.
ไดอารี่ความคิดถึง
“ยายบอสไปขายของตลาดนัดกับลุงวิทย์กับป้าแพงนะ” บ่ายวันเสาร์บอสเดินมาขอยายที่บ้าน เธออยากไปขายผักผลไม้สดช่วยลุงกับป้า ความจริงอยากไปเล่นนั่นแหละ สองฝาแฝดก็ไปเธอจึงอยากไปด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้คาดหวัง ยายไม่อนุญาตก็ไม่ไป
“อยากไปก็ไปถะแหมะ แต่ว่าจะไปเกะกะเขาทำไม” ยายเหมือนจะห้ามแต่ก็ไม่ห้าม “หาแลนนำก้นเขาบ่มีประสา”
“ หื้อ บอสอยากไป ยายให้บอสไปใช่มั้ย” เรื่องอยากไปขายของช่วยลุงกับป้าเป็นประเด็นรอง ประเด็นหลักคือวันเสาร์นี้มีคลองถมหมู่บ้านพี่นินะสิ และลุงกับป้าก็ไปลงขายของที่คลองถมด้วย เธอถึงอยากไป แอบหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้เจอพี่นิ
“เอ๋า อยากไปมืงก็ไป ถ้าไม่ขี้เกียจ” ยายพูดหน้าตาเฉย นั่งทอผ้าเช่นทุกวัน
“เย้! บอสไปลา! ไปวันเดียวพรุ่งนี้ก็ไม่ไป บอสอยากไปเดินคลองถม บอสมีสิ่งที่อยากซื้อ” บอสอุทานออกมาด้วยความดีใจ บอกยายว่ามีสิ่งที่อยากได้ไปอย่างนั้นเอง ในใจหวังจะไปเจอพี่นิต่างหาก จะได้เจอหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง
บอสแอบปลื้มรุ่นพี่คนหนึ่ง ดูท่าทีพี่เขาก็เล่นกับเธอด้วย ยิ้มให้เวลาเดินสวนทางกัน มานั่งเล่นด้วยในบางครั้งก่อนโรงเรียนเลิก มีนั่นมีนี่มาให้ พูดคุยสนิทกันพอสมควร ห่วงกันพอประมาณ ไม่ออกนอกหน้ามากเพราะอยู่ในสถานะพี่น้อง ไม่ใช่แฟน พี่นิเขามีแฟนอยู่แล้วทั้งคน
เมื่อขอยายได้สำเร็จก็รีบกลับไปหาพี่สาวฝาแฝดที่บ้านตามเดิม บ่ายสามโมงเย็นลุงกับป้าก็พาไปลงของขายแล้ว ก่อนไปบอสมิวายวิ่งกลับมาขอยายอีกรอบ คราวนี้น้องบีมขอตามไปด้วย บอสก็ไม่ว่าอะไร ยอมให้น้องสาวตามไปด้วยอีกคน
“ไปกับเค้าด้วยเหรอน้อย ๆ หนิ” ลุงวิทย์ที่ดูจะเอ็นดูน้องบีมที่สุดถามขึ้น เพราะน้องบีมเป็นหลานคนสุดท้ายของตระกูล จึงดูเป็นที่เอ็นดูของลุง ๆ ป้า ๆ และอา ๆ มาก
“ไป น้องบีมไปด้วย” น้องบีมพยักหน้าตอบด้วยคำพูดฉะฉาน ยืนเกาะแขนเธออย่างกับกลัวเธอจะแอบไปก่อน
บางครั้งดูเหมือนพี่น้องจะสนิทกันมาก ทว่าบางครั้งน้องบีมก็ไม่เอาใคร เกาะติดเธอตลอดเวลาสำหรับบางเวลาแบบนี้ ถึงแม้จะโตมาด้วยกันกับสองฝาแฝดน้องบีมก็ไม่ยอมห่างเธอเลย ไม่ยอมอยู่กับสองฝาแฝดด้วย เธอและพิมพ์แพรวหัวเราะให้กับน้องด้วยความเอ็นดู เพราะเด็กสุด ไร้เดียงสามาก
“ขายช่วยลุงเก่ง ๆ เด้อ ขายหมดนี่เลย”
“จ้า!” น้องบีมตอบแบบซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ป้าแพงหัวเราะให้
เมื่อทุกคนพร้อมแล้วจึงเดินทางไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง อยู่คนละตำบลกับเธอ ตำบลนี้ก็เข้ามาเรียนที่โรงเรียนประจำตำบลของเธอเช่นกัน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันมากนัก
มาถึงลานตลาดนัดคลองถม พ่อค้าแม่ค้าขาประจำกำลังทยอยตั้งร้านกัน บอสกับน้องบีมและพิมพ์แพรวต่างช่วยลุงป้าหยิบจับคนละไม้คนละมือ มันก็แลดูเก้ ๆ กัง ๆ เธอไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่เหมือนสองฝาแฝดที่รู้งานเป็นอย่างดี พ่อแม่ของเธอก็ขายผักผลไม้สด ก็ไม่ได้ขายแบบนี้นี่นา
