เส้นทางรอยเท้าไดโนเสาร์ในสถานที่ต่างๆ

Cal Orcko


เขตชานเมือง Sucre ใน Bolivia เป็นโรงงานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่  เมื่อมีการขยายเหมืองหินคนงานได้พบว่ากำแพงหินแนวตั้งขนาดใหญ่มีรอยเท้าไดโนเสาร์เป็นพันๆรอย  สถานที่นี้มีชื่อว่า Cal Orcko (หรือ Cal Orko)  เป็นเส้นทางไดโนเสาร์ที่มีความหนาแน่นมากที่สุดในโลก

แผ่นหินปูนขนาดมหึมาที่มีความยาว 1.2 กม.สูง 80 เมตร  มีรอยเท้ามากกว่า 5,000 รอยเดินไต่กำแพงและคาดว่าจะเป็นรอยหางลากอีก 462 รอย ที่ถูกทำขึ้นในช่วงครึ่งหลังของยุคครีเทเชียส  สถานที่แห่งนี้เคยเป็นชายฝั่งของทะเลสาบในอดีต ซึ่งดึงดูดไดโนเสาร์ที่กินพืชและกินเนื้อเป็นอาหารจำนวนมาก เท้าของสิ่งมีชีวิตจมลงสู่ชายฝั่งที่อ่อนนุ่มในสภาพอากาศชื้นที่อบอุ่นและทิ้งรอยไว้ซึ่งแข็งตัวจากภัยแล้งในเวลาต่อมา

ข้อสันนิษฐานอีกข้อที่ระบุไว้คือ บริเวณนี้มีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกจึงดันให้พื้นที่ราบตรงนี้ถูกดันขึ้นและยกระดับกลายเป็นแนวตั้ง มันจึงกลายเป็นภาพรอยเท้าไดโนเสาร์ไปอยู่บนกำแพงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

รอยเท้าไดโนเสาร์ถูกค้นพบครั้งแรกใน Cal Orcko ในปี  1985 โดยคนงานเหมือง แต่ในช่วงปี 1994 -1998 เท่านั้นที่มีการตระหนักถึงความสำคัญอย่างเต็มที่เมื่อทีมวิทยาศาสตร์นำโดย Christian Meyer นักบรรพชีวินวิทยาชาวสวิสได้ทำการตรวจสอบและรับรอง จากข้อมูลของ Meyer การค้นพบนี้ถือเป็นการมีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อมนุษยชาติและทางวิทยาศาสตร์ โดยเผยให้เห็นข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อนและ "บันทึกความหลากหลายของไดโนเสาร์ได้ดีกว่าสถานที่อื่น ๆ ในโลก"

 
"Johnny Walker"



ไดโนเสาร์หลักที่ทิ้งรอยเท้าไว้ที่กำแพงใน Bolivia Cr.ภาพ ancient-origins.net/
การศึกษารอยเท้าเหล่านี้ให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมทางสังคมของไดโนเสาร์ ตัวอย่างเช่น จากการสังเกตุรอยเท้าขนาดใหญ่ 2 เส้นทางโดยมีรอยเท้าเล็ก ๆ คั่นระหว่างเส้นทางทั้งสอง แสดงว่าเป็นลูกไดโนเสาร์ที่เติบโตมาพร้อมกับพ่อแม่ที่คอยปกป้อง อย่างไรก็ตามเส้นทางที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือภาพรอยเท้าที่ยาว 347 ม.ของ Tyrannosaurus Rex เยาว์วัยที่มีชื่อเล่นว่า "Johnny Walker"  ที่ถูกตั้งชื่อโดยนักวิจัย

นอกจากนี้ยังมีการสร้างสวนแนวไดโนเสาร์ที่เรียกว่า Cretaceous Park ซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับการค้นพบที่มีการจัดแสดงไดโนเสาร์หลากหลายชนิดซึ่งจัดแสดงโครงกระดูกจำนวนมากและรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริง  หนึ่งในประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ Titanosaurus จำลองขนาด 36 × 18 ม. และจุดชมวิว 150 เมตรจากด้านหน้าของหิน ปัจจุบันสถานที่นี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโลกแห่งบรรพชีวินวิทยา
ที่มา
- The Guardian , Wikipedia , Fogonazos , Georouteandin , Twisted Sifter






 Lark Quarry


ประมาณ 95 ล้านปีก่อนฝูงไดโนเสาร์สองขาบางตัวมีขนาดเล็กเท่าไก่และนกอีมู มาดื่มน้ำที่ชายฝั่งที่เต็มไปด้วยโคลนของทะเลสาบซึ่งปัจจุบันคือ
Lark Quarry ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Winton ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลีย แต่น่าจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกมัน
ตื่นตระหนก ซึ่งบางทีอาจจะมีสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ทำให้ฝูงสัตว์ลงว่ายน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อข้ามทะเลสาบ

