หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Tibet Kitchen ร้านอาหารทิเบตสูตรชาวทิเบตแท้รสชาติเข้าถึงง่ายราคาไม่แพง อยู่ภายในซอยสุขุมวิท 22
กระทู้รีวิว
อาหารคาว
อาหารจีน
อาหารฟิวชั่น
อาหารอินเดีย
ร้านอาหาร
"อาหารทิเบต" หลายๆคนอาจจะสงสัยว่ารสชาติมันเป็นอย่างไรแล้วเข้าถึงยากไหม วันนี้เราจะทุกคนพามารีวิวกันที่ร้านชื่อดังตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 22 ชื่อว่า Tibet Kitchen โดยเจ้าของร้านที่เป็นสาวชาวทิเบตแท้ๆ ซึ่งเมนูของร้านนี้ก็คืออาหารทิเบตสูตรต้นตำรับแต่มีการติดป้ายหน้าร้านว่าเป็น Indian-Chinese Fusion Cuisine ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะของอาหารที่เสิร์ฟในร้านได้ทั้งหมด ก่อนจะเข้าไปทานอาหารที่ร้านมาทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่าทิเบตเป็นเขตปกครองตนเองอยู่ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยมีชายแดนติดกับ 3 ประเทศได้แก่ฎูฏาน/เนปาลและอินเดีย ภูมิประเทศตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยซึ่งเป็นพื้นราบสูงที่สุดในโลกจนได้ฉายาว่า "หลังคาโลก" มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีรวมถึงความกดอากาศสูง/อ๊อกซิเจนต่ำ เพราะฉะนั้นผู้ที่จะมาเที่ยวในทิเบตจะต้องปรับสภาพร่างกายให้แข็งแรงก่อนและด้วยเหตุนี้ประชากรที่อาศัยอยู่ในทิเบตจึงน้อยมากๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักไปจะบวชเป็นพระนิกายวัชรยานเกือบหมดเหลือแต่ผู้หญิงที่มีฝีมือในการทำอาหารแค่อยู่ไม่กี่คน นั่นก็หมายความว่าวันนี้เราจะได้ทานอาหารจากหญิงสาวชาวทิเบตที่เดินทางลงมาจากเทือกเขาหิมาลัยเพื่อปรุงเมนูอร่อยๆให้เราได้ทานกันโดยไม่ต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงแต่อย่างใด อาหารทิเบตเกิดจากการผสมผสานเมนูจีนและเครื่องเทศจากอินเดียเล็กน้อยออกมาเป็นเมนูแบบใหม่ที่คนไทยหลายๆคนคุ้นเคย วิธีการเดินทางมาร้านถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็หาที่จอดภายในซอยใกล้ๆร้านได้เลยแต่ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์หรือ BTS สถานีพร้อมพงศ์แล้วเรียกรถให้มาตาม Google Maps ก็ถึงร้าน ให้สังเกตป้าย TK หน้าร้านสีแดงหน่อยเพราะเล็กมากและด้านหน้าเป็นเหมือนตึกแถวธรรมดาไม่โดดเด่นมากนัก เรามาเปิดดูเมนูหน้าร้านกันก่อนเข้าไปด้านในกันครับ
