คู่เวร | 6
เมื่อกลับถึงเรือน หญิงสาวรีบวิ่งแล่นไปหาแม่และคุณย่า
“กลับมาแล้วรึ”
“หนูซื้อน้ำอบมาให้คุณย่าและคุณแม่ด้วยเจ้าค่ะ”
แม่ชบาหยิบ แล้ววางบนโต๊ะเล็ก แกมพิกุลวิ่งไปหาเอกชัยที่กำลังนั่งเขียนหนังสือบนโต๊ะ
“ฉันซื้อดินสอมาให้เจ้า เห็นเจ้าชอบเขียนหนังสือ”
“ขอบใจเจ้ามาก”
แกมพิกุลหันหลังกลับ เอกชัยเผลอเห็นแมลงสาบที่สไบ
จึงลุกขึ้นเพื่อปัดให้ แต่ตรงกับช่วงจังหวะที่แกมพิกุลสะดุดล้มพอดิบพอดี แต่ดีที่เอกชัยรับไว้ได้ทัน ทั้งสองมองหน้ากันอมยิ้มฟรุ้งฟริ้ง มองหน้ากัน แต่ด้วยความเกรงใจ แกมพิกุลผลักร่างเอกชัยออกห่างจากตัว แกมพิกุลมีสีหน้าแดงอับอาย และเดินหนีไป ส่วนเอกชัยอมยิ้มสีหน้าแดง แล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้
ณ ห้องนอนของแกมพิกุล
แกมพิกุลนั่งยิ้มหน้าคันฉ่อง(กระจก)นึกถึงภาพที่ตนล้มลงในอ้อมกอดของเอกชัย ชบาผู้เป็นแม่เคาะประตูเข้าห้องนอน ชบาเดินเข้ามาลูบหลังลูกสาว แล้วพูดว่า
“แม่รู้ว่าเจ้ามีใจให้พ่อเอก แต่พ่อเจ้าเกลียดพ่อแม่ของพ่อเอกจนเข้าไส้ ถ้าเจ้ารักกันจริงก็จงพิสูจน์ให้พ่อเจ้าเห็น”
เสียงไพเราะ ละมุน สั่งสอนลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
แกมพิกุลเลือกที่จะบอกผู้เป็นพ่อว่าตนแอบรักเอกชัย
แต่คำตอบที่ได้จากปากพ่อกลับทำร้ายจิตใจ
“พ่อไม่ให้เจ้าใช้ชีวิตคู่กับพ่อเอก”
ด้วยความที่พ่อเอกก็แอบมีใจให้กับคุณหนู จึงรีบเดินมาจับมือ แล้วพูดว่า
“ให้โอกาสข้าได้พิสูจน์เถอะขอรับ ข้ารักลูกของหลวงท่านจริง ข้าพร้อมที่จะพิสูจน์ จักให้ข้าทำเช่นไร ข้าก็ยอม”
หลวงศรีฯเห็นมือของสองคนจับอย่างแน่นแฟ้ม ทำให้ความโกรธจึงทวีคูณขึ้น กำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือด
“ปล่อยมือลูกข้าประเดี๋ยวนี้”
แกมพิกุลพูดแทรกปรนเปรอกับเสียงร้องไห้ว่า
“ข้าจักปล่อยก็ต่อเมื่อท่านพ่อปล่อยให้ข้าพบรักกับเอกชัย”
หลวงศรีอภัยภักดิ์โกรธมากยิ่งขึ้น
“ใครก็ได้เอาไม้เรียวมาให้ข้า”
ในระหว่างนั้นคุณหญิงย่าเดินเข้ามาพอดิบพอดี กล่าวห้ามปรามแล้วห้ามปรามเล่า แต่ก็มิได้ผล เมื่อยามหลวงศรีฯท่านโกรธก็มิใครสามารถห้ามได้ บ่าวผู้หนึ่งหยิบไม้เรียวมาให้ เอกชัยนำมือโอบกอดที่หลังของแกพิกุล ทั้งสองยืนชิดติดกัน หลวงศรีอภัยภักดิ์ลงแรงตีลงที่หลังของทั้งสองอย่างแรง สองหนุ่มสาวกอดกันแน่นแฟ้มพลาวร้องให้น้ำตาโฮ เสร็จการเฆี่ยนครึ่งยก (20ครั้ง) แม่ชบาพร้อมด้วยไพร่คนสนิทรีบหอบแกมพิกุลไปทำแผล ส่วนบ่าวไพร่คนสนิทของเอกชัยก็รีบหอบเอกชัยไปทำแผลเช่นเดียวกัน
“เจ็บตรงไหนไหมลูก”
หญิงสาวที่กำลังนอนคว่ำกล่าวด้วยวาจาแหบพล่า
“หนูทนได้ แม้นท่านพ่อตีหนูจนเจียนตายหนูก็ทน”
