จะเอามาลงให้ฟัง..เรื่อยๆ นะ
สาริปุตตสูตรที่ ๒
ว่าด้วยองค์ธรรมเครื่องบรรลุโสดา
[๑๔๒๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคม พระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระ สารีบุตรว่า
" ดูกรสารีบุตร ที่เรียกว่า โสตาปัตติยังคะ ๆ ดังนี้ โสตาปัตติยังคะเป็นไฉน?
[๑๔๒๘] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ..........การคบสัตบุรุษ ๑
สัทธรรมสวนะ...........ฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑
โยนิโสมนสิการ..........กระทำไว้ในใจโดยอุบายที่ชอบ ๑
ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ.....ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑.
[๑๔๒๙] พ. ถูกละๆ สารีบุตร
โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ ๑
สัทธรรมสวนะ ๑
โยนิโสมนสิการ ๑
ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑.
[๑๔๓๐] ดูกรสารีบุตร ก็ที่เรียกว่า ธรรมเพียงดังกระแสๆ ดังนี้ ก็ธรรมเพียงดัง กระแสเป็นไฉน?
ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อริยมรรคประกอบด้วย องค์ ๘ นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ
ชื่อว่า ธรรมเพียงดังกระแส.
[๑๔๓๑] พ. ถูกละๆ สารีบุตร อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล คือ สัมมา ทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ชื่อว่า ธรรมเพียงดังกระแส.
https://etipitaka.com/read/thai/19/348/
สรุป...ตอนที่ 1..นี้ <-----อันนี้ความเห็นผมเอง....ผู้อื่นอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากผม...ก็กรุณาแนะนำได้เลย ครับ
1. โสดาบันจะมีลักษณะดังนี้
- สัปปุริสสังเสวะ ๑ ----การไปเสาะหาคบหากับผู้ที่มีความรู้ในพระสัทธรรมของพระศาสดา...
ไปเสาะหาพระหรือผู้ที่จะสามารถแสดงสัทธรรมแก่เราได้
- สัทธรรม สวนะ ๑ ----เมื่อได้ไปคบหากับสัปปุรุส...ก็ได้ฟังพระสัทธรรมของพระศาสดา...และทรงจำธรรมนั้นไว้
อาจจะอ่านจากพระสูตร..แล้วสนทนาธรนมกับผู้อื่ยเพื่อให้เข้าใจความหมายแห่งธรรมนั้น
ว่านี่อะไร?..เป็นอย่างไร?...มีคว่มหมายกี่นัย?
โสดาบันจะเป็นผู้ที่ใคร่ในพระสัทธรรม...มีกำลัง..มีความตั้งใจ...
ที่จะไปฟังพระสัทธรรท..ที่บัณฑิต(สัปปุรุส)แสดงอยู่
- โยนิโสมนสิการ ๑ ----เมื่อทรงจำพระสัทธรรมนั้นได้...ก็นำมาใคร่ครวญ มากระทำในใจ(..จะสำเร็จได้ก็ด้วยใจ..)....
ธรรมนั้นย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์..และ....จะเกิดฉันทะ...
เกิดการพิจารณาหาความสมดุลย์แห่งธรรม
- ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑ ----เมื่อมีฉันทะ...และพบความสมดุลย์แห่งธรรมนั้น.... ก็ตั้งตนไว้ในธรรมนั้น เช่น
- การสำรวม ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ....หรือเรียกว่า " อินทรีย์สังวร "
- การทำสติปัฏฐาน๔..คือ กาย-เวทนา-จิต-ธรรม...หรือปฏิบัติ..อานาปานสติ
- การทำสัญญา 10 ประการ
1. อนิจจสัญญา
2. อนัตตสัญญา
3. อสุภสัญญา
4. อาทีนวสัญญา
5. ปหานสัญญา
6. วิราคสัญญา
7. นิโรธสัญญา
8. สัพพโลเกอนภิรตสัญญา
9. สัพพสังขาเรสุอนิจจสัญญา
10. อานาปานสติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[๒๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวการตั้งอยู่ในอรหัตตผล ด้วยการไปครั้งแรก เท่านั้นหามิได้
แต่การตั้งอยู่ในอรหัตตผลนั้น ย่อมมีได้ ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำ โดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การตั้งอยู่ ในอรหัตตผล ย่อมมีได้ ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำโดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับอย่างไร?
ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย กุลบุตรในธรรมวินัยนี้
1. เกิดศรัทธาแล้วย่อมเข้าไปใกล้ <-----ปปุริสสังเสวะ ๑
2. เมื่อเข้าไปใกล้ย่อมนั่งใกล้
3. เมื่อนั่งใกล้ย่อมเงี่ยโสตลง <------ สัทธรรมสวนะ ๑
4. เมื่อเงี่ยโสตลงแล้วย่อมฟังธรรม
5. ครั้นฟังธรรมย่อมทรงธรรมไว้
6. ย่อมพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงไว้แล้ว <------ ยนิโสมนสิการ ๑
7. เมื่อพิจารณาเนื้อความอยู่ ธรรมทั้งหลายย่อมทนได้ซึ่งความพินิจ
8. เมื่อธรรมทนความพินิจได้อยู่ ฉันทะย่อมเกิด
9. เมื่อเกิดฉันทะแล้ว ย่อมอุตสาหะ (อุสฺสหติ -- อุสสาหะ)
10. ครั้นอุตสาหะแล้ว ย่อมไตร่ตรอง (ตุเลติ--ชั่ง, หาความสมดุลย์)
11. ครั้นไตร่ตรองแล้ว ย่อมตั้งความเพียร (ปทหติ -- ลงมือทำ) <---------- ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑.
12. เมื่อมีตนส่งไปแล้ว ย่อมทำให้แจ้งชัดซึ่งบรมสัจจะด้วยกาย และย่อมแทงตลอดเห็นแจ้งบรมสัจจะนั้นด้วยปัญญา.
( ปหิตตฺโต สมาโน กาเยน เจว ปรมํ สจฺจํ สจฺฉิกโรติ ปญฺญาย จ นํ อติวิชฺฌ ปสฺสติ ฯ)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
- ศรัทธาก็ดี
- การเข้าไปใกล้ก็ดี
- การนั่งใกล้ก็ดี
- การเงี่ยโสตลงก็ดี
- การฟังธรรมก็ดี
- ความพิจารณาเนื้อความก็ดี
- ธรรมอันทนได้ซึ่งความพินิจก็ดี
- ฉันทะก็ดี
- อุตสาหะก็ดี
- การไตร่ตรองก็ดี
- การตั้งความเพียรก็ดี
...................นั้นๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด <----ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ก็ให้รู้ว่าไปผิดทางแล้ว!!!!!!
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร.<-----ออกนอกแนวไปแล้ว!! หลงไปแล้ว!!!
https://etipitaka.com/read/thai/13/181/
2. โสดาบันอีกความหมายหนึ่ง..คือ " ผู้ตกกระแส "...และ " กระแส "..ก็คือ..." อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ นี้เอง "
3. โสดาบันคือผู้ที่ " เที่ยง "...เมื่อตกลงไปในกระแสแล้ว...ก็มั่นใจได้เลยว่า..จะไหลลงสู่มหาสมุทรที่มีขื่อว่า " นิพพาน "...
ปล. รวมหัวข้อ..
- โสดาบัน....ตอนที่ 1...
https://ppantip.com/topic/40394816
- โสดาบัน....ตอนที่ 2...
https://ppantip.com/topic/40395326
- โสดาบัน....ตอนที่ 3...
https://ppantip.com/topic/40396605
โสดาบัน....ตอนที่ 1....( มีถึง 20-30 ตอน..จะเอามาลงให้เลื่อยๆ )
สาริปุตตสูตรที่ ๒
ว่าด้วยองค์ธรรมเครื่องบรรลุโสดา
[๑๔๒๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคม พระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระ สารีบุตรว่า
" ดูกรสารีบุตร ที่เรียกว่า โสตาปัตติยังคะ ๆ ดังนี้ โสตาปัตติยังคะเป็นไฉน?
[๑๔๒๘] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ..........การคบสัตบุรุษ ๑
สัทธรรมสวนะ...........ฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑
โยนิโสมนสิการ..........กระทำไว้ในใจโดยอุบายที่ชอบ ๑
ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ.....ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑.
