับน้อง ซึ่งในช่วงนี้นั้นเราเหมือนคนบ้าทุกๆวันจะต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่เสียแม่มาทะเลาะกับพ่อมาฟังพ่อด่าหรือไม่ก็โดนลวนลามในตอนนั้นเด็กอายุ13อย่างคิดอยากจะฆ่าตัวตายอะหรือไม่ก็ฆ่าพ่อให้ตาย เราเขียนข้อความว่า"อยากตายๆๆๆ"หรือไม่ก็"อยากให้พ่อตายๆๆๆๆ"ลงไปในสมุดโน๊ตของเราซ่ำๆแทบจะทุกวันคิดว่าทำไมแม่ไม่พาเราไปด้วย ทำไมต้องทิ้งให้เราอยู่กับพ่อ คือในตอนนั้นสำหรับเราแม่คือทุกอย่าง แม่เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นคนที่หารายได้หลักของบ้านเป็นคนที่อยู่กับเราในทุกช่วงเวลา เป็นความฝันความหวังและอนาคตของเราแต่พอเราเสียแม่ไปมันก็เหมือนกันความฝันของเราหายไปด้วย และเพราะเสียแม่ไปทำให้บ้านเราเหลือแค่พ่อผู้ที่ค่อยสร้างภาระหนี้สินต่างๆให้แม่แต่ไม่รู้จักหายเงิน ในตอนนั้นพ่อเริมเราของมีค่าทุกๆอย่างในบ้านไปขาย เพื่อที่จะหาเงินมาใช้เป็นค่าอยู่ค่ากินและค่าพนันของพ่อไม่ว่าจะเป็นรถมอไซต์ เครื่องเกมps2 โทรศัพท์ คอมหรือของมือค่าต่างๆที่พอจะขายได้ จนมาวันนหนึ่งพ่อก็ประสบอุบัติเหตุทำให้กระดูกส้นเท้าแตกเดินไม่ได้ไปทำงานไม่ได้สุดท้ายตอนกลับไปรักษาตัวที่ต่างจังหวัดซึ่งในตอนนี้อามารับน้องกลับพ่อไปส่งที่บ้างแต่เราตอนนั้นเรียนม.1กำลังจะจบเลยไม่ได้ไปด้วยต้องอยู่กรุงเทพคนเดียวซึ่งช่วงนั้นแรกก็มีความสุขอยู่บ้างที่ไม่ต้องเจอพ่อจนต่อมาผู้ดูแลอพาร์ทเม้นท์ที่เราอยู่ก็มาบอกเราว่าต้องล็อกห้องที่เราอยู่เพราะพ่อไม่ได้จ่ายค่าห้องค้างมา3เดือนแต่ซึ่งสิ่งที่เราสามารถเก็บของออกจากห้องได้มีแค่เสื้อผ้ากับเอกสารบ้างอยากเท่านั้นซึ่งตอนนั้นเราเป็นแค่เด็กอายุ13ที่พึ่งเสียแม่ไปช่วงต้นปีอะเราทำอะไรไม่เป็นเลยเราไม่มีโทรศัพท์ไม่มีใครเราเป็นแค่เด็กโง่ๆที่ถูกทิ้งไว้ที่กรุงเทพอะ พอเราเก็บของออกมาเราก็ไม่มีที่ไปแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปที่ไหนพ่อเราก็ไม่มีมือถือยายที่รู้จักกันในอพาร์ทเม้นท์เห็นแกก็สงสารเลยให้ฉันไปอยู่ด้วย จนแกจะให้หลานสาวแกช่วยรับเราไปเลี้ยงดูเพราะติดต่อใครพ่อหรือญาติไม่ได้เลย แต่ยังดีที่เราเจอเบอร์น้าซึ่งแกเลยจะเอาเราไปอยู่ด้วยซึ่งเราก็อยู่กับน้าได้1ปีซึ่งในตลอด1ปีนั้นพ่อไม่เคยส่งเงินมาให้ฉันสักบาทแล้วฉันก็แทบจะไม่รู้เรื่องราวของพ่อเลย ซึ่งต่อมาน้าก็ส่งฉันกลับไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดกับพ่อเพราะปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้ส่งเราไม่ไหวเพราะน้าเรามีน้องคนที่สองแล้วน้าเขยต้องทำงานคนเดียว