ความเชื่อผิดๆ เรื่อง “บรา”
“บรา” หรือ “เสื้อชั้นใน” เป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้หญิงทุกคนและแทบจะทุกวัย การใส่บราที่ถูกต้อง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวและการใช้ชีวิตให้กับสาวๆ ด้วย เพราะบราที่ดีจะช่วยให้หน้าอกดูสมส่วน และกระชับแน่นเมื่อต้องออกกำลังกาย
ดังนั้น บราแต่ละแบบจึงถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น สปอร์ตบรา บราไร้สาย บราเกาะอก หรือ บราสำหรับดันทรง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวๆ หลายคนจะลงทุนกับชุดชั้นใน 💰 เพราะนอกจากจะมีไว้เพื่อการใช้งานแล้ว ก็ยังเป็นความสุขเล็กๆ ของตัวเองอีกด้วย จริงมั้ยล่ะครับ
พี่หมอว่าความเข้าใจต่างๆ เกี่ยวกับการใส่บรา ก็มีมากมายพอๆ กับชนิดของบราเลยนะครับ เช่น ถ้าไม่ใส่บราทุกวัน หน้าอกจะหย่อนคล้อย หรือถ้าใส่บราเวลานอน ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนถูก อันไหนผิด วันนี้พี่หมอ 👨⚕️ ไปรวบรวมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาให้สาว ๆ แล้ว
📍ใส่บราทุกวัน หน้าอกจะไม่หย่อนคล้อย
ดร. แดน มิลลิส จากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งสหรัฐอเมริกา อธิบายเอาไว้ว่า หน้าอกของผู้หญิงจะหย่อนคล้อยไปตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น จุดประสงค์ของการใส่บราก็คือ เพื่อช่วยเสริมให้หน้าอกของผู้หญิงมีรูปทรงที่ดีตามที่ต้องการ แต่ไม่สามารถป้องกันการหย่อนคล้อยของหน้าอกได้
นอกจากนี้ งานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากประเทศฝรั่งเศส ที่ได้ศึกษาหน้าอกของผู้หญิงหลายร้อยคนตลอด 15 ปี ยังบอกเอาไว้อีกว่า จริงๆ แล้ว บราไม่ได้มีความจำเป็นกับผู้หญิงเลย เพราะนอกจากจะไม่สามารถป้องกันการหย่อนคล้อยได้แล้ว ยังจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกอ่อนแออีกด้วย 😅
📍ใส่บรานอน สาเหตุของมะเร็งเต้านม
การใส่หรือไม่ใส่บราเข้านอนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็ง แต่เนื่องจากผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินมักจะต้องใส่บราตลอดเวลา รวมถึงเวลานอนด้วย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของน้ำหนัก จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการใส่บราเข้านอนสามารถนำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้ ความเชื่อที่ว่า โครงเหล็กของชุดชั้นในที่ใส่ตอนนอนจะไปกดทับต่อมน้ำเหลืองบริเวณเต้านมจนเกิดการสะสมของพิษและก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้นก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดครับ
เช่นเดียวกับความเชื่อที่ว่าถ้าไม่ใส่บราตอนนอน 😴 เต้านมจะหย่อนยานก่อนวัย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายเรื่องนี้เอาไว้ว่า การหย่อนยานเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย เพราะเนื้อเยื่อที่หน้าอกจะสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อีกเช่น การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร พันธุกรรม การสูบบุหรี่ และการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของน้ำหนักแบบมากๆ ดังนั้น ต่อให้ใส่บรานอนทุกวัน เต้านมก็ยังสามารถหย่อนยานได้อยู่ดี
📍ถ้าโนบรา จะช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
