[A Dreamer :กระทู้ให้กำลังใจคนมีฝัน ] รีวิวการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ฉบับคนถึก ตอนที่ 1 : เริ่มฝัน

✅ติดตามเรื่องราวทั้งหมด
ขั้นตอนการเตรียมตัว 
ตอนที่ 1 : เริ่มฝัน : https://ppantip.com/topic/40525297.    จากเด็กเอกภาษาสู่เส้นทางของบริหาร
ตอนที่ 2 : RESET :  https://ppantip.com/topic/40532059 เรียนปริญญาตรีอีกหนึ่งใบ เพื่อให้เข้าใกล้ฝัน มีการเปรียบเทียบการเรียนของสองมหาลัยเปิดที่มีชื่อเสียง
ตอนที่ 3 : BEGIN AGAIN : https://ppantip.com/topic/40542959 พูดถึงการเรียนที่รามคำแหง เคล็ดลับสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เข้าห้องเรียน 
ตอนที่ 4 : ATTEMPT : https://ppantip.com/topic/40549335 พูดถึงการเตรียมตัวสอบภาษาเยอรมัน และ IELTS 
ตอนที่ 5 : DOCUMENT : https://ppantip.com/topic/40562186  พูดถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารเพื่อเตรียมยื่นมหาวิทยาลัย
ตอนที่ 6 :  INTERVIEW : https://ppantip.com/topic/41073147 พูดถึงการสอบสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัยในเยอรมัน
ตอนที่ 7 : PREPARATION : https://ppantip.com/topic/41374177 พูดถึงการได้รับ admission letter
ตอนที่ 8 : [CR] รีวิว Review [A Dreamer ] รีวิวการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ตอนโอนเงินจ่ายค่าแรกเข้าไปยังมหาลัยเยอร : https://ppantip.com/topic/41384045
ตอนที่ 9 : [CR] รีวิว Review [A Dreamer ] รีวิวการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ตอนเปิด blocked account + ซื้อประกัน 
https://ppantip.com/topic/41402617
ตอนที่ 10 : [CR] รีวิว Review [A Dreamer] รีวิวการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ตอนเตรียมเอกสารทำวีซ่าเพื่อการศึกษาต่อ 
https://ppantip.com/topic/41473301
ตอนที่ 11 : [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ตอนกรอกแบบฟอร์ม VIDEX เพื่อยื่นวีซ่าเพื่อการศึกษา
https://ppantip.com/topic/41494161
ตอนที่ 12 : [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ได้รับอนุมัติวีซ่า+ ส่งท้ายขั้นตอนการเตรียมตัว
https://ppantip.com/topic/41522029
ตอนที่ 13 [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เมื่อมาถึงเยอรมัน 🇩🇪 กับ check-list ที่ต้องทำ (ตอนที่ 1/2) : บ้าน เปิดซิม เปิดบัญชี
https://ppantip.com/topic/41644063
ตอนที่ 14: [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เมื่อมาถึงเยอรมัน 🇩🇪 กับ check-list ที่ต้องทำ (ตอนที่ 2/2) : Anmeldung เปิดบัญชีและอื่นๆ
https://ppantip.com/topic/41660274
ตอนที่ 15: [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เมื่อมาถึงเยอรมัน 🇩🇪 กับ check-list ที่ต้องทำ: Residence permit (Aufenthaltstitel)
https://ppantip.com/topic/41956848
ตอนที่ 16: [CR] รีวิว Review [A Dreamer] เมื่อมาถึงเยอรมัน 🇩🇪 กับ check-list ที่ต้องทำ: เปิดบัญชีธนาคาร Berliner Sparkasse 
https://ppantip.com/topic/41971413
ตอนที่ 17: [CR] รีวิว Review [Not just A Dreamer] เมื่อมาถึงเยอรมัน 🇩🇪 เรียนจบแล้วววววว พร้อมเปลี่ยน Visa แล้ว
https://ppantip.com/profile/4534242#topics
ตอนที่ 18: [CR] รีวิว Review [Not just A Dreamer] เหลาชีวิตนักเรียนปริญญาโทที่ 🇩🇪
https://ppantip.com/profile/4534242#topics

สวัสดีค่ะ สมาชิกทุกคน วันนี้เริ่มเขียนกระทู้แรกของตัวเอง หลังจากที่เพิ่งสอบติดปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยในเยอรมันไปนะคะ หลังจากมีฝันมา 9 ปี แล้วพยายามมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจอยากจะแชร์ประสบความตัวเอง ให้กำลังใจคนที่มีฝัน และแนะแนวให้กับคนที่อยากไปเรียนปริญญาโทที่เยอรมัน 
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ จะพยายามเขียนให้ละเอียดที่สุด 😊🇩🇪

เชิญติดตามอ่านไปพร้อมกันนะคะ  เพื่อความง่าย ขอตั้งชื่อเป็นตอนๆด้วยเลยนะคะ

1) ฝันของฉันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

คุณเคยมีฝันไหม?
แล้วฝันคุณใหญ่แค่ไหน....
แล้วคุณพยายามมากพอไหม?

