JJNY : พท.ชี้'เหมืองอัครา' ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ│'สุทิน'โต้ปธ.วิปรบ.│มะเขือเปราะ ราคาตก│ป.ป.ช.จับตา!เหรียญป้อม-สร้อยสิระ

เพื่อไทย ชี้ 'เหมืองทองอัครา' ความเสียหาย ที่ 'ประยุทธ์' ต้องรับผิดชอบ
https://voicetv.co.th/read/ypy-lpse9

 
ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ชี้ ปัญหา 'เหมืองทองอัครา' คือ ใบเสร็จความเสียหาย ที่ 'ประยุทธ์' ต้องรับผิดชอบ ด้าน 'ประยุทธ์' ยืนยันไม่ได้ใช้ ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา ย้ำให้ความสำคัญสุขภาพประชาชน ขณะ 'สุริยะ' ชี้ หากไทยแพ้คดีเหมืองทอง 100% คิงส์เกต คงไม่ยอมเจรจาด้วย
 
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อภิรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี เกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทเหมืองทองคำอัครา ระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย กับรัฐบาลไทย
หนึ่งในประเด็นที่นำมาอภิปราย คือ เหตุการณ์ที่รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจใช้ ม.44 สั่งปิดเหมืองทองคำอัครา ทั้งที่ ม.44 เป็นกฎหมาย ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสากล เพราะเป็นการใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ รวมถึงการที่รัฐบาลไทย พยายามสื่อสารว่าไทยมีโอกาสชนะคดีนี้สูง แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างกระทรวงอุตสาหกรรม ยังประเมินว่าเป็นไปได้ยากที่ไทยจะชนะคดี นอกจากนี้ จิราพร ยังพูดถึงมูลค่าความเสียหายที่ไทยต้องชดใช้หากแพ้คดีเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และความเสียหายด้านการลงทุนของภาคเอกชนที่ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน 
 
นอกจากนี้ จิราพร ยังระบุว่าหากไทยแพ้คดี ขอให้รู้ว่าตอนนี้ความจริงกำลังไล่ล่า พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นคนทำลายอนาคตประเทศชาติ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากไทยไม่ชดเชยเป็นจำนวนเงิน รัฐบาลไทยจะชดเชยคู่กรณีในรูปแบบใด หากคู่กรณียอมถอนฟ้อง โดยแลกกับทรัพยากรธรรมชาติไทยต้องสูญเสียเท่าไหร่ โดยเรื่องนี้ถือเป็น ใบเสร็จความเสียหาย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบ 
 
ทั้งนี้ จิราพร ยังขอให้จับตาดูวันลงมติผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ส.ส.คนใดโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ขอให้รู้ว่า ส.ส. เหล่านั้นกำลังสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ประเคนทรัพยากรธรรมชาติให้กับต่างชาติ พร้อมขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ชี้แจงประเด็นนี้ด้วยตัวเอง 
 
นายกฯ ยันไม่ได้ใช้ ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา 
 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า เรื่องนี้ เริ่มต้นจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ใช้ช่องทางตามกฎหมายระหว่างประเทศฟ้องร้อง ซึ่งรัฐบาลไทยได้ต่อสู้ในสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และความไม่ปลอดภัยด้านสุขภาพ รวมถึงการใช้พื้นที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาต่อสู้ตามกติกาของกฎหมายตามกติกาสากล ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ โดยการต่อสู้คดีต้องใช้งบประมาณในการใช้ต่อสู้ตามขั้นตอนกฎหมาย
 
และเรื่องนี้ อยู่ในขั้นตอน การพิจารณาของศาลหรืออนุญาโตตุลาการ ดังนั้นการที่ฝ่ายค้านนำมาพูดข้าง และให้ข่าวกับสื่อหลายครั้งเป็นอันตราย เพราะเป็นการคาดการณ์ข้อมูลเองยังไม่ได้ข้อยุติ 
  
ยืนยัน ว่าไม่ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปปิดเหมืองทองอัครา แต่มีคำสั่งไปถึงทุกเหมืองในประเทศไทย ในการต่อสัมปทานจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามข้อเรียกร้องของประชาชน
 
ซึ่งไม่ใช่การเปิดเหมืองทองอัครา แต่จะเปิดสัมปทานได้ จะต้องแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งบริษัทใดที่แก้ได้ ก็จะเปิดปกติ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์แต่เป็นการมองผลประโยชน์ของชาติและประชาชน และไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการใช้อำนาจออกคำสั่ง แต่เป็นการหารือหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก 
 
หากแพ้คดี 100% คิงส์เกต คงไม่ยอมเจรจาด้วย 
 
สุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่าหากไทยแพ้คดี 100 เปอร์เซ็นต์ คู่กรณีคงไม่ยอมเจรจาด้วย และการเจรจาครั้งนี้ก็ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ เเต่เป็นเพราะเขาคิดว่าต้องการกลับมาดำเนินกิจการต่อ เนื่องจากทองคำมีมูลค่า และการเจรจาทั้งหมดจะทำภายใต้ข้อระเบียบและข้อบังคับที่กำหนด 


 
'สุทิน' โต้ ปธ.วิปรัฐบาล ฝ่ายค้านสมราคาคุยแน่ให้รอดู
https://www.matichon.co.th/politics/news_2582427
 
“สุทิน” โต้ ปธ.วิปรัฐบาล ฝ่ายค้านสมราคาคุยแน่ให้รอดู ชี้ประท้วงมากยื้อเวลา-ทำภาพสภาเสีย คนดูเบื่อ เตือน “บิ๊กตู่” ระวังลูกน้องหลอกกินกล้วย
  