ลุงวิทย์ตั้งแผงลอย นำเหล็กมาต่อกันเป็นฐานแล้วปูด้วยแผ่นไม้ใช้วางผักและผลไม้ น้องบีมช่วยป้าแพงหยิบจับผักผลไม้ขึ้นมาวาง ส่วนพวกเธอก็ทำอย่างอื่นไป วันนี้ดูเสร็จเร็วกว่าปกติเพราะมีลูกมือหลายคน
พ่อค้าแม่ค้าคนอื่น ๆ รวมทั้งร้านของพวกเธอจัดร้านเสร็จ เจ้าของตลาดก็เปิดเพลงและโฆษณาตลาด ให้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอยกัน สี่โมงเย็นผู้คนก็มาเดินตลาดกันแล้ว น้องบีมนั่งอยู่หน้าร้านกับป้าแพง ลุงวิทย์เดินไปชมร้านข้าง ๆ ที่อยู่ติดกัน พูดคุยกันตามประสาพ่อค้า ที่ปล่อยเมียขายของคนเดียว
พิมพ์แพรวก็ดูแลอีกฝั่งของร้าน เนื่องจากร้านลุงกับป้ามีขนาดยาวพอควร ส่วนเธอเองนำเก้าอี้มานั่งด้านหลังพี่สาวนั่นแหละ ดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หวังว่าจะเจอพี่นิโดยบังเอิญ หากจังหวะคนเข้าร้านเยอะเธอก็ลุกไปขายช่วย
ช่วงห้าโมงจะเข้าหกโมงเย็นเป็นช่วงที่ผู้คนมาเดินตลาดมากที่สุด ทำให้เธอต้องลุกมาขายช่วยพี่สาวฝาแฝด ยืนหน้าร้านตลอดเวลา น้องบีมด็เดินไปเดินมา ทำเล่นไป กินผลไม้ของป้าแพงไปด้วย ป้าก็ไม่ว่า วันนี้กำไรน่าจะตกไปอยู่ในท้องของน้องบีมหมด
ส่วนมากคนมาซื้อก็จะคุยทักทายป้าแพงกับน้องบีม ส่วนใหญ่ชอบถามว่าซื้อเท่านี้ จ่ายเงินเท่านี้ ทอนเท่าไหร่อยู่อย่างนั้น และดูเหมือนน้องสาวของเธอจะสนุกไปในตัวด้วย หัวเราะกับลูกค้าเสียงดังเชียว ทั้งป้าแพงอีกคน
เพื่อน ๆ ของเธอที่เรียนโรงเรียนเดียวกันต่างก็เข้ามาทักทาย มาซื้อผลไม้กับเธอ บ้างก็ถามด้วยความสงสัยและตื่นเต้นว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นญาติกับพ่อค้าแม่ค้าสองคนนี้เองหรือ เห็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ อีกทั้งเพื่อน ๆ ของสองฝาแฝดด้วยที่เรียนในเมืองเหมือนกันก็เข้ามาทักทายและอุดหนุน
เพื่อน ๆ พวกนี้บอสไม่คุ้นหน้าเลย แพรวบอกว่าเล่นคนละกลุ่มกัน แค่เรียนห้องเดียวกันเท่านั้นเอง ส่วนเพื่อนสนิทของพิมพ์กับแพรวเธอรู้จักดี
“เด็ก ๆ ไม่พากันไปเดินตลาด เดี๋ยวแม่ดูร้านเอง ไปเรียกพ่อมืงมาแพรว ไปโม้อะไรก็ไม่รู้ทุกวัน ปล่อยแม่ขายของคนเดียว” ป้าแพงบ่นให้ลุงวิทย์ แต่ว่าเธอมองแววตาของป้าสะใภ้แล้ว ก็แค่บ่นไม่ได้โกรธลุงของเธอเลย “ไปเรียกพ่อมาเฝ้าร้าน จะพากันไปเดินดูของก็ไป แม่ขายเองได้”
“ก็ได้” แพรวเดินไปเรียกลุงวิทย์ที่ร้านขายเสื้อผ้าข้าง ๆ ลุงวิทย์กับสามีเจ้าของร้านกำลังนั่งพ่นควันบุหรี่กันอยู่ตามสไตล์พ่อค้าด้วยกัน สักพักลุงก็เดินตามแพรวมา แล้วพวกเธอก็ขอตัวไปเดินตลาดกัน
“อ่ะแม่ให้คนละร้อย” ป้าแพงควักเงินให้คนละหนึ่งร้อยบาท บอสแซวป้าเล่น ๆ วันนี้จะได้กำไรขายของกันมั้ย ลุงวิทย์หัวเราะชอบใจมาก ไม่มีใครซีเรียสอะไรอยู่แล้ว เพราะร้านป้าขายดี ลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสายเลย
“ปะบีมไปตลาดกัน” บอสเดินจูงมือน้องสาวไป ห่วงว่าจะหลงติดไปกับคนอื่นเข้า บอสให้น้องเดินนำหน้าตามพิมพ์ไป เดินดูของไปเรื่อย ๆ หมดหวังที่จะเจอพี่นิแล้ว ไม่เห็นสักทีอุตส่าห์นั่งคอย หวังว่าจะมาเดินตลาดบ้าง เห็นก็แต่น้องสาวที่มาเดิน แวะมาซื้อส้มเขียวหวานที่ร้านของป้าด้วย
แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เห็นใจ ทว่ามีกรรมมาบังไว้ เมื่อพี่นิกับน้องสาวของเขานั่นแหละมาเดินตลาด บอสมองเห็นแล้วตกใจมาก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พยายามไม่ยิ้มกลัวพี่สาวสองคนจะเห็น แต่ก็เห็นเข้าให้จนได้ มีเพียงน้องบีมที่ไม่รับรู้อะไร
บอสยิ้มให้พี่นิและพี่นิก็ยิ้มตอบ พวกเธอสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันทั้งนั้น เพราะสถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวย พี่นิทำได้แค่เดินตามหลังพวกเธอมา บอสไม่อยากจะแวะดูอะไรเลย กลัวพี่นิเดินผ่านไปแล้วจะไม่ได้เจอกันอีก ทั้งที่เจอกันห้าวันในหนึ่งสัปดาห์อยู่แล้ว แต่การเจอกันนอกโรงเรียนมันดูตื่นเต้นมากกว่า และกลัวจะเสียเวลาความสุขตรงนี้ไป
“น้องบอสมาซื้ออะไรครับ” พี่นิตัดสินใจถามเธอ เมื่อน้องบีมอยากกินหมึกย่าง แล้วเธอพาแวะซื้อ ส่วนสองฝาแฝดแวะอีกร้านเยื้อง ๆ กัน เป็นร้านเสื้อผ้าแฟชั่น พี่นิกับน้องสาวก็แวะร้านหมึกย่างด้วย ประจวบเหมาะเสียจริง
บอสยิ้มแก้มปริ แทบอยากจะกรี๊ดอออกมาเสียงดัง ๆ กลางตลาด “บอสมาขายของช่วยลุงกับป้า นู่นร้านป้าบอส ร้านขายผักอ่ะ ถามแนนดิแนนรู้จัก” แนนคือน้องสาวของพี่นิ อายุเท่ากัน เรียนคนละห้องกับเธอ “คนนี้น้องของบอส น้องบีมสวยไม่เท่าบอสหรอก”
“เค้าว่าน้องหน้าตาดีกว่าพี่นะ ฮ่า”
“แนน! ฮา” เธอสบถขำ ๆ พี่นิก็หัวเราะด้วย แนนเข้ามาเลือกหมึกย่าง ส่วนเธอกับน้องบีมรอหมึกสุก น้องบีมไม่ได้สนใจใครเลย ตั้งหนาตั้งตารอหมึกย่างอย่างเดียว พี่นิขยับเข้ามายืนใกล้ ๆ เธอ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ยืนคอยหมึกย่างด้วยคนแบบเงียบ ๆ แต่เข้าใจทางสายตา และอมยิ้มให้
เธอรับรู้และเข้าใจการสื่อสารทางรอยยิ้มและสายตาและการกระทำของพี่นิ และพี่นิก็เข้าใจเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดคุยก็ได้ พอหมึกย่างของน้องบีมได้แล้วเธอจึงขอตัวจากไป เดินไปหาพี่สาวฝาแฝดที่ร้านขายเสื้อ มองและยิ้มให้พี่นิก่อนจะเดินจากไป วันจันทร์ค่อยเจอกันอีกครั้ง
“อี่บอสกูรู้นะ แฟนมืงใช่มั้ย” พิมพ์ถามขณะเดินชมสินค้าในตลาด เข้าร้านนั้นออกร้านนี้เรื่อย ๆ ยังไม่ทันได้ซื้ออะไร ส่วนน้องบีมทั้งเดินทั้งกินหมึกไปด้วย ท่าจะหิว
“ใคร ๆ แฟนกู อ้ายฮักอี่ห่า ฮา” บอสหัวเราะที่โดนจับได้ และโดนแซว อุตส่าห์เงียบ ๆ ไม่พูดถึงแล้วเชียว
“อ้ายฮัก เดี๋ยวน้องก็ฮักอ้ายคอยดู” พิมพ์ยังจะอยากให้เป็นแฟนของเธอให้ได้
