เกริ่นก่อนนะครับ ผมเรียนจบวิศวกรรมโยธาจากบางมด แต่ผมดิ้นรนตั้งแต่ตอนที่สมัยเรียนครับเนื่องจากพ่อของผมเป็นผู้รับเหมา ทำให้ผมต้องไปดูหน้างาน SITE ENGINEER ตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วก็ฝึกงานที่บริษัทใหญ่ด้าน ESTIMATE ENGINEER โดยผมได้สร้างโปรแกรมจาก EXCEL ทำให้มีโปรแกรมประเมินราคาของตัวเองเลย ก็เลยรับงานประมาณราคาเป็น FREELANCE ตั้งแต่สมัยเรียนทั้งเขียนแบบและประมาณราคา พอผมเรียนจบก็เลือกไปทำงานด้าน DESIGN ENGINEER (3เดือน) ผมอยู่ในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะผมไม่ได้ชอบด้านนี้แต่ต้องการรู้หลักของการ DESIGN เพื่อให้ตัวเองทำเป็นครบทุกด้าน แล้วก็ศึกษาด้านกฏหมายของสัญญาเผื่อเอาไว้ในวันที่มีปัญหาทางด้านการก่อสร้าง
พอผมได้ลองครบทั้ง 3 สายแล้วทำให้ผมเลือกด้าน ESTIMATE ที่ผมถนัดที่สุดเพราะชอบพวกตัวเลขและการเงิน (ไม่ใช่บริษัทของที่บ้านผม)ทำงานได้อยู่สองเดือนประมาณราคาไปเรื่อย ๆ ก็มีหลาย ๆ ไซท์ที่เกิดปัญหาจากโฟร์แมนว่าทำไม่ได้ตามต้นทุนที่ผมตั้งไว้ ผมก็เลยหาช่างแล้วเอาเข้าไปทำเองเพื่อให้ได้ตามต้นทุนที่ผมตั้งไว้ (ในตอนนั้นเจ้าของบริษัทบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องทำเพราะมันเกินหน้าที่แต่ผมไม่ฟังเพราะผมถือว่าเป็นกำไรของบริษัทที่ต้องรักษาเอาไว้) หลังจากนั้นก็มีไซท์อื่นที่มีปัญหาทางด้านสัญญาที่ผมจับจุดแปลก ๆ ได้ ( ขออนุญาติไม่เล่าตรงนี้เพราะเกี่ยวเนื่องทางด้านกฏหมาย ) ผมก็ไปเคลียมาให้เพราะเป็นผลประโยชน์ของบริษัท ทาง MD ก็เลยขอให้ผมมาช่วยคุมฝ่ายก่อสร้างในตำแหน่งของ PM เลย ผมก็เลยเข้ามาช่วย
พอผมรับตำแหน่ง PM (เงินเดือน 35,000 โดยทำประมาณราคาไปด้วยเพราะผมไม่ชอบให้ไครมายุ่งกับตัวเลขเพราะมันเป็นเรื่องละเอียด) แล้วเจ้าของบริษัทผมไล่โฟร์แมนออกทุกคนเลยเพราะผมจับโกงได้หมดทุกคนและให้เหตุผลว่า ถ้าผมอยู่ดี ๆ มารับตำแหน่งเลยจะไม่มีไครเชื่อฟังและคุมคนไม่ได้ (ซึ่งมันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ เพราะผมอายุน้อยด้วย) ทำให้ผมมีคนในทีมแค่คนขับรถ ในเดือนนั้นผมต้องวิ่งเคลียทั้งหมด 4 ไซท์งานคนเดียว (แต่ละไซท์มีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านถึงไซท์ต่ำสุด 9 แสน ) หาคนงานเองไปลงหน้างาน สั่งของเอง เอาช่างเข้าหน้างานเอง ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง ตี 2 เป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่งที่ทำงานเหนื่อยมาก แต่ก็เคลียได้จบทุกไซท์ ผมจึงรับโฟร์แมนเข้ามาแค่คนเดียวเพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยผมจึงไม่อยากรับเข้ามาเพื่อเพิ่มต้นทุน หน้าที่ในตอนนี้คือ ควบคุมหน้างาน หาช่าง สั่งของ เขียนสัญญา ทำเอกสาร แก้ไขปัญหาหน้างาน ดูเรื่องกฏหมาย ประมาณราคา
