[CR] รีวิว"หมูเผ็ช"ข้าวแกงติดแอร์เน้นเมนูปักษ์ใต้สุดเผ็ชทานคู่กับหมูทอดและย่างสูตรพิเศษ ใกล้ BTS เพลินจิต

ใกล้กับ Office ที่ทำงานมีร้านอาหารปักษ์ใต้มาเปิดใหม่อยู่ภายในเวิ้งอาคารมหาทุนพลาซ่าติดๆกับ BTS สถานีเพลินจิตชื่อร้านว่า "หมูเผ็ช" รูปแบบของร้านนี้ถ้าจะให้สรุปง่ายๆก็คือข้าวแกงติดแอร์เน้นเมนูหมูย่าง-หมูทอดเอาไว้ทานคู่กับแกงปักษ์ใต้เผ็ดๆที่สำคัญก็คือสามารถเลือกปริมาณข้าวได้ว่าจะทานเยอะหรือน้อย ส่วนราคาเมื่อเทียบกับจุดที่ร้านตั้งอยู่ส่วนตัวว่าสมเหตุผลและยังได้รับความนิยมจากพนักงานแถวนี้ในช่วงเที่ยงกันอย่างแน่นร้าน การเดินทางมาที่ร้านก็ง่ายๆถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดได้รอบๆอาคารมหาทุนพลาซ่าได้เลย (จอดฟรี 15 นาทีถ้ามีตราประทับร้านจอดฟรี 1 ชั่วโมง ถ้าจอดเกินคิดชั่วโมงละ 20 บาท) ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลงสถานี BTS เพลินจิตออกประตูที่ 2 จะพบกับอาคารมหาทุนพลาซ่าแล้วเดินเข้าช่องทางขวามือไปจนสุดทางก็จะพบกับร้าน "หมูเผ็ช" อยู่ตรงหัวมุม (ใกล้กับจุดเลี้ยวเข้าอาคารจอดรถ) ตึกสีชมพูโดดเด่นกว่าร้านอื่นๆในแถบนี้ทั้งหมดเลยครับ

นอกจากตึกทาสีชมพูที่โดดเด่นกว่าร้านอื่นจนมองเห็นได้จากระยะไกลแล้วซุ้มประตูและหน้าต่างยังทำให้เหมือนกับตึก-บ้านสไตล์ชิโนโปรตุกีสแบบเดียวกับในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ตซึ่งสะท้อนถึงความเป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ได้เป็นอย่างดี ก่อนเดินเข้าร้านก็จะพบกับป้ายสัญลักษณ์รูปหมูสาวพันผ้าคาดผมพร้อมขยิบตาส่งเสน่ห์ให้รู้ว่าเผ็ชจริงส่วนเมนูแนะนำมีข้าวราดแกงใต้/หมูทอด/หมูย่างกะปิราคาเริ่มต้นแค่ 60 บาท และยังบอกด้วยว่า "ใช้ข้าวหอมมะลิชั้นดี อาหารปราศจากผงชูรส" แถมยังไม่มี Vat. กับ Service Charge ด้วย แบบนี้ก็ได้ใจชาว Office ไปเต็มๆเลยครับ

บรรยากาศภายในร้านนี้อย่างแรกที่สัมผัสได้ก็คือแอร์ใหม่เปิดเย็นฉ่ำกับทุกจุดภายในเน้นสีสันสดใสเหมือนคาเฟ่สวยๆมากกว่าร้านขายข้าวแกงไม่ว่าจะเป็นพื้น/ผนัง/เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งทุกชิ้นมีความเป็นสมัยใหม่แต่ก็ตัดความโบราณด้วยโคมไฟที่ทำจากไซดักปลา/กระด้งเพ้นท์ด้วยสีลายไทยดูฉูดฉาด เหมาะกับสาวๆที่ชอบถ่ายรูปเน้นสีสันสดใสอย่างแน่นอน แต่อย่าลืมว่าที่นี่คือร้านข้าวราดแกงโดยมีวิธีการสั่งอาหารในรูปแบบ Fast Food ที่สั่งอาหาร-จ่ายเงินแล้วนำไปรับประทานที่โต๊ะและมีจุดเก็บจานเองแบบ Self-Service จะเริ่มต้นยังไงมาดูกันครับ

