เรื่องสั้น ดึงดัน!

กระทู้สนทนา

ดึงดัน





“ฮึ้บ !!” 
 
เหมือนจะเป็นแรงออกเสียงครั้งสุดท้ายเท่าที่จะมีแรงเหลือพอที่จะทำได้ในเวลานี้
 
ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
 
เหนื่อย!!
 
หมดแรง!!  
 
เหงื่อไหลท่วมจนเสื้อเปียกเหมือนโดนราดด้วยน้ำจนชุ่มไปหมดทั้งตัว
 
แต่ก็ยังแข็งใจยืนเอนตัวย่อร่าง ดันร่างชายที่ยืนตรงหน้ากับอีกคนที่อยู่ด้านหลังออกไปจนสุดแรงอีกครั้ง 
 
ก่อนหมดแรง เสียงสุดท้ายดังขึ้นและล้มลง 
 
เมื่อคืนที่ผ่านมา
 
ร่างสามร่างนั่งในมุมที่แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็น 
 
เสียงพูดคุยกัน บรรยากาศเงียบเชียบในยามค่ำเข้ากับบทสนทนา
 
“มันจะไหวเหรอว่ะ?” เสียงแรกถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล
 
“จะให้ทำยังไงล่ะ ในเมื่อครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เราไม่มีทางเลือก”    ดิน เจ้าของเสียงที่สองเอ่ยตอบขึ้นมา
 
“ไอ้ลมล่ะ เอ็งคิดยังไง ?” เสียงแรกขอความคิดเห็นเพิ่มจาก น้ำ  พูดถามขึ้นมาอีกครั้ง
 
“ข้าก็คิดเหมือนไอ้ดินมัน เราไม่มีทางเลือกจริงๆ “ ลม ตอบมาด้วยน้ำเสียงเห็นด้วยอย่างจำเป็น
 
“เอาไงก็เอากัน หวังว่าสิ่งที่พวกเราคิดมันจะสำเร็จและเป็นทางออกที่ถูกต้องเหมือนกับแผนที่เราหวังไว้จริงๆ “
เสียงดินสรุปให้

คิดอย่าให้เป็นอย่างอื่นเลย คิดปลอบใจตัวเองในใจและเพื่อนฝูงด้วยความกังวล
 
เสร็จแล้วลุกส่งสัญญาณออกเร้นกายออกไปพร้อมๆกัน 
เงาร่างทั้งสามขนาดไล่เลี่ยกันเคลื่อนที่ไปอย่างเชื่องช้าแบบระมัดระวัง
 
 

ก่อนหน้านี้ ชีวิตตามปกติของทั้งสามมีกิจวัตรที่ธรรมดา
 
จนเมื่อวันหนึ่งระหว่างที่นั่งคุยเล่นรวมกันอยู่ตามประสาเพื่อนสนิท  
 
ใช้ชีวิตตั้งแต่เข้ามา เท่าที่พอจำได้ก็อยู่พร้อมหน้ากันมาตลอด 
อาจด้วยลักษณะนิสัย  รูปร่างใกล้เคียงกันหรือมีเหตุบังเอิญอะไรก็ตามที
 
ทำให้มาอยู่ในหน่วยงานเดียวกันอีก ชื่อก็ดันมาสัมพันธ์คล้องกันยังกับนัดกันมา
 
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ทุกคนพบเจอ  ดิน น้ำ ลม จึงอยู่ด้วยกันเสมอ 
เหมือนเป็นเงาตามตัวของกันและกันอย่างแยกไม่ได้
 

“ดิน น้ำ ลม ให้ไปที่ห้อง ผอ. ด่วน “ เสียงของชายคนหนึ่งซึ่งมายืนอยู่ข้างหลังเรียกขึ้น
 
“ครับ” เสียงสามเสียงรับแทบจะพร้อมกัน ลุกขึ้นตัวตรง 
ยืนทำความเคารพแล้วเดินออกไปยังห้องผู้อำนวยการทันที
 
“ขออนุญาตครับ “ ทั้งสามยืนอยู่หน้าห้องพร้อมส่งเสียง 
 
“เข้ามาได้” เสียงตอบรับออกมาจากข้างใน
 
ทั้งสามเดินเรียงแถวเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ ทำความเคารพ แล้วยืนรอ 
 
