👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Jhol - โจฮ์ล
🍴 Indian - อาหารอินเดีย
🎗 [Intro] รีวิวฉบับนี้ขอเล่าถึง Jhol ห้องอาหารอินเดียน้องใหม่ที่เราประทับใจมากจนต้องรีบกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้ตามไปทานกัน แม้ชื่อร้านจะเป็นคำที่ชาวมุมใบใช้เรียกขานถึงความชั่วร้าย แต่อาหารของที่นี่กลับถูกปรับสูตรมาอย่างดีจนสามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาเป็นอาหารจานหรูได้อย่างน่าประหลาดใจ
🎗 [The Place] ตัวร้านตั้งอยู่ในสุขุมวิทซอย 18 มองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นอาคารสีขาวขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งโซนเอาดอร์สำหรับรับลมสบายๆในวันที่อากาศเป็นใจ เดินผ่านประตูเข้าไปจะพบกับบริเวณบาร์สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มให้กับลูกค้า ห้องทานอาหารหลักถูกตกแต่งแบบร่วมสมัยโดยผสมผสานศิลปะท้องถิ่นของอินเดียเข้ากับบรรยากาศง่ายๆสไตล์ Casual Dining สังเกตได้จากการใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ให้สีโทนน้ำตาลดูอบอุ่นสบายตา บนผนังมีการจัดแสดงรูปวาดของนักภูมิศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Pierre Duval แสดงถึงแผนที่คาบสมุทรอินเดียในช่วงปี 1607 สุดท้ายหากสังเกตให้ดีจะพบรูปปั้นของพระพิฆเนศที่วางอยู่บริเวณมุมหนึ่งของร้านอีกด้วย
🎗 [The Chef] เชฟเจ้าของร้าน Hari Nayak เกิดที่เมือง Udupi ประเทศอินเดีย หลังจากเรียนจบจากสถาบันอาหารระดับโลกอย่าง Culinary Institure of America ด้วยคะแนนระดับท็อปในปี 1998 เชฟได้มีโอกาสร่วมงานกับเชฟระดับโลกมาแล้วมากมายเช่น Daniel Boulud (Boulud - 3 Michelin Stars ในขณะนั้น), Marcus Samuelson (Aquavit - 2 Michelin Stars) และ Albert Adrià (elBulli - 3 Michelin Stars ในขณะนั้น) ก่อนที่จะเปิด Patisserie เป็นของตัวเองขึ้นที่ Princeton รัฐ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเชฟ Hari Nayak มีงานเขียนระดับ Best Seller มากถึง 7 เล่มจนอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเชฟชาวอินเดียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุคเลยก็ว่าได้
🎗 [The Food] อาหารที่นี่นำเสนอออกมาในรูปแบบ Modern Coastal Indian Cuisine โดยรวบรวมเมนูพื้นบ้านจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียแถบบ้านเกิดของเชฟมายกระดับให้ดูทันสมัยและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ปัจจุบันทางร้านได้จัดเมนูเป็นแบบ À La Carte ให้เพื่อนๆได้เลือกทานกันตามใจชอบ โดยเราขอยกจานที่ทำออกมาได้โดดเด่นจนเป็นที่น่าประทับใจมาเล่าตรงนี้สัก 2-3 อย่าง
✨ Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
มาที่ร้านโจฮ์ลห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะสั่ง “ขนมปังมาซาล่ามัสก้า” มาลองกันโดยขนมปังหน้าตาคล้ายรังผึ้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Iyengar Bakeries ร้านขนมปังและเบเกอรี่ชื่อดังอายุกว่า 120 ปีที่เปรียบเสมือนหัวใจของ Bengaluru เพียงใช้มือสัมผัสเพื่อนๆสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มและฟูของขนมปังอย่างชัดเจน แนะนำให้ฉีกออกเป็นชิ้นแล้วทาด้วย Pav Baji Butter โดย Pav Baji คือเครื่องแกงชนิดหนึ่งประกอบไปด้วยผักต่างๆและมาซาล่าปั่นรวมกันกับเนยแล้วตีขึ้นรูปเสิร์ฟมาข้างกันมีกลิ่นหอมเด่นเป็นเอกลักษณ์ สุดยอดมากๆ (14/20)
✨ Jackfruit Kofta (390++)
