😃 รีวิววันนี้เราขอนำเสนอร้านยุคใหม่สไตล์ Chef's Table ในย่านดุสิตที่เน้นนำเสนอวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม

👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา 
    📍 FB: ตามล่า Fine Dining
    📌 IG: Fine Dining lover 
     และช่องทางใหม่ทาง Youtube :  ตามล่า Fine Dining 

🇹🇭 Rare - แรร์

🍴 Innovative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์

🎗 Rare เป็นร้านอาหารสไตล์ Innovative น้องใหม่ในย่านดุสิต เชฟแบม ธนโชติ ดลชลัยย์กร เจ้าของร้านตั้งใจสร้างห้องครัวสุดหรูหราที่มีอุปกรณ์ครบครันเอาไว้สำหรับซ้อมทำอาหารก่อนที่จะปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นร้านอาหารในเวลาต่อมา แม้ตัวจะอายุเพียง 25 ปีแต่เชฟบิวผ่านงานจากห้องอาหาร Fine Dining ชั้นนำมาอย่างโชกโชนเช่นห้องอาหาร Jojo รวมไปถึงห้องอาหารติดดาวอย่าง L'Atelier de Joël Robuchon ตัวร้านเป็นบ้านเดียวที่เชฟได้ปรับเปลี่ยนออกมาให้เป็นห้องอาหารขนาดย่อม ด้านหน้ามีที่จอดรถเพียงพอสำหรับลูกค้าทุกคน บรรยากาศภายในค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากจำนวนโต๊ะถูกเซ็ทไว้รองรับลูกค้าเพียง 4 กลุ่มเท่านั้นจึงขอแนะนำเป็นอย่างมากให้โทรจองกับทางร้านก่อนเข้าไปทาน ห้องครัวดีไซน์ออกมาให้เป็นแบบ Open Kitchen กินพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด ลูกค้าสามารถมองเห็นทีมเชฟทำงานตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมอาหารไปจนถึงการนำเสิร์ฟโดยจะมีเชฟแบมและผู้ช่วยสลับกันออกมาอธิบายอาหารแต่ละคอร์สให้ลูกค้าฟังอย่างละเอียดอีกด้วย

🎗 ลูกค้าสามารถเลือกทาน Tasting Menu ได้ 2 แบบคือ Rare Ingredient (1,900++/p) เป็นเซ็ตเริ่มต้นจำนวน 8 คอร์สแต่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบนำเข้าเช่น Foie gras, Cod fish และ Snow fish หรือจะเป็น Rare Series (2,800++/p) เมนูตามฤดูกาลชุดใหญ่จำนวน 11 คอร์สที่เราได้ทานกันในวันนี้โดยเชฟให้ชื่อคอร์สปัจจุบันว่า “The Arun” เพื่อเป็นตัวแทนของป่าในฤดูหนาว เชฟแบมจัดเต็มทั้งในเรื่องของวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงโดยลูกค้าจะได้ทานทั้ง Mediterranean langoustine, French foie gras, Wagyu A5 รวมไปถึงเมนูจาก Truffle สุดท้ายคือเมนู À La Carte ที่ผสมผสานอาหารตะวันตกเข้ากับความเป็นไทยออกมาได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม วันนี้มีเมนูเด่นที่ขอยกมาเล่าคร่าวๆตรงนี้อยู่ 3 อย่างคือ

✨ 1.3 Smooth As Silk
Truffle
เมนูใน Chapter One ที่เชฟใช้วัตถุดิบราคาสูงอย่าง Autumn Black Truffle มาจัดเสิร์ฟ เริ่มจากการใช้แป้งขึ้นเป็นทรงคล้ายกระทงทองปากกว้าง ตรงกลางเป็นซอสทรัฟเฟิลที่ใช้เทคนิคจากการทำเอสปูม่าจึงมีความเบา ทั้งยังเป็นซอสที่ขึ้นมาจากทรัฟเฟิลเพียวๆไม่มีเห็ดชนิดอื่นๆมาผสมจึงมีอโรม่าของทรัฟเฟิลเด่นชัดมากๆ ใครที่เป็น Truffle lovers รับรองว่าฟินกับคำนี้แน่ๆ (14/20)

✨ 2.2 Reborn
Langoustine - Yuzu - Claw sauce
ใน Chapter Two ลูกค้าจะได้พบกับหนึ่งในวัตถุดิบหาทานยากที่เชฟเตรียมมาให้เราทานอย่างกุ้งแลงกูสทีนนำเข้าจากแหล่งจับในทะเลเมดิเตอเรเนียน เนื้อนุ่ม หวาน ด้านบนทอปด้วยแอปเปิ้ลเจล ฝั่งซ้ายมือคือซอสสีส้มทำมาจากก้ามกุ้งทอปด้านบนด้วยแผ่นวานิลลาตูย ฝั่งขวาคือโฟมยูซูรสเปรี้ยว เมื่อตีซอสสองฝั่งผสมกันแล้วทานทุกองค์ประกอบพบว่ารสชาติผสานออกมาได้อย่างลงตัว จานนี้บอกเลยว่าประทับใจมากๆ (14/20)

