เมื่อนายจ้างกดดันให้เขียนใบลาออก ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะทำยังไงคะ

เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉัน ถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานตำแหน่ง Sale Manager ทั้งที่ดิฉันลงในเว็บสมัครงานไว้ว่าสนใจงานด้าน Marketing

บริษัทนี้ พยายามติดต่อดิฉันอยู่ครึ่งเดือน จนดิฉันตอบรับการไปสัมภาษณ์ แล้วพอไปสัมภาษณ์ก็ตกลงให้ดิฉันทำงานเป็น Marketing Manager ด้วยต้องการให้ดิฉันดูแลรับผิดชอบเรื่องวางแผนการตลาดและการออกบูธ จัดอีเว้นท์โปรโมทสินค้าของบริษัท ซึ่งบริษัทนี้มีผลิตภัณฑ์คือชุดปรับสรีระแบรนด์หนึ่ง ที่ราคาค่อนข้างสูง ชุดหนึ่งตกประมาณ 4-5 หมื่นบาท

ในวันสัมภาษณ์ ก็ให้อธิบายว่าดิฉันมีประสบการณ์ใดมาบ้าง ซึ่งดิฉันก็พูดถึงประสบการณ์ด้านการจัดอีเว้นท์ การออกบูธ การวางแผนการตลาด การรับผิดชอบโครงการภาครัฐ เป็นต้น และบริษัท ก็ตกลงว่าจ้าง ภายใต้ขอบเขตงานคือจัดทำแผนการตลาด ดิฉัน จึงตกลงเริ่มงานวันที่ 1 ธ.ค. 63

เมื่อเข้าไปเริ่มทำงานวันแรก บริษัท ให้ดิฉันทำความรู้จักชุด โดยให้ลองชุด พอวันที่ 2-3 ก็ให้ฟังเจ้าของบรรยายเกี่ยวกับชุด ดิฉันก็เข้าใจรายละเอียด พอประมาณวันที่ 5 ของการทำงาน ก็ให้ทำแบบทดสอบความเข้าใจ ซึ่งดิฉันก็ทำได้ผ่าน แต่ในวันที่ 5 ของการทำงานนี้เอง ทางเจ้านายซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และเป็นเจ้าของแบรนด์ ได้ทำ JD มาให้ 3 ภารกิจ ที่ดิฉันต้องทำคือ
1. การรับเป้าหาสมาชิกประเภทหนึ่ง จำนวน 2 คน (เป้าคือยอดซื้อคนละประมาณ 150,000 บาท)
2. สร้างทีมการตลาด (เพราะไม่มีทีมให้ เนื่องจากคนเก่าๆ เค้าออกไปกันหมดก่อนหน้านี้แล้ว)
3. ให้ซื้อชุดของบริษัทใส่ (ประมาณว่า ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน) ให้ซื้อเลย ด้วยสิทธิ์พนักงานลด 40% (ลดแล้วก็ยังเหลือ 20,000 ++)

ดิฉันจึงตอบไปว่า
เรื่องชุด ดิฉันยังไม่สะดวกในเดือนนี้ เพราะมีแพลนรายจ่ายก่อนแล้ว เนื่องจากบิดาเพิ่งเสียเมื่อ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา และมีธุรกิจเล็กๆ ของครอบครัวที่ต้องหมุนเวียนเงิน แต่ถ้าจำเป็นต้องซื้อ ดิฉันคงซื้อเพียง 1 ชิ้นก่อน (1 ชิ้น ราคาปกติก็ 12,000++ ก่อนส่วนลด)
ส่วนเรื่องหาคนมาซื้อชุด ดิฉันตอบไปว่า ถ้าเดือน ธ.ค. ขอเป็นการประสานงานลูกค้าให้เกิดการพูดคุย ได้แผนร่วมธุรกิจในกลุ่มร้านเวดดิ้งหรือร้านต่างๆ ดิฉันทำได้ แต่จะให้รับปากว่าจะขายได้ทันที ดิฉันขอนำยอดเดือน ธ.ค. ไปทบกับเดือน ม.ค. 64 คิดว่าแบบนี้ทำได้

ส่วนเรื่องแผนการตลาดทั้งปี ดิฉันได้จัดทำส่งให้พิจารณาเรียบร้อย และเจ้านายได้แจ้งผ่านล่ามว่า แผนโอเค
เจ้านายพยายามคาดคั้นคำตอบเรื่องซื้อชุด จนดิฉันทำงานเข้าวันที่ 7 ของการทำงาน ดิฉันก็ยืนยันคำเดิม ด้วยเหตุผลเดิม
ทำให้เจ้านายหงุดหงิดและไม่พอใจ อ้างว่า ดิฉันไม่ปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการการตลาด และบอกว่ามีทัศนคติไม่ตรงกับเค้า แบบนี้ทำงานด้วยกันไม่ได้ ถามดิฉันว่า "ตกลงคุณจะเอายังไง"

ดิฉันตอบไปว่า "ดิฉันพร้อมจะปรับปรุงการทำงานและทัศนคติ"

เจ้านายกลับตอบด้วยความโมโหว่า "คุณจะหลอกลวงตัวเองให้ทำงานกับที่นี่ได้จริงหรอ"

สาเหตุต่างๆ มันมาจากการที่เราปฏิเสธการซื้อชุด แต่อ้างเรื่องการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการตลาด ซึ่งตอนตกลงว่าจ้าง คือให้วางแผนการตลาด หากลุ่มลูกค้าใหม่ ต้องการให้มาดูแลเรื่องการจัดอีเว้นท์และออกบูธ

ยื้อกันไปกันมาอยู่ครึ่งวัน ดิฉันตั้งใจจะไม่เขียนจดหมายลาออก เพราะดิฉันคิดว่า ดิฉันยังไม่ได้ปฏิบัติงานบกพร่องต่อหน้าที่ และช่วงทดลองงาน เป็นช่วงของการเรียนรู้ธุรกิจของเค้า เรียนรู้สินค้า เพื่อวางแผนการตลาดที่เหมาะสม 7 วันที่ผ่านมาก็ถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่ไม่ล่าช้าจนเกินไป
ยอมรับว่าดิฉันโมโหหลังจากเจอปฏิกิริยาจากเจ้านาย เลยตั้งใจจะไม่ยอมเขียนใบลาออก ถ้าจะให้ออก บริษัทต้องจ่ายค่าตกใจให้

แต่ก็ถูกกดดัน จนสุดท้าย ก็เขียนใบลาออกให้เพราะทนแรงกดดันไม่ไหว

ตอนนี้ ใจก็อยากจะร้องเรียนคุ้มครองแรงงาน เพราะดิฉันคิดว่าการบังคับให้พนักงานซื้อชุดเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จนเป็นประเด็นกดดันให้พนักงานลาออก (คนที่เข้ามาก่อนหน้า 1 คน เป็นนักศึกษาจบใหม่ ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เลยซื้อชุดไปแล้วยอมให้บริษัทหักเงินเดือนทุกเดือนเป็นค่าผ่อนชุด รวม 4 เดือน)

ถ้าเพื่อนๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆ จะมีทางออกยังไงกันบ้างคะ

ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านนะคะ ดิฉันพิมพ์ยาวหน่อยเพราะอยากอธิบายความเป็นมาให้เข้าใจค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่