ชายในชุดซาฟารีวัยเลยกลางคนท่าทางสุขุม 
 
แต่งตัวเรียบร้อยตามแบบข้าราชการอย่างไม่ต้องสงสัย นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
 
“ ทางเรามีภารกิจสุดท้ายที่ต้องการสามคนไปปฏิบัติ” เอ่ยมาไม่ต้องรอให้ถาม
 
“ผมเห็นว่าคุณสมบัติพวกคุณทั้งสามคนใกล้เคียงกับคนอื่น แต่ที่สำคัญคือ ต้องรู้ใจกัน 
และบางครั้งถ้าจำเป็น ต้องเสียสละอย่างที่สุด เข้าใจใช่ไหมว่าผมหมายถึงอะไร?” 
 
คำสั่งเด็ดขาด เรียบร้อย ชัดเจน เป็นแบบแผนที่ปฏิบัติกันมาช้านาน
 
จนกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในการจัดอันดับต้นๆ
ของหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในการทำภารกิจลักษณะนี้
ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับประเทศมาแล้ว
 
“ครับผม “ รับแทบจะพร้อมกันโดยไม่ต้องรอ และไม่จำเป็นต้องถามอีก
 

สิ่งที่หล่อหลอมพวกเขามาให้ได้จนถึงทุกวันนี้  
ก็เพื่อที่จะรอเตรียมพร้อมในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน

และวันนี้มันก็มาถึงเร็วกว่าที่คิด 
ซึ่งพวกเขาก็เตรียมตัวเตรียมใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาในนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
 

“ก่อนไป จะมีครูฝึกเข้าไปช่วยฝึกและแนะนำก่อนปฏิบัติการจริง ขอให้พวกเธอจงโชคดี” 
 
เหมือนเป็นคำอวยพรแต่มีเค้าลางว่าเหมือนจะเป็นคำสั่งสุดท้าย แต่ก็ตีความหมายไม่ออก 
 
ด้วยเสียงเรียบเฉยตามแบบผู้นำองค์กรที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี
 
 

ดึงดัน
“เอาใหม่!!! “ ไม่รู้เป็นครั้งที่สิบ ครั้งที่ร้อย สองร้อย หรือเท่าไรกันแน่ ที่สามร่างออกแรงใช้พลังจนสุดตัว
ร่างกายที่ร้อนระอุ เหงื่อโทรมกาย จนแทบจะยืนต่อไม่ไหว แต่ก็ยังต้องทนต่อคำสั่งต่อไป
 

ซ้ำแลว ซ้ำเล่า  ซ้ำแล้ว  ซ้ำเล่า
 

ดึงดัน ดึงดัน  ก็รู้อยู่ ว่าไม่ไหวแน่ๆ แต่ทำไมต้องดื้อด้านดิ้นรนขนาดนี้ 
จะทำไปเพื่ออะไร 
 

ตามธรรมชาติ 
แม้จะรู้ว่าปลายทางมืดมิดจนแทบจะมองไม่เห็นหนทาง 
แต่เพื่อชีวิต เพื่อความอยู่รอดก็ต้องสู้ต่อไป
ทำต่อไป
 

จนกว่าจะไม่มีแรงแม้กระทั่งหายใจนั่นแหละ ถึงจะต้องหยุดลง
แต่นี่ ถ้ามันไม่หนักหนาขนาดเกินกว่าที่คิดไว้  
คาดว่าอยากจะมีโอกาสได้ไปต่ออีกสักนิดก็ยังดี
 
 
แต่ตอนนี้ อยากจะหายใจที่แม้แต่จะสูดลมหายใจเข้าไปยังแทบไม่มีแรง
จนเมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็ล้มกองลงไปทั้งสามคน  หายใจถี่หอบระรัว
 

ด้วยความรู้ใจแบบไม่ต้องถาม นอนหอบและพลิกหน้าหันมามองกัน 
ยิ้มก็ยิ้มไม่ออก 
ร้องไห้ก็ร้องไม่ได้ 
 
แทบจนจะกล่าวได้ว่า แม้แต่แรงที่จะใช้คิดก็ยังไม่ไหว
 
ห้วงความคิดที่เสมือนเป็นเพื่อนตายแค่มองตาก็เหมือนรู้ใจกันว่า
จะไหวไหมว่ะพวกเรา 
ถ้างานนี้ไม่สำเร็จ ที่ฝึกมาก็สูญเปล่า 
มันรวมไปถึงชีวิตพวกเราด้วยไหม 
 

ใครจะตอบให้รู้ได้?
 