พอมาในตอนนี้ผมเหลือแค่ไซท์เดียว ผมคุมด้านฝ่ายก่อสร้างได้สมบูรณ์แล้ว โดยทำผลกำไรเพิ่มเติมนอกจากต้นทุนได้ 200,000 ( จากราคาทุน500,000 ในงวดงานที่ 3 ) ในไซท์งานที่ทำอยู่ ทาง MD ก็เลยขอให้ผมไปคุมฝ่ายขายและฝ่ายแบบด้วย ผมก็เข้าไปช่วยแต่มาพบว่าผมไม่สามารถคุมคนของฝ่ายอื่นได้เลย พวกเค้าไม่ฟังผม และเถียงผมกลับมา เล่นเกมในเวลางานต่าง ๆ ทั้งๆที่งานของฝ่ายแบบมันล้น แต่เค้าก็บอกกันว่าต้องการเวลาพักด้วย แต่ผมมองว่าในภาวะที่ฝ่ายกำลังมีปัญหางานล้นอยู่ก็ควรลุยงานก่อนเพื่อเคลียงานออกไป แต่กลายเป็นพวกเค้าไม่สนถึงผลประโยชน์ของบริษัทเลยต้องการแค่ทำงานกินเงินเดือนไปวัน ๆ และพูดกับผมว่า (คนในบริษัท : กูรู้นะว่าตอนนี้ภาวะความรับผิดชอบสูงมาก ทำหลายหน้าที่ ควบคุมฝ่ายก่อสร้าง ประเมิณราคา หาผู้รับเหมาหรือวัสดุที่ต้นทุนถูกกว่าเดิม ดูแลเรื่องกฏหมาย และดูแลภาพรวมของบริษัท แต่อย่าเอางานของมาให้กู กูอยากทำแค่ในหน้าที่ ) ผมก็ยอมรับในความคิดของเค้า แต่ผมยินดีทำเพราะหน้าที่ของผมคือทำกำไรให้บริษัท แต่ตอนนี้มันมีปัญหาตรงที่พวกเค้าไม่ทำหน้าที่ของเค้าให้สมบูรณ์ ทำแบบช้าจนลูกค้าหลุด ทำแบบเสร็จเขียน MEMO มาไม่ครบทำให้ผมทำราคาไม่ได้ทำไปราคาก็หลุด จนผมตอนนี้ต้องมาเขียนแบบขยายเองเพื่อประมาณราคาให้ได้งาน ต้องวิ่งไปเลือกวัสดุเองทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของฝ่ายแบบ ผมเหนื่อยกายผมไม่ห่วง แต่พวกเค้าทำให้ผมจิตตกด้วยความคิดลบ ๆ ที่ด่าทอบริษัท พอไม่ได้งานก็โทษว่าเพราะบริษัทเก็บกำไรแพงเกินไป โดยไม่มองเลยว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนมันเท่าใหร่
ตอนนี้ผมเครียดมากครับ ผมไปปรึกษาเจ้าของบริษัท เค้าเลยบอกว่าจะแต่งตั้งให้ผมเป็น GM คุมทุกฝ่ายเลย แต่ผมรู้ดีว่าผมไม่สามารถคุมพวกนี้ได้เลยเพราะทัศนคติเค้าติดลบมาก ถ้าผมเป็นแค่ PM ผมคุมฝ่ายของผมได้สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ในฝ่ายอื่น ๆ ผมควบคุมไม่ได้เลย ไม่มีไครสนใจที่จะช่วยบริษัท ผมจะทำยังไงดีครับที่จะทำให้บริษัทมันโตขึ้น ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ให้ตายบริษัทก็ไม่โต ตอนนี้ทาง MD(เจ้าของบริษัท) ก็เข้ามาในบริษัทน้อยลงมากแล้ว สัปดาห์ละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้ง
ในตอนนี้ผมมี 3 ทางเลือก
1.คือขึ้นเป็น GM เลย แต่ผมก็รู้ว่าตัวผมคุมฝ่ายขายกับฝ่ายแบบไม่ได้เลย ผมรู้ตัวว่าถ้าไม่เปลี่ยนคนก็คงทำอะไรให้ดีขึ้นไม่ได้
2.ตัดสินใจเป็น PM ต่อโดยไม่ยุ่งกับฝ่ายอื่น ผมก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีงานเข้ามาจากฝ่ายอื่น ผมก็ทนไม่ได้เพราะผมทำผลกำไรให้บริษัทำไม่ได้ ผมไม่ชอบที่ทุกคนในบริษัททัศนคติไม่ดี
3.ตัดสินใจลาออก ไปหางานที่อื่นแต่ผมด้วยความที่อายุ 23 ด้วยสายงานด้วยผมก็คงได้เงินไม่เกิน 30,000 อยู่ดี