เมนูที่ร้านราคาเริ่มต้นแค่ 60 บาท คือข้าวราดแกง 1 อย่าง 2 อย่าง 80 บาท 3 อย่าง 100 บาท 4 อย่าง 120 บาท กับข้าวใส่ถ้วยราคา 65 บาท หมูทอดหรือหมูย่างราคาจานละ 75 บาท ข้าวหอมมะลิ/ข้าวเหนียว/ขนมจีนอย่างละ 15 บาท ไข่ดาวหรือไข่ต้มฟองละ 20 บาท ถ้าห่อกลับบ้านราคากล่องละ 5 บาท เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร/น้ำอัดลมขวดละ 30 บาท น้ำเปล่าขวดละ 20 บาท น้ำแข็งแก้วละ 2 บาท นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายตามเวลาที่กำหนดในกฎหมายและขนมหวานถ้วยละ 25 บาท ถือว่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับทำเลและการตกแต่งภายในร้าน ส่วนปริมาณที่ได้และความอร่อยแซ่บจะสมกับชื่อร้าน "หมูเผ็ช" หรือไม่ เรามาเริ่มสั่งอาหารแล้วก็ไปทานกันเลยครับ

ขั้นตอนที่ 1. หยิบถาดพร้อมสั่งข้าวสวยก่อนคือข้าวหอมมะลิชั้นดีกับข้าวไรซ์เบอรี่ (+5บาท) มีให้เลือก 3 ขนาดคือ S / M / L หรือถ้าเป็นคนทานเยอะกว่านั้นก็สามารถขอข้าวเพิ่มได้อีกครับ 2. เลือกกับข้าวที่จะทานโดยอ่านจากป้ายที่หน้าตู้ได้เลย วันนี้ก็มีให้ทานหลายอย่างทั้งน่องไก่ย่างสมุนไพร/สันคอหมูทอดกระเทียม/หมูเส้นทอดงา/คอหมูย่างกะปิ/หมูสามชั้นทอดงา/หมูย่างสมุนไพร/แกงเขียวหวาน/ปลาดุกราดพริก/หมูเค็ม/ผักผักรวม/แกงจืดฟัก/ตับผัดพริกหยวก/ผัดมะเขือยาว/แกงเหลืองกุ้งสับปะรด/ผัดวุ้นเส้นกะปิกระเฉด/แกงไก่ใต้ยอดมะพร้าว/ผักต้มเจอาม่า/แกงคั่วหอยแครงใส่ใบชะพลู/จับฉ่าย/ปีกไก่ต้มซีอิ๊ว/แกงไตปลา/แกงไก่ใต้ใส่หน่อไม้/มัสมั่นไก่/ผัดเผ็ดซี่โครงหมูอ่อนใส่ใบยี่หร่า/ไก่ผัดพริกเหลือง ส่วนน้ำจิ้มต่างๆเช่นน้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มไก่/พริกน้ำปลาตราดหยิบได้เลยฟรีๆ 3. มาที่ตู้เครื่องดื่มสั่งเลยว่าอยากได้อะไรเสร็จแล้วก็รับถาดอาหารมาที่จุดสุดท้ายเพื่อจ่ายเงินก่อนไปนั่งทานที่โต๊ะกันครับ

ตรงจุดที่คิดเงินสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายด้วยเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์แค่สแกน QR Code ก็จ่ายได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หยิบช้อน/ส้อม/หลอด/ไม้จิ้มฟันก่อนไปนั่งที่โต๊ะได้จากจุดนี้เลยครับ มื้อนี้เรามาทานกันแค่ 2 คนแต่สั่งอาหารไปหลายรายการมากเพราะอยากชิมหลายๆอย่าง (ถ้าไม่หมดก็ค่อยแพ็คกลับบ้านเอา) หมดไป 834 บาท สำหรับ 19 รายการถือว่าไม่แพงเพราะเยอะมากๆถึงขนาดที่น้องพนักงานบอกว่าเดี๋ยวตามเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะให้ทีหลังและปริมาณที่ได้ในแต่จานก็ถือว่าเยอะคุ้มดี แต่จะเข้มข้นสมกับชื่อร้านหรือไม่ไปนั่งรอชิมที่โต๊ะกันเลยครับผม