✨ 3.1 Got Stoned
Poach pear - Macadamia ice cream
ใน Chapter Three เชฟแบมจะนำเสิร์ฟอาหารหวาน 3 อย่าง เริ่มที่จานแรกเป็นลูกแพร์ที่ผ่านการโพชในวานิลลาและแมคคาเดเมียจนหอม เคี้ยวแล้วมีเนื้อสัมผัสที่บาลานซ์ดีมากระหว่างความกรอบและความนุ่ม ตรงกลางคั่นด้วยแผ่น Sable เป็นบิสกิตกรอบสไตล์ฝรั่งเศสแล้วจึงรองด้วยไอศกรีมแมคคาเดเมีย ทานทุกองค์ประกอบพร้อมกันเพื่อให้รสชาติที่ดีที่สุด (15/20)

🎗 ห้องอาหาร Rare เหมาะกับผู้ต้องการทานอาหารสไตล์ยูโรเปี้ยนที่เข้าถึงง่ายและใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงชนิดที่เรียกได้ว่าต่างจากห้องอาหารในโรงแรมทั่วไปอย่างชัดเจน การที่ทางร้านตั้งราคาเซ็ตเมนูชุดใหญ่เอาไว้ที่ 2,800++ ถือว่ารับได้เทียบกับวัตถุดิบที่ให้มา เชฟแบมใช้ฝีมือและเทคนิคเฉพาะตัวรังสรรค์รสชาติอาหารออกมาได้ซับซ้อนและน่าสนใจ การบริการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของห้องอาหารสไตล์ Chef's Table ขอแนะนำเพื่อนๆที่สรรหาร้านอาหารยูโรเปี้ยนใหม่ๆที่เน้นใช้วัตถุดิบคุณภาพและเข้าถึงไม่ยากได้ลองแวะไปชิมกันดู

📃 The Arun Tasting Menu (2,800++/p)

🥄 Chapter One

1.1 Tree Tree Tree
White chocolate - Cocoa butter - Rum

1.2 Keep Rolling
Hotate - Wild apple forest gel - Caviar

1.3 Smooth As Silk
Truffle
🥄 Chapter Two

2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months

2.2 Reborn
Langoustine - Yuzu - Claw sauce

2.3 Quack Quack
Foie gras - Smoke grape - Leek puree

2.4 Tea Time
Wagyu A5 - Hojicha tea

🥄 Chapter Three

3.1 Got Stoned
Poach pear - Macadamia ice cream

3.2 I Peach You
White peach sorbet

3.3 ???
Let's discover it!

🏵 Score:
อาหาร : 13/20
ราคา : 🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 13/20

📍 Visit: Nov 2020

🏠 Location: 258, The Rich Sriyan village, 25 ถนน ปิ่นเกล้านครชัยศรี แขวง ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

🚗 Parking: จอดในร้าน

🕛 Operating Time: 12.00-14.00, 17.00-19.00 และ 19.30-21.30 ปิดวันพุธ

💰 Price: 1,990-2,800/p

📞 Tel: 081-939-9949, Line @rarebkk

🧥 Dress Code: Smart Casual

🖥 Website: https://web.facebook.com/Rarebkk-103646808005885/

🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และเเชร์เพจของเรา : ตามล่า Fine Dining

👍 เพจเราสร้างขึ้นเพื่อรีวิวห้องอาหาร Fine Dining ระดับมิชลินไกด์ทั่วโลก

#Chefstable #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining #rarebkk #thearun


Rare เป็นร้านอาหารสไตล์ Innovative น้องใหม่ในย่านดุสิต เชฟแบม ธนโชติ ดลชลัยย์กร เจ้าของร้านตั้งใจสร้างห้องครัวสุดหรูหราที่มีอุปกรณ์ครบครันเอาไว้สำหรับซ้อมทำอาหารก่อนที่จะปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นร้านอาหารในเวลาต่อมา แม้ตัวจะอายุเพียง 25 ปีแต่เชฟบิวผ่านงานจากห้องอาหาร Fine Dining ชั้นนำมาอย่างโชกโชนเช่นห้องอาหาร Jojo รวมไปถึงห้องอาหารติดดาวอย่าง L'Atelier de Joël Robuchon


