หินโปร่งแสงอาคันซอหรือ Translucent Arkansas stone
วันนี้วันดีมีหินลับมีดมาให้ชมชนิดนึงครับ ชนิดเดียวแต่หลายก้อนหลายขนาด หินโปร่งแสงอาร์คันซอ Translucent Arkansas stone
หินลับมีดชนิดนี้มีชื่อเรียกหรือชนิดของหินเต็มๆว่าหินโปร่งแสงอาคันซอหรือ Translucent Arkansas stone เป็นหินลับมีดธรรมชาติจากเทือกเขา Ouachita รัฐอาร์คันซอและโอคลาโฮมา ซึ่งรัฐอาคันซอนี้เรามักจะคุ้นเคยกันในฐานะเมืองหลวงของมีดบูอี้ บ้านของเจมส์ แบล็ก ต้นกำเนิดแห่งมีดบูอี้หรือไม้จิ้มฟันแห่งอาคันซอ
หินลับมีดชนิดนี้เป็นหินที่แข็งมาก ลับมีดได้คม เนื้อละเอียด ค่าความละเอียดสูงและให้แนวคมที่ดุเดือดกว่าหินลับมีดชนิดอื่น จากเนื้อหินที่เป็นผลึกของควอทหรือซิลิก้อน มีชื่อเรียกว่าโนวาคูไลต์ ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินหมายถึงหินมีดโกน ซึ่งโนวาคูไลต์นี้ชาวอเมริกันพื้นเมืองหรืออินเดียนแดงใช้ทำมีด หอก และหัวศรมาหลายร้อยปี
สงครามครั้งใหญ่ระหว่างอินเดียนแดงกับคนขาวก็เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่จะเล่าหรือพูดถึงแบบคร่าวๆให้ฟังนิดหน่อย คือสงครามที่แม่น้ำชิต้า หรือวาชิตา จริงๆแล้วน่าจะออกเสียงเป็นภาษาพื้นเมืองอเมริกันเนทีฟว่า อวาชิตะ Ouachita ตามชื่อชนเผ่าและแม่น้ำ รวมไปถึงทะเลสาบ ที่มีมาถึงปัจจุบัน แต่ชาวเผ่า Ouachita และภาษา Ouachita กลายเป็นสิ่งสาบสูญบนแผ่นดินที่เค้าอาศัยมายาวนานหลายชั่วอายุคน
การรบหรือสมรภูมิอวาชิตะมีรายละเอียดคร่าวๆว่ากองทหารม้าที่7 นำโดยนายพลคัสเตอร์ผู้โด่งดังนั่นแหละ ได้เข้าโจมตีผู้คนของBlack Kettle ผู้นำอินเดียนเผ่าไชแอนน์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 1868 และฆ่านักรบอินเดียนตายไปร้อยกว่าคน ผู้หญิงและเด็กอีกนิดหน่อย เค้าว่ายังนั้นนะ Black Kettleและภรรยาถูกสังหารที่แม่น้ำ Washita ในเขตโอคลาโฮม่า ทุกวันนี้มีอนุสรณ์ของเหตุการณ์นี้และเป็นที่ระลึกถึงหัวหน้าเผ่าBlack Kettle ในพิพิธภัณฑ์ของเผ่าไชแอนน์
แม่น้ำและทะเลสาบ รวมไปถึงเทือกเขาที่เผ่าอวาชิตะอยู่ คือแนวเขาหรือเทือกเขาอวาชิตาอันโด่งดังแห่งรัฐอาคันซอร์และโอคลาโฮม่า แหล่งกำเนิดแห่งหินลับมีดอาคันซอนั่นเอง ซึ่งภายหลังจากการขับไล่อินเดียนแดงเจ้าของถิ่นออกไปหมดแล้ว คนขาวก็เข้ายึดครองเขตหรือเหมืองหินอาคันซอร์ที่ชาวเผ่าอวาชิตะใช้ทำหอก มีด และลูกธนูมาตั้งแต่โบราณ สบายไปเลย