เมนูอย่างแรกเป็นข้าวราดแกงที่ผมกับแฟนสั่งมาเริ่มต้นอย่างละ 1 จานคือ "ข้าวราดแกง 2 อย่าง" จานละ 80 บาท และ "ไข่เป็ดมะตูม" ฟองละ 20 บาท จานของแฟนผมเลือกเป็นไรซ์เบอร์รี่เพิ่มอีก 5 บาท รวมทั้ง 2 จานราคา 205 บาท ปริมาณข้าวที่สั่งมาเป็นไซส์ M ราดกับข้าวมาเยอะแน่นเต็มหน้า จานของผมเป็นปลาดุกทอดราดพริกรสหวานเผ็ดกับวุ้นเส้นผัดกระเฉดกะปิใต้หอมเค็มเข้ากัยวุ้นเส้นหนึบๆ ไข่เป็ดยางมะตูมราดด้วยพริกน้ำปลาเมืองตราดหอมๆเข้ากันได้อย่างลงตัว ส่วนจานแฟนของผมเป็นข้าวไซส์เบอรี่เคี้ยวหนึบๆทานคู่กับหมูสามชั้นทอดงาและแกงไก่ปักษ์ใต้ใส่หน่อไม้รสเผ็ดหอมเครื่องแกงใช้หน่อไม้อ่อนเคี้ยวกรุบกรอบตัดเผ็ดด้วยไข่เป็ดยางมะตูมเข้ากันมากๆครับ

มีแกงที่อยากลองอีกหลายอย่างเพราะไม่ได้ทานนานแล้วเลยสั่งใส่ถ้วยมา 4 อย่างก็คือ "แกงคั่วหอยแครงใส่ใบชะพลู" เป็นเครื่องแกงคั่วแบบปักษ์ใต้ใส่หอยแครงเคี้ยวหนึบกับใบชะพลูสับรสชาติเผ็ดเค็มกลมกล่อมถึงเครื่องแกงและหอมมันกะทิดีแต่ใบชะพลูที่ใช้แก่ไปนิด ปริมาณเนื้อหอยที่ให้เยอะสมราคาถ้วยละ 65 บาทมากครับ ถือว่าอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน "แกงไตปลา" หรือแกงน้ำเคยราคา 65 บาท เป็นแกงน้ำใสแบบที่คนกรุงเทพนิยมปรุงรสมาเผ็ดเค็มกลางๆใส่เครื่องมาหนักทั้งมะเขือ/ถั่วฝักยาว/หน่อไม้อ่อน ส่วนเนื้อปลาใช้เป็นปลาทูตัวเล็กแต่แกะก้างมาให้อย่างดีเคี้ยวเต็มคำ ส่วนตัวถือว่าสมราคาเพราะถ้าแกงน้ำเคยข้นๆหนักเครื่องขายราคานี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

จานต่อมาเป็นแกงใต้ที่คนไม่เคยทานมาก่อนจะรู้สึกแปลกๆคือ "แกงเหลืองกุ้งสับปะรด" ราคา 65 บาท เหมือนชามนี้ที่ร้านจะยั้งพริกแกงไปนิดนึงเพราะความเผ็ดน้อยแต่หอมกะปิ-รสเปรี้ยวกำลังอร่อยกลมกล่อม สับปะรดที่นำมาแกงรสเปรี้ยว-หวานเนื้อกรอบทานกับกุ้งได้แบบเพลินๆ เมนูแกงอย่างสุดท้ายไม่ได้เป็นอาหารใต้แต่ประทับในสุดคือ "แกงมัสมั่นไก่" ราคา 65 บาท เป็นสะโพกไก่ชิ้นใหญ่ต้มกับมันฝรั่งจนเปื่อยนุ่มในน้ำแกงมัสมั่นเข้มข้น หวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นเครื่องแกงขึ้นจมูกเพิ่มความกรุบกรอบด้วยถั่วลิสงหอมมัน ทานกับข้าวสวยได้เยอะดีมากๆเลยครับ

