.
“แชร์อะไรตะพึดตะพือคะหนิ ใครจะพาอิหล่าไป” พูดพลางหัวเราะเบา ๆ นึกตลกกับพรนภาเหลือเกิน เอ็นดูกับความอยากเที่ยว ไม่ได้มองว่าน่าเบื่อหรือน่ารำคาญเลยสักนิด กลับนึกเอ็นดูแปลก ๆ รอบไหนที่พาไปได้เขาก็ไม่เคยขัดใจ รอบไหนที่พาไปไม่ได้ พรนภาก็ไม่เคยงอแงสักครั้งเช่นกัน ถึงจะอายุห่างกัน ถึงภายนอกจะดูเธอเอาแต่ใจ ทว่าพวกเขาสองคนคุยกันด้วยเหตุผล
เมธีเลื่อนเฟซบุ๊กดูข่าวสารบ้านเมืองเรื่อย ๆ เข้ามาทำให้เฟซบุ๊กเคลื่อนไหวบ้าง ส่วนมากเขาใช้ไลน์เป็นหลัก เห็นชื่อเดียว โปรไฟล์เดียวแชร์ที่เที่ยวเต็มหน้าฟีดข่าวไปหมด เพื่อนในเฟซบุ๊กของเขามีเพียงไม่กี่คน นึกขันที่พรนภาแชร์ที่เที่ยวเต็มเฟซเลยก็ไม่เคยจะได้พาไปเท่าไหร่หรอก ด้วยงานและเวลาไม่ค่อยมี ไม่ใช่ไม่อยากพาไป
นึกตลกภรรยาคราวลูก ผู้หญิงแม้จะโตแค่ไหนก็ยังมีความเป็นเด็กซ้อนไว้ในตัว เขาอยากจะพูดว่าเด็กน้อเด็กน้อยก็มิปาน ในหัวคงมีแต่ที่เที่ยวอย่างเดียวเลย ทั้งที่เขาแค่จะกลับภูมิลำเนาไปทำธุระแท้ ๆ รีบไปรีบกลับ ดูท่าจะได้อยู่หลายวันซะแล้ว เพราะพรนภาขอตามกลับไปด้วย แถมแชร์ที่เที่ยวภายในจังหวัดเต็มเลย
ถึงอย่างไรก็ไม่ขัดใจอยู่แล้ว ความสุขของเธอก็คือความสุขของเขาเช่นกัน ไม่เหลือบากกว่าแรง มีหรือเขาจะทำให้คนที่รักมากไม่ได้
“พี่เมธีไงจะพาไป จำไม่ได้หรอ พี่เมธีบอกจะพานภาไปทุกที่ที่แชร์เลย ใกล้ ๆ เองเนี่ย เนี่ยปลายตะวันใกล้บ้านเค้า เนี่ยร้านนี่ก็ใกล้บ้าน โอ้ยวัดนี้ก็ใกล้ โอ้ยใกล้ไปหมดเลย ไปหมดทุกทีเลยค่ะ เย้! สัญญาแล้วนะ”
แกล้งพูดเผื่อได้ไป ความจริงก็ต้องไปทั้งหมดนั่นแหละที่แชร์มา ถ้าไม่ได้ไปนะคอยดูเถอะพี่เมธี กลับมานะโดนแน่ หึหึ มองด้วยสายตาพิฆาตเบา ๆ บนโต๊ะอาหาร หลังออกกำลังกายเสร็จ เธอก็มาทานข้าวเป็นเพื่อนสามี ไม่อยากให้รู้สึกโดดเดี่ยว มานั่งทานเป็นเพื่อน มานั่งเม้าส์คุยกันไปตามประสาผัวเมีย จะทำให้รักกันยืนยาว
เมธีหัวเราะ รู้ว่าเธอแกล้งพูด แกล้งกล่าวหา มันอดขำไม่ได้จริง ๆ “เดี๋ยว! เดี๋ยวนะคะ พี่ไปสัญญาตั้งแต่เมื่อไหร่” วางโทรศัพท์ลงข้าง ๆ จานข้าว มองหน้าพรนภาอย่างสงสัย ตนเองไปสัญญาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้ว่าเพียงบอกแค่ว่าจะกลับบ้าน กลับด้วยกันมั้ย เท่านั้นเอง อยากรู้เหมือนคนว่าภรรยารุ่นลูกคนนี้จะมาไม้ไหน พรนภาใช้บ่อยไปมุกนี้ แล้วแต่ว่าจะอ้างเหตุผลอย่างไรเท่านั้นเอง “เค้าสัญญาตอนไหน เอ๋า“ เลิกคิ้วยิ้มเยาะเย้ยเป็นเชิงคำถาม