“ไม่มีทาง! พี่เค้ามีแฟนแล้ว แค่แบบกูปลื้มพี่เค้าเฉย ๆ กูรู้ว่าเค้าไม่ได้คิดไรหรอก กูก็ไม่ได้คิดไรด้วย แต่มันปลื้มอ่ะมืง มันไม่ใช่รัก มันแค่มีความรู้สึกดี ๆ ให้ก็เท่านั้นเอง” ระหว่างเดิน แพรวขอแวะร้านเสื้ออีกร้าน ส่วนน้องบีมทานหมึกหมดแล้ว
“พี่บอสหิวน้ำอ่ะ” น้องบีมสะกิดบอกเธอ ทำอย่างไรดีจะเดินกลับร้านก็มาไกลแล้ว เดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แล้วกัน
“เดี๋ยวเดินไปเรื่อย ๆ น่าจะเจอร้านน้ำนะ แพรวมืงจะซื้อเสื้อมั้ย ไม่ซื้อก็ไปต่อเหอะ น้องกูหิวน้ำค่อยกลับมาซื้อใหม่ก็ได้”
“ก็ได้! เดี๋ยวเราเดินดูไปก่อนละกัน” พอตกลงกันได้พวกเธอก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ พาน้องบีมเดินหาร้านน้ำ สุดท้ายก็เจอบอสซื้อน้ำเปล่าให้น้องหนึ่งขวด และน้ำโค๊กใส่ถุงให้ตัวเองด้วย เธอเองก็คอแห้ง
“ไม่ใช่แฟนมืงแน่นะ พี่เค้าก็หล่อดีนะบอส” พิมพ์ยังไม่หยุดพูดถึงพี่นิอีก
“ใครพิมพ์” แพรวถาม อยากรู้อีกคน
“มืงไม่เห็นเหรอ อ้ายฮักอี่บอส ฮา พากันยืนคุยกันส่งสายตาหวาน ๆ ปิ๊ง ๆ ให้กันอยู่ กูเห็นนะ” พิมพ์สาธยายให้แพรวฟัง
“เออมืง! เป็นได้แค่นั้นแหละ พี่เค้ามีแฟนแล้ว” พูดจบก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดินดูดน้ำอัดลมไม่สนใคร ไม่สนสิ่งรอบข้าง ส่วนแพรวก็หาซื้อเสื้อตัวที่ชอบจนได้ สรุปเดินตลาดครั้งนี้ แพรวได้เสื้อ น้องบีมได้หมึกย่างกินไปตลอดทาง พิมพ์ไม่ได้ซื้ออะไร ส่วนเธอได้เจอพี่นิ
เมื่อเดินจนเมื่อยแล้ว และจวนจะถึงเวลาตลาดเลิกพวกเธอก็พากันกลับ สองทุมพ่อค้าแม่ค้าก็ทยอยเก็บร้านกันแล้ว ไม่เหมือนคลองถมในตัวเมืองที่อยู่จนดึกได้ คลองถมบ้านนอกสองทุ่มก็ดึกพอสมควร คนมาเดินเริ่มบางตาและหายไปหมดในช่วงเวลาสามทุ่ม ที่เหลือก็เป็นพวกพ่อค้าเท่านั้นที่ยังอยู่
เช่นเดิม พวกเธอช่วยป้าแพงเก็บผักผลไม้ลงกล่อง ส่วนลุงวิทย์เก็บแผงขึ้นรถ ช่วยกันคนละไม้คนละมือเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว น้องบีมกับลุงวิทย์คุยกันไม่หยุดปากเลย ถามนั่นถามนี้ไปเรื่อย เสียงหัวเราะดังลั่นไปสามร้านสี่ร้าน
“บีม ๆ เวลาพ่อขายของพ่อว่าจังใดนะ” ลุงกับหลานสาวคุยกัน เก็บของขึ้นรถไปด้วย
“พ่อว่า กับข้าวมาแล้วครับกับข้าว กับข้าวครับกับข้าว จังสิล่ะ กร๊าก!” พร้อมหัวเราะชอบใจ ลุงก็ขำกับหลายไปด้วย ป้าแพงอีกคน
“แล้วแม่พูดว่าอะไร”
“แม่ไม่พูดอะไรเลย แม่นั่งเก็บเงินอย่างเดียว ฮา” เธอเองก็ขำตาม เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วลุงวิทย์ก็พากลับบ้านทันที
บอสกลับมาถึงบ้านก็พบว่ายายกับตาและพี่ ๆ ต่างทานข้าวกันหมดแล้ว กำลังดูทีวีกันอยู่ พี่บอมขึ้นไปบรรเลงเพลงดีดกีตาร์ให้สาวฟังผ่านโทรศัพท์ในห้องข้างบนบ้าน พี่ปาวคุยโทรศัพท์กับพี่อุ้ยข้างบนบ้านเช่นกัน เหลือก็แต่พี่บอลกับพี่แป้งดูทีวีกับยาย ส่วนตานั่งสานแหอยู่เสาบ้าน
มาถึงบอสให้น้องสาวอาบน้ำก่อนแล้วตนอาบทีหลัง น้องบีมทำตามอย่างว่าง่าย “ยายกินข้าวกับอะไรกันเมื่อตอนเย็น” เธอรู้สึกหิวจึงถามหากับข้าวเผื่อเหลือ
คิดถึง 2 บทที่ 37
.