ในการทำเช่นนั้น พวกมันได้ทิ้งรอยเท้าไว้บนโคลนนุ่มซึ่งต่อมาได้ถูกฝังไว้ใต้ทรายและตะกอน ในขณะที่ระดับทะเลสาบและแม่น้ำยังคงเพิ่มขึ้นและลดลง ต่อมา ผืนทรายหนองน้ำและป่าทึบที่เขียวชอุ่มได้แห้งเหือดไปกว่าพันล้านปี และตะกอนที่ปกคลุมรอยเท้าถูกบีบอัดจนกลายเป็นหินแข็ง

ย้อนไปห้าสิบปีก่อน ผู้จัดการสถานีท้องถิ่นได้ค้นพบฟอสซิลรอยเท้าขณะที่กำลังไปมองหาโอปอล  ตอนแรกเขาคิดว่าพวกมันเป็นซากดึกดำบรรพ์ร่องรอยของนก  จนกระทั่งรอยเท้าดังกล่าวเริ่มเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงของพวกมัน เมื่อนักวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในปี1971
ปัจจุบันรอยเท้านี้ถูกเรียกว่า "ไดโนเสาร์แตกตื่น" (dinosaur stampede) ถูกเก็บรักษาไว้ภายในอาคารที่ Lark Quarry Conservation Park

สถานที่นี้มีรอยเท้าที่แบ่งแยกได้ประมาณ 3,300 รอยซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นโดยไดโนเสาร์ประมาณ 150 ตัวซึ่งเป็นของสองสายพันธ์ที่แตกต่างกัน - คือ  carnivorous coelurosaurs ที่กินเนื้อเป็นอาหารที่มีขนาดเท่าไก่  และ ornithopods ที่กินพืชซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยบางตัวมีขนาดใหญ่เท่านกอีมู พื้นที่โดยรอบวัดได้ประมาณ 22 เมตรคูณ 22 เมตร

โดยฝูง Coelurosaur และ Ornithopod อาจลงมาที่ลำธารหรือทะเลสาบเพื่อดื่มน้ำ เมื่อ Theropod นักล่าขนาดใหญ่ปรากฏตัวจากทางเหนือ ทำให้ฝูงสัตว์ต้องหนีข้ามทะเลสาบ  อย่างไรก็ตาม การวิจัยในภายหลังท้าทายเรื่องนี้  เมื่อการวิเคราะห์ตะกอนบ่งชี้ว่าบริเวณนั้นไม่มีทะเลสาบก่อนประวัติศาสตร์
แต่สิ่งที่ทับถมนั้นสร้างขึ้นโดยช่องทางน้ำโบราณที่ไหลด้วยความลึกและความเร็วที่แตกต่างกันในช่วงเวลา


ภาพประกอบของ "dinosaur stampede"  ที่ Lark Quarry 
Cr.ภาพ sciencephoto.com/
นักวิจัยยังไม่พบหลักฐานของการวิ่งแบบรวมตัวไปในทิศทางเดียว แต่รอยเท้านั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งหรืออาจจะหลายวัน เนื่องจากมีไดโนเสาร์ผ่านเส้นทางในเวลาที่ต่างกันและภายใต้เงื่อนไขที่ต่างกัน  จากขนาดของเส้นทางและสัดส่วนโครงกระดูกที่สันนิษฐานไว้ นักวิจัยคาดว่าไดโนเสาร์มีความสูงอยู่ระหว่าง 5 นิ้วถึง 5 ฟุตโดยรวม ซึ่งตรงกันข้ามกับการตีความก่อนหน้านี้
เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นที่ Lark Quarry เมื่อหลายล้านปีก่อน แต่สถานที่นี้ยังคงเป็นหนึ่งในเส้นทางไดโนเสาร์ที่มีความหนาแน่นสูงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ที่มา
- Dinosaurtrackways.com / Environment.gov.au / Wikipedia / NatGeo





Gantheaume Point


ทางตอนใต้สุดของ Cable Beach ห่างจากเมือง Broome ในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียประมาณ 6 กม.คือจุด Gantheaume ซึ่งเป็นบริเวณหน้าผาหินทรายสีแดงที่สวยงาม  ซึ่งสามารถสังเกตเห็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่เคยเดินไปมาอยู่ในบริเวณนี้  ซากรอยเท้าแบนๆดึกดำบรรพ์ตั้งอยู่บนโขดหินห่างจากทะเล 30 เมตรและสามารถมองเห็นได้เฉพาะในเวลาน้ำลงเท่านั้น

