ระวังการเชื่อแพทย์ที่ไม่ชำนาญเรื่องท่ากายภาพบำบัด อาจทำให้ร่างกายเจ็บทั้งชีวิต รุนแรงกว่าที่คิด

เรื่องราวที่ประสบมามีวัตถุประสงค์ อยากให้เป็นอุทธาหรณ์กับทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดแล้วต้องเจ็บตัวหนักกว่าเดิม หรือถึงขั้นพิการ
 
วันหนึ่งไปปรึกษาเรื่องการฝึกกล้ามเนื้อสะโพกให้แข็งแรงเนื่องจากมีอาการกระตุกเบาๆปีละ1-2ครั้ง แต่ด้วยความสงสัย จึงไปหาแพทย์ด้านกระดูกและข้อชื่อวีรวัฒน์ที่โรงพยาบาลเอกชนย่านฝั่งธน ได้รับคำแนะนำให้นอนแล้วยกก้นขึ้น เอามือดึงก้นให้กล้ามเนื้อหลังตึงจนสุดค้างไว้สักพักแล้วสลับข้างทำซ้ำไป แล้วก็มีท่าใกล้เคียงอีกหลายท่า หมอบอกว่ายืดให้สุดเลยนะแล้วค้างเอาไว้ให้รู้สึกว่าตึงแน่น จึงนอนทำท่าให้ดูจนแพทย์บอกว่าถูกต้อง
 
หลังจากทำไป2วัน รู้สึกปวดเพิ่มขึ้นบริเวณสะโพก ก้น เท้า หลัง รวมกัน 4 จุดทั้งหมด จากที่เป็นคนใช้ชีวิตปกติ ยกของหนัก ทำงานออกแรง ปีนป่าย  เล่นกีฬา อย่างปกติ กลับกลายเป็นคนพิการทันที ในอายุ40กว่าปี เดินกะเผก ยกของไม่ได้ ลุกนั่งทรมาน 
 
จากนั้นทนกับอาการปวดมากจนไม่ไหว จึงไปพบแพทย์คนเดิม แพทย์บอกว่าก็แนะเหมือนกับตามที่ในYoutubeบอกกันมา ใครๆก็ทำกัน จึงสรุปได้ว่า เราโชคร้ายเอง ทันใดนั้นจึงนึกได้ว่า แพทย์ไม่ได้เรียนเรื่องท่ากายภาพมานี่นา ทำไมเราถึงเชื่อสนิทใจ
 
***เพราะว่า การทำกายภาพ และการนวด คนที่เรียนมาจริงๆจะต้องรู้ว่า (1) น้ำหนักระดับไหนที่เหมาะกับแต่ละคน ถ้าแรงไปก็สร้างแรงกระแทกในบางคนได้ (2) แล้วคนที่เป็นโรคอะไรบ้าง หรือข้อควรระวัง ข้อห้าม สำหรับคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน***
 
หลังจากนั้น ผลวินิจฉัย จากโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ในมหาวิทยาลัย พบว่า หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดจากการกระแทกแรงๆ ไม่มีทางกลับมาเป็นปกติได้ การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป การทำงานก็ต้องเปลี่ยนแปลง กระทบอย่างมากต่อทั้งชีวิต เพียงแค่เรื่องนิดเดียวเท่านั้น และสรุปได้ว่าท่ากายภาพตามที่แพทย์คนก่อนแนะนำเป็นเหตุให้เกิด และอาการเกิดขึ้นหลังจากทำท่าดังกล่าวในวันต่อกันโดยไม่มีกิจกรรมอื่น
 
จึงสรุปเป็นบทเรียนให้ ระมัดระวังกันดีๆ การทำกายภาพ หรือการนวด อย่าเชื่อใคร เพราะ (1) ต้องระวังเรื่องความแรงความเบาว่าแต่ละส่วนของร่างกายรองรับน้ำหนักได้แค่ไหน มีหลายๆคนที่ได้พูดคุยแล้วเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้เช่นกัน (2) ต้องระวังว่าท่าที่กำลังทำนี้มีข้อห้ามกับข้อระวังตรงไหนบ้าง ไม่ใช่เอาท่าหนักๆไปใช้ กับคนที่ร่างกายอาจจะไม่ได้พร้อมทำท่าเหล่านี้ โดยทั้งข้อ (1) และ (2) นั้นต้องสอบถามกลับให้ละเอียดจากคนแนะนำรวมถึงค้นหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่