เมื่อเข้า ได้มีโอกาสเข้าไปฟังธรรมะจาก Clubhouse ห้องพระไตรปิฎกยามเช้า โดยจะมีพระอาจารย์ และก็คนอื่นๆที่เข้ามาแล้วแชร์เรื่องราวธรรมะและข้อคิดต่างๆ โดยส่วนตัวร็สึกฟังแล้วดีหลายประเด็น และวันไหนที่เข้าฟังไม่ทันก็จะมีเพจของพระอาจารย์ท่านมาสรุปให้อ่านกันด้วยค่ะ
เลยอยากจะนำมาแชร์ในห้องนี้ด้วยค่ะ
สรุป พระไตรปิฏกยามเช้า EP.27 ความอาฆาตไม่ยุติธรรม
.
ชุณหสูตร
ยักษ์สองสหายออกจากทิศอุดรไปยังทิศทักษิณ ด้วยกรณียกิจบางอย่าง ได้เห็นท่านพระสารีบุตรมีผมอันปลงแล้วใหม่ๆ นั่งอยู่กลางแจ้งในคืนเดือนหงาย ครั้นแล้วยักษ์ตนหนึ่งได้กล่าวกะยักษ์ผู้เป็นสหายว่า ดูกรสหาย เราจะประหารที่ศีรษะแห่งสมณะนี้ เมื่อยักษ์นั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว ยักษ์ผู้เป็นสหายได้กล่าวกะยักษ์นั้นว่า ดูกรสหาย อย่าเลย ท่านอย่าประหารสมณะเลย ได้เตือนถึงสามครั้ง ยักษ์นั้นไม่เชื่อยักษ์ผู้เป็นสหาย ได้ประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตรเถระ
ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ได้เห็นยักษ์นั้นประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตร ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า ดูกรอาวุโส ท่านพึงอดทนได้หรือ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ทุกข์อะไรๆ ไม่มีหรือ พระสารีบุตรตอบว่า ผมพึงอดทนได้ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้ แต่บนศีรษะของผมมีทุกข์หน่อยหนึ่ง ท่านทั้งสองก็ได้ตอบกันไปมา พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับการเจรจาปราศรัยเห็นปานนี้ แห่งท่านมหานาคทั้งสองนั้น ด้วยโสตธาตุอันเป็นทิพย์อันบริสุทธิ์ล่วงโสตธาตุของมนุษย์ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลา
นี้ว่า
“จิตของผู้ใดเปรียบด้วยภูเขาหิน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่กำหนัดในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ไม่โกรธเคืองในอารมณ์เป็นที่ทั้งแห่งการโกรธเคือง จิตของผู้ใดอบรมแล้วอย่างนี้ ทุกข์จักถึงผู้นั้นแต่ที่ไหน ฯ”
เหตุเพิ่มเติม ยักษ์นี้เคยผูกอาฆาตพระสารีบุตรมาแต่ชาติก่อน ด้วยเหตุนี้จึงมีความรู้สึกปะทุษร้ายทันทีเกิดขึ้น
การก่อเวรด้วยความพยาบาท เป็นการสืบเนื่อง
ความรักย่อมเกิดด้วยเหตุ 2 ประการ 1.ด้วยการอยู่ด้วยกันในกาลก่อน 2.ด้วยการเกื้อกูลในปัจจุบัน (สาเกตชาดก) สองสามีภรรยา เข้าใจว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นลูก เพราะเคยเกิดมาเจอกันเป็นครอบครัวกันมายาวนานมากๆ