ตอนนี้เราอายุ 28 ปีค่ะ พาทุกคนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ช่วงสมัยอยู่ปี 1 ขอเล่าประวัติคร่าวๆของตัวเองนะคะ 
ตัวเราเองเป็นลูกหลานคนจีน ที่ผูกพันธ์กับจีนมาตั้งแต่จำความได้ และเนื่องด้วยว่าที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับจีน ดังนั้นโดนบังคับให้เรียนภาษาจีนตั้งแต่เริ่มพูดได้ ทุกปิดเทอมจะไปอยู่จีน ไปเยี่ยมญาติที่จีนบ้าง รวมถึงการแข่งขันทางด้านภาษาจีนต่างๆ พูดง่ายๆที่เพื่อนๆชอบแซว คือถ้ามีเรื่องเกี่ยวกับภาษาจีน ให้มองหน้าเรา มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ 5555555555 ย้อนเวลากลับไปช่วงนั้น บอกเลยว่าทุกๆอย่างเหมือนโดนปูทางไว้ค่ะ ว่า พูดจีนได้ ต้องเรียนเอกภาษาจีน แล้วเวลาเรียนต่อก็ต้องเรียนต่อที่ประเทศจีนเป็นหลัก ชีวิตเป็นอย่างงี้มาตลอด จนสุดท้ายจำได้ว่าตอนสอบเข้ามหาลัย ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะเรียนเอกภาษาอังกฤษ แต่สุดท้ายก็ยังลงเอยที่ภาษาจีนอยู่ดี  แม้จะผูกพันธ์กับจีนมานาน แต่จะบอกเลยว่า เราไม่เคยมองเห็นภาพตัวเองใส่ชุดครุยของจีนเลยแม้แต่ครั้งเดียว....

เราต้องบอกก่อนว่าตอนมัธยม เราเรียนสายวิทย์นะคะ แต่คะแนนค่อนข้างเทมาศิลป์ คือชอบสังคม ภาษาอังกฤษ และมี additional เป็นตัวภาษาจีนค่ะ 
เราเองเรียนไม่เก่งนะ คือเกรดเฉลี่ยสมัยมัธยมและมหาวิทยาลัยอยู่ประมาณ 3.00 - 3.20 ค่ะ

ชีวิตเราวนลูปมาตลอด คืออะไรก็ตามแต่ต้องอิงจีน จนวันนึงพอขึ้นปี 1 เราเกิดมีความฝันค่ะ จู่ๆก็เบื่อภาษาจีนมาก ใช้คำว่ามากเลยนะ (อนึ่งคือไม่ได้ว่าตัวภาษามันไม่ดี แต่เป็นเพราะว่าเราอยู่กับมันนานเกินไป) บวกกับตัวเราเองชอบเรียนภาษาต่างประเทศ เลยมีแพลนว่า อยากจะเรียนภาษาต่างประเทศภาษาใหม่สักภาษา ตอนนั้นในหัวเรามีอยู่ทั้งหมด 2 ภาษา คือฝรั่งเศส  เยอรมัน จริงๆใจตัวเองอยากไปทางฝรั่งเศสมาก แต่พอมานั่งปรึกษาครอบครัว เรื่องการเรียนภาษาใหม่ ทุกคนเทไปที่เยอรมัน เนื่องด้วยเศรษฐกิจเป็นหลัก เยอรมันถือว่ามีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีและมั่นคงมาก ดังนั้นการที่เราจะพูดภาษาเยอรมันได้มันจะมีประโยชน์ในอนาคต รวมถึงมาตรฐานการศึกษาของประเทศเขาที่ค่อนข้างสูง รวมถึงค่าเรียนที่ไม่แพงนัก อีกทั้งเรายังมีฝันที่อยากจะไปเที่ยวยุโรปด้วยค่ะ ดังนั้นวิธีการเดียวที่จะทำให้เราเที่ยวได้รอบๆ คือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น 5555 (ความคิดของเด็กเมื่อตอนนั้น) และสุดท้ายและท้ายสุดของทั้งหมดทั้งมวล เราเลยเลือกเรียนภาษาเยอรมัน 