1.1 Tree Tree Tree
White chocolate - Cocoa butter - Rum
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยคอร์สแรกเป็นฟิงเกอร์ฟู้ดชิ้นเล็กช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร เชฟนำไวท์ช็อกโกแลตคุณภาพสูงมาผสมกับโคโค่บัตเตอร์ขึ้นรูปเป็นชิ้นพอดีคำให้ทั้งความหวานและความมัน ด้านในเป็นรัมผสมราสเบอร์รี่รสเปรี้ยว (11/20)


1.2 Keep Rolling
Hotate - Wild apple forest gel - Caviar
ถัดมาเป็นอีกหนึ่งฟิงเกอร์ฟู้ดที่เชฟนำแป้งมาม้วงเป็นทรงกระบอก ตรงกลางเป็นทาทาร์หอยเชลล์โฮตาเตะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นสับเป็นทาทาร์ มีครีมสีขาว ปิดท้ายด้วยการทอปแอปเปิ้ลเจลให้ความเปรี้ยวเบาๆและคาเวียร์เอาไว้ที่ด้านบน (12/20)


1.2 Keep Rolling
Hotate - Wild apple forest gel - Caviar
เนื้อหอยเชลล์สับมาพอดี ไม่หยาบและไม่ละเอียดจนเกินไป ซอสครีมหอมมัน มีความกรอบจากแป้งโรลด้านนอกช่วยเพิ่มมิติทางเนื้อสัมผัส เราชอบที่เชฟดับความเลี่ยนด้วยการเพิ่มรสเปรี้ยวจากแอปเปิ้ลเจลเอาไว้ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น (12/29)


1.3 Smooth As Silk
Truffle
สุดท้ายคือเมนูปิดท้าย Chapter 1 ที่เชฟแบมใช้วัตถุดิบราคาสูงอย่าง Autumn Black Truffle (14/20)


1.3 Smooth As Silk
Truffle
เชฟใช้แป้งขึ้นเป็นทรงคล้ายกระทงทองปากกว้าง ตรงกลางเป็นซอสทรัฟเฟิลที่ใช้เทคนิคจากการทำเอสปูม่าจึงมีความเบาและนุ่ม ทั้งยังเป็นซอสที่ขึ้นมาจากทรัฟเฟิลเพียวๆไม่มีเห็ดชนิดอื่นมาผสมจึงมีอโรม่าที่เด่นชัดมากๆ ใครที่เป็น Truffle lovers รับรองว่าฟินกับคำนี้แน่ๆ (14/20)


1.3 Smooth As Silk
Truffle
ลายของทรัฟเฟิลสวยมากจริงๆ (14/20)


2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months
เข้าสู่บทที่สองเชฟแบมนำเสิร์ฟมาเป็นเซ็ตขนมปังชุดใหญ่กับเนย น้ำมันมะกอก และพาม่าแฮมชั้นดี (12/20)

2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months
เริ่มต้นที่เซ็ตขนมปังโฮมเมดอบกันใหม่ๆทุกวัน ฝั่งขวาคือ Sourdough ที่เชฟแบมภูมิใจนำเสนอมากเพราะเชฟเลี้ยงยีสต์ขึ้นมาเองกับมือตั้งแต่หลายเดือนก่อนโดยคอยป้อนอาหารเป็นสตรอว์เบอร์รี่ก่อนจะนำมาอบ เนื้อด้านในเหนียวนุ่ม ผิวด้านนอกกรอบ มีรสอมเปรี้ยวเบาๆในแบบที่ควรจะเป็น ส่วนชิ้นอื่นๆมี Hard roll with oregano, Seaweed roll, Soft roll และขนมปัง Multigrain และขนมปัง Grissini ใส่มาในถ้วยแก้วทรงสูง (12/20)

2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months
เพื่อนๆสามารถทานขนมปังทานคู่กับเนย 3 อย่างคือ Spiced butter ที่มีเครื่องเทศมากกว่า 10 ชนิดผสมกันอยู่ ถัดมาคือ Garlic butter ซึ่งมีกลิ่นหอมเนยชัดเจน และ Truffle butter สำหรับเพื่อนๆที่ชอบอโรม่าของเห็ดทรัฟเฟิล (12/20)


2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months
หรือจะทานกับน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชูบัลซามิคจากเมือง Modena ที่หมักนานถึง 10 ปี ทำให้มีตวามหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นฉุนน้อยกว่าปกติ (12/20)


2.1 Cozy
Sourdough - 4 type Mixed bread - Proscuitto 18 months
สุดท้ายคือ Proscuitto di Parma หรือพาม่าแฮมที่ผ่านการหมักถึง 18 เดือน ทานแล้วรู้ได้ทันทีว่าเชฟแบมคัดคุณภาพของแฮมมาดีมากๆสังเกตได้จากความนุ่มและความมันของตัวแฮม รสชาติที่เค็มกลมกล่อมไม่บาดคอ (12/20)

ติดตามต่อกันในคอมเม้นเลยค่า