Crumbled paneer, tomato masala, fennel
จานที่ดีที่สุดในมื้อนี้ขอยกให้กับ “โคฟต้า” แกงเผ็ดพื้นเมืองที่นิยมกันแพร่หลายทั้งในประเทศอินเดียและประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ซอสแกงด้านล่างทำมาจากมะเขือเทศมาซาล่าให้รสชาติเปรี้ยวหวานอุมามิ ลูกกลมๆตรงกลางทำมาจากพาเนียหรือคอทเทจชีสสไตล์อินเดียชุบขนมปังแล้วทอดจนกรอบ ด้านในสอดไส้ด้วยคอทเทจชีสและขนุนอ่อนให้ความกรอบและรสหวานที่ลงตัว ถือเป็นจาน Vegetarian ที่เชฟ Hari ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่ง (15/20)
✨ Tender Coconut Kheer (290++)
Ice cream, passion fruit
เมนูอันดับหนึ่งของจานของหวานต้องยกให้กับ “คีร์มะพร้าว” องค์ประกอบด้านล่างทำมาจากข้าวเสิร์ฟให้ทานคู่กับไอศกรีมนมให้ความหอมมันลงตัว ฝั่งซ้ายคือเจลลี่เสารสช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวและความเป็นกรดเบาๆให้กับจาน ตักทุกองค์ประกอบพร้อมกันเพื่อให้รสรสชาติที่ดีที่สุด (15/20)
🎗 [Conclusion] หากจะให้สรุปสั้นๆเราขอการันตีเลยว่า Jhol ถือเป็นห้องอาหารอินเดียที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เชฟ Hari Nayak ได้รังสรรค์เมนูต่างๆโดยรักษาสมดุลระหว่างรสชาติแบบดั้งเดิมกับเทคนิคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ราคาอาหารถือว่าคุ้มค่ามากๆเทียบกับรสชาติที่ได้รับ พนักงานทุกคนบริการอย่างเป็นกันเองและสามารถตอบรายละเอียดของอาหารแต่ละจานได้เป็นอย่างดี สำหรับเพื่อนๆที่มีใจรักอาหารอินเดียรวมไปถึงอาหารสไตล์ Modern เราขอแนะนำเป็นอย่างมากให้ลองตามไปทานกัน รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
📃 À La Carte
Amuse Bouche
Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
Stuffed Chicken Wings (420++)
Kundapur sukka, red chili dressing
Spicy Prawn Koliwada (470++)
Red chili, curd rice, rice crisp
Jackfruit Kofta (390++)
Crumbled paneer, tomato masala, fennel
Ghee Roast Chicken (520++)
Kundapur red masala, crispy cone dosa
Pork Belly Vindaloo (550++)
Goan chili garlic sauce, neer dosa
Mysore Chicken Biryani (520++)
Fragrant short grain rice, green masala
Gunpowder Naan (120++)
Home made butter, garlic chutney pudi
Kulcha (120++)
Bird chili, cheese
Mango Kulfi (290++)
Kaffir lime cream, fennel
Tender Coconut Kheer (290++)
Ice cream, passion fruit
Baby Banana (290++)
Filter kaapi ice cream
🏵 Score:
👍 ร้านอาหารอินเดียของเชฟระดับโลกที่สามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาเป็นอาหารจานหรู รสชาติดีงาม ราคาเข้าถึงง่าย
อาหาร : 14/20
ราคา : 🌟🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
อัตลักษณ์ : 🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
📍 Visit: Jan 2020
🏠 Location: 7/2 Sukhumvit Soi 18, Sukhumvit Road, Klongtoey Bangkok 10110 Thailand
🚗 Parking: จอดหน้าร้าน
🕛 Operating Time: 12.00-21.00 (เวลาทำการปัจจุบันเดือนมกราคม)
💰 Price: 800-1,500 THB/p
📞 Tel: 02-004-7174
🧥 Dress Code: Casual
🖥 Website:
https://www.jholrestaurant.com
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “Pakiin by ตามล่า Fine Dining”
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”:
https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
👍 Instagram: finedining_lovers