การใส่บราเป็นประจำตอนนอน 🛌 อาจทำให้เหงื่อออกมากเกินไป โดยเฉพาะบราที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ จะกระตุ้นให้เหงื่อออกมากเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้หลับไม่สนิท นอกจากนี้ เสื้อชั้นในที่รัดแน่นเกินไป ยังสร้างแรงกดทับที่เส้นประสาทกล้ามเนื้อและหลอดเลือดบริเวณไหล่ส่วนบนและซี่โครง ซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนไปที่กล้ามเนื้อหลังและหน้าอกน้อยลง จนเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย เช่น ปวดหลัง ปวดคอ หายใจติดขัด เป็นต้น
และถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า การใส่บรามีผลต่อการนอนหลับ แต่พี่หมอก็เชื่อว่า การนอนแบบไม่ใส่บรานั้น น่าจะสบายตัวมากกว่า (เหมือนที่ผู้ชายชอบสวมแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเวลานอนนั่นแหละครับ) แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับการโนบราขณะเข้านอน ก็อาจเลือกใส่ชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้านิ่มๆ และระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
📍ผิวบริเวณหลังและหน้าอกจะนุ่มนวลขึ้น เมื่องดใส่บรา (เป็นบางวัน)
ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ มักมีปัญหาเหงื่อออกใต้อก ซึ่งเมื่อเหงื่อออกมากๆ จะทำให้มีเชื้อราเกิดขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดผื่นแดง คัน และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งผู้ที่เลิกใส่บราเท่านั้นถึงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้
นอกจากนี้ การใส่บราเป็นประจำ ยังอาจทำให้เกิดเม็ดสี การระคายเคือง หรือรู้สึกเจ็บผิวหนังบริเวณที่แถบยางยืดหรือลวดของชุดชั้นในสัมผัสหรือกดทับ ส่งผลให้เกิดรอย หรือการเปลี่ยนสีของผิวหนังบริเวณนั้น ซึ่งก็อาจมีบางคนที่ระคายเคืองมากจนต้องไปคุณหมอผิวหนังเพื่อรับการรักษา แต่ถ้ายังไม่หายภายใน 2-4 สัปดาห์ พี่หมออยากให้ลองพักจากการใส่เสื้อในบ้าง เช่น เวลาอยู่บ้าน 🏠 หรือเวลานอน ซึ่งถ้าไม่มีอะไรมารบกวน ผิวบริเวณนั้นก็จะสวยและนุ่มนวลขึ้นได้
📍ถ้าปวดหลัง ให้ลองปลดบรา
ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ย่อมรู้สึกอึดอัดมากกว่าผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็ก เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีที่จะช่วยได้ก็คือ การออกกำลังกายโดยเน้นไปที่บริเวณหน้าอก เพื่อที่กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกจะได้กระชับขึ้นและรองรับเนื้อเยื่อเต้านมได้อย่างเหมาะสม โดยที่ไม่ต้องใส่บราเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น สำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ เวลาที่รู้สึกปวดหลัง อย่าเพิ่งปลดบราออกทันทีนะครับ เพราะอาการปวดหลังอาจเป็นเพียงอาการชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น พี่หมอแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอจะดีกว่า คุณหมอจะได้ช่วยรักษาที่ต้นเหตุให้
📍ควรสวมสปอร์ตบราทุกครั้งเวลาออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย 🏃 ที่มีความเข้มข้นสูง สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเนื้อเยื่อเต้านมได้ ถ้าสาวๆ ไม่ได้ใส่บราที่เหมาะกับรูปร่างและการใช้งาน ดังนั้น ไม่ว่าความเชื่อในการใส่บราจะเป็นอย่างไร แต่ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย พี่หมอแนะนำให้ใส่สปอร์ตบราทุกครั้ง เนื่องจากเวลาที่ออกกำลังกาย เนื้อเยื่อเต้านมจะเคลื่อนไหวและกระแทกไปตามจังหวะและท่าทางต่างๆ เช่น การวิ่ง กระโดด หรือเต้น ซึ่งถ้าไม่ได้ใส่สปอร์ตบรา ก็อาจเกิดอาการที่เรียกว่า jogger’s nipple ซึ่งเป็นอาการเจ็บปวดที่เกิดกับหัวนมที่ถูกเสียดสีมากๆ จนเกิดเป็นรอยแยกที่หัวนมนั่นเอง
