เมื่อพูดถึงระบบขนส่งมวลชนที่รวดเร็วทันสมัย คนส่วนมากมักจะนึกรถไฟหัวกระสุนที่วิศวกรชาวญี่ปุ่นและจีนพยายามขับเคี่ยวเป็นทำความเร็วสูงสุดของโลก อย่างไรก็ตามระบบขนส่งสุดล้ำที่ละสายตาไม่ได้เช่นกันคือ Hyperloop บนแนวคิดกระสวยบรรทุกคน (Pod) เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงภายในท่อสุญญากาศนั่นเอง ซึ่งบริษัท Virgin Hyperloop ได้เริ่มทดสอบระบบ Hyperloop กับผู้โดยสารจริงเป็นครั้งแรกในทะเลทรายเนวาดา ประเทศ US ครับ
อะไรคือนวัตกรรม Hyperloop
Hyperloop ถูกกล่าวเป็นครั้งแรกในปี 1910 โดยศาสตราจารย์ Robert Goddard ก่อนที่จะนำมากล่าวอีกครั้งโดยคุณ Elon Musk ในปี 2012 โดย Musk เสนอแนวคิดแก่สาธารณชนโดยผสานท่อสุญญากาศกับตัว Pod โดย Pod จะถูกขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงมากเนื่องจากแรงดันและแรงเสียดทานที่ต่ำครับ ในทางทฤษฎี Hyperloop จะสามารถนำผู้โดยสารไปถึงที่หมายด้วยความเร็วสูงถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระยะทาง 560 กิโลเมตรครับ
คุณ Musk เปิดเผยแนวความคิดนี้อย่างไม่มีกั๊กแก่ประชาชนชาวโลกในรูปแบบของ Open-source เพื่อให้บริษัทที่สนใจสามารถนำแนวคิดดังกล่าวไปประยุกต์ใช้หรือทำออกมาเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัท Virgin Hyperloop ได้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดครับ
การทดสอบ Hyperloop ของบริษัท Virgin
บริษัท Virgin Hyperloop เดิมชื่อบริษัท Hyperloop Technologies ก่อตั้งในวันที่ 1 มิถุนายน 2014 ต่อมาได้รับเงินทุนจาก Virgin Group ในปี 2017 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Virgin Hyperloop ในที่สุด หลังจากที่ Virgin Hyperloop ได้ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาตัว Pod และระบบรางตามแนวคิดของ Musk ถึงแม้จะโดนวิจารณ์ว่า Hyperloop อาจดูเพ้อฝันเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ก็ตาม
ตัว Pod และระบบรางมีพื้นฐานจากรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูง Magnetic Levitation (Maglev) โดยเน้นการเร่งความเร็วของรถไฟในท่อสุญญากาศที่มีแรงเสียดทานต่ำจากการลอยตัวด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ปัจจุบันความเร็วสูงสุดที่สถิติโลกถูกทำได้ในปี 2015 โดย Maglev จากแดนอาทิตย์อุทัยที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการทดสอบใกล้ๆ ภูเขาไฟฟูจิ
ทาง Virgin Hyperloop ได้เริ่มทดสอบการขับเคลื่อน Pod โดยมีผู้ร่วมทดสอบเป็นมนุษย์จริงๆ โดยสารไปด้วย 2 คน ในทะเลทรายเนวาดา โดยการทดสอบครั้งนี้ทดสอบบนระยะทางยาว 500 เมตร ในเวลา 15 วินาที ที่ความเร็วสูงสุดที่ 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยทาง Virgin Hyperloop มีเป้าหมายจะทำความเร็วให้เกิน 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คุณ Sara Luchian ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าผู้เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมการทดสอบอธิบายว่าการนั่ง Hyperloop ทำให้คุณ Sara รู้สึกบันเทิงทั้งกายและใจ เพราะว่าการทดสอบมันราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่เหมือนรถไฟเหาะเลยถึงแม้ว่าจะมีการเร่งความเร็วอย่างมาก
ปัญหาของ Hyperloop – การลงทุนขนาดยักษ์
แม้ว่า Hyperloop จะเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต แต่ตัว Hyperloop เองก็ยังมีประเด็นที่ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน คุณ Sara กล่าวว่าหัวใจของ Hyperloop พึ่งพาการวางโครงสร้างพื้นฐานมากมาย และโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นที่จับตาของรัฐบาลในทุกประเทศเช่นกัน ดังนั้นการสร้างระบบรางต่างๆ จึงต้องเกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่างๆ และต้องใช้เงินทุนจำนาวนมากอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรามาดูกันครับว่านัวตกรรม Hyperloop จะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้แค่ไหน และจะปลอดภัยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ ถ้าทำสำเร็จจะช่วยลกระดับคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้นมากๆ เลยครับ
ฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง
https://www.facebook.com/Unboxthinking
หรือ
https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ ผมสัญญาว่าจะพยายามวิเคราะห์ข้อมูลดีๆ มาให้เรื่อยๆ นะครับผม