#jholbkk #coastalindiancuisine #Indian #IndianFood #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
🇹🇭 Jhol - โจฮ์ล
🍴 Indian - อาหารอินเดีย
รีวิวฉบับนี้ขอเล่าถึง Jhol ห้องอาหารอินเดียน้องใหม่ที่เราประทับใจมากจนต้องรีบกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้ตามไปทานกัน
Amuse Bouche
ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารพนักงานจะนำเสิร์ฟ “อมูสบูช” ให้ทานเล่นกันก่อน ในภาพคือข้าวเกรียบกรอบทอปด้านบนด้วยสับปะรดและโยเกิร์ตให้รสออกเปรี้ยวอมหวาน มีความหอมมัน ช่วยเรียกความสดชื่นและความอยากอาหารได้อย่างดี (13/20)
Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
มาที่ร้านโจฮ์ลห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะสั่ง “ขนมปังมาซาล่ามัสก้า” มาลองกันโดยขนมปังหน้าตาคล้ายรังผึ้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Iyengar Bakeries ร้านขนมปังและเบเกอรี่ชื่อดังอายุกว่า 120 ปีที่เปรียบเสมือนหัวใจของเมือง Bengaluru สำหรับเวอร์ชั่นของร้าน Jhol เชฟได้ใส่อีกหนึ่งองค์ประกอบอย่างมันฝรั่งลงไปด้วย เพียงใช้มือสัมผัสเพื่อนๆสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มและฟูของขนมปังอย่างชัดเจน แนะนำให้ฉีกออกเป็นชิ้นแล้วทาด้วย Pav Baji Butter โดย Pav Baji คือเครื่องแกงชนิดหนึ่งประกอบไปด้วยผักต่างๆและมาซาล่าปั่นรวมกันกับเนยแล้วตีขึ้นรูปเสิร์ฟมาข้างกันมีกลิ่นหอมเด่นเป็นเอกลักษณ์ สุดยอดมากๆ (14/20)
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
“ปานิ ปุริ” เป็นอาหารทานเล่นยอมนิยมที่พยได้ทั่วไปตามร้านริมทางในประเทศอินเดีย เชฟทำ Puri หรือแฟลตเบรคออกมาเป็นทรงกลมกรอบๆ ด้านในมี Mashed avocado สีเขียว ด้านบนคือมันแกวที่ฝานเป็นเส้นบางๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Imli Pani ที่ดัดแปลงมาใช้น้ำเสาวรสแทนที่น้ำมะขามแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีส่วนผสมของขิงและมาซาล่าอีกด้วย (13/20)
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
วิธีทานให้เติมน้ำเสาวรสลงไปในแฟลตเบรดทรงกลม ตอนทานจะได้ความครีมมี่ของอโวคาโดแมช ได้ความกรอบสองระดับที่แตกต่างกันจากมันแกวและขนมปัง รสชาติน้ำซอสอมเปรี้ยวนิดๆ มีกลิ่นขิงและมาซาล่าพอเหมาะ ถือเป็นเมนูพื้นบ้านที่เชฟยกระดับขึ้นมาให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น (13/20)
Stuffed Chicken Wings (420++)
Kundapur sukka, red chili dressing
“กุนดาปู ซุกก้า” เมนูปีกไก่ยัดไส้ที่เชฟใช้เทคนิคในการดึงกระดูกไก่ออกมา จากนั้นนำเนื้อไก่มาหมักกับมาซาล่าและเครื่องเทศก่อนที่จะยัดกลับเข้าไปในปีกไก่อีกครั้งหนึ่ง ลูกค้าจะได้ทานปีกไก่เนื้อนุ่ม หอม ที่สำคัญคือไม่มีกระดูก อย่าลืมตักเดรสซิ่งรสเด็ดที่ทำมาจากพริกแดงราดเข้าไปก่อนทานเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด (14/20)
Spicy Prawn Koliwada (470++)
Red chili, curd rice, rice crisp
จานนี้คือ “โคลิวาด้ากุ้ง” เมนูที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Sion และ Mumbai วิธีทานให้เริ่มจากสลัดทางฝั่งซ้ายมือก่อนช่วยเรียกความสดชื่น ส่วนอาหารจานหลักเชฟนำกุ้งไปผัดกับพริกแกงและมาซาล่าให้กลิ่นหอมและรสชาติจัดจ้านครบทั้งหวาน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดบาลานซ์กันได้สมดุล รองด้านล่างด้วย “เคิร์ดไรซ์” ทำมาจากข้าวผสมกับโยเกิร์ตมีอุณหภูมิเย็นกว่าด้านบนเล็กน้อย เมื่อทานพร้อมกันจะได้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันคือความแน่นของเนื้อกุ้งและความเบาของเคิร์ดไรซ์นั่นเอง (14/20)