การเลือกสปอร์ตบรา ควรเลือกแบบที่มีความยืดหยุ่นสูง ใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ระบายความร้อนได้ดี สายเสื้อในไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป และควรเลือกแบบที่ผลิตจากผ้าฝ้ายหรือผ้าสแปนเด็กซ์ผสมไลคร่า เนื่องจากผ้าฝ้ายมีความนุ่มและมีคุณสมบัติที่สามารถจัดการกับความชื้นได้ดี ส่วนไลคร่าจะช่วยให้เสื้อชั้นในไม่เสียทรง ยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักได้ดี 👍
กุญแจสำคัญของการใส่บราให้ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ ความเหมาะสมในการใช้งาน และการเลือกขนาดที่เหมาะกับหน้าอกของตัวเอง เพราะหลายคนอาจจะคิดว่า การใส่บราที่รัดแน่นหรือมีขนาดเล็กกว่าหน้าอกของตัวเอง จะช่วยประคองหน้าอกให้กระชับและเป็นทรงสวย แต่นอกจากหน้าอกจะไม่สวยขึ้นแล้ว สาวๆ ยังอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ผิวหนังระคายเคือง หรือบางคนก็อาจถึงขั้นหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
ดังนั้น เวลาเลือกซื้อบรา ก็ต้องลองให้แน่ใจก่อนว่าใส่แล้วพอดีกับขนาดหน้าอกของเรา ไม่ทำให้เราอึดอัดจนอยากจะถอดทิ้งทันทีที่กลับถึงบ้าน รวมถึงดูวัสดุด้วยว่า ทำมาจากผ้าชนิดไหน ใส่แล้ว ผิวของเราจะระคายเคืองรึเปล่า ไม่ใช่ดูแต่ลวดลายหรือสีสันเท่านั้นนะครับ เพราะบราบางตัวอาจจะดูสวย แต่ใส่แล้วไม่สบายก็มีถมไป
แล้วกลับมาติดตามสาระน่ารู้จากพี่หมอได้ใหม่ในสัปดาห์หน้านะครับ 😘😘😘
ความเชื่อผิดๆ เรื่อง “บรา”
“บรา” หรือ “เสื้อชั้นใน” เป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้หญิงทุกคนและแทบจะทุกวัย การใส่บราที่ถูกต้อง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวและการใช้ชีวิตให้กับสาวๆ ด้วย เพราะบราที่ดีจะช่วยให้หน้าอกดูสมส่วน และกระชับแน่นเมื่อต้องออกกำลังกาย
ดังนั้น บราแต่ละแบบจึงถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น สปอร์ตบรา บราไร้สาย บราเกาะอก หรือ บราสำหรับดันทรง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวๆ หลายคนจะลงทุนกับชุดชั้นใน 💰 เพราะนอกจากจะมีไว้เพื่อการใช้งานแล้ว ก็ยังเป็นความสุขเล็กๆ ของตัวเองอีกด้วย จริงมั้ยล่ะครับ
พี่หมอว่าความเข้าใจต่างๆ เกี่ยวกับการใส่บรา ก็มีมากมายพอๆ กับชนิดของบราเลยนะครับ เช่น ถ้าไม่ใส่บราทุกวัน หน้าอกจะหย่อนคล้อย หรือถ้าใส่บราเวลานอน ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนถูก อันไหนผิด วันนี้พี่หมอ 👨⚕️ ไปรวบรวมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาให้สาว ๆ แล้ว
ดร. แดน มิลลิส จากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งสหรัฐอเมริกา อธิบายเอาไว้ว่า หน้าอกของผู้หญิงจะหย่อนคล้อยไปตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น จุดประสงค์ของการใส่บราก็คือ เพื่อช่วยเสริมให้หน้าอกของผู้หญิงมีรูปทรงที่ดีตามที่ต้องการ แต่ไม่สามารถป้องกันการหย่อนคล้อยของหน้าอกได้
นอกจากนี้ งานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากประเทศฝรั่งเศส ที่ได้ศึกษาหน้าอกของผู้หญิงหลายร้อยคนตลอด 15 ปี ยังบอกเอาไว้อีกว่า จริงๆ แล้ว บราไม่ได้มีความจำเป็นกับผู้หญิงเลย เพราะนอกจากจะไม่สามารถป้องกันการหย่อนคล้อยได้แล้ว ยังจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกอ่อนแออีกด้วย 😅