ปล.ตอนนี้ผมทำงานถึง 4 - 5 ทุ่ม ทุกวันแต่ OT ของผมได้แค่ 1 คือไม่ได้คูณด้วย 1.5 ตอนปีใหม่ผมก็ทำงานตั้งแต่วันที่ 1 มกรา แต่ผมไม่เอา OT ช่วงวันหยุดปีใหม่เพราะผมอยากช่วยบริษัท ผมรู้อยู่แล้วทำงานในช่วงปีใหม่ค่า OT มันสูง ผมไม่ได้ห่วงเรื่องเงิน OT เลย แต่ตอนนี้สุขภาพจิตของผมมันแย่ลงจากที่ผมเป็นคนขยันมาก ๆ แต่งานมันต้องมาชะงักด้วยฝ่ายอื่นที่ทำงานชุ่ย ผมต้องทำยังไงดีครับ ที่ทำกำไรให้บริษัทได้ แล้วผมก็ไม่คิดจะกลับไปทำของที่บ้านต่อครับ ผมอยากหางานด้วยตัวเอง
Project Manager ในวัยอายุ 23 ปี แต่ทำงานไม่มีความสุขเลย
พอผมได้ลองครบทั้ง 3 สายแล้วทำให้ผมเลือกด้าน ESTIMATE ที่ผมถนัดที่สุดเพราะชอบพวกตัวเลขและการเงิน (ไม่ใช่บริษัทของที่บ้านผม)ทำงานได้อยู่สองเดือนประมาณราคาไปเรื่อย ๆ ก็มีหลาย ๆ ไซท์ที่เกิดปัญหาจากโฟร์แมนว่าทำไม่ได้ตามต้นทุนที่ผมตั้งไว้ ผมก็เลยหาช่างแล้วเอาเข้าไปทำเองเพื่อให้ได้ตามต้นทุนที่ผมตั้งไว้ (ในตอนนั้นเจ้าของบริษัทบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องทำเพราะมันเกินหน้าที่แต่ผมไม่ฟังเพราะผมถือว่าเป็นกำไรของบริษัทที่ต้องรักษาเอาไว้) หลังจากนั้นก็มีไซท์อื่นที่มีปัญหาทางด้านสัญญาที่ผมจับจุดแปลก ๆ ได้ ( ขออนุญาติไม่เล่าตรงนี้เพราะเกี่ยวเนื่องทางด้านกฏหมาย ) ผมก็ไปเคลียมาให้เพราะเป็นผลประโยชน์ของบริษัท ทาง MD ก็เลยขอให้ผมมาช่วยคุมฝ่ายก่อสร้างในตำแหน่งของ PM เลย ผมก็เลยเข้ามาช่วย
พอผมรับตำแหน่ง PM (เงินเดือน 35,000 โดยทำประมาณราคาไปด้วยเพราะผมไม่ชอบให้ไครมายุ่งกับตัวเลขเพราะมันเป็นเรื่องละเอียด) แล้วเจ้าของบริษัทผมไล่โฟร์แมนออกทุกคนเลยเพราะผมจับโกงได้หมดทุกคนและให้เหตุผลว่า ถ้าผมอยู่ดี ๆ มารับตำแหน่งเลยจะไม่มีไครเชื่อฟังและคุมคนไม่ได้ (ซึ่งมันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ เพราะผมอายุน้อยด้วย) ทำให้ผมมีคนในทีมแค่คนขับรถ ในเดือนนั้นผมต้องวิ่งเคลียทั้งหมด 4 ไซท์งานคนเดียว (แต่ละไซท์มีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านถึงไซท์ต่ำสุด 9 แสน ) หาคนงานเองไปลงหน้างาน สั่งของเอง เอาช่างเข้าหน้างานเอง ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง ตี 2 เป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่งที่ทำงานเหนื่อยมาก แต่ก็เคลียได้จบทุกไซท์ ผมจึงรับโฟร์แมนเข้ามาแค่คนเดียวเพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยผมจึงไม่อยากรับเข้ามาเพื่อเพิ่มต้นทุน หน้าที่ในตอนนี้คือ ควบคุมหน้างาน หาช่าง สั่งของ เขียนสัญญา ทำเอกสาร แก้ไขปัญหาหน้างาน ดูเรื่องกฏหมาย ประมาณราคา
พอมาในตอนนี้ผมเหลือแค่ไซท์เดียว ผมคุมด้านฝ่ายก่อสร้างได้สมบูรณ์แล้ว โดยทำผลกำไรเพิ่มเติมนอกจากต้นทุนได้ 200,000 ( จากราคาทุน500,000 ในงวดงานที่ 3 ) ในไซท์งานที่ทำอยู่ ทาง MD ก็เลยขอให้ผมไปคุมฝ่ายขายและฝ่ายแบบด้วย ผมก็เข้าไปช่วยแต่มาพบว่าผมไม่สามารถคุมคนของฝ่ายอื่นได้เลย พวกเค้าไม่ฟังผม และเถียงผมกลับมา เล่นเกมในเวลางานต่าง ๆ ทั้งๆที่งานของฝ่ายแบบมันล้น แต่เค้าก็บอกกันว่าต้องการเวลาพักด้วย