 
“วันนี้พอแค่นี้ จบหลักสูตร พรุ่งนี้พักเก็บของ เตรียมชุด ออกเดินทางวันมะรืน” สิ้นเสียงครูฝึก 
ตามด้วยเสียงฝีเท้าก็เดินออกไป ทั้งสามนอนนิ่งไม่มีแม้แต่แรงเพียงพอที่จะมองตามไป
 
ทิ้งร่างทั้งสามให้นอนมองท้องฟ้าคิดว่า 
หลังจากวันพรุ่งนี้แล้ว 
จะมีโอกาสกลับมานอนมองท้องฟ้าด้วยกันอีกไหม ใครจะรู้?
 
 

วันนี้

รู้สึกตัวอีกครั้ง ร่างทั้งสาม ก็มาอยู่พร้อมกันที่ทางออกสุดท้ายในภารกิจ
 
งานครั้งสุดท้าย มาถึงทางออกเพียงทางเดียว 
 
เพราะหลังจากรับทราบข้อมูลที่ได้รับมาและทำงานอื่นได้เรียบร้อยหมดแล้ว
ทุกอย่างถูกต้องตามแผนที่วางมาทั้งหมด
 
จะต้องผ่านไปให้ได้ ไม่งั้นงานที่ทำมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด 
ถือว่าเป็นศูนย์
 
ทางออกที่มีเส้นแบ่งระหว่างฝ่ายเรากับฝ่ายตรงข้ามแค่เอื้อมมือ 
 
ถ้าผ่านไปได้
 
เราก็อาจจะมีหวังได้ไปต่อ 
เพื่อหวังเพียงว่า 
จะมีใครมารอรับพวกเราอย่างที่นัดกันไว้หรือเปล่า?
 
 
โชคดีหรือไม่ดีกันแน่ !!!!

 
เช็คคร่าวๆ จำนวนสุดท้ายของเราและฝ่ายโน้นถ้าเดาไม่ผิด น่าจะไม่ต่างกันสักเท่าไร
 
ทางออกที่ไม่สามารถใช้เครื่องมืออื่นได้เพราะเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า 

กอปรกับ

หนึ่ง  มีระยะประชิดตัวกันเกินไป 
สอง  ถ้ามีการใช้เครื่องมือเพิ่มเติมอาจจะทำให้ส่วนสนับสนุนอื่นได้ยิน 

เข้ามากลุ้มรุมเราเพิ่มขึ้นมาอีกก็เป็นได้
 
ที่จะใช้คือได้ 
 
ใช้แรง 
 
มาประจันหน้ากันในทางออกสุดท้ายเพื่อปิดภารกิจ
มันก็มาขวางไว้ตรงหน้าแค่นี้เอง    
 โธ่ !!!
 
เข้าปะทะ

ดึงดัน
ดึงดัน 
ดึงดัน

ออกแรงไปสิ 

อีกนิดเดียววววววว  
เสียงร้องตะโกนออกแรงในใจ
 
ใกล้จะถึงทางออกแล้ว
 
 
ให้ผ่านออกไปได้แค่อย่างเดียว
ใครจะหาว่าไม่มีทางหรอก  
ทำไม?  ทำทำไม?
ไม่รอดหรอก อย่าสู้ต่อเลย
ปล่อยร่างกายและลมหายใจสุดท้ายไว้ตรงนี้แหละ 
 
แต่ “ฮึ้บ!!”  สุดท้าย “คืบเดียวววววววววววว”

 เสียงทั้งสามพร้อมใจกันด้วยใจเป็นหนึ่งเดียวกันมาตลอดตะเบ็งเสียงออกมา
 

เปล่งเสียงแทบจะเป็นแรงสุดท้ายที่ออกมาได้ 
เพราะหลังจากนี้ก็ฝากไว้กับชะตาชีวิตที่เหลือก็แล้วกัน
 
 
ออกแรงจนสุดตัวเท่าที่จะมีแรงเหลือให้ใช้
 

ปู้ด!!!   

เสียง ลมของเจ้าลม ปล่อยออกมาทำลายความเงียบเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมด
 
ให้เกิดช่องว่างเหมือน DEAD AIR  แต่ไม่มีการวัดค่า Air Pollution
  
มองออกไปเห็นฝ่ายตรงข้ามตะลึงไปชั่วขณะ!!!!
 