ทุกวันนี้เผ่าอวาชิตะไม่มีแล้ว แต่หินวาชิต้าหรือหินอาคันซอร์ชนิดหยาบยังมีอยู่
หินโปร่งแสงอาร์คันซอแบบที่ลงให้ดูนี่ เนื้อดีมากครับ กินเหล็กได้ดีทุกก้อน แต่ละก้อนก็ไม่เหมือนกันนะครับ เนื้อก็ไม่เหมือน ค่าความละเอียดก็ต่างกัน การกินเหล็กก็ไม่เท่ากัน แต่แนวโน้มก็คือไอ้ก้อนที่กินเหล็กดีๆหน่อยเนื้อก็ยังหยาบอยู่บ้าง ถึงหยาบอยู่บ้างค่าความละเอียดของหินก็คือหลักพันกลางๆขึ้นไปจนถึงหลักพันแก่ๆนะครับ ก้อนที่เนื้อละเอียดจริงๆก็จะแข็งหน่อย กินเหล็กได้ช้ากว่าก้อนหยาบๆ แต่ให้คมที่ละเอียด ก้อนที่ออกเป็นสีขาวทึบๆ เนื้อจะหยาบกว่าก้อนที่ออกเป็นสีใสๆ แต่ถ้าตามข้อมูลของแดนส์แล้ว ไม่ว่าจะสีไหนจะพบได้ทั้งหยาบทั้งละเอียดครับ
หินโปร่งแสงอาร์คันซอลับมีดได้ดี จริงๆแล้วคือแต่งคมมีดหรือสร้างคมส่วนหน้าได้ดี คือเหมาะกับการลับมีดแบบอเมริกัน คือมีดคมสองจังหวะ หรือหักองศาคมด้านหน้าอีกครั้ง ถ้าลับมีดที่มีคมจังหวะเดียวอย่างมีดครัวญี่ปุ่น มันทำได้ค่อนข้างยาก และลับแก้มมีดไม่ดีครับ คือทำแก้มมีดเลอะเทอะ จากการที่หินแข็งและตั้งระนาบ 180 องศา เวลาถูหรือลับแก้มมีดมันก็มีหน้าสัมผัสที่น้อย ไม่เหมือนหินน้ำหรือหินญี่ปุ่นที่หน้าสัมผัสมากกว่า ถึงจะแบนเหมือนกันแต่หินน้ำหรือหินญี่ปุ่นค่อนข้างอ่อนกว่านี้และมีโคลนหรือผงหินละลายขึ้นมาช่วยเพิ่มพื้นที่การขัด ทำให้ได้รอยขัดที่สวยกว่า
ประเภทของหินอาคันซอส์ที่เค้าแยกประเภทออกมาอย่างกว้างๆก็มีห้าชนิดคือ ซอฟต์ , ฮาร์ด , ทรูฮาร์ด , ทรานสลูเซ็นท์ และแบล็ก ไล่ตามความละเอียดของหินมาเรื่อยๆคือซอฟต์หยาบสุดและละเอียดขึ้นมาจนถึงแบล็กละเอียดสุด
Soft Arkansas (Medium)
Hard Arkansas (Fine)
True Hard Arkansas (Extra Fine)
Translucent Arkansas (Extra Fine)
Black Arkansas (Ultra Fine)
แต่จริงๆแล้วเค้ายังแยกรายละเอียดปลีกย่อยไปอีกนะครับ ในแต่ละประเภท แต่เราไม่ค่อยมีของหรือยังศึกษาไม่มากเท่าไหร่ ก็เอาแค่ห้าอย่างนี่ก่อนก็ได้
