แหะๆ กระทู้ขอบ่นค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
ท้อมากเลยเราอยากหายมาก
ตอนนี้เราลาป่วยมาได้จะ2เดือนแล้ว
เราเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยว(มั้ง)
กระดูข้อศอกขวาแตก หมอมาดูอาการเราบอกเราว่าลาเลย1เดือน
ไอ้เดือนแรกไม่เท่าไหร่ค่ะ
แต่ช่วงแรกเราก็ใส่เฝือกใส่มาได้1-2 อาทิตย์นี่แหละจำไม่ได้
พอพบหมอบอกไปว่าเราไม่ไหวขอถอดเหอะรำคาญมาก หมอก้เลยส่งเราไปถอดเฝือกออก
พอไปถอดออกเจ้าหน้าที่ที่ถอดให้เราเห็นแขนเราแล้วตกใจเพราะแขนเราบวมมาก
สุดท้ายเป็นเลือดที่คั่งอยู่ในแขน 30-40 ซีซีได้
หมอที่ยอมถอดเฝือกให้ เพราะหมอจะให้ใส่เฝือกพลาสติกแทน
แต่พอเห็นแขนเราแล้วหมอไม่ให้ใส่เฝือกอีกเพราะกลัวเลือดจะคั่งในแขนอีก
แต่ช่วงนั้นกระดูข้อศอกเราก็เริ่มติดแล้วค่ะ
แล้วช่วงที่พอถอดเฝือกนี่แหละ แขนเรายืดตรงไม่ได้ค่ะหมอก็ให้เราบอกให้จับขวดน้ำเล็กๆแล้วยืดแขนลง
ตอนทำเราเจ็บ เราเลยไม่ได้ทำต่อเนื่อง
หลังจากนั้นอีก2อาทิตย์ พอหมออีกครั้งมันไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
หมอเลยบอกเราว่างั้นหมอให้แอดมิทอีกรอบนะ
คราวนี้ต้องดมยา หมอจะจับยืดแขน
(ตอนนี้มันเลยเข้าเดือนธันวา เดือนที่2แล้วค่ะ)
พอยืดแขนเสร็จนั้นเราเจ็บแขนทำให้เรางอแขนเพื่อบรรเทาค.เจ็บ
ทำให้แขนเรากลายเป็นยังยืดได้ไม่ตรงแค่เกือบตรง
แต่หมอบอกเราแล้วว่าตอนหมอยืดแขนให้แขนคุณตรงแล้วนะ แต่พอคุณเจ็บคุณเลยงอแขนกลับเข้าไป
ถ้าเดือน ม.ค. แขนเรายังไม่ตรงหมอจะจับยืดอีกรอบ(คือดมยาเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ)
ตอนนี้สภาพแขนเลยแค่เกือบตรงและไม่ตรง
ตอนนี้เราเลยต้องทำกายภาพเองค่ะ เจ็บมากอาทิตย์แรกให้ลูกตุ้มถ่วงที่ข้อมือหนัก2ก.ก.
ถ่วงวันละ3รอบ รอบละ30 นาที
ถ่วงได้อาทิตย์นึงตอนนี้หมอให้เราไปยืดแขนที่ราวเหล็ก หรือโหนบาร์
สภาพแขนที่เราเป็นตอนนี้คืองอแขนเรายังแตะไหล่ตัวเองไม่ได้
ยืดแขนก็ยังได้ไม่ตรงค่ะ
ตอนนี้มานั่งคิดเราเจ็บเราเหนื่อยเราท้อไปหมดค่ะ
เงินก็ต้องใช้ ลาก็นาน คือเราคิดไปหมด
ช่วงนี้เราก็ต้องไปกายภาพที่คลินิคกายภาพทุกวัน
หมอเห็นว่าเราอาการไม่ดีขึ้นเลยส่งตัวเราไปค่ะ
แต่บางทีก็คิดว่าเออ มีคนที่แย่กว่าเรานะ
เข้าใจเลยว่าคนที่เพิ่งตอนเฝือกเนี่ยเหมือนต้องมาเริ่มใช้งานอวัยวะใหม่หมดเลย
แรงหายไปหมด
เราเป้นมือขวาเลยทำไรยากไปหมด
คิดแลวมันเห้อออในใจค่ะ
ใครเคยใส่เฝือกมั้งค่ะ
หรือใครเคยเจอกระดูกหักหรือแตกไรงี้
ให้กำลังใจตัวเองกันไง
ทำกายภาพเจ็บมั้ยแล้วบอกตัวเองว่าไงกันตอนทำกายภาพ
เห้อเราว่าของเรากลายเป็นกล้วยๆไปเลยพอเจอคนที่หนักกว่าเรา
แต่นั่นน่ะสิเค้าให้กำลังใจตัวเองยังไงกัน