📍ใส่บรานอน สาเหตุของมะเร็งเต้านม
การใส่หรือไม่ใส่บราเข้านอนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็ง แต่เนื่องจากผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินมักจะต้องใส่บราตลอดเวลา รวมถึงเวลานอนด้วย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของน้ำหนัก จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการใส่บราเข้านอนสามารถนำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้ ความเชื่อที่ว่า โครงเหล็กของชุดชั้นในที่ใส่ตอนนอนจะไปกดทับต่อมน้ำเหลืองบริเวณเต้านมจนเกิดการสะสมของพิษและก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้นก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดครับ
เช่นเดียวกับความเชื่อที่ว่าถ้าไม่ใส่บราตอนนอน 😴 เต้านมจะหย่อนยานก่อนวัย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายเรื่องนี้เอาไว้ว่า การหย่อนยานเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย เพราะเนื้อเยื่อที่หน้าอกจะสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อีกเช่น การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร พันธุกรรม การสูบบุหรี่ และการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของน้ำหนักแบบมากๆ ดังนั้น ต่อให้ใส่บรานอนทุกวัน เต้านมก็ยังสามารถหย่อนยานได้อยู่ดี
📍ถ้าโนบรา จะช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
การใส่บราเป็นประจำตอนนอน 🛌 อาจทำให้เหงื่อออกมากเกินไป โดยเฉพาะบราที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ จะกระตุ้นให้เหงื่อออกมากเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้หลับไม่สนิท นอกจากนี้ เสื้อชั้นในที่รัดแน่นเกินไป ยังสร้างแรงกดทับที่เส้นประสาทกล้ามเนื้อและหลอดเลือดบริเวณไหล่ส่วนบนและซี่โครง ซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนไปที่กล้ามเนื้อหลังและหน้าอกน้อยลง จนเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย เช่น ปวดหลัง ปวดคอ หายใจติดขัด เป็นต้น
และถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า การใส่บรามีผลต่อการนอนหลับ แต่พี่หมอก็เชื่อว่า การนอนแบบไม่ใส่บรานั้น น่าจะสบายตัวมากกว่า (เหมือนที่ผู้ชายชอบสวมแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเวลานอนนั่นแหละครับ) แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับการโนบราขณะเข้านอน ก็อาจเลือกใส่ชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้านิ่มๆ และระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
📍ผิวบริเวณหลังและหน้าอกจะนุ่มนวลขึ้น เมื่องดใส่บรา (เป็นบางวัน)
ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ มักมีปัญหาเหงื่อออกใต้อก ซึ่งเมื่อเหงื่อออกมากๆ จะทำให้มีเชื้อราเกิดขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดผื่นแดง คัน และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งผู้ที่เลิกใส่บราเท่านั้นถึงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้