และมีความคิดทีาจะย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดด้วย เราจึงกลับมาอยู่กับพ่อช่วงม.3ซึ่งตอนนั้นหลังจากอยู่ที่บ้านน้าสภาพจิตเราก็ดีขึ้นมาบ้างแต่พอกลับมาอยู่กับพ่อเราก็เริ่มคิดอยากจะฆ่าตัวตายมากขึ้นไปอีกเราเคยจะกรีดข้อมือแต่เพราะมือมันไม่คมทำให้กรีดไม่ค่อยเข้าและพอรู้สึกเจ็บแผลเราก็เลยเลิกทำเพราะเราเป็นคนที่กลัวเจ็บมาก แต่ช่วงนั้นพ่อไม่ได้ลวนลามเรานะเพราะมีปู่อยู่ด้วยและเราก็นอนแยกจากพ่อกันน้องซึ่งหลังจากจบม.3เราก็ไปเรียนที่โรงเรียนประจำที่น้าที่เรียนเคยอยู่ด้วยแนะนำให้ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่อยู่ใกล้ๆกลับบ้านที่ต่างจังหวัดของน้า(ในปีนั้นน้าย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว)ซึ่งมันก็ทำให้เราไม่ได้อยู่กับพ่อซึ่งเราก็ไม่อยากอยู่จนช่วงปิดเทอมจะขึ้นม.5ปู่เราเสียและเราก็ต้องกลับบ้าน หลังจากปูเสียก็มีการจัดบ้านใหม่ทำให้เราต้องมานอนกับพ่อและน้องรวมกัน ซึ่งเรากับน้องชายเป็นคนที่หลับลึกมาก แล้วเราก็เริ่มสังเกตว่าสายชุดชั้นในของเราชอบหลุดทุกครั้งที่เราหลับซึ่งเราก็ไม่ได้คิดมากเพราะคิดว่าชุดชั้นในเรามันเก่าแล้ว และเริมเอะใจว่าทำไใกระดุมที่การยืนขาสั้นเราหลุดจนคืนนึงเรารู้สึกนอนไม่ค่อยหลับ เรานอนหลับๆตื่นๆ จนเรารู้สึกว่าพ่อเริ่มขยับข้ามน้องมานอนใกล้ๆเราและเริ่มกอดเราซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนพ่อเอามือมาจับที่หน้าอกเราซึ่งตอนนั้นมันทำให้เราช็อกมากเราไม่คิดว่าพ่อจะทำอะไรแบบนี้กับเรา เรานอนตัวแข็งไม่กล้าขยับไม่กล้าให้พ่อรู้ว่าเราตื่นเพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องคุยหรือทำหน้ายังไงกับพ่อจนเค้าเริ่มปิดชุดชั้นในเราแหละกางเกงและดูดหน้าอกเราเราตกใจจนทำเป็นตื่นขึ้นมาส่วนพ่อก็ดูเหมือนจะตกใจแต่คือตอนนั้นเราไม่รู้จริงๆว่าต้องทำยังไงเรารับไม่ได้เราสั้นเรากลัวเราแกล้งลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วตั้งสติเรากลับเข้าห้องเห็นพ่อนั่งอยู่แต่เราไม่รู้จะพูดอะไรและไม่กลับอยู่ในห้องนั้นต่อเราเลยแกล้งทำเป็นไปหยิบนิยายที่อยู่ในห้องออกมาจะอ่านแต่เราเดินออกมาแล้วเดินไปที่ห้องครัวแล้วหยิบมีดออกมาเล่มนึงในใจเราเราคิดว่าถ้าพ่อออกมาทำอะไรเราเราจะเอามืดในมือแทงพ่อเราให้ตายเราทำกลัวทั้งโกธรทั้งเสียใจเรานั่งร้องไห้น้ำตาออกมาจนจะขาดใจและกำมีดในมือแน่นคิดไปต่างๆนานาใจนึงก็คิดว่าพรุ่งนี้จะไปนอนที่ไหนใจนึงก็คิดขึ้นมาได้ว่าที่ชุดชั้นในเราชอบหลุดต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ แล้วก็คิดขึ้นมาได้ถึงตอนที่เรายังเด็กช่วงนี้ที่พ่อเข้ามากอดมาจับเค้าไปได้รักเราแต่กำลังลวนลามเรา ในตอนนั้นเราเหมือนคนใจสะลายอะเพราะช่วงหนึ่งปีที่เรียนย้ายไปเรียนที่อื่นเราก็เริ่มคิดได้อะว่าถึงพ่อจะไปดีแต่อย่างน้อยๆเค้าก็เป็นคนในครอบครัว นอกจากพ่อแม่แล้วจะมีใครรักเราไปมากกว่านี้แต่ในวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดมันก็พังทลายไปหมดเราเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เรารู้สึกเหมือนไม่มีใครอีกแล้วที่ต้องการเรา พอเช้าพระอาทิตย์เราก็รีบปั่นจักรยานไปที่บ้านย่าน้อยซึ่งยายน้องเป็นน้องสาวของย่าเราไปขออยู่กับย่าเราพูดเราบอกเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งย่าน้อยก็รับฟังแต่เหมือนแกจะไม่เชื่อเรื่องที่เราพูดแต่ยังดีที่แกให้เราอยู่ในเพราะไปอย่างนั้นเราก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน พอย่าอนุญาตเราก็รีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าของเราออกมาทั้งที่แหละบอกน้องว่าจะไปอยู่กับย่าแล้วก็รีบไปทั้งที่เราร้องไห้อยู่หลายวันมากขณะที่อยู่ที่นั้นและพอใกล้ถึงวันเปิดเทอมเราก็กลับไปเรียน และเราก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปเจอหน้าพ่อและกลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย ซึ่งเราก็ทำแบบนั้นจริงถึงแม้ผ่านมา3-4ปีเราจะติดต่อและพูดคุยกับพ่ออยู่บ้างแต่เราไม่เคยกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเรา จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา5-6ปีแล้วและย่าก็โทรมาบอกว่าพ่อปวดหนักเราเลยกลับเมื่อจะไปเยี่ยมพ่อแต่ก็ติดโควิคโรงพยาบาลไม่ให้เข้าเยี่ยมจนพ่อเสียและเราได้เห็นหน้าพ่ออีกครั้งในวันที่เค้านอนอยู่ในโล่งเราก็รู้สึกเสียใจแหละเพราะยังไงเค้าก็เป็นพ่อเราแต่พอนึกถึงพ่อเราก็จะนึกถึงเรื่องราวร้ายๆที่เค้าทำกับเราตลอดซึ่งเราก็ยังคงจดจำมันได้ไม่เคยลืม และเป็นหนึ่งบาทแผลที่ฝังลึกในใจเรามาตลอด เราเคยคุยกับพ่อครั้งนึ่งเรื่องที่พ่อทำกับเราผ่านทางโทรศัพท์ตอนที่ทะเลาะกันแต่เค้ากับทำเป็นไม่รู้ และทำเหมือนว่าเค้าไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกันเราและไม่เคยขอโทษเราซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเค้าไม่เคยสำนักผิดเลยกับเรื่องที่เค้าทำกับเรา มันเลย...จนใจเรามันด้านชามากกับพูดชายที่เรียกว่าพ่อ
ดังนั้นเราผิดมากหรอที่วันหนึ่งที่เค้าเสียชีวิตไปเราไม่ได้ร้องไห้เสียใจขนาด แต่ตอนเราร้องไห้เสียใจเคยมีใครปลอบเราสักคนมั้ย