“พูดแล้วก็ลืมคำพูดตัวเอง พี่เมธีก็งี้” เสแสร้งแกล้งทำหน้าบึ้ง ไม่พอใจ ก็อยู่กับเขาแล้วเอาแต่ใจตัวเองได้ ได้เป็นตัวของตัวเอง ได้แสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ นี่นา แอบกลั้นหัวเราะเอาไว้ แกล้งพี่เมธีก็สนุกดี ชอบเวลาที่เมธีตกใจที่สุดเลย รู้ว่าแกล้งทำแต่เธอก็ชอบ ดูน่ารักดี คนอะไรตกใจยังดูน่ารัก
“เค้าพูดตอนไหนคะตัวเอง”
“เมื่อคืนไงในฝันอ่ะ นี่เลยนั่งทานข้าวในครัวแบบนี้เลย กับข้าวเมนูนี้ ชุดนี้เลย เมื่อคืนในฝันนะพี่เมธีบอกว่า เรากลับบ้านกันน้อ เดี๋ยวพี่พานภาไปเที่ยว ไปไหนบอกมาเลย พี่พาไปหมดทุกที่ พี่เมธีพูดแบบนี้ชัดถ้อยชัดคำในฝันอ่ะ นี่แหละสัญญาแล้วก็ลืม”
พูดเองหัวเราะเอง ทำเสียงล้อเลียนเมธีแบบตลก บางทีก็คิดว่าตัวเองก็ปัญญาอ่อนได้ใจเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็แสดงออกกับเมธีได้คนเดียว ก็บอกแล้วไงว่า อยู่กับเขาทำได้ทุกอย่าง
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน แบบนี้ก็ได้เหรอคะ” เมธีหัวเราะลั่น นึกไม่ถึงว่าภรรยาตัวเองจะใช้มุกนี้ ก็นึกอยู่ว่าตัวเองไปสัญญาเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามนึกเป็นจริงเป็นจัง ถ้าจำไม่ได้คงต้องถึงคราวซวยแน่ แค่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่อยากทำให้เธอเสียใจเลย นึกไม่ถึงจริง ๆ พรนภาเอ้ย อมยิ้มให้กับเธอแบบเอ็นดู “ก็แค่ฝันนะคะ พี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย”
“ไม่ได้! พูดในฝันก็ถือว่าพูดจริง สัญญาแล้วต้องเป็นสัญญานะ” ทำขึงตาใส่ ยกช้อนขึ้นชี้นิดหน่อย ทำท่าจริงจังเข้าไว้ เดี๋ยวไม่ได้ไปเที่ยว
ระหว่างนั่งทานข้าวมื้อเย็นในห้องครัว โลกของเขาสดใสทุกวัน แค่มีพรนภาอยู่ใกล้ ๆ วันนี้ไม่ได้ออกไปทานข้างนอก เขาลงมือเข้าครัวทำกับข้าวเอง ปกติก็เป็นคนทำให้พรนภาทานเสมออยู่แล้ว
นั่งทานข้าวไปพร้อมมองเขาไปก็มีความสุขดี เมธีคนที่ไม่เคยขัดใจอะไรเลย หลายอย่างที่เขาทำเพื่อเธอ และหลาย ๆ อย่างเช่นกันที่เธอทำเพื่อเขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง บางครั้งก็เหนื่อย ทว่าเห็นรอยยิ้มของเขาก็มีความสุข หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“กลับบ้านเค้านะ นภาแน่ใจแล้วเหรอจะตามพี่ไป นอนบ้านพี่เลยนะ ไม่ได้ไปบ้านตัวเอง ไม่แวะไปด้วย นอนที่บ้านเค้าจนถึงวันกลับเลยนะ” ชำเลืองมองคนตรงหน้าว่าจะตอบว่าอย่างไร ก็เขาแค่ไปทำธุระจริง ๆ นี่ รีบไปรีบกลับ “อีกอย่างลิพูลมานอนที่บ้านด้วย” หมายถึงลูกชายคนเดียวของเขากับอดีตภรรยาคนก่อน ที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มอายุย่าง14 ปีแล้ว