ในตลาดหินเก่ามือสอง ที่เราซื้อหินโปร่งแสงหรือหินทรานสลูเซนท์กัน เราก็เรียกว่าหินโปร่งแสง หินลับน้ำมัน หรือหินอาคันซอ หินตรากวาง ซึ่งจริงๆแล้วมันมีส่วนถูกต้องอยู่บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหินอาคันซอส์ที่ผลิตหรือแยกจำหน่ายในเยอรมันก็มีเป็นสิบๆยี่ห้อ ผมเองก็ยังมั่นใจได้ว่าหินตรากวางก็มีแค่ 4 ก้อน ถึงมีบางก้อนผมดูเนื้อหิน ดูการตัด ดูกล่องไม้ ดูขนาดกล่อง ดูกรรมวิธีเข้าไม้ที่มุมมกล่อง ดูเนื้อไม้ จะพิจารณาได้อีกหลายก้อนว่าเป็นหินยี่ห้อแอนทีโลปหรือนิกัว เพราะของที่ทำจากคนละคนหรือคนละแหล่งมันจะมีข้อแตกต่างให้พอแยกแยะกันได้
หินอาคันซอหรือหินน้ำมันน่าจะใช่ ถ้าไม่ไปคว้าเอาหินเมืองจีนมานะครับ มีขายปนอยู่กับหินเยอรมันเหมือนกัน แต่เรื่องหินโปร่งแสงนี่ไม่ใช่ทุกก้อน เพราะในเว็บต้นทางหรือเว็บซื้อขายของฝรั่งก็ยังวางขายแยกระหว่างหินฮาร์ดกับหินทรานสลูเซ็นท์ คือมันมีแบบโปร่งแสงกับแบบไม่โปร่งแสง
หินอาร์คันซอเนื้อละเอียดมากและแข็งมากสมัยก่อนช่วงสี่สิบห้าสิบปีที่แล้วเค้ายังไม่แยกระหว่างหินทรูฮาร์ดกับหินทรานสลูเซ็นท์นะครับ เค้าขายปนกันไป หาดูฉลากเก่าของหินอาคันซอส์อย่างยี่ห้อนอร์ตัน ดูง่ายที่สุด มีทั้งแบบโปร่งแสงและแบบไม่โปร่งแสง มีช่วงหลังไม่นานมานี่เองที่เค้าแยกหินเนื้อละเอียดที่โปร่งแสงออกมาเป็นหินอีกหมวดหรืออีกชนิดนึง
ถ้าดูตามหลักการแยกชนิดหินของแดนส์ ที่ว่าหินโนวาคูไลต์หรือหินอาคันซอส์แยกกันด้วยความหนาแน่นหรือความถ่วงจำเพาะไม่ใช่ที่สี เพราะฉนั้นหินสีเดียวกันก็อาจจะเป็นหินคนละประเภทได้ แต่เรื่องความหนาแน่นหรือความถ่วงจำเพาะของหิน ผมยังไม่เข้าใจ อธิบายหรือเล่าให้ใครฟังไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนมา คาถาไม่เพียงพอ
ถ้าวัดหรือแยกกันด้วยลักษณะของการกินเหล็ก และค่าความละเอียดของหินหรือกริต หรือลักษณะเกรนของหิน อันนี้พอจะเข้าใจได้ เลือกเอามาลับมีดได้ถูก ไม่งงเท่าไหร่
หินลับมีดโปร่งแสง หินโปร่งแสงอาคันซอหรือ Translucent Arkansas stone
วันนี้วันดีมีหินลับมีดมาให้ชมชนิดนึงครับ ชนิดเดียวแต่หลายก้อนหลายขนาด หินโปร่งแสงอาร์คันซอ Translucent Arkansas stone
หินลับมีดชนิดนี้มีชื่อเรียกหรือชนิดของหินเต็มๆว่าหินโปร่งแสงอาคันซอหรือ Translucent Arkansas stone เป็นหินลับมีดธรรมชาติจากเทือกเขา Ouachita รัฐอาร์คันซอและโอคลาโฮมา ซึ่งรัฐอาคันซอนี้เรามักจะคุ้นเคยกันในฐานะเมืองหลวงของมีดบูอี้ บ้านของเจมส์ แบล็ก ต้นกำเนิดแห่งมีดบูอี้หรือไม้จิ้มฟันแห่งอาคันซอ