เส้นทางรอยเท้าเป็นหย่อม ๆนี้มีอายุ 130 ล้านปี ในระยะทาง 80 กม.ตามแนวชายฝั่ง มีสองสามเส้นทางที่ลงไปยังโขดหินทรายที่มีการเก็บรักษารอยเท้าไว้  โดยหล่อปูนปลาสเตอร์ทับรอยดั้งเดิมที่อยู่ในโขดหินที่ด้านบนของหน้าผา  

ในช่วงครีเทเชียส Broome เป็นดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยชีวิตของไดโนเสาร์  มีการระบุรอยเท้าไดโนเสาร์อย่างน้อย 9 ชนิดที่ Gantheaume Point  จากร่องรอยที่พบในพื้นที่พิสูจน์ให้เห็นว่าไดโนเสาร์กลุ่มหลักทั้งหมดอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย 

โดยร่องรอยของนักกินเนื้อสัตว์ที่มีชื่อเสียงได้แก่ Tyrannosaurus , Ankylosaurs หุ้มเกราะ, Ornithopods มังสวิรัติ, Stegosaurus และ Sauropod ขนาดมหึมาซึ่งทิ้งรอยเท้าขนาด 1.7 เมตรไว้
ที่มา
- ABC.net , Geocaching , www.stmarysbroome.wa.edu.au





 Dinosaur Ridge


Dinosaur Ridge ใน Morrison ในรัฐโคโลราโด เป็นแหล่งไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกค้นพบในปี1877 โดย Arthur Lakes
ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการระบุไดโนเสาร์ที่รู้จักกันดีที่สุด รวมทั้ง Apatosaurus, Diplodocus, Stegosaurus, และ Allosaurus ที่ถูกระบุครั้งแรกที่นี่

ปัจจุบัน กระดูกจาก Stegosaurus และ Apatosaurus ยังคงถูกติดอยู่ในโขดหินและสามารถสัมผัสได้  สถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือแนวหินที่ถูกนำออกมาให้เห็นในปี1937 โดยมีฟอสซิลรอยเท้าไดโนเสาร์หลายร้อยรอยอยู่ในหิน  เส้นทางรอยเท้าเหล่านี้สร้างขึ้นโดยสัตว์กินพืชที่มีลักษณะคล้าย Iguanodon และสัตว์กินเนื้อขนาดเท่านกกระจอกเทศเมื่อประมาณ 100 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ไดโนเสาร์อพยพไปทางเหนือและทางใต้ตามชายฝั่งของทะเลในสมัยโบราณ

ระหว่าง145 ล้าน - 201 ล้านปีก่อน บริเวณที่ปัจจุบันคือ Colorado ประกอบไปด้วยที่ราบต่ำที่มีแม่น้ำไหลผ่านซึ่งมีไดโนเสาร์ Sauropod อาศัยอยู่และตายในบริเวณนี้  และกระดูกของพวกมันกลายเป็นฟอสซิลอยู่ในโคลนและทรายในแม่น้ำ 
- ต่อมาในยุคครีเทเชียสตั้งแต่ประมาณ 110 ล้าน - 70 ล้านปีก่อนโคโลราโดตะวันออกจมอยู่ใต้ทะเล ในช่วงเวลานี้ไดโนเสาร์ Iguanodon อพยพไปตามขอบด้านตะวันตกของทะเลใน
- จากนั้นประมาณ 65 ล้านปีที่แล้วน้ำทะเลก็เหือดแห้งไปและเกิดการยกขึ้นอย่างฉับพลันของพื้นที่ เรียกว่า Laramide orogeny ได้ก่อตัวเป็นภูเขาขนาดใหญ่เป็นเทือกเขา Rockies ในปัจจุบัน  นอกจากนี้พื้นดินที่ยกขึ้นอย่างฉับพลันยังเผยให้เห็นฟอสซิลรอยเท้าที่เคยอยู่ก้นทะเลเก่าแก่ที่ซึ่งตอนนี้คือ Dinosaur Ridge 

กระดูกไดโนเสาร์ Sauropod ในหินทราย Cr.ภาพJames St. John / Flickr
ปัจจุบันพื้นที่นี้ได้รับการยอมรับว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์และได้รับการกำหนดให้เป็น“ สถานที่สำคัญทางธรรมชาติแห่งชาติของพื้นที่ Morrison Fossil  โดยกรมอุทยานแห่งชาติ   มีห้องจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่พบในพื้นที่นี้ และนักท่องเที่ยวสามารถชมแหล่งฟอสซิล 15 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ 1.5 ไมล์
ที่มา Colorado Encyclopedia / Wikipedia
Cr.https://www.amusingplanet.com/2016/03/the-dinosaur-ridge-in-morrison.html / KAUSHIK PATOWARY 
 
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่