“อือ บอกว่าโอเคก็โอเคสิคะ พี่เมธีอ่ะชอบคิดเยอะ นภานอนในห้องคนเดียว ให้พี่เมธีไปนอนกับลิพูลเลย ” เธอแน่วแน่และตั้งใจแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำให้เมธีไม่ได้ เมื่อเทียบกับความรักของเขาที่มอบให้ “นภาจะเป็นอะไร แค่แม่เค้าอย่าตามมาด้วยก็แล้วกัน ไม่อยากเจอ” พูดพร้อมหัวเราะให้ อยากให้เขาสบายใจที่สุด “อีกอย่างนภาเป็นเมียพี่เมธีนะคะ พี่เมธีอยู่ไหนนภาก็อยู่ด้วยนั่นแหละ” ส่งยิ้มจริงใจให้กับเขา
เมธียิ้มกว้าง ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดนิด ๆ ไม่ค่อยได้เห็นรอยยิ้มและแววตาดีใจของเขาแบบนี้มากนัก ทำให้แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย ที่ตัวเองทำให้เขาคิดมาก กังวลใจขนาดนั้นเลยหรือ
“ขอบคุณนะครับ เด็กน้อยของพี่” พร้อมเอื้อมมือมาจับศีรษะของเธอ ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำเวลาได้รับความสบายใจจากเธอ แล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ รู้สึกว่าจะทานเยอะกว่าปกติด้วย เธออมยิ้มให้กับท่าทางของเขา น่ารักดีนะพี่เมธี ดีใจอย่างกับเด็ก ๆ ทำไมเธอจะทำให้เขาไม่ได้ แค่เรื่องแค่นี้...
เมธียืนเล่นเกมฟุตบอลหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ นี่ก็สามทุ่มจะสี่ทุ่มเข้าทุกทีละ ยังเล่นเกมอยู่ได้ ยืนบ้างนั่งบ้างตามประสา คนแก่นี่ก็ติดเกมเหมือนกันนะ ว่างเป็นไม่ได้เตะฟุตบอลตลอด อุตส่าห์แกล้งเหยียบจอยเกมแตกไปหลายอันแล้ว ก็ยังไม่เข็ด หึหึ ปรายตามองสามีที่กำลังยื่นอยู่หน้าที่วีปลายเตียงนอน เอาจริงเอาจังมาก จาก 49 ก็กลายเป็น 19 ดี ๆ นี่เองในเวลาเดียวกัน ฮืม! ส่วนตัวเองก็กำลังดูรูปที่เพื่อนไปเที่ยวสวนกาแฟปลายตะวันอยู่
อดใจไว้ก่อน กลับบ้านก่อนเถอะ เธอจะไปทุกที่เลย พร้อมเลื่อนดูรูปเพื่อน สถานที่สวยมาก โทนแต่งรูปก็พร้อมแล้ว ไม่ห่วงอะไรเลย ห่วงก็แต่เมธีจะมีเวลาพาเธอไปมั้ยเท่านั้นแหละ
“สวยดีแฮะ” แอบชมเพื่อนกับแฟนของเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน ที่มุม ๆ หนึ่งของร้าน สวยมาก ดูแล้วก็ถอนหายใจ เมื่อไหร่จะถึงวันได้กลับบ้านสักทีนะ จะไปเป็นที่แรกเลย มองดูเมธียืนเล่นเกม ก่อนที่เขาจะถอยหลังนั่งลงบนเตียงนอนข้าง ๆ เธอ
“ดูอะไรคะ”