นอกจากนี้ การใส่บราเป็นประจำ ยังอาจทำให้เกิดเม็ดสี การระคายเคือง หรือรู้สึกเจ็บผิวหนังบริเวณที่แถบยางยืดหรือลวดของชุดชั้นในสัมผัสหรือกดทับ ส่งผลให้เกิดรอย หรือการเปลี่ยนสีของผิวหนังบริเวณนั้น ซึ่งก็อาจมีบางคนที่ระคายเคืองมากจนต้องไปคุณหมอผิวหนังเพื่อรับการรักษา แต่ถ้ายังไม่หายภายใน 2-4 สัปดาห์ พี่หมออยากให้ลองพักจากการใส่เสื้อในบ้าง เช่น เวลาอยู่บ้าน 🏠 หรือเวลานอน ซึ่งถ้าไม่มีอะไรมารบกวน ผิวบริเวณนั้นก็จะสวยและนุ่มนวลขึ้นได้
📍ถ้าปวดหลัง ให้ลองปลดบรา
ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ย่อมรู้สึกอึดอัดมากกว่าผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็ก เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีที่จะช่วยได้ก็คือ การออกกำลังกายโดยเน้นไปที่บริเวณหน้าอก เพื่อที่กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกจะได้กระชับขึ้นและรองรับเนื้อเยื่อเต้านมได้อย่างเหมาะสม โดยที่ไม่ต้องใส่บราเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น สำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ เวลาที่รู้สึกปวดหลัง อย่าเพิ่งปลดบราออกทันทีนะครับ เพราะอาการปวดหลังอาจเป็นเพียงอาการชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น พี่หมอแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอจะดีกว่า คุณหมอจะได้ช่วยรักษาที่ต้นเหตุให้
📍ควรสวมสปอร์ตบราทุกครั้งเวลาออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย 🏃 ที่มีความเข้มข้นสูง สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเนื้อเยื่อเต้านมได้ ถ้าสาวๆ ไม่ได้ใส่บราที่เหมาะกับรูปร่างและการใช้งาน ดังนั้น ไม่ว่าความเชื่อในการใส่บราจะเป็นอย่างไร แต่ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย พี่หมอแนะนำให้ใส่สปอร์ตบราทุกครั้ง เนื่องจากเวลาที่ออกกำลังกาย เนื้อเยื่อเต้านมจะเคลื่อนไหวและกระแทกไปตามจังหวะและท่าทางต่างๆ เช่น การวิ่ง กระโดด หรือเต้น ซึ่งถ้าไม่ได้ใส่สปอร์ตบรา ก็อาจเกิดอาการที่เรียกว่า jogger’s nipple ซึ่งเป็นอาการเจ็บปวดที่เกิดกับหัวนมที่ถูกเสียดสีมากๆ จนเกิดเป็นรอยแยกที่หัวนมนั่นเอง
การเลือกสปอร์ตบรา ควรเลือกแบบที่มีความยืดหยุ่นสูง ใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ระบายความร้อนได้ดี สายเสื้อในไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป และควรเลือกแบบที่ผลิตจากผ้าฝ้ายหรือผ้าสแปนเด็กซ์ผสมไลคร่า เนื่องจากผ้าฝ้ายมีความนุ่มและมีคุณสมบัติที่สามารถจัดการกับความชื้นได้ดี ส่วนไลคร่าจะช่วยให้เสื้อชั้นในไม่เสียทรง ยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักได้ดี 👍
กุญแจสำคัญของการใส่บราให้ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ ความเหมาะสมในการใช้งาน และการเลือกขนาดที่เหมาะกับหน้าอกของตัวเอง เพราะหลายคนอาจจะคิดว่า การใส่บราที่รัดแน่นหรือมีขนาดเล็กกว่าหน้าอกของตัวเอง จะช่วยประคองหน้าอกให้กระชับและเป็นทรงสวย แต่นอกจากหน้าอกจะไม่สวยขึ้นแล้ว สาวๆ ยังอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ผิวหนังระคายเคือง หรือบางคนก็อาจถึงขั้นหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
ดังนั้น เวลาเลือกซื้อบรา ก็ต้องลองให้แน่ใจก่อนว่าใส่แล้วพอดีกับขนาดหน้าอกของเรา ไม่ทำให้เราอึดอัดจนอยากจะถอดทิ้งทันทีที่กลับถึงบ้าน รวมถึงดูวัสดุด้วยว่า ทำมาจากผ้าชนิดไหน ใส่แล้ว ผิวของเราจะระคายเคืองรึเปล่า ไม่ใช่ดูแต่ลวดลายหรือสีสันเท่านั้นนะครับ เพราะบราบางตัวอาจจะดูสวย แต่ใส่แล้วไม่สบายก็มีถมไป
แล้วกลับมาติดตามสาระน่ารู้จากพี่หมอได้ใหม่ในสัปดาห์หน้านะครับ 😘😘😘