เมนูที่ร้านมีเพียงไม่กี่หน้ากระดาษหลักๆแบ่งออกเป็นเมนูมังสวิรัติและเมนูใส่เนื้อสัตว์ปกติมีซุป-อาหารเรียกน้ำย่อย/ผัดหมี่/ก๋วยเตี๋ยว/ข้าวผัด/เมนูที่ปรุงจากไก่-หมู/เมนูเนื้อแกะ/เมนูปรุงจากปลาและกุ้ง/เมนูไข่เจียว ราคาจานหลักเริ่มต้นที่ 150 แพงสุดไม่เกิน 270 บาท นอกนั้นเป็นเมนูรูปภาพเผื่อคนที่มาทานอาหารทิเบตครั้งแรกแล้วสงสัยว่าหน้าตาอาหารแต่ละอย่างเป็นยังไง เมนูขายดีสุดอันดับ 1 ของที่นี่คือ Momo หรือเกี๊ยวห่อไส้นึ่ง-ทอดสไตล์ทิเบตซึ่งเราเห็นในโฆษณาของที่ร้านแล้วน่าสนใจพร้อมกับสงสัยในรสชาติมากๆ มีให้เลือกหลายไส้ทั้งผักรวม/ผักโขม+ชีส /เนื้อไก่/เนื้อหมู/เนื้อแกะและแป้งขนมปังนึ่ง ถ้าสั่งแบบเดลิเวอรี่กลับบ้านมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 4 ลูกกับ 8 ลูก หากมาทานที่ร้านมีแค่ไซส์เดียวคือ 8 ลูกแต่สามารถผสมไส้กับราคาที่เท่ากันเป็นจานเดียวได้ มีวิธีการปรุงเสิร์ฟให้หลายแบบทั้งนึ่ง/ทอดนาบกระทะ/ทอดกรอบทั้งชิ้น/ราดด้วยแกงและเกี๊ยวน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 160-220 บาท ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งน้ำเปล่า/ชาอินเดีย/ชาทิเบต/น้ำผลไม้/มิลค์เชค/น้ำหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท ดูจากรูปในเมนูแล้วมีความคล้ายอาหารจีนอยู่หลายรายการ จะอร่อยหรือไม่เราเข้าไปชิมในร้านพร้อมกันเลยครับผม
ข้างในร้านพื้นที่ค่อนข้างเล็กจึงมีให้บริการแค่เพียงไม่กี่โต๊ะแนะนำว่าถ้าอยากมาทานอาหารทิเบตปรุงแบบร้อนๆในร้านให้โทรมาจองก่อน (ที่ร้านมีพนักงานรับโทรศัพท์สามารถสื่อสารภาษาไทยได้) ใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารครับ บรรยากาศภายในร้านเหมือนนั่งโซฟา-เก้าอี้นุ่มๆทานข้าวที่บ้านเพื่อน ใช้ไฟสีส้มและของตกแต่งที่ทางร้านนำมาจากธิเบตดูอบอุ่นสบายตาไม่เหมือนใคร หาที่นั่งให้เรียบร้อยแล้วมาเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
เมนูที่เราสั่งมาชิมเป็นอันดับแรกคือ Momo คือเกี๊ยวห่อไส้สไตล์ทิเบตเพราะเป็นเมนูขายดีอันดับ 1 น่าจะอร่อยและปลอดภัยสุดสำหรับการเริ่มต้นชิมอาหารที่เราไม่รู้จักมาก่อน เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส 4 ชนิดไว้ทานคู่กับเกี๊ยวคือ 1.ซอสสวีทชิลลี่ รสชาติหวานคล้ายๆกับน้ำจิ้มไก่บ้านเรา 2.ซอสศรีราชามาโย เป็นซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนสฉุนพริกหอมมันขึ้นจมูก 3.ซอสชิลลี่การ์ลิค ซอสพริกผสมกระเทียมรสหวานเผ็ดฉุนกระเทียมกลมกล่อม 4.ซอสอินเดียชิลลี่ เป็นพริกหวานผสมหัวหอมผัดกับเครื่องเทศอินเดียแล้วปั่นให้เป็นซอส ส่วนเกี๊ยวทิเบตชุดแรกเริ่มจากแบบมังสวิรัติสั่งมาอย่างละ 4 ชิ้นรวมกันคือ "ไส้ผักรวมผสมไส้ผักโขมชีสแบบนึ่ง" ราคา 160 บาท เป็นเกี๊ยวคล้ายๆกับอาหารจีนแป้งบางแต่เหนียวนุ่มห่อไส้ผักรวม (แครอท/กระหล่ำปลี) รสชาติหวานฉ่ำน้ำผักกลมกล่อมตามธรรมชาติ ส่วนไส้ผักโขมผสมชีสก็หอมมันเค็มชีสนวลเนียนในปาก ทานคู่กับซอสทั้ง 4 ชนิดเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ
ต่อมาเป็นเมนู Momo แบบสอดไส้เนื้อสัตว์สั่งมา 3 ชนิดรวมกันคือ "เกี๊ยวนึ่งไส้ไก่" 4 ชิ้นคิดเป็นไซส์เล็ก ราคา 95 บาท ส่วนอีก 2 ไส้สั่งมาอีกอย่างละ 2 ชิ้นคือ "เกี๊ยวนึ่งไส้เนื้อหมูกับเนื้อแกะ" ราคาเท่ากันจึงสั่งแบบรวมกันได้ก็คิดเป็นไซส์เล็ก ราคา 115 บาท รวมจานนี้ราคา 210 บาท โดยเกี๊ยวสอดไส้เนื้อสัตว์สไตล์ทิเบตนี้ถือว่ามีการปรุงรสไม่ซับซ้อนเป็นเนื้อสัตว์บดผสมกับหัวหอมช่วยให้มีรสหวานอ่อนๆและเพิ่มความอูมามิตามธรรมชาติ มีแค่สัมผัสของเนื้อสัตว์ที่แตกต่างกัน โดยเนื้อไก่จะสัมผัสร่วนๆ/ส่วนเนื้อแกะจะฉ่ำมีกลิ่นบางๆและเนื้อหมูจะเป็นก้อนเหมือนหมูสับในไส้ซาลาเปาแบบที่เราคุ้นเคย โดยรวมก็คือเกี๊ยวนึ่งจีนทานคู่กับซอสใหม่ๆจนเกิดเป็นรสชาติสไตล์ทิเบตนั่นเองครับ
โดยรวมแล้วชอบเกี๊ยว Momo ไส้ไก่สุดแต่อยากทานแบบทอดบ้างเลยสั่งมาเป็น "เกี๊ยวทิเบตทอดไส้ไก่" 8 ชิ้น ราคา 170 บาท เป็นเกี๊ยวแบบเดียวกันกับที่ชิมเมื่อกี้แต่เปลี่ยนจากการนำไปนึ่งเอาไปทอดกรอบทั้งชิ้นแทนแต่ยังคงความอร่อยชุ่มฉ่ำของไส้ได้เหมือนเดิม นั่งทานไปเรื่อยๆเจ้าของร้านแนะนำว่าบนโต๊ะมีเครื่องปรุงพิเศษเพื่อเอาใจคนไทยนั่นก็คือ น้ำมันพริกผัดเอาไว้ใส่ผสมกับซอส 4 ชนิดช่วยเพิ่มความเผ็ดหอมสะดุ้งลิ้นได้เป็นอย่างดี (แนะนำว่าให้ผสมกับสวีทชิลลี่หรือชิลลี่การ์ลิคจะได้รสหวานเผ็ดช่วยลดความเลี่ยนจากไขมันสัตว์ในเกี๊ยวได้เป็นอย่างดี) ถ้าหากมีเด็กมาทานด้วยหรือต้องการเพิ่มความเค็มลงในอาหารที่ร้านมีโชยุให้จิ้มกับเกี๊ยวหรือปรุงรสและพริกขี้หนูในน้ำส้มสายชูแบบไทยเอาไว้ปรุงรสเมนูบะหมี่หรือผสมกับโชยุกลายเป็นซอสเปรี้ยวไว้จิ้มกับเกี๊ยวพร้อมกัดพริกสดเผ็ดๆไปพร้อมกันก็ได้ เรียกได้ว่ามีวิธีการทานหลายอย่างผสมผสานกันไปได้เรื่อยๆรับรองว่าอร่อยได้เพลินๆแน่นอนครับผม
ไหนๆเจ้าของร้านก็ออกมาแล้วสอบถามเลยว่านอกจากเมนูเกี๊ยวที่เราสั่งไปเบื้องต้นแล้วมีอะไรที่เป็นจานแนะนำสำหรับคนไทยอย่างเราที่อยากลองบ้าง (ถ้าไม่หมดเดี๋ยวห่อกลับไปทานที่บ้านต่อ) เริ่มจาก"เกี๊ยวไส้ผักรวมเสิร์ฟกับซอสแกงอินเดีย" ราคา 195 บาท เป็นเมนูสำหรับทานคู่กับข้าวโดยซอสที่ใช้ราดเป็นพริกหวานผัดกับหอมหัวใหญ่ใส่มะเขือเทศและเครื่องเทศอินเดียเล็กน้อยพอมีกลิ่นอ่อนๆรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมเข้ากับเกี๊ยวไส้ผักรวมได้เป็นอย่างดี เมนูต่อไปยกมานึกว่าเป็นอาหารเม็กซิกันคือ "Pepper Corn Cheese Roll" ราคา 180 บาท แป้งรูปทรงกระบอกสอดไส้พริกหวาน 3 สีผัดกับข้าวโพดและโรยด้วยชีส ทานกับน้ำจิ้มสวีทชิลลี่ที่คล้ายๆน้ำจิ้มไก่เพิ่มรสเปรี้ยวหวานตัดความเค็มมันและแป้งทอดกรุบกรอบเหมือนทานปอเปี๊ยะทอดแบบจีนผสมความเป็นเม็กซิกันได้อย่างลงตัว