“นี่ไง พี่เมธีพานภาไปให้ได้นะ อย่างน้อยไปแค่ที่นี่ที่เดียวก็ได้ ถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ อ่ะ” มองหน้าเขา ทำแววตาอ้อนวอนให้ถึงที่สุด “มองสิ! ฮ่วย พี่เมธีเนี่ย เพื่อนนภาไป เห็นมั้ยสวยมาก” เมื่อเขาไม่ใส่ใจมอง หันไปมองเกมในทีวี
“ แป๊บ ยิงก่อน เอาซี้ สองศูนย์แล้ว” ไม่ได้สนใจที่เธอพูดเลย แถมศอกยังจะโดนหน้าเธออีก เดี๋ยวเถอะ
“พี่เมธี!”พรนภาจ้องมองหน้า ขึ้นเสียงเล็กน้อย “ฮ่วย อย่าสิหันมาเด้อ”
“เอ๋า ที่ไหนคะหนิ” ปลายตามองนิดหน่อย แล้วก็หันไปสนใจหน้าจอทีวีเหมือนเดิม ดูสิดูทำ ขนาดขึ้นเสียงใส่แล้วนะ
“ปลายตะวัน” ตอบห้วน ๆ ไป หน้ายังบึ้งจ้องมองเขาที่ยังเตะฟุตบอลไม่เสร็จ หลายตาแล้วนะ บอกตานี้จบก็ไม่ยอมจบจริง ๆ สักที เสียงพากย์บอลก็สมจริงเหลือเกิน แปดมิติมั้ง
เมธีหันหน้ามามองเธอ พร้อมหัวเราะให้ แบบจำยอม เจอสายตาแบบนี้ ยอมก็ได้ เนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนมีพลังงานบางอย่างจ้องอยู่ “ตานี้ ตาสุดท้ายจริง ๆ ฮา” หัวเราะเยาะเธอไปอีก
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ กับการเล่นเกมของเขา และการดูสถานที่ท่องเที่ยวของเธอไปเรื่อยในหน้าจอโทรศัพท์ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไป
เรื่องวาดฝันไม่ต้องพูดถึง พรนภาวาดฝันเก่งมาก ต้องใส่ชุดนี้ รองเท้าคู่นี้ หมวกใบนี้ ถ่ายรูปมุมนี้ และนึกแผนการว่าจะแอบถ่ายพี่เมธียังไงดีนะ ให้ได้รูปเยอะที่สุด ถ้าได้ไปเที่ยวจริง ๆ อืม ต้องคิดให้รอบคอบ งานใหญ่เลยแหละ เรื่องงานแอบถ่ายรูปพี่เมธี
“มานี่ซิ!”
กรี๊ด!! “พี่เมธี ฮ่วย” ไม่ทันได้ตั้งตัว เมธีกระโดดขึ้นเตียง ผลักเธอล้มลงไป นอนทับร่างของเธอไว้ เลิกเล่นเกมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย! ไม่ทันระวังตัวเอง โดนพี่เมธีแกล้งอีกแล้ว กำลังดูสถานที่เที่ยวดี ๆ ก็มาแกล้งกันซะงั้น
เขาบรรจงจูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ ก่อนที่ความรู้สึกจะล่องลอยไปไกลแสนไกล สู่ห่วงภวังค์แห่งความสุขที่สุด
“รักนะคะ เด็กน้อย” หอมหน้าผากที่มีปลอยผมปกคลุมลงมาของเธอเบา ๆ พร้อมกระชับอ้อมกอดที่กอดตัวเธออยู่ให้แน่นเข้าไปอีก
“นภาก็รักพี่เมธีนะคะ รักมากด้วย” พร้อมกระชับแขนกอดเขาไว้แน่น และหลับไปในที่สุดเพราะความเพลีย พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้พี่เมธีก่อนไปทำงานอีก แม้ตัวเองเข้างานสายก็ตาม เต็มใจทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้กับเขาเสมอ
จบบท...