ไดอารี่ความคิดถึง
“ยายบอสไปขายของตลาดนัดกับลุงวิทย์กับป้าแพงนะ” บ่ายวันเสาร์บอสเดินมาขอยายที่บ้าน เธออยากไปขายผักผลไม้สดช่วยลุงกับป้า ความจริงอยากไปเล่นนั่นแหละ สองฝาแฝดก็ไปเธอจึงอยากไปด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้คาดหวัง ยายไม่อนุญาตก็ไม่ไป
“อยากไปก็ไปถะแหมะ แต่ว่าจะไปเกะกะเขาทำไม” ยายเหมือนจะห้ามแต่ก็ไม่ห้าม “หาแลนนำก้นเขาบ่มีประสา”
“ หื้อ บอสอยากไป ยายให้บอสไปใช่มั้ย” เรื่องอยากไปขายของช่วยลุงกับป้าเป็นประเด็นรอง ประเด็นหลักคือวันเสาร์นี้มีคลองถมหมู่บ้านพี่นินะสิ และลุงกับป้าก็ไปลงขายของที่คลองถมด้วย เธอถึงอยากไป แอบหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้เจอพี่นิ
“เอ๋า อยากไปมืงก็ไป ถ้าไม่ขี้เกียจ” ยายพูดหน้าตาเฉย นั่งทอผ้าเช่นทุกวัน
“เย้! บอสไปลา! ไปวันเดียวพรุ่งนี้ก็ไม่ไป บอสอยากไปเดินคลองถม บอสมีสิ่งที่อยากซื้อ” บอสอุทานออกมาด้วยความดีใจ บอกยายว่ามีสิ่งที่อยากได้ไปอย่างนั้นเอง ในใจหวังจะไปเจอพี่นิต่างหาก จะได้เจอหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง
บอสแอบปลื้มรุ่นพี่คนหนึ่ง ดูท่าทีพี่เขาก็เล่นกับเธอด้วย ยิ้มให้เวลาเดินสวนทางกัน มานั่งเล่นด้วยในบางครั้งก่อนโรงเรียนเลิก มีนั่นมีนี่มาให้ พูดคุยสนิทกันพอสมควร ห่วงกันพอประมาณ ไม่ออกนอกหน้ามากเพราะอยู่ในสถานะพี่น้อง ไม่ใช่แฟน พี่นิเขามีแฟนอยู่แล้วทั้งคน
เมื่อขอยายได้สำเร็จก็รีบกลับไปหาพี่สาวฝาแฝดที่บ้านตามเดิม บ่ายสามโมงเย็นลุงกับป้าก็พาไปลงของขายแล้ว ก่อนไปบอสมิวายวิ่งกลับมาขอยายอีกรอบ คราวนี้น้องบีมขอตามไปด้วย บอสก็ไม่ว่าอะไร ยอมให้น้องสาวตามไปด้วยอีกคน
“ไปกับเค้าด้วยเหรอน้อย ๆ หนิ” ลุงวิทย์ที่ดูจะเอ็นดูน้องบีมที่สุดถามขึ้น เพราะน้องบีมเป็นหลานคนสุดท้ายของตระกูล จึงดูเป็นที่เอ็นดูของลุง ๆ ป้า ๆ และอา ๆ มาก
“ไป น้องบีมไปด้วย” น้องบีมพยักหน้าตอบด้วยคำพูดฉะฉาน ยืนเกาะแขนเธออย่างกับกลัวเธอจะแอบไปก่อน
บางครั้งดูเหมือนพี่น้องจะสนิทกันมาก ทว่าบางครั้งน้องบีมก็ไม่เอาใคร เกาะติดเธอตลอดเวลาสำหรับบางเวลาแบบนี้ ถึงแม้จะโตมาด้วยกันกับสองฝาแฝดน้องบีมก็ไม่ยอมห่างเธอเลย ไม่ยอมอยู่กับสองฝาแฝดด้วย เธอและพิมพ์แพรวหัวเราะให้กับน้องด้วยความเอ็นดู เพราะเด็กสุด ไร้เดียงสามาก
“ขายช่วยลุงเก่ง ๆ เด้อ ขายหมดนี่เลย”
“จ้า!” น้องบีมตอบแบบซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ป้าแพงหัวเราะให้
เมื่อทุกคนพร้อมแล้วจึงเดินทางไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง อยู่คนละตำบลกับเธอ ตำบลนี้ก็เข้ามาเรียนที่โรงเรียนประจำตำบลของเธอเช่นกัน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันมากนัก
มาถึงลานตลาดนัดคลองถม พ่อค้าแม่ค้าขาประจำกำลังทยอยตั้งร้านกัน บอสกับน้องบีมและพิมพ์แพรวต่างช่วยลุงป้าหยิบจับคนละไม้คนละมือ มันก็แลดูเก้ ๆ กัง ๆ เธอไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่เหมือนสองฝาแฝดที่รู้งานเป็นอย่างดี พ่อแม่ของเธอก็ขายผักผลไม้สด ก็ไม่ได้ขายแบบนี้นี่นา