*** ทำกายภาพจนท้อล่ะค่ะ งานก็ไม่ได้ทำ ทำกายภาพก็เจ็บ เข้าใจคนที่กายภาพเป็นเวลานานเลย
ท้อมากเลยเราอยากหายมาก
ตอนนี้เราลาป่วยมาได้จะ2เดือนแล้ว
เราเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยว(มั้ง)
กระดูข้อศอกขวาแตก หมอมาดูอาการเราบอกเราว่าลาเลย1เดือน
ไอ้เดือนแรกไม่เท่าไหร่ค่ะ
แต่ช่วงแรกเราก็ใส่เฝือกใส่มาได้1-2 อาทิตย์นี่แหละจำไม่ได้
พอพบหมอบอกไปว่าเราไม่ไหวขอถอดเหอะรำคาญมาก หมอก้เลยส่งเราไปถอดเฝือกออก
พอไปถอดออกเจ้าหน้าที่ที่ถอดให้เราเห็นแขนเราแล้วตกใจเพราะแขนเราบวมมาก
สุดท้ายเป็นเลือดที่คั่งอยู่ในแขน 30-40 ซีซีได้
หมอที่ยอมถอดเฝือกให้ เพราะหมอจะให้ใส่เฝือกพลาสติกแทน
แต่พอเห็นแขนเราแล้วหมอไม่ให้ใส่เฝือกอีกเพราะกลัวเลือดจะคั่งในแขนอีก
แต่ช่วงนั้นกระดูข้อศอกเราก็เริ่มติดแล้วค่ะ
แล้วช่วงที่พอถอดเฝือกนี่แหละ แขนเรายืดตรงไม่ได้ค่ะหมอก็ให้เราบอกให้จับขวดน้ำเล็กๆแล้วยืดแขนลง
ตอนทำเราเจ็บ เราเลยไม่ได้ทำต่อเนื่อง
หลังจากนั้นอีก2อาทิตย์ พอหมออีกครั้งมันไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
หมอเลยบอกเราว่างั้นหมอให้แอดมิทอีกรอบนะ
คราวนี้ต้องดมยา หมอจะจับยืดแขน
(ตอนนี้มันเลยเข้าเดือนธันวา เดือนที่2แล้วค่ะ)
พอยืดแขนเสร็จนั้นเราเจ็บแขนทำให้เรางอแขนเพื่อบรรเทาค.เจ็บ
ทำให้แขนเรากลายเป็นยังยืดได้ไม่ตรงแค่เกือบตรง
แต่หมอบอกเราแล้วว่าตอนหมอยืดแขนให้แขนคุณตรงแล้วนะ แต่พอคุณเจ็บคุณเลยงอแขนกลับเข้าไป
ถ้าเดือน ม.ค. แขนเรายังไม่ตรงหมอจะจับยืดอีกรอบ(คือดมยาเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ)
ตอนนี้สภาพแขนเลยแค่เกือบตรงและไม่ตรง
ตอนนี้เราเลยต้องทำกายภาพเองค่ะ เจ็บมากอาทิตย์แรกให้ลูกตุ้มถ่วงที่ข้อมือหนัก2ก.ก.
ถ่วงวันละ3รอบ รอบละ30 นาที
ถ่วงได้อาทิตย์นึงตอนนี้หมอให้เราไปยืดแขนที่ราวเหล็ก หรือโหนบาร์
สภาพแขนที่เราเป็นตอนนี้คืองอแขนเรายังแตะไหล่ตัวเองไม่ได้
ยืดแขนก็ยังได้ไม่ตรงค่ะ
ตอนนี้มานั่งคิดเราเจ็บเราเหนื่อยเราท้อไปหมดค่ะ
เงินก็ต้องใช้ ลาก็นาน คือเราคิดไปหมด
ช่วงนี้เราก็ต้องไปกายภาพที่คลินิคกายภาพทุกวัน
หมอเห็นว่าเราอาการไม่ดีขึ้นเลยส่งตัวเราไปค่ะ
แต่บางทีก็คิดว่าเออ มีคนที่แย่กว่าเรานะ
เข้าใจเลยว่าคนที่เพิ่งตอนเฝือกเนี่ยเหมือนต้องมาเริ่มใช้งานอวัยวะใหม่หมดเลย
แรงหายไปหมด
เราเป้นมือขวาเลยทำไรยากไปหมด
คิดแลวมันเห้อออในใจค่ะ
ใครเคยใส่เฝือกมั้งค่ะ
หรือใครเคยเจอกระดูกหักหรือแตกไรงี้
ให้กำลังใจตัวเองกันไง
ทำกายภาพเจ็บมั้ยแล้วบอกตัวเองว่าไงกันตอนทำกายภาพ
เห้อเราว่าของเรากลายเป็นกล้วยๆไปเลยพอเจอคนที่หนักกว่าเรา
แต่นั่นน่ะสิเค้าให้กำลังใจตัวเองยังไงกัน