ฝันหวาน (Sweet Dream) 28
.
“แชร์อะไรตะพึดตะพือคะหนิ ใครจะพาอิหล่าไป” พูดพลางหัวเราะเบา ๆ นึกตลกกับพรนภาเหลือเกิน เอ็นดูกับความอยากเที่ยว ไม่ได้มองว่าน่าเบื่อหรือน่ารำคาญเลยสักนิด กลับนึกเอ็นดูแปลก ๆ รอบไหนที่พาไปได้เขาก็ไม่เคยขัดใจ รอบไหนที่พาไปไม่ได้ พรนภาก็ไม่เคยงอแงสักครั้งเช่นกัน ถึงจะอายุห่างกัน ถึงภายนอกจะดูเธอเอาแต่ใจ ทว่าพวกเขาสองคนคุยกันด้วยเหตุผล
เมธีเลื่อนเฟซบุ๊กดูข่าวสารบ้านเมืองเรื่อย ๆ เข้ามาทำให้เฟซบุ๊กเคลื่อนไหวบ้าง ส่วนมากเขาใช้ไลน์เป็นหลัก เห็นชื่อเดียว โปรไฟล์เดียวแชร์ที่เที่ยวเต็มหน้าฟีดข่าวไปหมด เพื่อนในเฟซบุ๊กของเขามีเพียงไม่กี่คน นึกขันที่พรนภาแชร์ที่เที่ยวเต็มเฟซเลยก็ไม่เคยจะได้พาไปเท่าไหร่หรอก ด้วยงานและเวลาไม่ค่อยมี ไม่ใช่ไม่อยากพาไป
นึกตลกภรรยาคราวลูก ผู้หญิงแม้จะโตแค่ไหนก็ยังมีความเป็นเด็กซ้อนไว้ในตัว เขาอยากจะพูดว่าเด็กน้อเด็กน้อยก็มิปาน ในหัวคงมีแต่ที่เที่ยวอย่างเดียวเลย ทั้งที่เขาแค่จะกลับภูมิลำเนาไปทำธุระแท้ ๆ รีบไปรีบกลับ ดูท่าจะได้อยู่หลายวันซะแล้ว เพราะพรนภาขอตามกลับไปด้วย แถมแชร์ที่เที่ยวภายในจังหวัดเต็มเลย
ถึงอย่างไรก็ไม่ขัดใจอยู่แล้ว ความสุขของเธอก็คือความสุขของเขาเช่นกัน ไม่เหลือบากกว่าแรง มีหรือเขาจะทำให้คนที่รักมากไม่ได้
“พี่เมธีไงจะพาไป จำไม่ได้หรอ พี่เมธีบอกจะพานภาไปทุกที่ที่แชร์เลย ใกล้ ๆ เองเนี่ย เนี่ยปลายตะวันใกล้บ้านเค้า เนี่ยร้านนี่ก็ใกล้บ้าน โอ้ยวัดนี้ก็ใกล้ โอ้ยใกล้ไปหมดเลย ไปหมดทุกทีเลยค่ะ เย้! สัญญาแล้วนะ”
แกล้งพูดเผื่อได้ไป ความจริงก็ต้องไปทั้งหมดนั่นแหละที่แชร์มา ถ้าไม่ได้ไปนะคอยดูเถอะพี่เมธี กลับมานะโดนแน่ หึหึ มองด้วยสายตาพิฆาตเบา ๆ บนโต๊ะอาหาร หลังออกกำลังกายเสร็จ เธอก็มาทานข้าวเป็นเพื่อนสามี ไม่อยากให้รู้สึกโดดเดี่ยว มานั่งทานเป็นเพื่อน มานั่งเม้าส์คุยกันไปตามประสาผัวเมีย จะทำให้รักกันยืนยาว
เมธีหัวเราะ รู้ว่าเธอแกล้งพูด แกล้งกล่าวหา มันอดขำไม่ได้จริง ๆ “เดี๋ยว! เดี๋ยวนะคะ พี่ไปสัญญาตั้งแต่เมื่อไหร่” วางโทรศัพท์ลงข้าง ๆ จานข้าว มองหน้าพรนภาอย่างสงสัย ตนเองไปสัญญาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้ว่าเพียงบอกแค่ว่าจะกลับบ้าน กลับด้วยกันมั้ย เท่านั้นเอง อยากรู้เหมือนคนว่าภรรยารุ่นลูกคนนี้จะมาไม้ไหน พรนภาใช้บ่อยไปมุกนี้ แล้วแต่ว่าจะอ้างเหตุผลอย่างไรเท่านั้นเอง “เค้าสัญญาตอนไหน เอ๋า“ เลิกคิ้วยิ้มเยาะเย้ยเป็นเชิงคำถาม