สำหรับเราการเรียนภาษาเยอรมันค่อนข้างเปิดโลกมาก เนื่องจากตัวเองอยู่เอเชียมาตลอด ตอนแรกกะเรียนเยอรมันขำๆไปจริงๆนะ แก้เบื่อ ผนวกกับตอนนั้นที่มหาลัยมีให้เลือกวิชาโท ซึ่งตัวเราตอนแรกตั้งใจจะเรียนภาษาเยอรมันเป็นวิชาโท แต่สุดท้ายคือทำไม่ได้ เพราะว่าเวลาไปชนวิชาเอกหมดเลย เลยตัดสินใจออกมาเรียนข้างนอกเอา แล้วก็เปลี่ยนวิชาโทเป็นการตลาด

ชีวิตยังคงดำเนินไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนวันนึง อยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองหลงรักการตลาด และอยากเรียนภาษาเยอรมันต่อ
"ปริญญาโทบริหารที่ประเทศเยอรมัน"เลยผุดขึ้นมาในหัว แต่บอกเลยว่า เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ เวลาที่ไปพูดให้ใครเขาฟัง โดนเขาหาว่าฝันเฟื่อง ประเด็นแรกคือ ปกติแล้วถ้าเรียนตรีภาษาไหน ปริญญาโทก็ควรจะไปลงภาษานั้น คือเพื่อนรอบข้างเราบอกตรงๆว่าตอนนั้นไม่มีใครสนับสนุนเลย ทุกคนจะตกใจมากเมื่อเราพูด และร้อยละร้อยจะบอกว่า'ยากนะ จะได้หรอ ลองดูๆ' ไม่มีใครที่เห็นด้วยกับฝันครั้งนี้ 

จนตอนแรกบอกเลยว่าตัวเราก็ท้อ มันเลยทำให้เก็บเอาไว้มาตลอด แต่ความโชคดีของเราคือการที่มีแม่ที่คอยสนับสนุนลูกทุกอย่าง และแม่ก็คือคนเดียวในตอนนั้นที่บอกเราว่า 'มีฝัน ก็ไปให้ถึง' ณ วันนั้นบอกเลยว่ามีฝันจริง แต่ชีวิตดูไม่มีทาง มันดูเป็นไปไม่ได้สักอย่าง

เรียนเอกภาษาจีน อยากต่อโทการตลาดที่เยอรมัน 
ภาษาเยอรมันยังเป็นระดับเบบี๋
ภาษาอังกฤษก็งูๆปลาๆ
และอีกอย่างที่ไฮไลท์มาก เยอรมันเป็นประเทศที่ค่อนข้างตรงเป๊ะ กล่าวคือจบปริญญาตรีภาษาจีน ปริญญาโทก็ต้องเป็นแขนงแบบจีนๆ ในเยอรมัน 
ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา บอกเลยว่า เราปักธงในใจของเราไว้แล้ว แม้ยังมองไม่เห็นทางก็ตาม........

หากเปรียบชีวิตเราตอนนั้น เราจะเปรียบเส้นทางที่ตัวเองเดินเหมือนกับการเดินเข้าไปในอุโมงค์มืดๆ อยู่กับความเชื่อว่าต้องมีทางออก ต้องมีแสงสว่าง ไม่รู้ว่าต้องเดินไปไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าต้องเดินอีกนานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าข้างในจะเจออะไรบ้าง ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายข้างในหรือเปล่า  แต่สิ่งนึงเรามีคือความเชื่อ เชื่อว่ามันต้องมีทาง เชื่อว่าเราจะต้องเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์

วันนั้นเลยตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง 'ปริญญาโท บริหารที่ประเทศเยอรมัน' แต่ความฝันนี้มีแค่แม่คนเดียวที่รู้  และเราปิดเงียบมาตลอด เพราะว่าเสียงข้างนอกมันดังเกินไป แล้วมันมาบั่นทอนจิตใจตัวเราเอง สุดท้ายเลยตัดสินใจซุ่มเงียบมาเรื่อยๆจนจบปริญญาตรี.......

(เดี๋ยวมาต่อนะคะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่