[CR] รีวิว...รถไฟ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ชั้น 1 แถมชั้น 2 แบบใหม่และเก่าให้ด้วย


          สวัสดีชาวพันทิปนะครับ ผมมีโอกาสไปเชียงใหม่มาครับ เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างประหลาด ทริปนี้ยาวเกือบ 15 วันเลยครับและไปหลายจังหวัดในภาคเหนือ การเช่ารถจะเสียค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาทแน่นอน จึงใช้รถส่วนตัวขับขึ้นไป อ้าวแล้วรถไฟอยู่ตรงใหน...หลังจากขับรถไปจอดไว้ที่เชียงใหม่เรียบร้อย ก็นั่งเครื่องกลับลงมา (โชคดีว่ามีตั๋วฟรีจากที่บินไม่ได้เพราะโควิด) แล้วตอนเย็นก็นั่งรถไฟกลับขึ้นไป จึงกลายเป็นการเดินทางแบบ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ สำหรับทริปนี้ครับ
          
          ขอเริ่มทริปด้วยการเล่าประสบการณ์นั่งรถไฟระยะยาวครั้งแรกของผม และเป็นตู้ชั้น 1 เสียด้วย มันก็ต้องมีเรื่องเล่ากันหน่อย ผมจะรีวิวตั้งแต่ก่อนเดินทางเลยนะครับ และทริปนี้เพื่อนผมตามไปด้วยเลยจ้างวานให้เพื่อนรีวิวชั้น 2 มาให้ซึ่งก็โชคดี(ของผมแต่ไม่น่าจะใช่ของเพื่อนผม)ที่ได้ครบทั้งแบบเก่าแบบใหม่มาให้อ่านกัน

          กระทู้นี้ยาวหน่อยนะครับ และรีวิวที่เป็นชั้น 2 ผมให้เพื่อนเขียนรีวิวมาเลย ซึ่งผมจะไม่ปรับแก้อะไรมาก และภาพที่เพื่อนถ่ายผมจะไม่ใส่ลายน้ำไว้นะครับ ในรีวิวอาจจะมีภาพของห้องน้ำซึ่งอาจจะไม่น่าดูนัก หากจะอ่านกระทู้นี้ตอนทานข้าว โปรดพิจารณาสักเล็กน้อย แต่ถ้าจะอ่านตอนเข้าห้องน้ำก็ไม่น่าจะมีปัญหา...ไปกันเลยครับ



          ผมจองตั๋วรถไฟรอบนี้ผ่านเวปไซท์ของการรถไฟ ซึ่งเหมือนจะสะดวกแต่หากเทียบกับการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว อย่างหลังสะดวกกว่ามากครับ การจองจะสามารถจองได้ล่วงหน้าไม่เกิน 30 วันก่อนเดินทางนะครับ เริ่มจากเข้าเวปไซท์และสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย ผมลองจองแบบไม่สมัครสมาชิกแล้วสมัครไม่ได้ ถ้าอยากได้ขบวนใหม่ขาขึ้นเชียงใหม่ ให้เลือกเป็นขบวนหมายเลข 9 ครับ ออกเดินทางเวลา 18:10 จากหัวลำโพงและถึงสถานีเชียงใหม่เวลาประมาณ 07:15 น.


          หลังจากเลือกขบวนได้ ระบบจะให้ใส่ชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนของผู้เดินทาง ซึ่งถ้าเดินทาง 2 ท่านก็ต้องใส่ทั้งคุ่ เมื่อใส่เสร็จแล้วจะเข้าสู่หน้าเลือกที่นั่ง ซึ่งนี่คือจุดด้อยสำคัญของการจองตั๋วผ่านเวปไซท์
 
         จากข้อมูลที่ผมอ่านมาก่อนจองและสอบถามจากเจ้าหน้าที่บนรถไฟได้ข้อมูลว่า ระบบจะปล่อยที่นั่งสำหรับจองผ่านเวปไซท์ประมาณ 15% ของที่นั่งชั้น 1 ทั้งหมด นั่นหมายความว่าจากที่นั่งชั้น 1 รวมทั้งหมด 24 ที่นั่ง (12 ห้อง) จะปล่อยสำหรับจองผ่านเวปไซท์แค่ 4 ที่นั่ง (2ห้อง) เท่านั้น และเต็มเร็วมากๆ เที่ยวนี้ผมได้ห้องหลังสุดติดห้องน้ำ ราคาที่นั่งเตียงชั้นบนจะถูกกว่าชั้นล่าง ผมคิดว่าน่าจะเพราะชั้นล่างมีหน้าต่าง ราคาชั้นล่าง 1,653 บาท ส่วนชั้นบน 1,453 บาท ถ้ามาคนเดียวอยากจะเหมาห้องก็จ่าย 2,453 บาท


          หลังจากจองและจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อย ระบบจะส่งบัตรโดยสารมาให้ทาง E-mail หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ซึ่งสามารถพิมพ์และนำไปขึ้นรถไฟได้เลย ไม่ต้องไปเปลี่ยนเป็นบัตรจริงอีกรอบ สะดวกดีครับ

          สำหรับผมคิดว่าการจองผ่านเวปไซท์เกือบจะสะดวก แต่ที่นั่งที่จัดไว้ให้น้อยเกินไป โทรจองกับ 1690 อาจจะมีตัวเลือกที่ดีกว่าครับ





          วันเดินทาง บินมาจากเชียงใหม่ นั่งรถไฟฟ้า Airport Rail Link ลงสถานีมักกะสันแล้วต่อสายสีน้ำเงินลงสามย่านก่อนเพื่อทานข้าวก่อน จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าต่ออีก 1 สถานีลงสถานีหัวลำโพง เดินขึ้นมาก็เจอกับหัวลำโพงพอดี

          ทางขึ้นจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะโผล่มาตรงทางเข้าด้านข้างของหัวลำโพง ช่วง Covid-19 รถไฟไทยไม่มีตู้เสบียงให้บริการ ดังนั้นใครยังไม่เตรียมของมารับประทาน เดินไปด้านหน้าหัวลำโพงข้ามถนนไปตรงนั้นมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อสามารถซื้อของตุนไว้ได้

          ส่วนถ้าเดินเข้ามาในหัวลำโพงแล้ว ด้านในจะมีร้านสะดวกซื้อที่มีของทุกอย่างที่ผมไม่ต้องการ ชั้น 2 มีร้าน Black Canyon กับ Cafe Amazon ส่วนชั้นล่างด้านในจะมีศูนย์อาหารอยู่ ลองไปใช้บริการกันดูครับ ส่วนผมซื้อแค่ขนมกับน้ำนิดหน่อย กะว่าไปทานมื้อเช้าที่เชียงใหม่เลย


          เกือบหกโมงเย็น รถไฟที่จะพาผมไปเชียงใหม่ก็เข้าเทียบชานชาลาที่ 4 รถไฟขบวนนี้เป็นขบวน CNR ซึ่งสั่งซื้อมาจากจีน เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ตอนนั้นเรียกว่าฮือฮามากเพราะเป็นตู้แบบใหม่ในรอบ 20 ปีเลย ขบวนนี้มี 13 ตู้เป็นตู้ชั้น 1 ตู้เดียวคือตู้สุดท้าย น่าจะมีอีกสักตู้คนจะได้ไม่ต้องแย่งกันขนาดนี้ สำหรับชั้น 2 มีตู้สำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะด้วยนะครับ 

          ป้ายข้างรถเป็นแบบจอภาพไม่ใช่แบบไม้เสียบเหมือนขบวนอื่นๆ ระบุหมายเลขขบวน ตู้ปัจจุบัน ต้นทาง ปลายทาง ตรวจข้อมูลกับบัตรโดยสารในมือตรงกัน ก็ขึ้นรถได้เลย



          ตู้ชั้น 1 มี 12 ห้องๆละ 2 ที่นั่งเป็นทั้งหมด 24 ที่นั่ง หลังจากขึ้นรถไฟมาแล้วจะมีประตูอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งใช้วิธีแตะ ประตูก็เปิด ห้องแรกสุดจะเป็นห้องของพนักงานประจำตู้ จากนั้นจะเรียงห้องจาก 1 - 12 ขาไปเชียงใหม่ ห้องลำดับเลขคี่ จะนั่งหันหลัง ส่วนห้องลำดับเลขคู่จะนั่งหันหน้าตามขบวน ซึ่งห้องของผมหันหน้าตามขบวนครับ  ตรงทางเดินมีกล้องวงจรปิดด้วยนะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย



          ภายในห้องเป็นแบบนี้ครับ มีโต๊ะเล็กๆ 1 ตัวไว้วางขนม ของจุกจิกได้นิดหน่อย พนักงานนำน้ำดื่มมาแจกคนละ 1ขวดด้วยครับ ที่นั่งเป็นแบบนั่งขนานกันคนหนึ่งนั่งริมหน้าต่าง อีกคนนั่งริมประตู ตรงกลางพับลงมาเป็นโต๊ะอีกตัวได้ ด้านหลังเบาะมีตาข่าย(ซึ่งย้วยแล้ว)ไว้เก็บของ ข้างๆเป็นแผงควบคุมจอภาพ 

 