หินลับมีดชนิดนี้เป็นหินที่แข็งมาก ลับมีดได้คม เนื้อละเอียด ค่าความละเอียดสูงและให้แนวคมที่ดุเดือดกว่าหินลับมีดชนิดอื่น จากเนื้อหินที่เป็นผลึกของควอทหรือซิลิก้อน มีชื่อเรียกว่าโนวาคูไลต์ ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินหมายถึงหินมีดโกน ซึ่งโนวาคูไลต์นี้ชาวอเมริกันพื้นเมืองหรืออินเดียนแดงใช้ทำมีด หอก และหัวศรมาหลายร้อยปี
สงครามครั้งใหญ่ระหว่างอินเดียนแดงกับคนขาวก็เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่จะเล่าหรือพูดถึงแบบคร่าวๆให้ฟังนิดหน่อย คือสงครามที่แม่น้ำชิต้า หรือวาชิตา จริงๆแล้วน่าจะออกเสียงเป็นภาษาพื้นเมืองอเมริกันเนทีฟว่า อวาชิตะ Ouachita ตามชื่อชนเผ่าและแม่น้ำ รวมไปถึงทะเลสาบ ที่มีมาถึงปัจจุบัน แต่ชาวเผ่า Ouachita และภาษา Ouachita กลายเป็นสิ่งสาบสูญบนแผ่นดินที่เค้าอาศัยมายาวนานหลายชั่วอายุคน
การรบหรือสมรภูมิอวาชิตะมีรายละเอียดคร่าวๆว่ากองทหารม้าที่7 นำโดยนายพลคัสเตอร์ผู้โด่งดังนั่นแหละ ได้เข้าโจมตีผู้คนของBlack Kettle ผู้นำอินเดียนเผ่าไชแอนน์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 1868 และฆ่านักรบอินเดียนตายไปร้อยกว่าคน ผู้หญิงและเด็กอีกนิดหน่อย เค้าว่ายังนั้นนะ Black Kettleและภรรยาถูกสังหารที่แม่น้ำ Washita ในเขตโอคลาโฮม่า ทุกวันนี้มีอนุสรณ์ของเหตุการณ์นี้และเป็นที่ระลึกถึงหัวหน้าเผ่าBlack Kettle ในพิพิธภัณฑ์ของเผ่าไชแอนน์
แม่น้ำและทะเลสาบ รวมไปถึงเทือกเขาที่เผ่าอวาชิตะอยู่ คือแนวเขาหรือเทือกเขาอวาชิตาอันโด่งดังแห่งรัฐอาคันซอร์และโอคลาโฮม่า แหล่งกำเนิดแห่งหินลับมีดอาคันซอนั่นเอง ซึ่งภายหลังจากการขับไล่อินเดียนแดงเจ้าของถิ่นออกไปหมดแล้ว คนขาวก็เข้ายึดครองเขตหรือเหมืองหินอาคันซอร์ที่ชาวเผ่าอวาชิตะใช้ทำหอก มีด และลูกธนูมาตั้งแต่โบราณ สบายไปเลย
ทุกวันนี้เผ่าอวาชิตะไม่มีแล้ว แต่หินวาชิต้าหรือหินอาคันซอร์ชนิดหยาบยังมีอยู่
