JJNY : หนี้ครัวเรือนสูงสุดรอบ18ปี/ธกส.เผย ภัยธรรมชาติตปท.-ลานีญ่าดันราคายาง/พรายพลมองGDPลบ8%/หมอเผยอาการ3แกนนำ ไมค์หนัก

หนี้ครัวเรือน สูงสุดรอบ 18 ปีครั้งใหม่
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905068

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ตามข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือ “หนี้ครัวเรือน” ล่าสุดในไตรมาสสองปี 2563 จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
 
สะท้อนว่า ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนของไทยยังคงขยับขึ้นสวนทางเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลของโควิด-19 ซึ่งส่งผลทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปีครั้งใหม่ที่ 83.8% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และสูงขึ้นต่อเนื่องจากในไตรมาส 1ปี2563 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 80.1% ต่อจีดีพี
 
โดยเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส พบว่า ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9.22 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2 ปี2563 นำโดย สถาบันการเงินเฉพาะกิจและธนาคารพาณิชย์ เร่งขึ้นจากที่เพิ่มเพียง 1.2 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1 ปี2563 โดยระดับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสวนทางเศรษฐกิจไทยที่หดตัว
 
สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนของไทยในปี 2563 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองเดิมว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนจะยังคงเป็นหนึ่งในมาตรวัดที่สะท้อนความเปราะบางเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย โดยหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มขยับขึ้นมาอยู่ที่กรอบ 88-90% ต่อจีดีพีในปี 2563 จากระดับ 83.8% ต่อจีดีพีในไตรมาส 2/2563 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวลงในครึ่งปีหลัง
 

 
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. เผย ภัยธรรมชาติตปท.-ลานีญ่าในไทย ดันราคายาง สินค้าเกษตร ขึ้น
https://www.matichon.co.th/economy/news_2421028
  
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ชี้ภัยธรรมชาติในต่างประเทศ ภาวะตลาดโลก ปรากฏการณ์ลานีญาครึ่งปีหลังของไทยและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใน ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรเดือนพฤศจิกายน 2563 ได้แก่ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง
​ 
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 14.79 - 14.87 เซนต์/ปอนด์ (10.24 – 10.29 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 – 1.00 เนื่องจากได้รับ แรงหนุนจากความกังวลกับสภาวะอากาศที่แห้งแล้งในประเทศบราซิลและสหภาพยุโรปอาจทำให้ผลผลิตอ้อยลดลงส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลลดลง ขณะที่มีความต้องการนำเข้าน้ำตาลของประเทศจีนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง อาจส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายดิบปรับลดลงได้ ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 54.15 – 56.61 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.11 – 8.85 เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราภายในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดน้อยลงจากการขาดแคลนแรงงาน และยางแผ่นรมควันขาดตลาดเนื่องจากเกษตรกรหันไปขายน้ำยางพาราสดกันมากขึ้น มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.74 – 1.79 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.58 – 3.47 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลผลิตปี 2563/64 ผลผลิตออกสู่ตลาดยังไม่มาก ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นจากตลาดประเทศจีนที่ต้องการนำไปทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีปริมาณสต็อกคงเหลือลดลง
 
ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 5.20 – 5.40 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.20 – 7.78 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น สุกร ราคาอยู่ที่ 78.34 – 78.84 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.66 – 1.31 เนื่องจากความต้องการสุกรมีชีวิตจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอย่างต่อเนื่องจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ประกอบกับคาดว่าความต้องการเนื้อสุกรภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น จากมาตรการวันหยุดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 133.25 – 134.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 0.19 – 0.75 เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้กุ้งเจริญเติบโตช้า เกษตรกรชะลอการเพาะเลี้ยงตามการแปรปรวนของภูมิอากาศในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ในขณะที่ความต้องการของตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการวันหยุดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการกุ้งเพิ่มขึ้น
 
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่8,547 – 8,739 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.45 – 3.62 เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับผู้นำเข้าข้าวบางส่วนยังคงมีสต็อกข้าวเพียงพอจึงชะลอการนำเข้าข้าว ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,180 – 11,433 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4.20 – 6.31 ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 12,112 – 12,332 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.61 – 3.36 เนื่องจากการเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงครึ่งปีหลังของประเทศไทย ทำให้ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าว โดยคาดว่าผลผลิต ข้าวนาปีส่วนใหญ่ที่จะออกสู่ตลาดเดือนพฤศจิกายน 2563 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับโรงสียังคงประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้ระบายข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดในช่วงนี้เพื่อรองรับข้าวฤดูกาลใหม่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.39 – 7.42 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 -1.00 เนื่องจากอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่นแรกที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่