[๑๔๒๙] พ. ถูกละๆ สารีบุตร
โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ ๑
สัทธรรมสวนะ ๑
โยนิโสมนสิการ ๑
ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑.
[๑๔๓๐] ดูกรสารีบุตร ก็ที่เรียกว่า ธรรมเพียงดังกระแสๆ ดังนี้ ก็ธรรมเพียงดัง กระแสเป็นไฉน?
ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อริยมรรคประกอบด้วย องค์ ๘ นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ
ชื่อว่า ธรรมเพียงดังกระแส.
[๑๔๓๑] พ. ถูกละๆ สารีบุตร อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล คือ สัมมา ทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ชื่อว่า ธรรมเพียงดังกระแส.
https://etipitaka.com/read/thai/19/348/
สรุป...ตอนที่ 1..นี้ <-----อันนี้ความเห็นผมเอง....ผู้อื่นอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากผม...ก็กรุณาแนะนำได้เลย ครับ
1. โสดาบันจะมีลักษณะดังนี้
- สัปปุริสสังเสวะ ๑ ----การไปเสาะหาคบหากับผู้ที่มีความรู้ในพระสัทธรรมของพระศาสดา...
ไปเสาะหาพระหรือผู้ที่จะสามารถแสดงสัทธรรมแก่เราได้
- สัทธรรม สวนะ ๑ ----เมื่อได้ไปคบหากับสัปปุรุส...ก็ได้ฟังพระสัทธรรมของพระศาสดา...และทรงจำธรรมนั้นไว้
อาจจะอ่านจากพระสูตร..แล้วสนทนาธรนมกับผู้อื่ยเพื่อให้เข้าใจความหมายแห่งธรรมนั้น
ว่านี่อะไร?..เป็นอย่างไร?...มีคว่มหมายกี่นัย?
โสดาบันจะเป็นผู้ที่ใคร่ในพระสัทธรรม...มีกำลัง..มีความตั้งใจ...
ที่จะไปฟังพระสัทธรรท..ที่บัณฑิต(สัปปุรุส)แสดงอยู่
- โยนิโสมนสิการ ๑ ----เมื่อทรงจำพระสัทธรรมนั้นได้...ก็นำมาใคร่ครวญ มากระทำในใจ(..จะสำเร็จได้ก็ด้วยใจ..)....
ธรรมนั้นย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์..และ....จะเกิดฉันทะ...
เกิดการพิจารณาหาความสมดุลย์แห่งธรรม
- ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑ ----เมื่อมีฉันทะ...และพบความสมดุลย์แห่งธรรมนั้น.... ก็ตั้งตนไว้ในธรรมนั้น เช่น
- การสำรวม ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ....หรือเรียกว่า " อินทรีย์สังวร "
- การทำสติปัฏฐาน๔..คือ กาย-เวทนา-จิต-ธรรม...หรือปฏิบัติ..อานาปานสติ
- การทำสัญญา 10 ประการ
1. อนิจจสัญญา
2. อนัตตสัญญา
3. อสุภสัญญา
4. อาทีนวสัญญา
5. ปหานสัญญา
6. วิราคสัญญา
7. นิโรธสัญญา
8. สัพพโลเกอนภิรตสัญญา
9. สัพพสังขาเรสุอนิจจสัญญา
10. อานาปานสติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. โสดาบันอีกความหมายหนึ่ง..คือ " ผู้ตกกระแส "...และ " กระแส "..ก็คือ..." อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ นี้เอง "
3. โสดาบันคือผู้ที่ " เที่ยง "...เมื่อตกลงไปในกระแสแล้ว...ก็มั่นใจได้เลยว่า..จะไหลลงสู่มหาสมุทรที่มีขื่อว่า " นิพพาน "...
ปล. รวมหัวข้อ..
- โสดาบัน....ตอนที่ 1...https://ppantip.com/topic/40394816
- โสดาบัน....ตอนที่ 2...https://ppantip.com/topic/40395326
- โสดาบัน....ตอนที่ 3...https://ppantip.com/topic/40396605