“พูดแล้วก็ลืมคำพูดตัวเอง พี่เมธีก็งี้” เสแสร้งแกล้งทำหน้าบึ้ง ไม่พอใจ ก็อยู่กับเขาแล้วเอาแต่ใจตัวเองได้ ได้เป็นตัวของตัวเอง ได้แสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ นี่นา แอบกลั้นหัวเราะเอาไว้ แกล้งพี่เมธีก็สนุกดี ชอบเวลาที่เมธีตกใจที่สุดเลย รู้ว่าแกล้งทำแต่เธอก็ชอบ ดูน่ารักดี คนอะไรตกใจยังดูน่ารัก
“เค้าพูดตอนไหนคะตัวเอง”
“เมื่อคืนไงในฝันอ่ะ นี่เลยนั่งทานข้าวในครัวแบบนี้เลย กับข้าวเมนูนี้ ชุดนี้เลย เมื่อคืนในฝันนะพี่เมธีบอกว่า เรากลับบ้านกันน้อ เดี๋ยวพี่พานภาไปเที่ยว ไปไหนบอกมาเลย พี่พาไปหมดทุกที่ พี่เมธีพูดแบบนี้ชัดถ้อยชัดคำในฝันอ่ะ นี่แหละสัญญาแล้วก็ลืม”
พูดเองหัวเราะเอง ทำเสียงล้อเลียนเมธีแบบตลก บางทีก็คิดว่าตัวเองก็ปัญญาอ่อนได้ใจเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็แสดงออกกับเมธีได้คนเดียว ก็บอกแล้วไงว่า อยู่กับเขาทำได้ทุกอย่าง
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน แบบนี้ก็ได้เหรอคะ” เมธีหัวเราะลั่น นึกไม่ถึงว่าภรรยาตัวเองจะใช้มุกนี้ ก็นึกอยู่ว่าตัวเองไปสัญญาเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามนึกเป็นจริงเป็นจัง ถ้าจำไม่ได้คงต้องถึงคราวซวยแน่ แค่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่อยากทำให้เธอเสียใจเลย นึกไม่ถึงจริง ๆ พรนภาเอ้ย อมยิ้มให้กับเธอแบบเอ็นดู “ก็แค่ฝันนะคะ พี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย”
“ไม่ได้! พูดในฝันก็ถือว่าพูดจริง สัญญาแล้วต้องเป็นสัญญานะ” ทำขึงตาใส่ ยกช้อนขึ้นชี้นิดหน่อย ทำท่าจริงจังเข้าไว้ เดี๋ยวไม่ได้ไปเที่ยว
ระหว่างนั่งทานข้าวมื้อเย็นในห้องครัว โลกของเขาสดใสทุกวัน แค่มีพรนภาอยู่ใกล้ ๆ วันนี้ไม่ได้ออกไปทานข้างนอก เขาลงมือเข้าครัวทำกับข้าวเอง ปกติก็เป็นคนทำให้พรนภาทานเสมออยู่แล้ว
นั่งทานข้าวไปพร้อมมองเขาไปก็มีความสุขดี เมธีคนที่ไม่เคยขัดใจอะไรเลย หลายอย่างที่เขาทำเพื่อเธอ และหลาย ๆ อย่างเช่นกันที่เธอทำเพื่อเขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง บางครั้งก็เหนื่อย ทว่าเห็นรอยยิ้มของเขาก็มีความสุข หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“กลับบ้านเค้านะ นภาแน่ใจแล้วเหรอจะตามพี่ไป นอนบ้านพี่เลยนะ ไม่ได้ไปบ้านตัวเอง ไม่แวะไปด้วย นอนที่บ้านเค้าจนถึงวันกลับเลยนะ” ชำเลืองมองคนตรงหน้าว่าจะตอบว่าอย่างไร ก็เขาแค่ไปทำธุระจริง ๆ นี่ รีบไปรีบกลับ “อีกอย่างลิพูลมานอนที่บ้านด้วย” หมายถึงลูกชายคนเดียวของเขากับอดีตภรรยาคนก่อน ที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มอายุย่าง14 ปีแล้ว