ส่วนเมนคอร์สจะนำเสิร์ฟมาพร้อมกันหลายจานมากๆ
[CR] 🇹🇭 Jhol - โจฮ์ล อาหารอินเดียน้องใหม่ สุขุมวิท 18
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🎗 [Intro] รีวิวฉบับนี้ขอเล่าถึง Jhol ห้องอาหารอินเดียน้องใหม่ที่เราประทับใจมากจนต้องรีบกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้ตามไปทานกัน แม้ชื่อร้านจะเป็นคำที่ชาวมุมใบใช้เรียกขานถึงความชั่วร้าย แต่อาหารของที่นี่กลับถูกปรับสูตรมาอย่างดีจนสามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาเป็นอาหารจานหรูได้อย่างน่าประหลาดใจ
🎗 [The Place] ตัวร้านตั้งอยู่ในสุขุมวิทซอย 18 มองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นอาคารสีขาวขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งโซนเอาดอร์สำหรับรับลมสบายๆในวันที่อากาศเป็นใจ เดินผ่านประตูเข้าไปจะพบกับบริเวณบาร์สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มให้กับลูกค้า ห้องทานอาหารหลักถูกตกแต่งแบบร่วมสมัยโดยผสมผสานศิลปะท้องถิ่นของอินเดียเข้ากับบรรยากาศง่ายๆสไตล์ Casual Dining สังเกตได้จากการใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ให้สีโทนน้ำตาลดูอบอุ่นสบายตา บนผนังมีการจัดแสดงรูปวาดของนักภูมิศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Pierre Duval แสดงถึงแผนที่คาบสมุทรอินเดียในช่วงปี 1607 สุดท้ายหากสังเกตให้ดีจะพบรูปปั้นของพระพิฆเนศที่วางอยู่บริเวณมุมหนึ่งของร้านอีกด้วย
🎗 [The Chef] เชฟเจ้าของร้าน Hari Nayak เกิดที่เมือง Udupi ประเทศอินเดีย หลังจากเรียนจบจากสถาบันอาหารระดับโลกอย่าง Culinary Institure of America ด้วยคะแนนระดับท็อปในปี 1998 เชฟได้มีโอกาสร่วมงานกับเชฟระดับโลกมาแล้วมากมายเช่น Daniel Boulud (Boulud - 3 Michelin Stars ในขณะนั้น), Marcus Samuelson (Aquavit - 2 Michelin Stars) และ Albert Adrià (elBulli - 3 Michelin Stars ในขณะนั้น) ก่อนที่จะเปิด Patisserie เป็นของตัวเองขึ้นที่ Princeton รัฐ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเชฟ Hari Nayak มีงานเขียนระดับ Best Seller มากถึง 7 เล่มจนอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเชฟชาวอินเดียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุคเลยก็ว่าได้
🎗 [The Food] อาหารที่นี่นำเสนอออกมาในรูปแบบ Modern Coastal Indian Cuisine โดยรวบรวมเมนูพื้นบ้านจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียแถบบ้านเกิดของเชฟมายกระดับให้ดูทันสมัยและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ปัจจุบันทางร้านได้จัดเมนูเป็นแบบ À La Carte ให้เพื่อนๆได้เลือกทานกันตามใจชอบ โดยเราขอยกจานที่ทำออกมาได้โดดเด่นจนเป็นที่น่าประทับใจมาเล่าตรงนี้สัก 2-3 อย่าง
✨ Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
มาที่ร้านโจฮ์ลห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะสั่ง “ขนมปังมาซาล่ามัสก้า” มาลองกันโดยขนมปังหน้าตาคล้ายรังผึ้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Iyengar Bakeries ร้านขนมปังและเบเกอรี่ชื่อดังอายุกว่า 120 ปีที่เปรียบเสมือนหัวใจของ Bengaluru เพียงใช้มือสัมผัสเพื่อนๆสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มและฟูของขนมปังอย่างชัดเจน แนะนำให้ฉีกออกเป็นชิ้นแล้วทาด้วย Pav Baji Butter โดย Pav Baji คือเครื่องแกงชนิดหนึ่งประกอบไปด้วยผักต่างๆและมาซาล่าปั่นรวมกันกับเนยแล้วตีขึ้นรูปเสิร์ฟมาข้างกันมีกลิ่นหอมเด่นเป็นเอกลักษณ์ สุดยอดมากๆ (14/20)
