กายภาพจนท้อแล้วยังงอเข่าไม่ได้

กระทู้คำถาม
สวัสดีครับชาวพันทิพย์ทุกคน อมยิ้ม17อมยิ้ม17 กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้แรกของผมซึ่งผมก็อาจจะวางตัวไม่เหมาะสมก็ขออัยด้วยนะครับ อมยิ้ม07อมยิ้ม07 เข้าเรื่องกันเลยนะครับ เนื่องจากเมื่อ2เดือนที่แล้วผมได้ประสบอุบัติเหตุทางถนนนะครับเหตุเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ล้วนๆเลย ในวันนั้นหลังจากที่ผมได้ไปกินเหล้ามากับเพื่อนนั้นผมก็ได้เดินทางกลับด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจของผมระหว่างทางกลับนั้นได้เกิดอาการวูบหลับในจึงทำให้ผมได้รู้จักกับคำว่า"สัมผัสใหม่แห่งการนอน" คร่อกฟี้ ถนนนี่นะนุ่มมเชียวไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย เจ้าคิกคัก เพราะผมได้เฉี่ยวฟุตบาทแล้วชนต้นไม้เข้าอย่างจัง ต้นใหญ่ซะด้วยผมได้คาอยู่กับต้นไม้แล้วผมก็หลับไปสักพักได้ยินเสียงคนแถวนั้นได้เข้ามาถามอาการผมว่าเป็นอย่างไรมั้ง ผมจึงตอบกลับไปว่าไม่เป็นไรครับแต่เสียงผมมันก็ไม่ได้ออกไปตามปากที่มันขยับเลย ท้องของผมมันได้กระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่นั่นมันทำให้ผมจุกอย่างมาก แต่อย่างไรผมก็คิดในใจว่าผมจะต้องกลับบ้าน ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นนั้น ผมไม่สามารถบังคับขาขวาผมขยับได้ตอนนั้นผมก็รู้แล้วว่าต้องเกิดอะไรกับขาผมแล้วแน่ๆและด้วยอาการเมาบวกกับความง่วงและขยับตัวไม่ได้ผมก็ทิ้งตัวลงนอนเลยในจังหวะนั้น จากนั้นผมก็ได้รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่ รพ.แล้ว ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าเพื่อนๆผมแฟนผม และก็แม่ผมรายล้อมกันอยู่รอบเตียงที่ผมนอนแล้วผมก็ถามแม่ผมว่า แม่มาได้ยังไง แม่ก็บอกว่าแฟนเราน่ะเป็นคนโทรมาบอกไงแม่ก็รีบขับรถมาหาเลย ผมก็ อ่อ แล้วหมอเขาว่าผมเป็นไงมั้ง แม่บอกกับผมว่า หมอบอกกับแม่ว่าต้นขาขวาเราน่ะหัก ผมก็ห๊า เม่าตกใจ ขาหักเลยหรอซึ่งตัวผมไม่ได้มีบาดแผลเลยสักนิดแต่ขาผมนี่สิ่หักข้างในเลย ผมจึงถามไปอีกว่าแล้วยังไงต่อทีนี้ แม่ผมบอกว่าต้องรอพรุ่งนี้เช้าอ่ะ รอให้หมอเขามาดูอาการว่าจะเอายังไง ผมก็อืมแล้วก็หลับไปเพราะยังเมาอยู่ หลังจากที่ผมหายจากอาการเมาแล้ว ทีนี้ล่ะอาการปวดมันก็เข้ามาผมนี่อยู่นิ่งไม่ได้เลยรู้สึกปวดขาอยู่ตลอดเวลาผมได้แต่คิดในใจว่าเมื่อไหร่จะเช้าสักทีจะได้เจอหมอแล้วหมอจะได้พาผมไปรักษาแล้วจะได้หายปวดกันสักที 6โมงก็แล้ว 7โมงก็แล้ว ผมรู้สึกตัวตลอดเวลาเลยเพราะอาการปวดมันทำให้ผมหลับสนิทไม่ได้ จากนั้นช่วง10โมงหมอก็มาดูอาการ แล้วแม่ผมก็ถามกับหมอว่า หมอจะทำยังไงต่อค๊ะ หมอก็ได้บอกว่าต้องผ่าตัดเพราะกระดูกที่หักข้างในมันเกยกันอยู่จึงต้องผ่านตัดเพื่อดึงให้กระดูกมันตรงกันแล้วก็ใส่เหล็กดามไว้ ผมได้ยินอย่างนั้นแล้วผมก็คิดว่าผมจะได้เข้าผ่าตัดเลยทันที แต่ก็ผิดหวังเนื่องจากเคสของผมมันไม่ใช่เคสที่บาดเจ็บร้ายแรงอะไรนัก หมอจึงต้องให้ผมรอผ่าตัดตอน2ทุ่ม ผมก็โอ้ววว พระเจ้านี่ผมต้องนอนทนกับอาการปวดนี้อีก10ชม.หรือเนี่ย ที่แย่ไปกว่านั้นก่อนที่ผ่าตัดต้องอดทั้งน้ำและอาหารทุกชนิด และอย่างที่รู้ๆกันคนเราเมื่อเริ่มส่างเมาแล้วสิ่งแรกที่รู้สึกเลยนั้นก็คือคอแห้งใช่แล้วตอนนั้นผมนี่อย่างกินน้ำสุดๆ วันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกได้ว่าเวลาแต่ละนาทีนั้นได้ผ่านไปช้ามาก กว่าจะ2ทุ่มผมก็ต้องทนทั้งอาการหิวน้ำแล้วที่เลวร้ายที่สุดคือความปวดแผลของกระดูกที่หักขยับตัวนิดหน่อยก็ โอ้ววว ทรมานสุดๆข่มตาหลับเพื่อให้เวลาผ่านไปเร็วๆก็ทำไม่ได้หลับได้ 5นาที อาการปวดมันก็มาอยู่ตลอด หลังจากที่ผมทนปวดอยู่ 10ชม. ก็ถึงเวลาเข้าผ่าตัดของผมแล้วมันเหมือนสวรรค์เลยที่ผมจะได้หลุดพ้นกับอาการปวดนี้เสียที หลังจากที่ผมผ่าตัดเสร็จออกจากห้องผ่าตัดเรียบร้อยผมก็ต้องกลับมาพักฟื้นที่เตียงอย่างเดิม เนื่องจากหลังผ่าตัดหมอก็ได้ใส่ขวดที่มีท่อที่คอยให้น้ำเหลืองกับเลือดไหลออกมาจากแผลที่ผ่าตัดภายในออกเพื่อไม่ให้แผลบวดข้างใน จึงทำให้ผมยังขยับตัวไม่ได้เยอะแล้วอยู่แต่กับเตียงเป็นเวลา2-3วัน หลังจากที่นำขวดออกผมก็พอขยับได้นั่งห้อยขาบนเตียงได้ คนที่ทำแผลผมเขาก็สอนผมว่าหลังจากนี้ให้เราเริ่มกายภาพบำบัดด้วยการห้อยขาลงแล้วใช้ขาอีกข้างกดขาเราลงแล้วค้างไว้ 10 วินาที แล้วยกขาขึ้นข้างไว้ 10 วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วขาก็จะกลับมางอได้เหมือนเดิมหลังจากนั้นผมก็ทำมาทุกวันตลอดเวลาจนผ่านไปเดือนกว่าขาผมก็ยังงอได้แค่ 90 องศา เท่านั้นในตอนเวลาดัดนะครับ หากเกร็งขาด้วยตัวเองก็ได้แค่ 80 เท่านั้น แต่ในช่วงนั้นผมไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไงมั้งผมก็ได้แต่นั่งห้อยขาดัดอย่างเดียวทั้งเจ็บปวดทรมานจนน้ำตาไหล เพราะที่ผมจำได้จากคำที่หมอบอกคืออยู่ที่ใจเท่านั้นหมอบอกเขาก็เคยเป็นเขาดัดจนน้ำตาไหลแล้วน้ำตาไหลอีกจนมันกลับมาเหมือนเดิมได้ คำของหมอที่อยู่ในหัวผมคดิกือต้องทนเจ็บทนปวดแล้วมันก็คงจะกลับมางอได้เหมือนเดิมล่ะมั้งผมทำจนกล้ามเนื้อผมอักเสบจนทำให้ผมดัดให้งอไม่ได้เลยแค่ 45 องศา