เรื่องดี เรื่องไม่ดี ย่อมสืบเนื่อง ฉะนั้นการที่เรามีใจคิดอาฆาต หรือมีใจคิดจะทำร้ายกัน จึงส่งผลสืบเนื่อง หากเราเห็นเช่นนี้เราย่อมเห็นโทษและเริ่มคิดที่จะอยากเลิกอาฆาตมาบ้างแล้ว
ในการเลิกโกรธ เลิกอาฆาตมีคำแนะนำง่ายๆ มีวิธีการขั้นตอนง่ายๆอยู่
1.ทุกความโกรธความไม่พอใจเกิดจากความคาดหวังของเรา ที่เขาโกรธเขา ไม่เกี่ยวกับเขา แต่เป็นความคาดหวังที่ไม่สมหวัง หรือไม่ก็เป็นการโดนขัดขวางความตั้งใจ ให้รู้ตัวว่าที่โกรธไม่เกี่ยวกับเขา แต่เป็นเราเองที่โดนกระทบ
2.เขาเป็นมนุษย์ไม่ต่างจากเรา การที่เขาทำสิ่งต่างๆ ตามการตัดสินใจ มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือแย่ เขาตัดสินใจดีที่สุด ณ ความรู้ ทรัพยากรเท่าที่เขามีแล้ว เราเองก็เป็นไม่ใช่หรอ เราเองก็ไม่ได้ทำถูกเสียทุกอย่าง แต่ทุกครั้งเราก็ทำดีที่สุดแล้ว เขาก็เช่นกัน
3.การที่เขาทำร้ายเรา สะท้อนความทุกข์ในใจเขาที่ทำจัดการไม่ได้ ให้มองให้เป็นถึงความทุกข์ในใจเขา และแปรเปลี่ยนความโกรธเคืองเป็นเห็นอกเห็นใจแล้วเราจะเลิกอาฆาต
แม้จะไม่ถูกใจไม่เห็นด้วย อยากมีระยะห่างให้ไม่ทำร้ายกัน แต่เราไม่จำเป็นต้องเกลียด ต่อต้าน และสิ่งสำคัญเราต้องพร้อมให้โอกาสกัน เมื่ออีกฝ่ายพร้อมพัฒนาตัวเอง
สรุปพอสังเขปโดย
สัจจาธิโก ภิกขุ
ที่มา
เพจ: สัจจาธิโก
https://www.facebook.com/613395352179204/posts/1557822131069850/?d=n
Clubhouse ห้องพระไตรปิฎกยามเช้า
https://www.joinclubhouse.com/event/PAdV3zoe
"ความอาฆาต ไม่ยุติธรรม" แชร์ธรรมะจาก Clubhouse ห้องพระไตรปิฎกยามเช้า
เลยอยากจะนำมาแชร์ในห้องนี้ด้วยค่ะ
สรุป พระไตรปิฏกยามเช้า EP.27 ความอาฆาตไม่ยุติธรรม
.
ชุณหสูตร
ยักษ์สองสหายออกจากทิศอุดรไปยังทิศทักษิณ ด้วยกรณียกิจบางอย่าง ได้เห็นท่านพระสารีบุตรมีผมอันปลงแล้วใหม่ๆ นั่งอยู่กลางแจ้งในคืนเดือนหงาย ครั้นแล้วยักษ์ตนหนึ่งได้กล่าวกะยักษ์ผู้เป็นสหายว่า ดูกรสหาย เราจะประหารที่ศีรษะแห่งสมณะนี้ เมื่อยักษ์นั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว ยักษ์ผู้เป็นสหายได้กล่าวกะยักษ์นั้นว่า ดูกรสหาย อย่าเลย ท่านอย่าประหารสมณะเลย ได้เตือนถึงสามครั้ง ยักษ์นั้นไม่เชื่อยักษ์ผู้เป็นสหาย ได้ประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตรเถระ
ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ได้เห็นยักษ์นั้นประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตร ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า ดูกรอาวุโส ท่านพึงอดทนได้หรือ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ทุกข์อะไรๆ ไม่มีหรือ พระสารีบุตรตอบว่า ผมพึงอดทนได้ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้ แต่บนศีรษะของผมมีทุกข์หน่อยหนึ่ง ท่านทั้งสองก็ได้ตอบกันไปมา พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับการเจรจาปราศรัยเห็นปานนี้ แห่งท่านมหานาคทั้งสองนั้น ด้วยโสตธาตุอันเป็นทิพย์อันบริสุทธิ์ล่วงโสตธาตุของมนุษย์ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลา
นี้ว่า
“จิตของผู้ใดเปรียบด้วยภูเขาหิน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่กำหนัดในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ไม่โกรธเคืองในอารมณ์เป็นที่ทั้งแห่งการโกรธเคือง จิตของผู้ใดอบรมแล้วอย่างนี้ ทุกข์จักถึงผู้นั้นแต่ที่ไหน ฯ”
เหตุเพิ่มเติม ยักษ์นี้เคยผูกอาฆาตพระสารีบุตรมาแต่ชาติก่อน ด้วยเหตุนี้จึงมีความรู้สึกปะทุษร้ายทันทีเกิดขึ้น
การก่อเวรด้วยความพยาบาท เป็นการสืบเนื่อง
ความรักย่อมเกิดด้วยเหตุ 2 ประการ 1.ด้วยการอยู่ด้วยกันในกาลก่อน 2.ด้วยการเกื้อกูลในปัจจุบัน (สาเกตชาดก) สองสามีภรรยา เข้าใจว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นลูก เพราะเคยเกิดมาเจอกันเป็นครอบครัวกันมายาวนานมากๆ
เรื่องดี เรื่องไม่ดี ย่อมสืบเนื่อง ฉะนั้นการที่เรามีใจคิดอาฆาต หรือมีใจคิดจะทำร้ายกัน จึงส่งผลสืบเนื่อง หากเราเห็นเช่นนี้เราย่อมเห็นโทษและเริ่มคิดที่จะอยากเลิกอาฆาตมาบ้างแล้ว
ในการเลิกโกรธ เลิกอาฆาตมีคำแนะนำง่ายๆ มีวิธีการขั้นตอนง่ายๆอยู่
1.ทุกความโกรธความไม่พอใจเกิดจากความคาดหวังของเรา ที่เขาโกรธเขา ไม่เกี่ยวกับเขา แต่เป็นความคาดหวังที่ไม่สมหวัง หรือไม่ก็เป็นการโดนขัดขวางความตั้งใจ ให้รู้ตัวว่าที่โกรธไม่เกี่ยวกับเขา แต่เป็นเราเองที่โดนกระทบ
2.เขาเป็นมนุษย์ไม่ต่างจากเรา การที่เขาทำสิ่งต่างๆ ตามการตัดสินใจ มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือแย่ เขาตัดสินใจดีที่สุด ณ ความรู้ ทรัพยากรเท่าที่เขามีแล้ว เราเองก็เป็นไม่ใช่หรอ เราเองก็ไม่ได้ทำถูกเสียทุกอย่าง แต่ทุกครั้งเราก็ทำดีที่สุดแล้ว เขาก็เช่นกัน
3.การที่เขาทำร้ายเรา สะท้อนความทุกข์ในใจเขาที่ทำจัดการไม่ได้ ให้มองให้เป็นถึงความทุกข์ในใจเขา และแปรเปลี่ยนความโกรธเคืองเป็นเห็นอกเห็นใจแล้วเราจะเลิกอาฆาต
แม้จะไม่ถูกใจไม่เห็นด้วย อยากมีระยะห่างให้ไม่ทำร้ายกัน แต่เราไม่จำเป็นต้องเกลียด ต่อต้าน และสิ่งสำคัญเราต้องพร้อมให้โอกาสกัน เมื่ออีกฝ่ายพร้อมพัฒนาตัวเอง
สรุปพอสังเขปโดย
สัจจาธิโก ภิกขุ
ที่มา
เพจ: สัจจาธิโก
https://www.facebook.com/613395352179204/posts/1557822131069850/?d=n
Clubhouse ห้องพระไตรปิฎกยามเช้า
https://www.joinclubhouse.com/event/PAdV3zoe