เมนูต่อมาเป็นอาหารทิเบตแท้แต่มีความคล้ายกับอาหารเกาหลีคือ "Honey Chicken Chilli" ราคา 180 บาท เป็นไก่ส่วนสะโพกเนื้อฉ่ำๆชุบแป้งทอดกรอบคลุกกับซอสรสชาติหวานเผ็ดกลมกล่อม เพิ่มความอูมามิด้วยหอมแขกผัดลงไปในซอสผสมน้ำผึ้งเข้มข้นไว้ทานเป็นกับข้าวมากกว่าไว้ทานเล่นแบบไก่ทอดเกาหลี ส่วนรสชาติโดยรวมถือว่าคล้ายๆกันครับ เมนูต่อไปก็ยังคงเป็นไก่ทอดคือ "Chicken Chilli" ราคา 180 บาท เป็นไก่ชุบแป้งทอดชิ้นใหญ่ๆนำไปคลุกกับซอสพริกผัดน้ำมันคล้ายๆกับที่อยู่ในกระปุกสีดำบนโต๊ะ ปรุงรสชาติให้หวาน-เค็มกลมกล่อมเพิ่มต้นหอม/หอมแขกลงไปช่วยเพิ่มความกรุบกรอบ โดยรวมแล้วจานนี้รสชาติเค็มเผ็ดคล้ายกับอาหารจีนเสฉวนมากกว่าครับผม
เมนูต่อมาเป็นลูกชิ้นแบบมังสวิรัติสไตล์ทิเบตคือ "Veg Manchurian Gravy" ราคา 180 บาท เป็นแป้งผสมกับผักทอดเหมือนทานโกะยากิของญี่ปุ่นที่เนื้อด้านในสุกดี นำไปทอดจนมีกลิ่นหอมคล้ายๆกับลูกชิ้นกุ้งแล้วคลุกกับซอสรสหวานอมเปรี้ยวใส่หอมใหญ่/หอมแขกสับละเอียดผสมกับขิง ถ้าไม่บอกว่าเมนูนี้เป็นมังสวิรัติก็นึกว่าลูกชิ้นกุ้งทอดปรุงรสครับผม เมนูต่อไปเป็นอาหารทานเล่นของชาวทิเบตแต่มีการปรุงรสและใช้วัตถุดิบคล้ายๆกับเกาหลีผสมฝรั่งคือ "Honey Chilli Potato" ราคา 160 บาท มันฝรั่งทอดกรอบแบบเดียวกับขนมมันเคลือบด้วยซอสรสชาติหวานเผ็ดคล้ายไก่ทอดจานแรกแต่ผัดแห้งกว่า ได้ความกรุบกรอบและหวานเผ็ดทานเพลินๆเหมาะเป็นกับแกล้มสุดๆ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Tibet Kitchen สุขุมวิท 22
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิว "Tibet Gate" ภัตตาคารทิเบต-ไทยและจีนตกแต่งร้านสไตล์ประตูพระราชวังโบราณตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33
เลื่อนมือถือเล่นสังคมโซเชียลเพื่อค้นหาข่าวสารข้อมูลต่างๆไปเรื่อยเปื่อยจนพบโฆษณาร้านอาหารทิเบตเพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดตั้งอยู่ใจกลางซอยสุขุมวิท 33 ชื่อว่า "Tibet Gate" จุดเด่นนั่นก็คือตัวภัตตาคารต
Food Addicts
วิธีทำเมนู: ไข่ยัดไส้หมูสับตุ๋นซีอิ๊ว
วัตถุดิบ: 1. หมูสับ • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและแป้งมันเล็กน้อย 2. ไข่ไก่ 5 ฟอง 3. ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า 4. น้ำมันพืช สำหรับทอด 5. ซีอิ๊วขาว ป