เมื่อผ้าทำแผลสัมผัสบนหลังของหญิงสาวผิวเนียน ปากของเขาก็ร้อง”ซู่..ซ่า”ออกมาโดยไม่รู้ตัว สลับมาที่หอนอนของเอกชัยผู้แข็งแกร่ง แม้นไพร่จักนำยามาทาตัว เขาก็มิยอมให้ทำแผล เขาได้แต่นึกถึงนวลหน้าอันงดงามของแกมพิกุลที่ยอมเจ็บเพื่อเขา น้ำตาของบุรุษมิได้แสดงถึงความอ่อนแอ
คืนวันนั้นแม่ชบาไม่พูดคุยกับหลวงศรีอภัยภักดิ์ทั้งคืนจนกระทั่งอรุณรุ่ง หลวงศรีฯพยายาขอโทษภรรยา แต่ได้รับการตอบกลับว่า
“คุณพี่มาขอโทษน้องทำไมค่ะ คุณพี่ไม่ได้ทำผิดกับน้องสักหน่อย คุณพี่ทำผิดกับลูก เด็กสองคนรักกันแต่กลับขัดขวาง”
“ก็พ่อแม่พ่อเอกมันทรยศต่อพวกเรา”
“แต่เอกชัยก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง จะลากเขาเข้ามายุ่งทำไม”
หลวงศรีอภัยภักดิ์หยุดนิ่งชั่วขณะ แสดงสีหน้าท่าทางสำนึก
เช้าวันถัดมา หลวงศรีฯพยายาตามขอคืนดีลูกสาว แต่ไคร่ว่าจะง่ายดายไปดั่งความคิด
“พ่อขอโทษ”
แกมพิกุลแสดงสีหน้าไม่ให้อภัยง่ายๆ หันหลังเดินหนีบิดา ผู้เป็นบิดาไม่ล้มล้างความตั้งใจซ่ะง่ายๆดอก พยายามทุกวิถีทางให้ลูกหายโกรธ แต่ไม่เป็นไปดั่งคาดหมาย
“คิดว่าหนูจะให้อภัยง่ายๆรึเจ้าค่ะ”
หญิงสาวพูดในใจ
กลับมาที่เอกชัยไม่กล้าสู้หน้าหลวงศรีฯ แต่อีกจิตใจหนึ่งก็คิดที่จะไปกราบขอขมาท่าน เพื่อท่านจะเปิดใจให้โอกาส
ติดตามชมตอนต่อไป
คู่เวร บทที่6
เมื่อกลับถึงเรือน หญิงสาวรีบวิ่งแล่นไปหาแม่และคุณย่า
“กลับมาแล้วรึ”
“หนูซื้อน้ำอบมาให้คุณย่าและคุณแม่ด้วยเจ้าค่ะ”
แม่ชบาหยิบ แล้ววางบนโต๊ะเล็ก แกมพิกุลวิ่งไปหาเอกชัยที่กำลังนั่งเขียนหนังสือบนโต๊ะ
“ฉันซื้อดินสอมาให้เจ้า เห็นเจ้าชอบเขียนหนังสือ”
“ขอบใจเจ้ามาก”
แกมพิกุลหันหลังกลับ เอกชัยเผลอเห็นแมลงสาบที่สไบ
จึงลุกขึ้นเพื่อปัดให้ แต่ตรงกับช่วงจังหวะที่แกมพิกุลสะดุดล้มพอดิบพอดี แต่ดีที่เอกชัยรับไว้ได้ทัน ทั้งสองมองหน้ากันอมยิ้มฟรุ้งฟริ้ง มองหน้ากัน แต่ด้วยความเกรงใจ แกมพิกุลผลักร่างเอกชัยออกห่างจากตัว แกมพิกุลมีสีหน้าแดงอับอาย และเดินหนีไป ส่วนเอกชัยอมยิ้มสีหน้าแดง แล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้
ณ ห้องนอนของแกมพิกุล
แกมพิกุลนั่งยิ้มหน้าคันฉ่อง(กระจก)นึกถึงภาพที่ตนล้มลงในอ้อมกอดของเอกชัย ชบาผู้เป็นแม่เคาะประตูเข้าห้องนอน ชบาเดินเข้ามาลูบหลังลูกสาว แล้วพูดว่า
“แม่รู้ว่าเจ้ามีใจให้พ่อเอก แต่พ่อเจ้าเกลียดพ่อแม่ของพ่อเอกจนเข้าไส้ ถ้าเจ้ารักกันจริงก็จงพิสูจน์ให้พ่อเจ้าเห็น”
เสียงไพเราะ ละมุน สั่งสอนลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
แกมพิกุลเลือกที่จะบอกผู้เป็นพ่อว่าตนแอบรักเอกชัย
แต่คำตอบที่ได้จากปากพ่อกลับทำร้ายจิตใจ