อีก 1 เมนู Signature ที่เห็นอยู่ในป้ายแนะนำของที่ร้านจนต้องสั่งมาชิมก็คือ "คอหมูย่างกะปิ" ราคา 75 บาท เป็นสันคอหมูแท้แทรกไขมันละเอียดหมักแล้วย่างกับกะปิปักษ์ใต้แท้รสเค็มอ่อนๆหอมกลิ่นเคยแท้ละมุน ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วอีสานรสชาติหวานอมเปรี้ยวน้ำมะขามเปียกหอมพริกคั่วเข้ากันได้อย่างแปลกใหม่ดีครับ ทานอาหารใต้ก็ต้องมีน้ำพริกผัดสดเลยสั่งมา 2 รายการคือ "น้ำพริกไข่เค็ม" ราคา 40 บาท เป็นน้ำพริกรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นมะขามเปียกกับหอมแดงทอดเผ็ดกลางๆ เวลาทานให้บี้เนื้อไข่แดงผสมไข่เค็มเข้าไปช่วยเพิ่มรสเค็มนวลเนียนทานคู่ข้าวสวยร้อนๆอร่อยครบรสดีครับ "ชุดน้ำพริกกะปิ" ราคา 55 บาท เป็นน้ำพริกกะปิเคยปักษ์ใต้หอมๆรสเปรี้ยวเค็มอมหวานทานกับผักสดทั้งแตงกวา/มะเขือ/ถั่วฝักยาวและใบบัวบกให้สัมผัสกรุบกรอบสดชื่นและเผ็ดโดนใจมากเลยครับผม

จานต่อไปเห็นเป็นเมนูใหม่แนะนำเลยสั่งมาชิมคือ "ชุดขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้" ราคา 75 บาท สอบถามทางร้านที่นี่ใช้เนื้อปลาทูน่าในการทำ (เหมือนสูตรแม่ผมเลย) จุดเด่นของชามนี้คือความเผ็ดเค็มหอมกลิ่นเครื่องแกงใต้ผสมกับกะทิละมุนกลมกล่อม ทานคู่กับเส้นขนมจีน/ผักสดกรุบกรอบอร่อยรสชาติเหมือนที่เคยทำเองเลย แต่สูตรของที่บ้านผมจะใส่ส้มแขกลอยไว้ด้านบนเพิ่มความเปรี้ยวละมุนๆให้ครบรสมากขึ้น แต่สูตรร้านนี้ไม่ใส่ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยครับ

ขนมหวานที่นี่เสิร์ฟเป็นแบบร้อนจานแรกจำไม่ได้ว่าที่ใต้เรียกว่าอะไรแต่มันคือ "แกงบวดข้าวโพด" ข้าวโพดต้มกับกะทิปรุงรสหวานลอยใบเตยคล้ายกับข้าวโพดอบเนยแต่เปลี่ยนจากเนยเป็นหอมกะทิแทน ราคา 25 บาทครับสำหรับถ้วยนี้ เมนูต่อมาคือ "ฟักทองแกงบวด" ราคา 25 บาทเป็นน้ำกะทิหอมมันปรุงรสมาหวานกำลังดีทานกับฟักทองต้มเนื้อเหนียวหนึบๆอร่อยเพลินดีครับ เครื่องดื่มวันนี้เราเลือกเป็นน้ำเปล่าขวดละ 20 บาท และน้ำอัญชันสมุนไพรแยกมะนาวราคา 30 บาท ไว้ให้เติมความเปรี้ยวได้ตามใจ น้ำต้มดอกอัญชันหวานกลางๆตัดเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวสดช่วยทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลังจากทานอาหารมื้อหนักได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เริ่มอิ่มแล้วเก็บรวบรวมจานได้เลยครับ

เกิน 10000 ตัวอักษรขอรีวิวต่อใน Comment นะครับ
ชื่อสินค้า:   หมูเผ็ช
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่