“อือ บอกว่าโอเคก็โอเคสิคะ พี่เมธีอ่ะชอบคิดเยอะ นภานอนในห้องคนเดียว ให้พี่เมธีไปนอนกับลิพูลเลย ” เธอแน่วแน่และตั้งใจแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำให้เมธีไม่ได้ เมื่อเทียบกับความรักของเขาที่มอบให้ “นภาจะเป็นอะไร แค่แม่เค้าอย่าตามมาด้วยก็แล้วกัน ไม่อยากเจอ” พูดพร้อมหัวเราะให้ อยากให้เขาสบายใจที่สุด “อีกอย่างนภาเป็นเมียพี่เมธีนะคะ พี่เมธีอยู่ไหนนภาก็อยู่ด้วยนั่นแหละ” ส่งยิ้มจริงใจให้กับเขา
เมธียิ้มกว้าง ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดนิด ๆ ไม่ค่อยได้เห็นรอยยิ้มและแววตาดีใจของเขาแบบนี้มากนัก ทำให้แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย ที่ตัวเองทำให้เขาคิดมาก กังวลใจขนาดนั้นเลยหรือ
“ขอบคุณนะครับ เด็กน้อยของพี่” พร้อมเอื้อมมือมาจับศีรษะของเธอ ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำเวลาได้รับความสบายใจจากเธอ แล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ รู้สึกว่าจะทานเยอะกว่าปกติด้วย เธออมยิ้มให้กับท่าทางของเขา น่ารักดีนะพี่เมธี ดีใจอย่างกับเด็ก ๆ ทำไมเธอจะทำให้เขาไม่ได้ แค่เรื่องแค่นี้...
เมธียืนเล่นเกมฟุตบอลหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ นี่ก็สามทุ่มจะสี่ทุ่มเข้าทุกทีละ ยังเล่นเกมอยู่ได้ ยืนบ้างนั่งบ้างตามประสา คนแก่นี่ก็ติดเกมเหมือนกันนะ ว่างเป็นไม่ได้เตะฟุตบอลตลอด อุตส่าห์แกล้งเหยียบจอยเกมแตกไปหลายอันแล้ว ก็ยังไม่เข็ด หึหึ ปรายตามองสามีที่กำลังยื่นอยู่หน้าที่วีปลายเตียงนอน เอาจริงเอาจังมาก จาก 49 ก็กลายเป็น 19 ดี ๆ นี่เองในเวลาเดียวกัน ฮืม! ส่วนตัวเองก็กำลังดูรูปที่เพื่อนไปเที่ยวสวนกาแฟปลายตะวันอยู่
อดใจไว้ก่อน กลับบ้านก่อนเถอะ เธอจะไปทุกที่เลย พร้อมเลื่อนดูรูปเพื่อน สถานที่สวยมาก โทนแต่งรูปก็พร้อมแล้ว ไม่ห่วงอะไรเลย ห่วงก็แต่เมธีจะมีเวลาพาเธอไปมั้ยเท่านั้นแหละ
“สวยดีแฮะ” แอบชมเพื่อนกับแฟนของเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน ที่มุม ๆ หนึ่งของร้าน สวยมาก ดูแล้วก็ถอนหายใจ เมื่อไหร่จะถึงวันได้กลับบ้านสักทีนะ จะไปเป็นที่แรกเลย มองดูเมธียืนเล่นเกม ก่อนที่เขาจะถอยหลังนั่งลงบนเตียงนอนข้าง ๆ เธอ
“ดูอะไรคะ”