“พ่อไม่ให้เจ้าใช้ชีวิตคู่กับพ่อเอก”
ด้วยความที่พ่อเอกก็แอบมีใจให้กับคุณหนู จึงรีบเดินมาจับมือ แล้วพูดว่า
“ให้โอกาสข้าได้พิสูจน์เถอะขอรับ ข้ารักลูกของหลวงท่านจริง ข้าพร้อมที่จะพิสูจน์ จักให้ข้าทำเช่นไร ข้าก็ยอม”
หลวงศรีฯเห็นมือของสองคนจับอย่างแน่นแฟ้ม ทำให้ความโกรธจึงทวีคูณขึ้น กำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือด
“ปล่อยมือลูกข้าประเดี๋ยวนี้”
แกมพิกุลพูดแทรกปรนเปรอกับเสียงร้องไห้ว่า
“ข้าจักปล่อยก็ต่อเมื่อท่านพ่อปล่อยให้ข้าพบรักกับเอกชัย”
หลวงศรีอภัยภักดิ์โกรธมากยิ่งขึ้น
“ใครก็ได้เอาไม้เรียวมาให้ข้า”
ในระหว่างนั้นคุณหญิงย่าเดินเข้ามาพอดิบพอดี กล่าวห้ามปรามแล้วห้ามปรามเล่า แต่ก็มิได้ผล เมื่อยามหลวงศรีฯท่านโกรธก็มิใครสามารถห้ามได้ บ่าวผู้หนึ่งหยิบไม้เรียวมาให้ เอกชัยนำมือโอบกอดที่หลังของแกพิกุล ทั้งสองยืนชิดติดกัน หลวงศรีอภัยภักดิ์ลงแรงตีลงที่หลังของทั้งสองอย่างแรง สองหนุ่มสาวกอดกันแน่นแฟ้มพลาวร้องให้น้ำตาโฮ เสร็จการเฆี่ยนครึ่งยก (20ครั้ง) แม่ชบาพร้อมด้วยไพร่คนสนิทรีบหอบแกมพิกุลไปทำแผล ส่วนบ่าวไพร่คนสนิทของเอกชัยก็รีบหอบเอกชัยไปทำแผลเช่นเดียวกัน
“เจ็บตรงไหนไหมลูก”
หญิงสาวที่กำลังนอนคว่ำกล่าวด้วยวาจาแหบพล่า
“หนูทนได้ แม้นท่านพ่อตีหนูจนเจียนตายหนูก็ทน”
เมื่อผ้าทำแผลสัมผัสบนหลังของหญิงสาวผิวเนียน ปากของเขาก็ร้อง”ซู่..ซ่า”ออกมาโดยไม่รู้ตัว สลับมาที่หอนอนของเอกชัยผู้แข็งแกร่ง แม้นไพร่จักนำยามาทาตัว เขาก็มิยอมให้ทำแผล เขาได้แต่นึกถึงนวลหน้าอันงดงามของแกมพิกุลที่ยอมเจ็บเพื่อเขา น้ำตาของบุรุษมิได้แสดงถึงความอ่อนแอ
คืนวันนั้นแม่ชบาไม่พูดคุยกับหลวงศรีอภัยภักดิ์ทั้งคืนจนกระทั่งอรุณรุ่ง หลวงศรีฯพยายาขอโทษภรรยา แต่ได้รับการตอบกลับว่า
“คุณพี่มาขอโทษน้องทำไมค่ะ คุณพี่ไม่ได้ทำผิดกับน้องสักหน่อย คุณพี่ทำผิดกับลูก เด็กสองคนรักกันแต่กลับขัดขวาง”
“ก็พ่อแม่พ่อเอกมันทรยศต่อพวกเรา”
“แต่เอกชัยก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง จะลากเขาเข้ามายุ่งทำไม”
หลวงศรีอภัยภักดิ์หยุดนิ่งชั่วขณะ แสดงสีหน้าท่าทางสำนึก
เช้าวันถัดมา หลวงศรีฯพยายาตามขอคืนดีลูกสาว แต่ไคร่ว่าจะง่ายดายไปดั่งความคิด
“พ่อขอโทษ”
แกมพิกุลแสดงสีหน้าไม่ให้อภัยง่ายๆ หันหลังเดินหนีบิดา ผู้เป็นบิดาไม่ล้มล้างความตั้งใจซ่ะง่ายๆดอก พยายามทุกวิถีทางให้ลูกหายโกรธ แต่ไม่เป็นไปดั่งคาดหมาย
“คิดว่าหนูจะให้อภัยง่ายๆรึเจ้าค่ะ”
หญิงสาวพูดในใจ
กลับมาที่เอกชัยไม่กล้าสู้หน้าหลวงศรีฯ แต่อีกจิตใจหนึ่งก็คิดที่จะไปกราบขอขมาท่าน เพื่อท่านจะเปิดใจให้โอกาส
ติดตามชมตอนต่อไป