ผมก็ยังดัดไม่ได้เลยมันทำให้ผมท้อ คิดอยู่แต่ในใจทำไมเรายิ่งทำมันกลับยิ่งแย่ทั้งที่เราพยายามทำที่สุดแล้วทั้งทนเจ็บทนปวดแต่มันก็ยังไม่ดีขึ้น อาการของผมมันเริ่มแย่ผมจึงบอกกับแม่ว่าตอนนี้ขาผมมันตึงและปวดบวมด้วยดัดไม่ได้เลยแม่ผมจึงตัดสินใจไปหานักกายภาพ นักกายภาพจึงบอกวิธีกายภาพให้โดยเริ่มจากการประคบร้อนก่อน 20-30 นาที แล้วก็ให้นอนคว่ำใช้หมอนรองตรงขาขวาแล้วก็ให้เกร็งขาขึ้นในตอนนี้เกร็งขาขึ้นผมจะได้ประมาณ 80 องศากว่าๆ จากนั้นนักกายภาพก็ค่อยๆดัดขาผมเข้าจนอยู่ประมาณ 90 องศา มันก็จะเริ่มตึงเมื่อดัดเข้าอีกก็จะเริ่มๆเจ็บ นักกายภาพบอกกับผมว่าถ้าเริ่มเจ็บแล้วให้บอกกับเขา เมื่อผมเจ็บก็บอกกับเขาแล้วเขาก็จะพอ เมื่อทำเสร็จผมก็จะรู้สึกโล่งขามมากจากนั้นเขาก็ทำการประคบเย็นให้ผมประมาณ 15-20 นาทีเขาบอกว่าเวลาทำให้เรารู้สึกเจ็บเพียงแค่ ระดับ 3 แค่นั้น อย่าหักโหมเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ แล้วให้ทำวันนึง 2 เวลา จากนั้นผมก็กลับมาทำที่บ้าน โดยคนที่ดัดให้ก็คือแม่ผมเอง ผมก็ทำแบบนี้ทุกวันๆ จนตอนนี้ก็ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังงอได้เท่าเดิม ไม่มีวี่แววเลยว่าจะงอเข้าได้อีก ในแต่ละวันที่ผมทำมันก็รู้สึกว่าขามันเพิ่มองศางอเข้าได้มาหน่อย แต่หลังจากที่ผมนอนตื่นเช้ามาขามันก็จะกลับมาตึงหน่อยๆเช้าๆผมก็ต้องกลับมาเริ่มดัดใหม่เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ดีขึ้นเลย เท่าไหนก็เท่านั้นต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ในทุกๆเช้าของทุกวัน จนตอนนี้ผมมองมาที่ขาผมแล้วน้ำตามันก็ไหลเองผมท้อจนผมไม่อยากจะทำมันต่อไปแล้ว ร้องไห้ ร้องไห้
เพราะเหตุนี้ผมจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมอยากรู้ประสบการณ์ของชาวพันทิพย์ที่เคยขาหักแบบผมเนี่ย ว่าเคยเป็นแบบผมบ้างมั้ยเวลากายภาพบำบัด และก็ช่วยแนะนำวิธีกายภาพให้ผมทราบด้วยเผื่อผมจะนำมารักษาขาผมต่อ ผมก็ขอขอบคุณในความคิดเห็นมาใน ณ. ที่นี้ด้วย
ปล. ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ทั้งหมดของผมหากผู้อ่านได้อ่านกระทู้ผมแล้วก็คงรู้ว่าเหตุทั้งหมดเกิดจากอะไร ผมก็อยากให้กระทู้นี้เป็นเครื่องเตือนสติกับทุกคนด้วยว่าอย่าประมาทในการดำรงชีวิตของคุณ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นแบบผม ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทั้งนั้น ฝากด้วยแล้วกันนะครับ อมยิ้ม01เจ้าคิกคักเม่าดี๊ด๊าอมยิ้ม01อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่