สมาชิกหมายเลข 8552602
BufFeast Review : ปิ้งย่างดรายเอจแสนนุ่มนวล ริมถนนบางใหญ่ "Yoon Korean BBQ"@โฮมมอร์ บางใหญ่
เมื่อวานผมมีเข้าอ๊อฟฟิศเพื่อไปเอางาน ขากลับเลยแวะกินมื้อเที่ยงแถวๆนั้นซะ เป็นร้านแนวปิ้งย่างเกาหลีที่เปิดมาได้ไม่นาน ในแถบบางใหญ่ อย่าง Yoon Korean ตั้งอยู่ ณ โครงการโฮมม
TheHeatBufFeast
💚❤️ Christmas Eve 2024 ❤️💚
สวัสดีค่ะ (= เทศกาลคริสต์มาสมาถึงแล้ว💚❤️ 🎄 🎁 Central คนเยอะมากมาย... ไปถึง ก็ต้องวนรถกลับ... Christmas Eve แบบนี้ แถมเงินเดือนออก ไม่ไปห้างก็ได้... มากินร้านประจำแทนเนาะเรา... 💚🌶️🌶️❤️ พริกน้ำปลา
KU1978
แวะกินข้างถนน รีวิว ครัวคุณแบงค์ แซ่บเว่อร์ พระราม 5
เอาจริงนะ ปกติแจนจะไม่ค่อยได้รีวิวอาหารอีสาน แต่ร้านนี้ไม่รีวิวไม่ได้จริงๆ เพราะอาหารเค้าไม่เหมือนใคร https://www.youtube.com/watch?v=znEXy-6y6fwCr. แวะกินข้างถนน ทั้งจิ้มจิ้ม ลาบเป็ด ตำหลวงพระบาง และ
แวะกินข้างถนน
บอสพาชิม : Pari Izakayaสุดมินิมอล (Chiangmai,Thailand
บอสพาชิม : Pari Izakayaสุดมินิมอล (Chiangmai,Thailand) Pari น่าจะเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ฮอตที่สุดในเชียงใหม่ในเวลานี้ ปาริ เกิดจากหมู่บ้านปาริชาตในจังหวัดเชียงใหม่
EatLikeTheBOSS
แวะกินข้างถนน รีวิว ร้าน Iron Age Korean Steak บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี นนทบุรี
https://www.youtube.com/watch?v=jPvdC53RNFYCr. แวะกินข้างถนน เนื้อ ไอรอนเอจสเต็ก แผ่นใหญ่มาก เนื้อคุณภาพชิ้นใหญ่แต่นุ่มสุดๆ เนื้อ หรือหมูของร้านนี้ เป็นสเต็กคุณภาพค่ะ ชิ้นใหญ่ หมักกำลังพอดี เตาส
แวะกินข้างถนน
ผมเคยมีแมวชื่อเอื้องอั่ว แต่ตอนนี้เหลือแต่ไส้อั่ว
เอื้องอั่วหรือไอ้อั่ว เป็นแมวสีขาวลายแปะนิดหน่อย ส่วนที่แปะของมันเป็นลายสลิด เป็นแมวหางขอด ตัวโต เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ใจดี ขี้อ้อน มีคุณสมบัติครบถ้วนในแบบที่แมวน่ารักๆตัวนึงควรจะเป็น แม่ของไอ้อั่วชื่อ
กรรไกรดอกไม้
DRAGON BOAT เกี๊ยวจีนพระราม9 อาหารจีนต้นตำหรับแท้ๆ
ทุกคนพู่เจอร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวนเหลียวหนิงแถวพระราม9 ที่รสชาติอร่อย อาหารให้ปริมาณเยอะ แถมราคาดี ที่เกี๊ยวจีนพระราม9 เลยอยากให้ทุกคนมาลองชิม 😍 รอบนี้พู่เลือกสั่งเป็นเซต มีอาหาร 5 อย่า
พาผู้เที่ยว-Paapooteaw
BufFeast Review :"M Hotpot" บุฟเฟ่ต์ชาบูไต้หวันบนโรงแรมย่านพญาไท @โรงแรมอิสติน แกรนด์ เดอะ ยูนิคอร์น ชั้น 2
