ทำลายสิทธิพิเศษทางความสามารถ

ในปัจจุบันนี้ แม้ในสังคมจะมีความพยายามที่จะยกเลิกอภิสิทธิ์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะหน้าตาหรือทรัพย์สิน กระนั้น ในสังคมส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่าความสามารถเป็นมาตรวัดที่ดีที่สุดและไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ทุกคนมีความสามารถเท่าเทียมกันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีความคิดว่าความสามารถ สติปัญญา และพรสวรรค์ ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่ควรทำให้ผู้คนได้รับมันอย่างเท่าเทียมกัน

แนวคิดที่สนับสนุนสิทธิพิเศษของคนมีความสามารถบางส่วนบอกว่า การที่คนจำนวนหนึ่งมีพรสวรรค์นั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันทำให้สังคมเจริญก้าวหน้า ทำให้ทุกคนทั้งคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้มีพรสวรรค์และผู้คนที่จะเกิดมาในอนาคตได้มีชีวิตที่สุขสบายมากขึ้น ผู้เขียนเองก็ไม่ปฎิเสธว่าการตัดสินด้วยความสามารถเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและจำเป็นต่อการอยู่รอดของสังคม ทว่าหากความสามารถแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีน้อยมีมากไม่เท่ากันยังทำให้สังคมก้าวหน้าขึ้นมาได้ขนาดที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แล้วหากทุกคนในสังคมมีความสามารถ สติปัญญา และพรสวรรค์ ในระดับที่สูงเหมือนกันทุกคน ผู้อ่านคิดว่าสังคมนี้จะสามารถพัฒนาไปได้ไกลถึงขั้นไหนกันล่ะ ดังนั้น หากเราสนับสนุนการตัดสินผู้คนด้วยความสามารถเพราะมันมีประโยชน์ต่อสังคม มันก็สามารถไปด้วยกันได้กับการทำให้ทุกคนมีความสามารถในระดับสูงเหมือนกัน

แนวคิดที่สนับสนุนสิทธิพิเศษของคนมีความสามารถบางส่วนบอกว่า ความสามารถที่ผู้คนได้รับนั้นมาจากความพยายามของพวกเขา เพราะพวกเขาพยายามอย่างหนัก ดังนั้นจึงควรได้รับผลตอบแทนมากกว่าคนไม่มีความสามารถที่ไม่พยายาม แต่แนวคิดนี้ไม่เป็นความจริง เพราะไม่ว่าจะเชื่อว่าความสามารถเป็นผลมาจากพันธุกรรมหรือการเลี้ยงดู ก็จำเป็นต้องยอมรับว่ามีปัจจัยที่เจ้าตัวไม่สามารถควบคุมได้มากมายที่เพิ่มพูนหรือลดทอนศักยภาพจนกลายเป็นความสามารถที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นถึงความพยายามจะมีส่วน แต่ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เช่นการขาดสารอาหาร เศรษฐานะ บาดแผลทางจิตใจ พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งหมดนี้ก็มีผลอย่างมากต่อความสามารถอยู่ดี และเนื่องจากไม่สามารถแยกความพยายามออกจากปัจจัยที่สนับสนุนหรือต่อต้านได้ เราจึงต้องทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันและสร้างตาข่ายสังคมให้ทุกคน ไม่ว่าจะมีผลผลิตต่ำหรือสูง สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข

การที่ผู้คนมีความสามารถไม่เท่ากันเป็นสิ่งที่เลวร้ายและทำให้ผู้คนมากมายยังต้องทนทุกข์ เพราะปัญหาสังคมที่แก้ไขไม่ได้และการไม่สามารถพัฒนาชีวิตของตัวเองได้ อันมีสาเหตุมาจากการขาดความสามารถทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและระดับสังคม ดังนั้นเราควรรีบแก้ปัญหานี้ก่อนที่ในอนาคต วิทยาการเพิ่มความสามารถต่างๆจะเข้ามาและถูกจัดแบ่งอย่างไม่ทั่วถึง ซึ่งจะทำให้ช่องว่างของคุณภาพชีวิตห่างกันมากจนไม่อาจถมได้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากการมีแนวคิดว่าสิทธิพิเศษทางความสามารถเป็นสิ่งที่ดีและสมควรแล้วและมองว่าไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันในด้านนี้

ในการทำลายสิทธิพิเศษทางความสามารถ เราคงไม่มีทางยกเลิกการตัดสินด้วยความสามารถไปได้ เพราะเกณฑ์นี้จำเป็นต่อการอยู่รอดและความก้าวหน้าของสังคม รวมถึงการทำให้ทุกคนมีความสามารถต่ำเท่าๆกันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะหากทุกคนมีความสามารถต่ำเหมือนกันสังคมก็ไม่มีการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้นเราจึงควรทำให้ทุกคนมีความสามารถสูงเหมือนกันมากกว่า อย่างไรก็ตาม ความรู้และความเข้าใจในผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตยังมีน้อย ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่า เราควรทุ่มเทและลงทุนในการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถของมนุษย์ การทำให้มนุษย์ทุกคนมีพรสวรรค์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้น จากนั้นเมื่อมีข้อมูลที่มากพอแล้ว เราค่อยมาพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุดในการทำให้ทุกคนมีความสามารถที่สูงเหมือนกันในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรปิดกั้นทางเลือกนี้เสียเลย หรือเมินเฉยมันเพียงเพราะคิดว่าการที่ผู้คนมีความสามารถไม่เท่ากันคือสิ่งที่ดี

ถ้าหากทุกท่านเคยพบเห็นความไม่เท่าเทียมทางความสามารถ ยกตัวอย่างเช่นทั้งๆที่พยายามน้อยกว่าแต่ก็ได้ผลลัพธ์มากกว่า หรือพยายามมากกว่าแต่ก็ได้ผลลัพธ์น้อยกว่า ไม่ว่าจะในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือที่ทำงาน และยินดีที่จะแบ่งปันเรื่องราว ผู้เขียนจะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่