✨ Jackfruit Kofta (390++)
Crumbled paneer, tomato masala, fennel
จานที่ดีที่สุดในมื้อนี้ขอยกให้กับ “โคฟต้า” แกงเผ็ดพื้นเมืองที่นิยมกันแพร่หลายทั้งในประเทศอินเดียและประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ซอสแกงด้านล่างทำมาจากมะเขือเทศมาซาล่าให้รสชาติเปรี้ยวหวานอุมามิ ลูกกลมๆตรงกลางทำมาจากพาเนียหรือคอทเทจชีสสไตล์อินเดียชุบขนมปังแล้วทอดจนกรอบ ด้านในสอดไส้ด้วยคอทเทจชีสและขนุนอ่อนให้ความกรอบและรสหวานที่ลงตัว ถือเป็นจาน Vegetarian ที่เชฟ Hari ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่ง (15/20)
✨ Tender Coconut Kheer (290++)
Ice cream, passion fruit
เมนูอันดับหนึ่งของจานของหวานต้องยกให้กับ “คีร์มะพร้าว” องค์ประกอบด้านล่างทำมาจากข้าวเสิร์ฟให้ทานคู่กับไอศกรีมนมให้ความหอมมันลงตัว ฝั่งซ้ายคือเจลลี่เสารสช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวและความเป็นกรดเบาๆให้กับจาน ตักทุกองค์ประกอบพร้อมกันเพื่อให้รสรสชาติที่ดีที่สุด (15/20)
🎗 [Conclusion] หากจะให้สรุปสั้นๆเราขอการันตีเลยว่า Jhol ถือเป็นห้องอาหารอินเดียที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เชฟ Hari Nayak ได้รังสรรค์เมนูต่างๆโดยรักษาสมดุลระหว่างรสชาติแบบดั้งเดิมกับเทคนิคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ราคาอาหารถือว่าคุ้มค่ามากๆเทียบกับรสชาติที่ได้รับ พนักงานทุกคนบริการอย่างเป็นกันเองและสามารถตอบรายละเอียดของอาหารแต่ละจานได้เป็นอย่างดี สำหรับเพื่อนๆที่มีใจรักอาหารอินเดียรวมไปถึงอาหารสไตล์ Modern เราขอแนะนำเป็นอย่างมากให้ลองตามไปทานกัน รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
📃 À La Carte
Amuse Bouche
Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
Stuffed Chicken Wings (420++)
Kundapur sukka, red chili dressing
Spicy Prawn Koliwada (470++)
Red chili, curd rice, rice crisp
Jackfruit Kofta (390++)
Crumbled paneer, tomato masala, fennel
Ghee Roast Chicken (520++)
Kundapur red masala, crispy cone dosa
Pork Belly Vindaloo (550++)
Goan chili garlic sauce, neer dosa
Mysore Chicken Biryani (520++)
Fragrant short grain rice, green masala
Gunpowder Naan (120++)
Home made butter, garlic chutney pudi
Kulcha (120++)
Bird chili, cheese
Mango Kulfi (290++)
Kaffir lime cream, fennel
Tender Coconut Kheer (290++)
Ice cream, passion fruit
Baby Banana (290++)
Filter kaapi ice cream
🏵 Score:
👍 ร้านอาหารอินเดียของเชฟระดับโลกที่สามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาเป็นอาหารจานหรู รสชาติดีงาม ราคาเข้าถึงง่าย
อาหาร : 14/20
ราคา : 🌟🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
อัตลักษณ์ : 🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
📍 Visit: Jan 2020
🏠 Location: 7/2 Sukhumvit Soi 18, Sukhumvit Road, Klongtoey Bangkok 10110 Thailand
🚗 Parking: จอดหน้าร้าน
🕛 Operating Time: 12.00-21.00 (เวลาทำการปัจจุบันเดือนมกราคม)
💰 Price: 800-1,500 THB/p
📞 Tel: 02-004-7174
🧥 Dress Code: Casual
🖥 Website: https://www.jholrestaurant.com
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “Pakiin by ตามล่า Fine Dining”