หลังจากผมกลับมาจากต่างจังหวัด น้องผมก็ชวนกินบุฟเฟ่ต์ต่อเลย เป็นร้านแนวชาบูสไตล์ไต้หวันในโรงแรมแถวพญาไท ชื่อ M Hotpot ร้านนี้เขารับขั้นต่ำ 2 คน ก็มาลองดูกันว่ารสชาติจะต่างกับร้าน Jade ท
TheHeatBufFeast
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารคาว
อาหารจีน
อาหารฟิวชั่น
อาหารอินเดีย
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1.9 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Tibet Kitchen ร้านอาหารทิเบตสูตรชาวทิเบตแท้รสชาติเข้าถึงง่ายราคาไม่แพง อยู่ภายในซอยสุขุมวิท 22
เมนูที่ร้านมีเพียงไม่กี่หน้ากระดาษหลักๆแบ่งออกเป็นเมนูมังสวิรัติและเมนูใส่เนื้อสัตว์ปกติมีซุป-อาหารเรียกน้ำย่อย/ผัดหมี่/ก๋วยเตี๋ยว/ข้าวผัด/เมนูที่ปรุงจากไก่-หมู/เมนูเนื้อแกะ/เมนูปรุงจากปลาและกุ้ง/เมนูไข่เจียว ราคาจานหลักเริ่มต้นที่ 150 แพงสุดไม่เกิน 270 บาท นอกนั้นเป็นเมนูรูปภาพเผื่อคนที่มาทานอาหารทิเบตครั้งแรกแล้วสงสัยว่าหน้าตาอาหารแต่ละอย่างเป็นยังไง เมนูขายดีสุดอันดับ 1 ของที่นี่คือ Momo หรือเกี๊ยวห่อไส้นึ่ง-ทอดสไตล์ทิเบตซึ่งเราเห็นในโฆษณาของที่ร้านแล้วน่าสนใจพร้อมกับสงสัยในรสชาติมากๆ มีให้เลือกหลายไส้ทั้งผักรวม/ผักโขม+ชีส /เนื้อไก่/เนื้อหมู/เนื้อแกะและแป้งขนมปังนึ่ง ถ้าสั่งแบบเดลิเวอรี่กลับบ้านมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 4 ลูกกับ 8 ลูก หากมาทานที่ร้านมีแค่ไซส์เดียวคือ 8 ลูกแต่สามารถผสมไส้กับราคาที่เท่ากันเป็นจานเดียวได้ มีวิธีการปรุงเสิร์ฟให้หลายแบบทั้งนึ่ง/ทอดนาบกระทะ/ทอดกรอบทั้งชิ้น/ราดด้วยแกงและเกี๊ยวน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 160-220 บาท ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งน้ำเปล่า/ชาอินเดีย/ชาทิเบต/น้ำผลไม้/มิลค์เชค/น้ำหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท ดูจากรูปในเมนูแล้วมีความคล้ายอาหารจีนอยู่หลายรายการ จะอร่อยหรือไม่เราเข้าไปชิมในร้านพร้อมกันเลยครับผม
ข้างในร้านพื้นที่ค่อนข้างเล็กจึงมีให้บริการแค่เพียงไม่กี่โต๊ะแนะนำว่าถ้าอยากมาทานอาหารทิเบตปรุงแบบร้อนๆในร้านให้โทรมาจองก่อน (ที่ร้านมีพนักงานรับโทรศัพท์สามารถสื่อสารภาษาไทยได้) ใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารครับ บรรยากาศภายในร้านเหมือนนั่งโซฟา-เก้าอี้นุ่มๆทานข้าวที่บ้านเพื่อน ใช้ไฟสีส้มและของตกแต่งที่ทางร้านนำมาจากธิเบตดูอบอุ่นสบายตาไม่เหมือนใคร หาที่นั่งให้เรียบร้อยแล้วมาเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
