เรื่องถ้ำ สมบัติ ผี งูยักษ์ คนหายลึกลับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน มีตำนานเล่าขานถึงถ้ำแห่งหนึ่งในป่าลึก ว่ากันว่าภายในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าที่คนโบราณนำมาซ่อนไว้เพื่อหนีภัยจากโจรผู้ร้าย สมบัติเหล่านี้ถูกเก็บซ่อนไว้ใต้ดินบ้าง ซ่อนไว้ในถ้ำบ้าง รอคอยให้ผู้ที่มีบุญได้มาค้นพบ
แต่ถ้ำแห่งนี้ไม่ได้เปิดรับทุกคน ใช่ว่าใครก็เข้าไปได้ง่ายๆ เพราะมีเรื่องเล่าขานถึงอาถรรพ์ความลี้ลับที่คอยปกป้องสมบัติอยู่ ว่ากันว่ามีวิญญาณร้ายและสิ่งลึกลับมากมายคอยเฝ้าระวัง ขัดขวางผู้บุกรุกที่คิดหวังร้ายต่อสมบัติ
เคยมีทีมนักสำรวจออกเดินทางไปยังถ้ำลึกลับ
การเดินทางเต็มไปด้วยอุปสรรค เต้องเผชิญกับป่ารกทึบ ภูเขาสูงชัน และสัตว์ป่านานาชนิด แต่ ก็ผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นมาได้
เมื่อนักสำรวจมาถึงปากถ้ำ ความรู้สึกตื่นเต้นผสมผสานกับความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้น บรรยากาศภายในถ้ำมืดมิด อากาศเย็นยะเยือก เสียงน้ำหยดดังก้อง
สร้างความน่ากลัวให้กับนักสำรวจ
ทีมนักสำรวจเริ่มออกสำรวจถ้ำอย่างระมัดระวัง แสงไฟฉายส่องไปรอบ เผยให้เห็นหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา บ้างก็เหมือนรูปสัตว์ บ้างก็เหมือนรูปคน สร้างความประหลาดใจให้กับทีมนักสำรวจ
ในขณะนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงลมพัดแรง แสงไฟฉายดับวูบลง บรรยากาศรอบตัวมืดสนิท สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักสำรวจ เสียงกรีดร้องดังขึ้น ทุกคนหวาดกลัว
ทันใดนั้น เสียงร้องของสัตว์ลึกลับ ส่งเสียงชวนขนลุกมันก็คือค้างคาวในถ้ำนั้นเอง
ในถ้ำลึกลับมักมีค้างคาวและสัตว์ที่กินค้างคาวอาศัยอยุ่นั้นก็คืองู
ในประเทศไทยมีค้างคาวทั้งหมด 140 ชนิด แบ่งออกเป็น 18 วงศ์ พบได้ทั้งในป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าชายเลน ทุ่งหญ้า พื้นที่เกษตรกรรม และเขตเมือง
ค้างคาวที่ชอบอาศัยอยู่ในถ้ำ มีอยู่หลายชนิด เช่น
ค้างคาวกินแมลง (Microchiroptera) เช่น ค้างคาวมงกุฎ (Eonycteris spelaea) ค้างคาวหน้ากาก (Hipposideros armiger) ค้างคาวท้องลาย (Tylonycteris pachypus) ค้างคาวปีกกว้าง (Cynopterus sphinx) ค้างคาวเหล็ก (Rhinolophus lepidus)
ค้างคาวกินผลไม้ (Megachiroptera) เช่น ค้างคาวบินได้ (Pteropus hypomelanus) ค้างคาวแม่ไก่ (Eonycteris spelaea)
ค้างคาวเหล่านี้เลือกอาศัยอยู่ในถ้ำ ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้
ความปลอดภัย: ถ้ำเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากสัตว์นักล่า
อุณหภูมิ: อุณหภูมิภายในถ้ำค่อนข้างคงที่ เหมาะแก่การพักผ่อนและจำศีล
ความชื้น: ความชื้นภายในถ้ำสูง เหมาะแก่การรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
แหล่งอาหาร: บริเวณปากถ้ำมักมีแมลงชุกชุม ซึ่งเป็นอาหารหลักของค้างคาวกินแมลง
สถานที่พักผ่อน: ถ้ำเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนและเลี้ยงดูลูก
ค้างคาวมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศน์ เช่น การกินแมลงศัตรูพืช การผสมเกสรดอกไม้ และการกระจายเมล็ดพันธุ์
ในประเทศไทยมีงูที่กินค้างคาวอยู่หลายชนิด เช่น
งูเหลือม (Python reticulatus) เป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พบได้ทั่วไปในป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าชายเลน ทุ่งหญ้า และพื้นที่เกษตรกรรม งูเหลือมสามารถกินเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ได้ เช่น กวาง หมูป่า หรือคน
งูหลาม (Python bivittatus) เป็นงูที่มีขนาดใหญ่ แต่เล็กกว่างูเหลือม
งูเห่า
งูสามเหลี่ยม ก็ชอบกินค้างคาว
ค้างคาวเป็นพาหะนำโรคหลายชนิด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคอีโบลา โรคซาร์ส และโรคโควิด-19 เชื้อโรคเหล่านี้สามารถแพร่สู่คนได้หลายวิธี เช่น
การสัมผัสโดยตรงกับค้างคาวหรือมูลค้างคาว เช่น การถูกค้างคาวกัด การสัมผัสกับมูลค้างคาวในถ้ำ หรือการสัมผัสกับเนื้อเยื่อของค้างคาวที่ตายแล้ว
การถูกแมลงที่กินเลือดค้างคาวกัด เช่น ยุง เห็บ และหมัด
การสูดดมละอองฝอยในอากาศ เช่น ละอองฝอยจากมูลค้างคาว
การติดเชื้อจากค้างคาวอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ 
รวมถึงงูที่กินค้างคาวก็มีอันตราย
ที่อาจติดโรคจากค้างคาว และ นำมาติดคนได้
หรือกระทั่งพิษงูเอง
นักสำรวจออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย บางคนก็พบสมบัติโบราณที่คนสมัยก่อนซ่อนเอาไว้ เป็นกำไล สร้อย 
บางคนก็เสียชีวิตอย่างปริศนา
บ้างก็ว่าป่วยติดเชื้อโรคจากค้างคาว
จากงู
บ้างก็ว่าเป็นเพราะ ผีหวงสมบัติ
บางคนเข้าไปในถ้ำ ก็ไปโผล่แดนลับแล ที่มีหมู่บ้านลึกลับ
ที่ห้ามพูดโกหก รักษาศีล5
เข้าไปแล้วออก  ทำให้มีคนหายสาปสูญไป
บางคนก็โดนงูเหลือม กินเข้าไปก็มี

โลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รู้ ยังมีเรื่องลี้ลับอีกมากมายที่รอคอยให้เราค้นหา แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องเคารพธรรมชาติและสิ่งลี้ลับเหล่านี้ ไม่ควรล้ำเส้นหรือคิดร้ายต่อสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่