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”: https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
👍 Instagram: finedining_lovers
🍴 Indian - อาหารอินเดีย
ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารพนักงานจะนำเสิร์ฟ “อมูสบูช” ให้ทานเล่นกันก่อน ในภาพคือข้าวเกรียบกรอบทอปด้านบนด้วยสับปะรดและโยเกิร์ตให้รสออกเปรี้ยวอมหวาน มีความหอมมัน ช่วยเรียกความสดชื่นและความอยากอาหารได้อย่างดี (13/20)
Masala Maska Bun (190++)
Pav baji butter
มาที่ร้านโจฮ์ลห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะสั่ง “ขนมปังมาซาล่ามัสก้า” มาลองกันโดยขนมปังหน้าตาคล้ายรังผึ้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Iyengar Bakeries ร้านขนมปังและเบเกอรี่ชื่อดังอายุกว่า 120 ปีที่เปรียบเสมือนหัวใจของเมือง Bengaluru สำหรับเวอร์ชั่นของร้าน Jhol เชฟได้ใส่อีกหนึ่งองค์ประกอบอย่างมันฝรั่งลงไปด้วย เพียงใช้มือสัมผัสเพื่อนๆสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มและฟูของขนมปังอย่างชัดเจน แนะนำให้ฉีกออกเป็นชิ้นแล้วทาด้วย Pav Baji Butter โดย Pav Baji คือเครื่องแกงชนิดหนึ่งประกอบไปด้วยผักต่างๆและมาซาล่าปั่นรวมกันกับเนยแล้วตีขึ้นรูปเสิร์ฟมาข้างกันมีกลิ่นหอมเด่นเป็นเอกลักษณ์ สุดยอดมากๆ (14/20)
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
“ปานิ ปุริ” เป็นอาหารทานเล่นยอมนิยมที่พยได้ทั่วไปตามร้านริมทางในประเทศอินเดีย เชฟทำ Puri หรือแฟลตเบรคออกมาเป็นทรงกลมกรอบๆ ด้านในมี Mashed avocado สีเขียว ด้านบนคือมันแกวที่ฝานเป็นเส้นบางๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Imli Pani ที่ดัดแปลงมาใช้น้ำเสาวรสแทนที่น้ำมะขามแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีส่วนผสมของขิงและมาซาล่าอีกด้วย (13/20)
Pani Puri (290++)
Passion fruit, avocado, jicama
วิธีทานให้เติมน้ำเสาวรสลงไปในแฟลตเบรดทรงกลม ตอนทานจะได้ความครีมมี่ของอโวคาโดแมช ได้ความกรอบสองระดับที่แตกต่างกันจากมันแกวและขนมปัง รสชาติน้ำซอสอมเปรี้ยวนิดๆ มีกลิ่นขิงและมาซาล่าพอเหมาะ ถือเป็นเมนูพื้นบ้านที่เชฟยกระดับขึ้นมาให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น (13/20)
Stuffed Chicken Wings (420++)
Kundapur sukka, red chili dressing
“กุนดาปู ซุกก้า” เมนูปีกไก่ยัดไส้ที่เชฟใช้เทคนิคในการดึงกระดูกไก่ออกมา จากนั้นนำเนื้อไก่มาหมักกับมาซาล่าและเครื่องเทศก่อนที่จะยัดกลับเข้าไปในปีกไก่อีกครั้งหนึ่ง ลูกค้าจะได้ทานปีกไก่เนื้อนุ่ม หอม ที่สำคัญคือไม่มีกระดูก อย่าลืมตักเดรสซิ่งรสเด็ดที่ทำมาจากพริกแดงราดเข้าไปก่อนทานเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด (14/20)
Spicy Prawn Koliwada (470++)
Red chili, curd rice, rice crisp
จานนี้คือ “โคลิวาด้ากุ้ง” เมนูที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Sion และ Mumbai วิธีทานให้เริ่มจากสลัดทางฝั่งซ้ายมือก่อนช่วยเรียกความสดชื่น ส่วนอาหารจานหลักเชฟนำกุ้งไปผัดกับพริกแกงและมาซาล่าให้กลิ่นหอมและรสชาติจัดจ้านครบทั้งหวาน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดบาลานซ์กันได้สมดุล รองด้านล่างด้วย “เคิร์ดไรซ์” ทำมาจากข้าวผสมกับโยเกิร์ตมีอุณหภูมิเย็นกว่าด้านบนเล็กน้อย เมื่อทานพร้อมกันจะได้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันคือความแน่นของเนื้อกุ้งและความเบาของเคิร์ดไรซ์นั่นเอง (14/20)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้