เริ่มทดสอบกับคนจริงแล้ว!!! Hyperloop นวัตกรรมระบบขนส่งแห่งอนาคต
เมื่อพูดถึงระบบขนส่งมวลชนที่รวดเร็วทันสมัย คนส่วนมากมักจะนึกรถไฟหัวกระสุนที่วิศวกรชาวญี่ปุ่นและจีนพยายามขับเคี่ยวเป็นทำความเร็วสูงสุดของโลก อย่างไรก็ตามระบบขนส่งสุดล้ำที่ละสายตาไม่ได้เช่นกันคือ Hyperloop บนแนวคิดกระสวยบรรทุกคน (Pod) เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงภายในท่อสุญญากาศนั่นเอง ซึ่งบริษัท Virgin Hyperloop ได้เริ่มทดสอบระบบ Hyperloop กับผู้โดยสารจริงเป็นครั้งแรกในทะเลทรายเนวาดา ประเทศ US ครับ
อะไรคือนวัตกรรม Hyperloop
Hyperloop ถูกกล่าวเป็นครั้งแรกในปี 1910 โดยศาสตราจารย์ Robert Goddard ก่อนที่จะนำมากล่าวอีกครั้งโดยคุณ Elon Musk ในปี 2012 โดย Musk เสนอแนวคิดแก่สาธารณชนโดยผสานท่อสุญญากาศกับตัว Pod โดย Pod จะถูกขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงมากเนื่องจากแรงดันและแรงเสียดทานที่ต่ำครับ ในทางทฤษฎี Hyperloop จะสามารถนำผู้โดยสารไปถึงที่หมายด้วยความเร็วสูงถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระยะทาง 560 กิโลเมตรครับ
คุณ Musk เปิดเผยแนวความคิดนี้อย่างไม่มีกั๊กแก่ประชาชนชาวโลกในรูปแบบของ Open-source เพื่อให้บริษัทที่สนใจสามารถนำแนวคิดดังกล่าวไปประยุกต์ใช้หรือทำออกมาเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัท Virgin Hyperloop ได้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดครับ
การทดสอบ Hyperloop ของบริษัท Virgin
บริษัท Virgin Hyperloop เดิมชื่อบริษัท Hyperloop Technologies ก่อตั้งในวันที่ 1 มิถุนายน 2014 ต่อมาได้รับเงินทุนจาก Virgin Group ในปี 2017 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Virgin Hyperloop ในที่สุด หลังจากที่ Virgin Hyperloop ได้ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาตัว Pod และระบบรางตามแนวคิดของ Musk ถึงแม้จะโดนวิจารณ์ว่า Hyperloop อาจดูเพ้อฝันเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ก็ตาม
ตัว Pod และระบบรางมีพื้นฐานจากรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูง Magnetic Levitation (Maglev) โดยเน้นการเร่งความเร็วของรถไฟในท่อสุญญากาศที่มีแรงเสียดทานต่ำจากการลอยตัวด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ปัจจุบันความเร็วสูงสุดที่สถิติโลกถูกทำได้ในปี 2015 โดย Maglev จากแดนอาทิตย์อุทัยที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการทดสอบใกล้ๆ ภูเขาไฟฟูจิ
ทาง Virgin Hyperloop ได้เริ่มทดสอบการขับเคลื่อน Pod โดยมีผู้ร่วมทดสอบเป็นมนุษย์จริงๆ โดยสารไปด้วย 2 คน ในทะเลทรายเนวาดา โดยการทดสอบครั้งนี้ทดสอบบนระยะทางยาว 500 เมตร ในเวลา 15 วินาที ที่ความเร็วสูงสุดที่ 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยทาง Virgin Hyperloop มีเป้าหมายจะทำความเร็วให้เกิน 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คุณ Sara Luchian ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าผู้เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมการทดสอบอธิบายว่าการนั่ง Hyperloop ทำให้คุณ Sara รู้สึกบันเทิงทั้งกายและใจ เพราะว่าการทดสอบมันราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่เหมือนรถไฟเหาะเลยถึงแม้ว่าจะมีการเร่งความเร็วอย่างมาก
ปัญหาของ Hyperloop – การลงทุนขนาดยักษ์
แม้ว่า Hyperloop จะเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต แต่ตัว Hyperloop เองก็ยังมีประเด็นที่ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน คุณ Sara กล่าวว่าหัวใจของ Hyperloop พึ่งพาการวางโครงสร้างพื้นฐานมากมาย และโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นที่จับตาของรัฐบาลในทุกประเทศเช่นกัน ดังนั้นการสร้างระบบรางต่างๆ จึงต้องเกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่างๆ และต้องใช้เงินทุนจำนาวนมากอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรามาดูกันครับว่านัวตกรรม Hyperloop จะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้แค่ไหน และจะปลอดภัยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ ถ้าทำสำเร็จจะช่วยลกระดับคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้นมากๆ เลยครับ
ฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/Unboxthinking
หรือ https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ ผมสัญญาว่าจะพยายามวิเคราะห์ข้อมูลดีๆ มาให้เรื่อยๆ นะครับผม