เมนูที่เราสั่งมาชิมเป็นอันดับแรกคือ Momo คือเกี๊ยวห่อไส้สไตล์ทิเบตเพราะเป็นเมนูขายดีอันดับ 1 น่าจะอร่อยและปลอดภัยสุดสำหรับการเริ่มต้นชิมอาหารที่เราไม่รู้จักมาก่อน เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส 4 ชนิดไว้ทานคู่กับเกี๊ยวคือ 1.ซอสสวีทชิลลี่ รสชาติหวานคล้ายๆกับน้ำจิ้มไก่บ้านเรา 2.ซอสศรีราชามาโย เป็นซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนสฉุนพริกหอมมันขึ้นจมูก 3.ซอสชิลลี่การ์ลิค ซอสพริกผสมกระเทียมรสหวานเผ็ดฉุนกระเทียมกลมกล่อม 4.ซอสอินเดียชิลลี่ เป็นพริกหวานผสมหัวหอมผัดกับเครื่องเทศอินเดียแล้วปั่นให้เป็นซอส ส่วนเกี๊ยวทิเบตชุดแรกเริ่มจากแบบมังสวิรัติสั่งมาอย่างละ 4 ชิ้นรวมกันคือ "ไส้ผักรวมผสมไส้ผักโขมชีสแบบนึ่ง" ราคา 160 บาท เป็นเกี๊ยวคล้ายๆกับอาหารจีนแป้งบางแต่เหนียวนุ่มห่อไส้ผักรวม (แครอท/กระหล่ำปลี) รสชาติหวานฉ่ำน้ำผักกลมกล่อมตามธรรมชาติ ส่วนไส้ผักโขมผสมชีสก็หอมมันเค็มชีสนวลเนียนในปาก ทานคู่กับซอสทั้ง 4 ชนิดเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ
ต่อมาเป็นเมนู Momo แบบสอดไส้เนื้อสัตว์สั่งมา 3 ชนิดรวมกันคือ "เกี๊ยวนึ่งไส้ไก่" 4 ชิ้นคิดเป็นไซส์เล็ก ราคา 95 บาท ส่วนอีก 2 ไส้สั่งมาอีกอย่างละ 2 ชิ้นคือ "เกี๊ยวนึ่งไส้เนื้อหมูกับเนื้อแกะ" ราคาเท่ากันจึงสั่งแบบรวมกันได้ก็คิดเป็นไซส์เล็ก ราคา 115 บาท รวมจานนี้ราคา 210 บาท โดยเกี๊ยวสอดไส้เนื้อสัตว์สไตล์ทิเบตนี้ถือว่ามีการปรุงรสไม่ซับซ้อนเป็นเนื้อสัตว์บดผสมกับหัวหอมช่วยให้มีรสหวานอ่อนๆและเพิ่มความอูมามิตามธรรมชาติ มีแค่สัมผัสของเนื้อสัตว์ที่แตกต่างกัน โดยเนื้อไก่จะสัมผัสร่วนๆ/ส่วนเนื้อแกะจะฉ่ำมีกลิ่นบางๆและเนื้อหมูจะเป็นก้อนเหมือนหมูสับในไส้ซาลาเปาแบบที่เราคุ้นเคย โดยรวมก็คือเกี๊ยวนึ่งจีนทานคู่กับซอสใหม่ๆจนเกิดเป็นรสชาติสไตล์ทิเบตนั่นเองครับ
โดยรวมแล้วชอบเกี๊ยว Momo ไส้ไก่สุดแต่อยากทานแบบทอดบ้างเลยสั่งมาเป็น "เกี๊ยวทิเบตทอดไส้ไก่" 8 ชิ้น ราคา 170 บาท เป็นเกี๊ยวแบบเดียวกันกับที่ชิมเมื่อกี้แต่เปลี่ยนจากการนำไปนึ่งเอาไปทอดกรอบทั้งชิ้นแทนแต่ยังคงความอร่อยชุ่มฉ่ำของไส้ได้เหมือนเดิม นั่งทานไปเรื่อยๆเจ้าของร้านแนะนำว่าบนโต๊ะมีเครื่องปรุงพิเศษเพื่อเอาใจคนไทยนั่นก็คือ น้ำมันพริกผัดเอาไว้ใส่ผสมกับซอส 4 ชนิดช่วยเพิ่มความเผ็ดหอมสะดุ้งลิ้นได้เป็นอย่างดี (แนะนำว่าให้ผสมกับสวีทชิลลี่หรือชิลลี่การ์ลิคจะได้รสหวานเผ็ดช่วยลดความเลี่ยนจากไขมันสัตว์ในเกี๊ยวได้เป็นอย่างดี) ถ้าหากมีเด็กมาทานด้วยหรือต้องการเพิ่มความเค็มลงในอาหารที่ร้านมีโชยุให้จิ้มกับเกี๊ยวหรือปรุงรสและพริกขี้หนูในน้ำส้มสายชูแบบไทยเอาไว้ปรุงรสเมนูบะหมี่หรือผสมกับโชยุกลายเป็นซอสเปรี้ยวไว้จิ้มกับเกี๊ยวพร้อมกัดพริกสดเผ็ดๆไปพร้อมกันก็ได้ เรียกได้ว่ามีวิธีการทานหลายอย่างผสมผสานกันไปได้เรื่อยๆรับรองว่าอร่อยได้เพลินๆแน่นอนครับผม
