ถ้ำเชลย
สู่สันติภาพ และ ความรัก
--------------------------------------------------------------------------
ถ้ำเชลยแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เนื่องจากใช้เป็นค่ายพักของเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ออสเตรเลีย เนเธอแลนด์
และเป็นที่หลบภัยจากการทิ้งระเบิด
ตามประวัติได้เล่าไว้ว่าด้านในถ้ำมีแอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
เชลยศึกคนไหนที่ป่วยหนัก ได้กินน้ำในแอ่งน้ำนี้ก็จะหายป่วยได้เอง
ด้านหน้าจะมีอาคารพิพิภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2
จัดแสดงภาพถ่ายประวัติการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ
ทางขึ้นไปถ้ำเชลย จะอยู่ทางด้านขวาของอาคารนี้
ระยะทางเดินขึ้นไปถ้ำเชลยประมาณ 400 เมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วง
ช่วงแรกจะเป็นทางบันไดหินขึ้นไปสู่ยอดเขาระยะทางประมาณ 200 เมตร
ระหว่างทางก็จะมี ดอกไม้ ต้นไม้ รวมถึงเห็ด หน้าตาแปลกๆ แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของป่า
ช่วงที่ 2 เป็นทางเดินบนยอดเขา เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีก 200 เมตร
เป็นทางท่ามกลางป่าไผ่ ร่มรื่น เดินสบายไม่ชันเหมือนช่วง 200 เมตรแรก
ด้านหน้าถ้ำ จะมีป้ายบอกถึงประว้ติความเป็นมาของถ้ำเชลยแห่งนี้
ประวัติความเป็นมา จากป้ายหินแกรนิตหน้าถ้ำเชลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๕ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นได้ก่อสร้างทางรถไฟจากประเทศไทยไปประเทศพม่าและดินเดีย ระยะทางกว่า ๔๐๐ กิโลเมตร เพื่อใช้ขนส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์จากไทยไปยุโรป ญี่ปุ่นได้จับเชลยศึกฝ่ายพันธมิตรได้ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ Mr.John Coast เชลยศึกชาวออสเตรเลียที่รอดตายได้กลับมาเล่าว่า ตนและเชลยศึกอีกหลายคนที่ขึ้นมาหลบระเบิดในถ้ำนี้แล้วป่วยเป็นไข้ป่าอย่างหนักใกล้ตายกลับลงไปทำงานไม่ไหว ทหารญี่ปุ่นที่คุมเชลยถ้ำแห่งนี้ เห็นว่าใกล้ตายจึงปล่อยทิ้งไว้ให้ตาย ไม่ให้อาหารและยา ไม่นำกลับไปค่ายด้านล่างภูเขาเพื่อไปสร้างทางรถไฟต่อไป ปล่อยให้ตายบนเขาแห่งนี้ เชลยหลายสิบคนที่ป่วยเป็นไข้ป่า (มาลาเรีย) อย่างหนัก ไม่มียา ไม่มีอาหารให้กิน ได้อาศัยกินน้ำผึ้งป่า และผลไม้ป่าที่หาได้และอาศัยน้ำแอ่งหินภายในถ้ำ แต่เกิดอัศจรรย์เมื่อกินน้ำที่อยู่ในแอ่งหินขนาดเล็กภายในถ้ำที่ตักดื่มกินเท่าไหร่ก็ไม่แห้งสักที แล้วทุกคนที่ป่วยจากไข้ป่าอย่างหนักกลับหายป่วยอย่างอัศจรรย์ทุกคน จนทำให้ทหารญี่ปุ่นที่เป็นทหารเวรเฝ้าเชลยศึกแปลกใจเป็นอย่างมากว่าเชลยที่ป่วยใกล้ตายไม่มียาให้กินแล้วหายได้อย่างไร Mr.John Coast ได้บอกกับทหารญี่ปุ่นว่าได้ดื่มน้ำในแอ่งหินศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำแล้วหายป่วยเอง แต่ทหารญี่ปุ่นไม่เชื่อและได้นำเอาน้ำในแอ่งหินนี้ไปให้ทหารญี่ปุ่นเองและเชลยที่ป่วยเป็นไข้ป่าอย่างหนักกิน และไม่กี่วันทุกคนที่ป่วยหนักกลับหายป่วยจริง ทหารญี่ปุ่นจึงเชื่อ และได้ไว้วางใจ Mr.John Coast และได้ให้เป็นหัวหน้างานและเป็นเชลยศึกผู้หนึ่งที่ได้รอดตายจากสงครามโลกครั้งที่สอง ได้กลับมาเล่าประวัติฯ ถ้ำแห่งนี้ ถ้ำแห่งนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งสำคัญ และต่อมาจึงได้ตั้งชื่อว่า "ถ้ำเชลย"
มีบันไดลงไปด้านในถ้ำ เดินลงไปได้สะดวก
ด้านในถ้ำเป็นห้องโถงกว้าง อากาศถ่ายเทสะดวก
มองจากด้านในถ้ำออกไปทางบันไดที่เดินลงมา จะเห็นแสงส่องลงมาในถ้ำ
ด้านในถ้ำมีหินงอก หินย้อย สวยงามมาก
เวลาเปิด-ปิด: 8.30-16.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
--------------------------------------------------------------------------
คำแนะนำ
- ควรไปเที่ยวชมในช่วงเช้า ไม่ควรไปคนเดียว เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังน้อย ทางเดินขึ้นค่อนข้างเปลี่ยว ปลอดภัยไว้ก่อน
- ระวังอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลาน ตอนเราเข้าไปในเจองูด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตราย แต่ควรระวังไว้ก่อนดีที่สุด
- สามารถเช่าไฟฉายจากร้านค้าได้ แต่ว่าเราไม่ได้ใช้ เพราะไม่กล้าเข้าไปด้านในถ้ำที่ลึกกว่านั้น
[CR] สู่สันติภาพและความรัก ถ้ำเชลย @ กาญจนบุรี...ที่นี่ก็ดีนะ
สู่สันติภาพ และ ความรัก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้