แต่ผมมองว่าในภาวะที่ฝ่ายกำลังมีปัญหางานล้นอยู่ก็ควรลุยงานก่อนเพื่อเคลียงานออกไป แต่กลายเป็นพวกเค้าไม่สนถึงผลประโยชน์ของบริษัทเลยต้องการแค่ทำงานกินเงินเดือนไปวัน ๆ และพูดกับผมว่า (คนในบริษัท : กูรู้นะว่าตอนนี้ภาวะความรับผิดชอบสูงมาก ทำหลายหน้าที่ ควบคุมฝ่ายก่อสร้าง ประเมิณราคา หาผู้รับเหมาหรือวัสดุที่ต้นทุนถูกกว่าเดิม ดูแลเรื่องกฏหมาย และดูแลภาพรวมของบริษัท แต่อย่าเอางานของมาให้กู กูอยากทำแค่ในหน้าที่ ) ผมก็ยอมรับในความคิดของเค้า แต่ผมยินดีทำเพราะหน้าที่ของผมคือทำกำไรให้บริษัท แต่ตอนนี้มันมีปัญหาตรงที่พวกเค้าไม่ทำหน้าที่ของเค้าให้สมบูรณ์ ทำแบบช้าจนลูกค้าหลุด ทำแบบเสร็จเขียน MEMO มาไม่ครบทำให้ผมทำราคาไม่ได้ทำไปราคาก็หลุด จนผมตอนนี้ต้องมาเขียนแบบขยายเองเพื่อประมาณราคาให้ได้งาน ต้องวิ่งไปเลือกวัสดุเองทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของฝ่ายแบบ ผมเหนื่อยกายผมไม่ห่วง แต่พวกเค้าทำให้ผมจิตตกด้วยความคิดลบ ๆ ที่ด่าทอบริษัท พอไม่ได้งานก็โทษว่าเพราะบริษัทเก็บกำไรแพงเกินไป โดยไม่มองเลยว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนมันเท่าใหร่
ตอนนี้ผมเครียดมากครับ ผมไปปรึกษาเจ้าของบริษัท เค้าเลยบอกว่าจะแต่งตั้งให้ผมเป็น GM คุมทุกฝ่ายเลย แต่ผมรู้ดีว่าผมไม่สามารถคุมพวกนี้ได้เลยเพราะทัศนคติเค้าติดลบมาก ถ้าผมเป็นแค่ PM ผมคุมฝ่ายของผมได้สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ในฝ่ายอื่น ๆ ผมควบคุมไม่ได้เลย ไม่มีไครสนใจที่จะช่วยบริษัท ผมจะทำยังไงดีครับที่จะทำให้บริษัทมันโตขึ้น ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ให้ตายบริษัทก็ไม่โต ตอนนี้ทาง MD(เจ้าของบริษัท) ก็เข้ามาในบริษัทน้อยลงมากแล้ว สัปดาห์ละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้ง
ในตอนนี้ผมมี 3 ทางเลือก
1.คือขึ้นเป็น GM เลย แต่ผมก็รู้ว่าตัวผมคุมฝ่ายขายกับฝ่ายแบบไม่ได้เลย ผมรู้ตัวว่าถ้าไม่เปลี่ยนคนก็คงทำอะไรให้ดีขึ้นไม่ได้
2.ตัดสินใจเป็น PM ต่อโดยไม่ยุ่งกับฝ่ายอื่น ผมก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีงานเข้ามาจากฝ่ายอื่น ผมก็ทนไม่ได้เพราะผมทำผลกำไรให้บริษัทำไม่ได้ ผมไม่ชอบที่ทุกคนในบริษัททัศนคติไม่ดี
3.ตัดสินใจลาออก ไปหางานที่อื่นแต่ผมด้วยความที่อายุ 23 ด้วยสายงานด้วยผมก็คงได้เงินไม่เกิน 30,000 อยู่ดี
ปล.ตอนนี้ผมทำงานถึง 4 - 5 ทุ่ม ทุกวันแต่ OT ของผมได้แค่ 1 คือไม่ได้คูณด้วย 1.5 ตอนปีใหม่ผมก็ทำงานตั้งแต่วันที่ 1 มกรา แต่ผมไม่เอา OT ช่วงวันหยุดปีใหม่เพราะผมอยากช่วยบริษัท ผมรู้อยู่แล้วทำงานในช่วงปีใหม่ค่า OT มันสูง ผมไม่ได้ห่วงเรื่องเงิน OT เลย แต่ตอนนี้สุขภาพจิตของผมมันแย่ลงจากที่ผมเป็นคนขยันมาก ๆ แต่งานมันต้องมาชะงักด้วยฝ่ายอื่นที่ทำงานชุ่ย ผมต้องทำยังไงดีครับ ที่ทำกำไรให้บริษัทได้ แล้วผมก็ไม่คิดจะกลับไปทำของที่บ้านต่อครับ ผมอยากหางานด้วยตัวเอง