ลุงวิทย์ตั้งแผงลอย นำเหล็กมาต่อกันเป็นฐานแล้วปูด้วยแผ่นไม้ใช้วางผักและผลไม้ น้องบีมช่วยป้าแพงหยิบจับผักผลไม้ขึ้นมาวาง ส่วนพวกเธอก็ทำอย่างอื่นไป วันนี้ดูเสร็จเร็วกว่าปกติเพราะมีลูกมือหลายคน
พ่อค้าแม่ค้าคนอื่น ๆ รวมทั้งร้านของพวกเธอจัดร้านเสร็จ เจ้าของตลาดก็เปิดเพลงและโฆษณาตลาด ให้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอยกัน สี่โมงเย็นผู้คนก็มาเดินตลาดกันแล้ว น้องบีมนั่งอยู่หน้าร้านกับป้าแพง ลุงวิทย์เดินไปชมร้านข้าง ๆ ที่อยู่ติดกัน พูดคุยกันตามประสาพ่อค้า ที่ปล่อยเมียขายของคนเดียว
พิมพ์แพรวก็ดูแลอีกฝั่งของร้าน เนื่องจากร้านลุงกับป้ามีขนาดยาวพอควร ส่วนเธอเองนำเก้าอี้มานั่งด้านหลังพี่สาวนั่นแหละ ดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หวังว่าจะเจอพี่นิโดยบังเอิญ หากจังหวะคนเข้าร้านเยอะเธอก็ลุกไปขายช่วย
ช่วงห้าโมงจะเข้าหกโมงเย็นเป็นช่วงที่ผู้คนมาเดินตลาดมากที่สุด ทำให้เธอต้องลุกมาขายช่วยพี่สาวฝาแฝด ยืนหน้าร้านตลอดเวลา น้องบีมด็เดินไปเดินมา ทำเล่นไป กินผลไม้ของป้าแพงไปด้วย ป้าก็ไม่ว่า วันนี้กำไรน่าจะตกไปอยู่ในท้องของน้องบีมหมด
ส่วนมากคนมาซื้อก็จะคุยทักทายป้าแพงกับน้องบีม ส่วนใหญ่ชอบถามว่าซื้อเท่านี้ จ่ายเงินเท่านี้ ทอนเท่าไหร่อยู่อย่างนั้น และดูเหมือนน้องสาวของเธอจะสนุกไปในตัวด้วย หัวเราะกับลูกค้าเสียงดังเชียว ทั้งป้าแพงอีกคน
เพื่อน ๆ ของเธอที่เรียนโรงเรียนเดียวกันต่างก็เข้ามาทักทาย มาซื้อผลไม้กับเธอ บ้างก็ถามด้วยความสงสัยและตื่นเต้นว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นญาติกับพ่อค้าแม่ค้าสองคนนี้เองหรือ เห็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ อีกทั้งเพื่อน ๆ ของสองฝาแฝดด้วยที่เรียนในเมืองเหมือนกันก็เข้ามาทักทายและอุดหนุน
เพื่อน ๆ พวกนี้บอสไม่คุ้นหน้าเลย แพรวบอกว่าเล่นคนละกลุ่มกัน แค่เรียนห้องเดียวกันเท่านั้นเอง ส่วนเพื่อนสนิทของพิมพ์กับแพรวเธอรู้จักดี
“เด็ก ๆ ไม่พากันไปเดินตลาด เดี๋ยวแม่ดูร้านเอง ไปเรียกพ่อมืงมาแพรว ไปโม้อะไรก็ไม่รู้ทุกวัน ปล่อยแม่ขายของคนเดียว” ป้าแพงบ่นให้ลุงวิทย์ แต่ว่าเธอมองแววตาของป้าสะใภ้แล้ว ก็แค่บ่นไม่ได้โกรธลุงของเธอเลย “ไปเรียกพ่อมาเฝ้าร้าน จะพากันไปเดินดูของก็ไป แม่ขายเองได้”
“ก็ได้” แพรวเดินไปเรียกลุงวิทย์ที่ร้านขายเสื้อผ้าข้าง ๆ ลุงวิทย์กับสามีเจ้าของร้านกำลังนั่งพ่นควันบุหรี่กันอยู่ตามสไตล์พ่อค้าด้วยกัน สักพักลุงก็เดินตามแพรวมา แล้วพวกเธอก็ขอตัวไปเดินตลาดกัน
“อ่ะแม่ให้คนละร้อย” ป้าแพงควักเงินให้คนละหนึ่งร้อยบาท บอสแซวป้าเล่น ๆ วันนี้จะได้กำไรขายของกันมั้ย ลุงวิทย์หัวเราะชอบใจมาก ไม่มีใครซีเรียสอะไรอยู่แล้ว เพราะร้านป้าขายดี ลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสายเลย
“ปะบีมไปตลาดกัน” บอสเดินจูงมือน้องสาวไป ห่วงว่าจะหลงติดไปกับคนอื่นเข้า บอสให้น้องเดินนำหน้าตามพิมพ์ไป เดินดูของไปเรื่อย ๆ หมดหวังที่จะเจอพี่นิแล้ว ไม่เห็นสักทีอุตส่าห์นั่งคอย หวังว่าจะมาเดินตลาดบ้าง เห็นก็แต่น้องสาวที่มาเดิน แวะมาซื้อส้มเขียวหวานที่ร้านของป้าด้วย
แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เห็นใจ ทว่ามีกรรมมาบังไว้ เมื่อพี่นิกับน้องสาวของเขานั่นแหละมาเดินตลาด บอสมองเห็นแล้วตกใจมาก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พยายามไม่ยิ้มกลัวพี่สาวสองคนจะเห็น แต่ก็เห็นเข้าให้จนได้ มีเพียงน้องบีมที่ไม่รับรู้อะไร
บอสยิ้มให้พี่นิและพี่นิก็ยิ้มตอบ พวกเธอสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันทั้งนั้น เพราะสถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวย พี่นิทำได้แค่เดินตามหลังพวกเธอมา บอสไม่อยากจะแวะดูอะไรเลย กลัวพี่นิเดินผ่านไปแล้วจะไม่ได้เจอกันอีก ทั้งที่เจอกันห้าวันในหนึ่งสัปดาห์อยู่แล้ว แต่การเจอกันนอกโรงเรียนมันดูตื่นเต้นมากกว่า และกลัวจะเสียเวลาความสุขตรงนี้ไป
“น้องบอสมาซื้ออะไรครับ” พี่นิตัดสินใจถามเธอ เมื่อน้องบีมอยากกินหมึกย่าง แล้วเธอพาแวะซื้อ ส่วนสองฝาแฝดแวะอีกร้านเยื้อง ๆ กัน เป็นร้านเสื้อผ้าแฟชั่น พี่นิกับน้องสาวก็แวะร้านหมึกย่างด้วย ประจวบเหมาะเสียจริง
บอสยิ้มแก้มปริ แทบอยากจะกรี๊ดอออกมาเสียงดัง ๆ กลางตลาด “บอสมาขายของช่วยลุงกับป้า นู่นร้านป้าบอส ร้านขายผักอ่ะ ถามแนนดิแนนรู้จัก” แนนคือน้องสาวของพี่นิ อายุเท่ากัน เรียนคนละห้องกับเธอ “คนนี้น้องของบอส น้องบีมสวยไม่เท่าบอสหรอก”
“เค้าว่าน้องหน้าตาดีกว่าพี่นะ ฮ่า”
“แนน! ฮา” เธอสบถขำ ๆ พี่นิก็หัวเราะด้วย แนนเข้ามาเลือกหมึกย่าง ส่วนเธอกับน้องบีมรอหมึกสุก น้องบีมไม่ได้สนใจใครเลย ตั้งหนาตั้งตารอหมึกย่างอย่างเดียว พี่นิขยับเข้ามายืนใกล้ ๆ เธอ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ยืนคอยหมึกย่างด้วยคนแบบเงียบ ๆ แต่เข้าใจทางสายตา และอมยิ้มให้
เธอรับรู้และเข้าใจการสื่อสารทางรอยยิ้มและสายตาและการกระทำของพี่นิ และพี่นิก็เข้าใจเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดคุยก็ได้ พอหมึกย่างของน้องบีมได้แล้วเธอจึงขอตัวจากไป เดินไปหาพี่สาวฝาแฝดที่ร้านขายเสื้อ มองและยิ้มให้พี่นิก่อนจะเดินจากไป วันจันทร์ค่อยเจอกันอีกครั้ง
“อี่บอสกูรู้นะ แฟนมืงใช่มั้ย” พิมพ์ถามขณะเดินชมสินค้าในตลาด เข้าร้านนั้นออกร้านนี้เรื่อย ๆ ยังไม่ทันได้ซื้ออะไร ส่วนน้องบีมทั้งเดินทั้งกินหมึกไปด้วย ท่าจะหิว
“ใคร ๆ แฟนกู อ้ายฮักอี่ห่า ฮา” บอสหัวเราะที่โดนจับได้ และโดนแซว อุตส่าห์เงียบ ๆ ไม่พูดถึงแล้วเชียว
“อ้ายฮัก เดี๋ยวน้องก็ฮักอ้ายคอยดู” พิมพ์ยังจะอยากให้เป็นแฟนของเธอให้ได้