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปราย ว่า ภาพรวมพอใจเมื่อวานเป็นวันแรกที่เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่เข้มข้นมากเป็นแค่การเปิดหัวแตะเอาไว้ หลายเรื่องคนฟังอาจจะดูว่ายังไม่มีอะไรสะใจ แต่การอภิปรายในวันนี้และวันถัดไปพอลงรายละเอียดจะน่าสนใจและมีอะไรดีๆ มากขึ้น ส่วนการบริหารเวลายังอยู่ในเป้าหมายแต่หากประท้วงมากไป จะเป็นการขัดจังหวะทำให้การอภิปรายของหลายคนที่ยังไม่มีทักษะการพูดในสภาเสียจังหวะและคนทางบ้านอาจไม่สบอารมณ์ จึงน่าเสียดายที่เตรียมข้อมูลและเรื่องดีๆ ไว้พอมีก็โดนประท้วงเยอะในเรื่องเหนือความคาดหมายจนเสียกระบวนการนำเสนอ
  
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่สมราคา นายสุทินกล่าวว่า คนที่พูดคงเป็นฝ่ายรัฐบาลและประธานวิปรัฐบาลประเมินว่าไม่สมราคา เป็นธรรมดาที่รัฐบาล ฝ่ายที่ไม่ชอบเรา ฝ่ายกองเชียร์รัฐบาล คงบอกว่าไม่สมราคา แต่จะสมหรือไม่สมต้องฟังจากประชาชน ถ้าถามกองเชียร์ของเราก็บอกว่าสมราคา ที่บอกเช่นนี้อาจเป็นเพราะการอภิปรายยังไม่ลงในรายละเอียด และรสนิยมของการฟังอภิปรายอยากฟังเรื่องเซอร์ไพรส์ เรื่องใหม่ เรื่องทุจริตจับได้คาหนังคาเขา และมีลีลาดุเดือด แต่สมัยใหม่หลายเรื่องไม่มีความลึกลับ คนรู้หมดเพราะมีโซเชียลและทุกคนเป็นสื่อได้หมด เรื่องที่เราพูดอาจรู้อยู่แล้วแต่ต้องดูว่าลงลึกกว่าที่รู้หรือไม่ ส่วนลีลาของนักการเมืองรุ่นใหม่จะไปดุเดือดเลือดพล่านเหมือนเดิมไม่ได้ คนฟังอาจต้องปรับรสนิยมเล็กน้อย
 
ส่วนที่มองว่าข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นเรื่องเดิมก็ขอให้รอดู แต่คิดว่ารัฐบาลต่างหากที่ตอบไม่ได้ เช่น ที่ตอบตนมาแล้วเจอแย้งไปหนึ่งรอบก็ยังตอบผิด แต่ตนจะขึ้นพูดรอบสองรอบสามก็คงดูไม่ดี จึงรอไว้ทีหลัง แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังตอบผิด ส่วนนายกรัฐมนตรียังเป็นนายกฯคนเดิม เอาเฉพาะที่ได้พูดได้ตอบคนฟังจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอีกเรื่องหนึ่ง ถามว่าจะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนควรรู้เรื่องที่ไม่คิดว่าจะมีจะเกิด
 
เมื่อถามว่า การประท้วงเยอะจะมีผลกับการสรุปอภิปรายวันสุดท้ายได้ตรงจุดหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คนสรุปต้องใช้สมาธิต้องเรียบเรียงข้อมูลให้ดีมากกว่าเดิมใช้ความพยายามและความสามารถมากขึ้นกว่าเดิมและเชื่อว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทำได้อยู่แล้ว และเราจะช่วยกัน อยากขอความร่วมมือการประท้วงที่มากเกินความจำเป็น ไม่ได้เสียเฉพาะผู้ประท้วงแต่เสียภาพรวมทั้งสภา ประชาชนจะมองว่าเราไม่ได้พัฒนาขึ้น ซึ่งน่าเป็นห่วง
 
นายสุทินกล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะมีคนย้ายไปอยู่ด้วย ขอเรียนว่าที่พล.อ.ประยุทธ์อภิปรายและบอกอย่างนั้น โดยระบุว่า เป็นคนข้างกาย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อันนี้แสดงว่านายกรัฐมนตรี เป็นการเมืองมากขึ้นตั้งใจจะเบี่ยงประเด็นโดยมองได้ว่า ถ้าพูดเรื่องนี้ข่าวก็จะไปในทางนั้น ซึ่งน่าสนใจกว่า และอีกทางมีลูกน้องของนายกฯ จะไปหลอกเอากล้วยของนายกฯ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีอยู่เรื่อย ถ้าผู้ใหญ่ตามไม่ทันที่ลูกน้องไปบอกว่าคนนั้นคนนี้จะมาอยู่ด้วย แล้วขอมัดจำไปหนึ่งหวี หวีที่สองที่สามก็จะตามมา ซึ่งความจริงแล้วไม่มีและตนได้ตรวจสอบดูแล้วคนที่อยู่ข้างกายนายจุลพันธ์ คือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ถ้าจะเอาเขาอยู่ด้วยต้องให้เขาเป็นหัวหน้าพรรคเขาถึงจะไปเพราะตอนนี้เขาเป็นเลขาฯ พรรคอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ และคนข้างกายคนอื่นก็เป็นภรรยาของเขาซึ่งก็เป็นไปไม่ได้เพราะไปแล้วจะเดือดร้อน เพราะสามีเขาอยู่ที่นี้ ดังนั้นมองได้ว่า นายกฯ ถูกลูกน้องหลอกเอากล้วยและเบี่ยงประเด็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่