“นี่ไง พี่เมธีพานภาไปให้ได้นะ อย่างน้อยไปแค่ที่นี่ที่เดียวก็ได้ ถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ อ่ะ” มองหน้าเขา ทำแววตาอ้อนวอนให้ถึงที่สุด “มองสิ! ฮ่วย พี่เมธีเนี่ย เพื่อนนภาไป เห็นมั้ยสวยมาก” เมื่อเขาไม่ใส่ใจมอง หันไปมองเกมในทีวี
“ แป๊บ ยิงก่อน เอาซี้ สองศูนย์แล้ว” ไม่ได้สนใจที่เธอพูดเลย แถมศอกยังจะโดนหน้าเธออีก เดี๋ยวเถอะ
“พี่เมธี!”พรนภาจ้องมองหน้า ขึ้นเสียงเล็กน้อย “ฮ่วย อย่าสิหันมาเด้อ”
“เอ๋า ที่ไหนคะหนิ” ปลายตามองนิดหน่อย แล้วก็หันไปสนใจหน้าจอทีวีเหมือนเดิม ดูสิดูทำ ขนาดขึ้นเสียงใส่แล้วนะ
“ปลายตะวัน” ตอบห้วน ๆ ไป หน้ายังบึ้งจ้องมองเขาที่ยังเตะฟุตบอลไม่เสร็จ หลายตาแล้วนะ บอกตานี้จบก็ไม่ยอมจบจริง ๆ สักที เสียงพากย์บอลก็สมจริงเหลือเกิน แปดมิติมั้ง
เมธีหันหน้ามามองเธอ พร้อมหัวเราะให้ แบบจำยอม เจอสายตาแบบนี้ ยอมก็ได้ เนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนมีพลังงานบางอย่างจ้องอยู่ “ตานี้ ตาสุดท้ายจริง ๆ ฮา” หัวเราะเยาะเธอไปอีก
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ กับการเล่นเกมของเขา และการดูสถานที่ท่องเที่ยวของเธอไปเรื่อยในหน้าจอโทรศัพท์ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไป
เรื่องวาดฝันไม่ต้องพูดถึง พรนภาวาดฝันเก่งมาก ต้องใส่ชุดนี้ รองเท้าคู่นี้ หมวกใบนี้ ถ่ายรูปมุมนี้ และนึกแผนการว่าจะแอบถ่ายพี่เมธียังไงดีนะ ให้ได้รูปเยอะที่สุด ถ้าได้ไปเที่ยวจริง ๆ อืม ต้องคิดให้รอบคอบ งานใหญ่เลยแหละ เรื่องงานแอบถ่ายรูปพี่เมธี
“มานี่ซิ!”
กรี๊ด!! “พี่เมธี ฮ่วย” ไม่ทันได้ตั้งตัว เมธีกระโดดขึ้นเตียง ผลักเธอล้มลงไป นอนทับร่างของเธอไว้ เลิกเล่นเกมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย! ไม่ทันระวังตัวเอง โดนพี่เมธีแกล้งอีกแล้ว กำลังดูสถานที่เที่ยวดี ๆ ก็มาแกล้งกันซะงั้น
เขาบรรจงจูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ ก่อนที่ความรู้สึกจะล่องลอยไปไกลแสนไกล สู่ห่วงภวังค์แห่งความสุขที่สุด
“รักนะคะ เด็กน้อย” หอมหน้าผากที่มีปลอยผมปกคลุมลงมาของเธอเบา ๆ พร้อมกระชับอ้อมกอดที่กอดตัวเธออยู่ให้แน่นเข้าไปอีก
“นภาก็รักพี่เมธีนะคะ รักมากด้วย” พร้อมกระชับแขนกอดเขาไว้แน่น และหลับไปในที่สุดเพราะความเพลีย พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้พี่เมธีก่อนไปทำงานอีก แม้ตัวเองเข้างานสายก็ตาม เต็มใจทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้กับเขาเสมอ
จบบท...