“ไม่มีทาง! พี่เค้ามีแฟนแล้ว แค่แบบกูปลื้มพี่เค้าเฉย ๆ กูรู้ว่าเค้าไม่ได้คิดไรหรอก กูก็ไม่ได้คิดไรด้วย แต่มันปลื้มอ่ะมืง มันไม่ใช่รัก มันแค่มีความรู้สึกดี ๆ ให้ก็เท่านั้นเอง” ระหว่างเดิน แพรวขอแวะร้านเสื้ออีกร้าน ส่วนน้องบีมทานหมึกหมดแล้ว
“พี่บอสหิวน้ำอ่ะ” น้องบีมสะกิดบอกเธอ ทำอย่างไรดีจะเดินกลับร้านก็มาไกลแล้ว เดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แล้วกัน
“เดี๋ยวเดินไปเรื่อย ๆ น่าจะเจอร้านน้ำนะ แพรวมืงจะซื้อเสื้อมั้ย ไม่ซื้อก็ไปต่อเหอะ น้องกูหิวน้ำค่อยกลับมาซื้อใหม่ก็ได้”
“ก็ได้! เดี๋ยวเราเดินดูไปก่อนละกัน” พอตกลงกันได้พวกเธอก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ พาน้องบีมเดินหาร้านน้ำ สุดท้ายก็เจอบอสซื้อน้ำเปล่าให้น้องหนึ่งขวด และน้ำโค๊กใส่ถุงให้ตัวเองด้วย เธอเองก็คอแห้ง
“ไม่ใช่แฟนมืงแน่นะ พี่เค้าก็หล่อดีนะบอส” พิมพ์ยังไม่หยุดพูดถึงพี่นิอีก
“ใครพิมพ์” แพรวถาม อยากรู้อีกคน
“มืงไม่เห็นเหรอ อ้ายฮักอี่บอส ฮา พากันยืนคุยกันส่งสายตาหวาน ๆ ปิ๊ง ๆ ให้กันอยู่ กูเห็นนะ” พิมพ์สาธยายให้แพรวฟัง
“เออมืง! เป็นได้แค่นั้นแหละ พี่เค้ามีแฟนแล้ว” พูดจบก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดินดูดน้ำอัดลมไม่สนใคร ไม่สนสิ่งรอบข้าง ส่วนแพรวก็หาซื้อเสื้อตัวที่ชอบจนได้ สรุปเดินตลาดครั้งนี้ แพรวได้เสื้อ น้องบีมได้หมึกย่างกินไปตลอดทาง พิมพ์ไม่ได้ซื้ออะไร ส่วนเธอได้เจอพี่นิ
เมื่อเดินจนเมื่อยแล้ว และจวนจะถึงเวลาตลาดเลิกพวกเธอก็พากันกลับ สองทุมพ่อค้าแม่ค้าก็ทยอยเก็บร้านกันแล้ว ไม่เหมือนคลองถมในตัวเมืองที่อยู่จนดึกได้ คลองถมบ้านนอกสองทุ่มก็ดึกพอสมควร คนมาเดินเริ่มบางตาและหายไปหมดในช่วงเวลาสามทุ่ม ที่เหลือก็เป็นพวกพ่อค้าเท่านั้นที่ยังอยู่
เช่นเดิม พวกเธอช่วยป้าแพงเก็บผักผลไม้ลงกล่อง ส่วนลุงวิทย์เก็บแผงขึ้นรถ ช่วยกันคนละไม้คนละมือเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว น้องบีมกับลุงวิทย์คุยกันไม่หยุดปากเลย ถามนั่นถามนี้ไปเรื่อย เสียงหัวเราะดังลั่นไปสามร้านสี่ร้าน
“บีม ๆ เวลาพ่อขายของพ่อว่าจังใดนะ” ลุงกับหลานสาวคุยกัน เก็บของขึ้นรถไปด้วย
“พ่อว่า กับข้าวมาแล้วครับกับข้าว กับข้าวครับกับข้าว จังสิล่ะ กร๊าก!” พร้อมหัวเราะชอบใจ ลุงก็ขำกับหลายไปด้วย ป้าแพงอีกคน
“แล้วแม่พูดว่าอะไร”
“แม่ไม่พูดอะไรเลย แม่นั่งเก็บเงินอย่างเดียว ฮา” เธอเองก็ขำตาม เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วลุงวิทย์ก็พากลับบ้านทันที
บอสกลับมาถึงบ้านก็พบว่ายายกับตาและพี่ ๆ ต่างทานข้าวกันหมดแล้ว กำลังดูทีวีกันอยู่ พี่บอมขึ้นไปบรรเลงเพลงดีดกีตาร์ให้สาวฟังผ่านโทรศัพท์ในห้องข้างบนบ้าน พี่ปาวคุยโทรศัพท์กับพี่อุ้ยข้างบนบ้านเช่นกัน เหลือก็แต่พี่บอลกับพี่แป้งดูทีวีกับยาย ส่วนตานั่งสานแหอยู่เสาบ้าน
มาถึงบอสให้น้องสาวอาบน้ำก่อนแล้วตนอาบทีหลัง น้องบีมทำตามอย่างว่าง่าย “ยายกินข้าวกับอะไรกันเมื่อตอนเย็น” เธอรู้สึกหิวจึงถามหากับข้าวเผื่อเหลือ