 
เหมือนรู้ใจทั้งสามออกแรงจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังตกใจ 
งงงัน     สับสน
 
หรือจนปัญญาที่จะคิดแทนได้เพราะไม่อยากไปสัมผัสใกล้ๆเพราะกลัวกลิ่นเข้าจมูก
 
ออกแรงพร้อมกันอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามก็เสียหลักหน้าคะมำเข้ามา
 
สามสหายใจเดียว 
เสี้ยวนาทีนี้
ด้วยความรู้ใจ 
ออกแรงซ้ำ 
กระชากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาเพิ่มจากอาการที่กำลังเซอยู่ทันที
 
จะปล่อยให้โอกาสนี้ที่เกิดเพียง .25 นาโนเซคัน หลุดลอยไปอย่างไม่ได้
ภาพคือฝ่ายตรงข้ามทั้งสามล้มกลิ้งลงอย่างไม่เป็นท่า 
 
แล้วเสียงสัญญาณที่นัดหมายก็ดังขึ้นทันที 

ราวกับรอดู สังเกตุการณ์มานาน แต่ไม่สามารถแสดงตัวออกมาได้
 

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 
เสียงสัญญาณนกหวีดดังขึ้นแล้ว
 
เสียงที่รอมานาน
 
ทำได้แล้วววววววววว

 
แทบจะไม่เหลือแม้แต่แรงจะคิดต่อ
จะได้กลับไปเสียที   เราทำได้ 
เสียงที่รอคอยและนัดหมายไว้ว่าจะมารับ  
ถ้าทำได้ 
เสียงนี้แหละจะดังขึ้นมา
 
 
แต่ ………….

ไม่มีการเคลื่อนไหว
ก้าวเท้าไม่ออก
 
 
ฉับพลับ
 
 
ทันใดนั้น
สามสหายเกิดนิ่งงัน 

เกิดอะไรขึ้น !!!!
 
 
จู่ๆทั้งสามก็ล้มลงไปทั้งหมดเช่นกัน
 
 
เสียงอื้ออึงเหมือนกลุ่มคนกำลังวิ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง
 
สุดท้ายร่างทั้งสามนอนนิ่ง 
 

หลับตา

รอโชคชะตาให้นำพาไปเถอะ
 
ไม่อยากแม้แต่จะหันไปมองว่า
เสียงของกลุ่มคนที่กำลังเข้ามาเป็นฝ่ายเราหรือฝ่ายไหนกันแน่
 

ปล่อยมันไป 
 

จะได้ไม่ต้องดึงดันอีกต่อไป
 
 
เริ่มเสียงได้ยินแว่วๆ  เมื่อพอจะมีสติกลับเข้ามาบ้าง
 
นอนนิ่งไม่อยากจะลืมตา ไม่อยากจะมารับรู้อะไรอีกแล้ว
 
เสียงลอยแว่วตามมาแต่ไกล

 
ทั้งหกหู  พยายามตั้งใจฟังด้วยสภาพร่างกายไร้เรี่ยวแรง 

ทำให้ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก 

ฟังดูเหมือนกับได้ความว่า.................

 
“ผลการแข่งขัน โรงเรียนอนุบาลหมีน้อย ชนะการแข่งชักเย่อสามคน รอบชิงชนะเลิศในปีนี้ อีกปีครับ”

 

ทั้งสามพลิกกายนอนหงาย 
ยิ้ม ลืมตามองท้องฟ้าที่ก้อนเมฆเปลี่ยนไปเป็นรูปร่างตามจินตนาการที่ล่องลอย

 
คิดถึงคำสัญญาของ ผอ. ว่าจะให้ขนมเค้กกับไก่ทอดในเย็นนี้ และอาจจะมีไอติมแถมมาอีกด้วย
 
 เลือกไม่ผิดจริงๆ ที่รับเจ้าลม มาเป็นไพ่ใบสุดท้ายของภารกิจในทีมนี้   เสียงในความคิดผุดขึ้นมา
 
เกิดรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ของ ผอ. โรงเรียนอนุบาลหมีน้อย 
 
แล้วค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวที เพื่อรับรางวัลในปีนี้อีกปี
 

คิดต่อไปว่า 

เย็นนี้ คงต้องกำชับบอกเจ้าลม 

ว่าไม่ต้องแสดงท่าไม้ตายให้ดูอีกครั้งแน่ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่