ไหนๆเจ้าของร้านก็ออกมาแล้วสอบถามเลยว่านอกจากเมนูเกี๊ยวที่เราสั่งไปเบื้องต้นแล้วมีอะไรที่เป็นจานแนะนำสำหรับคนไทยอย่างเราที่อยากลองบ้าง (ถ้าไม่หมดเดี๋ยวห่อกลับไปทานที่บ้านต่อ) เริ่มจาก"เกี๊ยวไส้ผักรวมเสิร์ฟกับซอสแกงอินเดีย" ราคา 195 บาท เป็นเมนูสำหรับทานคู่กับข้าวโดยซอสที่ใช้ราดเป็นพริกหวานผัดกับหอมหัวใหญ่ใส่มะเขือเทศและเครื่องเทศอินเดียเล็กน้อยพอมีกลิ่นอ่อนๆรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมเข้ากับเกี๊ยวไส้ผักรวมได้เป็นอย่างดี เมนูต่อไปยกมานึกว่าเป็นอาหารเม็กซิกันคือ "Pepper Corn Cheese Roll" ราคา 180 บาท แป้งรูปทรงกระบอกสอดไส้พริกหวาน 3 สีผัดกับข้าวโพดและโรยด้วยชีส ทานกับน้ำจิ้มสวีทชิลลี่ที่คล้ายๆน้ำจิ้มไก่เพิ่มรสเปรี้ยวหวานตัดความเค็มมันและแป้งทอดกรุบกรอบเหมือนทานปอเปี๊ยะทอดแบบจีนผสมความเป็นเม็กซิกันได้อย่างลงตัว
เมนูต่อมาเป็นอาหารทิเบตแท้แต่มีความคล้ายกับอาหารเกาหลีคือ "Honey Chicken Chilli" ราคา 180 บาท เป็นไก่ส่วนสะโพกเนื้อฉ่ำๆชุบแป้งทอดกรอบคลุกกับซอสรสชาติหวานเผ็ดกลมกล่อม เพิ่มความอูมามิด้วยหอมแขกผัดลงไปในซอสผสมน้ำผึ้งเข้มข้นไว้ทานเป็นกับข้าวมากกว่าไว้ทานเล่นแบบไก่ทอดเกาหลี ส่วนรสชาติโดยรวมถือว่าคล้ายๆกันครับ เมนูต่อไปก็ยังคงเป็นไก่ทอดคือ "Chicken Chilli" ราคา 180 บาท เป็นไก่ชุบแป้งทอดชิ้นใหญ่ๆนำไปคลุกกับซอสพริกผัดน้ำมันคล้ายๆกับที่อยู่ในกระปุกสีดำบนโต๊ะ ปรุงรสชาติให้หวาน-เค็มกลมกล่อมเพิ่มต้นหอม/หอมแขกลงไปช่วยเพิ่มความกรุบกรอบ โดยรวมแล้วจานนี้รสชาติเค็มเผ็ดคล้ายกับอาหารจีนเสฉวนมากกว่าครับผม
เมนูต่อมาเป็นลูกชิ้นแบบมังสวิรัติสไตล์ทิเบตคือ "Veg Manchurian Gravy" ราคา 180 บาท เป็นแป้งผสมกับผักทอดเหมือนทานโกะยากิของญี่ปุ่นที่เนื้อด้านในสุกดี นำไปทอดจนมีกลิ่นหอมคล้ายๆกับลูกชิ้นกุ้งแล้วคลุกกับซอสรสหวานอมเปรี้ยวใส่หอมใหญ่/หอมแขกสับละเอียดผสมกับขิง ถ้าไม่บอกว่าเมนูนี้เป็นมังสวิรัติก็นึกว่าลูกชิ้นกุ้งทอดปรุงรสครับผม เมนูต่อไปเป็นอาหารทานเล่นของชาวทิเบตแต่มีการปรุงรสและใช้วัตถุดิบคล้ายๆกับเกาหลีผสมฝรั่งคือ "Honey Chilli Potato" ราคา 160 บาท มันฝรั่งทอดกรอบแบบเดียวกับขนมมันเคลือบด้วยซอสรสชาติหวานเผ็ดคล้ายไก่ทอดจานแรกแต่ผัดแห้งกว่า ได้ความกรุบกรอบและหวานเผ็ดทานเพลินๆเหมาะเป็นกับแกล้มสุดๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น