ภาพชุดนี้แคปมาจากไฟล์ VDO อาจจะไม่ชัดมากนะครับ

          สำหรับใครเอากระเป๋าใบใหญ่มา ยัดไว้ใต้ที่นั่งได้เลยใส่กระเป๋าใปใหญ่ๆได้สบาย แผงควบคุมจอภาพสามารถเปลี่ยนช่อง เพิ่มหรือลดเสียงซึ่งต้องใช้หูฟังเสียบเอานะครับ และมีช่อง USB ไว้ 1 ช่องและมีปุ่มปิดจอภาพด้วย ส่วนตรงหัวนอนของเตียงทั้งชั้นบนชั้นล่างมีสวิทไฟอ่านหนังสือ และปลั๊กให้อีก 1 ชุด ซึ่งไฟสามารถปรับความสว่างได้โดยการแตะที่ปุ่มซ้ำ ซึ่งห้องของผมเตียงล่างไฟเสียเรียบร้อยครับ โต๊ะวางของสามารถพับได้นะครับ โดยการดันใต้โต๊ะและกดลงแรงๆ 



          อ่างล้างหน้าขนาดไม่ใหญ่นัก มาพร้อมกับสบู่ 2 ก้อนและมีตู้เก็บของเหนืออ่างล้างหน้า ซึ่งเปิดตู้ไปก็พบกับความว่างเปล่า เข้าใจว่าเป็นช่วงโควิด-19 จึงนำของในตู้ออกไป
         
          จุดต้องระวังจุดหนึ่งคือ อ่างล้างหน้าอยู่ใต้ตู้พอดี เวลาแปรงฟันถ้าก้มมากๆแล้วเงยขึ้นมาหัวอาจจะโขกกับตู้ได้ ระวังกันด้วยนะครับ



          เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม พนักงานก็มาปูเตียงให้ด้วยความคล่องแคล่ว รวดเร็ว คนเดียวจัดการ 2 เตียงบนล่างแป๊บเดียวเสร็จ ใครได้ชั้น2 ก็ปีนขึ้นได้ด้วยที่วางเท้าอันนี้ครับ พอปูเตียงเรียบร้อยจะมีพื้นที่วางของเพิ่มได้อีกตรงเหนือประตูเพราะเอาเบาะรองนอนลงมาแล้ว

          จอภาพที่ปลายเตียง บอกข้อมูลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสถานีปัจจุบัน สถานีต่อไป เวลาที่จะถึงสถานีต่อไป ความเร็วปัจจุบัน อุณหภูมิข้างนอกและข้างในรถ และการใช้งานห้องน้ำ ซึ่งถ้าสีเขียวแปลว่าว่าง สีแดงแปลว่ามีคนใช้งานอยู่ครับ


          ไปดูห้องน้ำกันครับ ห้องผมเป็นห้องสุดท้ายอยู่ติดกับห้องน้ำ แต่จะมีประตูกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งทำให้กลิ่นของห้องน้ำไม่ออกมารบกวนเลยครับ ข้อเสียคือ คนจะเดินผ่านค่อนข้างบ่อยเพราะทุกคนต้องเดินไปใช้ห้องน้ำ ทำให้มีเสียงประตูเปิดปิดอยู่นิดหน่อย ไม่ถึงกับรบกวนอะไรเพราะเสียงล้อบดรางดังกว่าเยอะ

          เคยอ่านเจอที่ใหนจำไม่ได้ เขาแนะนำว่าถ้าเลือกได้ให้เลือกห้องที่อยู่ช่วงกลางๆของตู้ จะช่วยลดเสียงล้อบดรางลงไปได้บ้าง เห็นด้วยนะครับ และน่าจะลดความพลุกพล่านหน้าห้องได้ด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าเสียงล้อบดยางเป็น ASMR ฟังแล้วหลับง่าย แนะนำห้องหมายเลข 1 กับ 12 นี่เลย

          ประตูห้องจากด้านนอกล๊อคไม่ได้นะครับ ต้องแจ้งพนักงานให้ล๊อคให้ ถ้าใครมาคนเดียวแล้วจะไปเข้าห้องน้ำหรือไม่อยู่ที่ห้องแจ้งพนักงานได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ เขายินดีบริการครับ


          ห้องน้ำแบ่งเป็น ห้องปัสสาวะชายพร้อมอ่างล้างหน้า 1 ห้อง ห้องโถสุขภัณฑ์แบบชักโครก 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง ทุกห้องสะอาดครับสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลเรื่องของเสียที่เราขับถ่ายจะทิ้งลงด้านล่างนะครับ รุ่นนี้ใช้ระบบถังเก็บแล้วไปสูบออกปลายทาง ส่วนการทรงตัวภายในห้องน้ำสำหรับคุณผู้ชาย ถ้าท่านสามารถยืนปัสสาวะตอนเมาได้อย่างแม่นยำ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
 
          ห้องอาบน้ำมีสบู่และยาสระผมมาให้แต่วันที่ไปเหมือนยาสระผมจะหมด เตรียมเอาไปเองจะสะดวกกว่าบนรถไฟไม่ห้ามเรื่องขนาดบรรจุของเหลวอยู่แล้ว มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะครับ ขนาดห้องเรียกว่าอาบทีเปียกทั้งห้องแน่นอน จัดท่าทางกันให้ดีๆแล้วกันครับ
ชื่อสินค้า:   รถไฟ กรุงเทพ เชียงใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่