หินโปร่งแสงอาร์คันซอแบบที่ลงให้ดูนี่ เนื้อดีมากครับ กินเหล็กได้ดีทุกก้อน แต่ละก้อนก็ไม่เหมือนกันนะครับ เนื้อก็ไม่เหมือน ค่าความละเอียดก็ต่างกัน การกินเหล็กก็ไม่เท่ากัน แต่แนวโน้มก็คือไอ้ก้อนที่กินเหล็กดีๆหน่อยเนื้อก็ยังหยาบอยู่บ้าง ถึงหยาบอยู่บ้างค่าความละเอียดของหินก็คือหลักพันกลางๆขึ้นไปจนถึงหลักพันแก่ๆนะครับ ก้อนที่เนื้อละเอียดจริงๆก็จะแข็งหน่อย กินเหล็กได้ช้ากว่าก้อนหยาบๆ แต่ให้คมที่ละเอียด ก้อนที่ออกเป็นสีขาวทึบๆ เนื้อจะหยาบกว่าก้อนที่ออกเป็นสีใสๆ แต่ถ้าตามข้อมูลของแดนส์แล้ว ไม่ว่าจะสีไหนจะพบได้ทั้งหยาบทั้งละเอียดครับ
หินโปร่งแสงอาร์คันซอลับมีดได้ดี จริงๆแล้วคือแต่งคมมีดหรือสร้างคมส่วนหน้าได้ดี คือเหมาะกับการลับมีดแบบอเมริกัน คือมีดคมสองจังหวะ หรือหักองศาคมด้านหน้าอีกครั้ง ถ้าลับมีดที่มีคมจังหวะเดียวอย่างมีดครัวญี่ปุ่น มันทำได้ค่อนข้างยาก และลับแก้มมีดไม่ดีครับ คือทำแก้มมีดเลอะเทอะ จากการที่หินแข็งและตั้งระนาบ 180 องศา เวลาถูหรือลับแก้มมีดมันก็มีหน้าสัมผัสที่น้อย ไม่เหมือนหินน้ำหรือหินญี่ปุ่นที่หน้าสัมผัสมากกว่า ถึงจะแบนเหมือนกันแต่หินน้ำหรือหินญี่ปุ่นค่อนข้างอ่อนกว่านี้และมีโคลนหรือผงหินละลายขึ้นมาช่วยเพิ่มพื้นที่การขัด ทำให้ได้รอยขัดที่สวยกว่า
ประเภทของหินอาคันซอส์ที่เค้าแยกประเภทออกมาอย่างกว้างๆก็มีห้าชนิดคือ ซอฟต์ , ฮาร์ด , ทรูฮาร์ด , ทรานสลูเซ็นท์ และแบล็ก ไล่ตามความละเอียดของหินมาเรื่อยๆคือซอฟต์หยาบสุดและละเอียดขึ้นมาจนถึงแบล็กละเอียดสุด
Soft Arkansas (Medium)
Hard Arkansas (Fine)
True Hard Arkansas (Extra Fine)
Translucent Arkansas (Extra Fine)
Black Arkansas (Ultra Fine)
แต่จริงๆแล้วเค้ายังแยกรายละเอียดปลีกย่อยไปอีกนะครับ ในแต่ละประเภท แต่เราไม่ค่อยมีของหรือยังศึกษาไม่มากเท่าไหร่ ก็เอาแค่ห้าอย่างนี่ก่อนก็ได้
ในตลาดหินเก่ามือสอง ที่เราซื้อหินโปร่งแสงหรือหินทรานสลูเซนท์กัน เราก็เรียกว่าหินโปร่งแสง หินลับน้ำมัน หรือหินอาคันซอ หินตรากวาง ซึ่งจริงๆแล้วมันมีส่วนถูกต้องอยู่บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหินอาคันซอส์ที่ผลิตหรือแยกจำหน่ายในเยอรมันก็มีเป็นสิบๆยี่ห้อ ผมเองก็ยังมั่นใจได้ว่าหินตรากวางก็มีแค่ 4 ก้อน ถึงมีบางก้อนผมดูเนื้อหิน ดูการตัด ดูกล่องไม้ ดูขนาดกล่อง ดูกรรมวิธีเข้าไม้ที่มุมมกล่อง ดูเนื้อไม้ จะพิจารณาได้อีกหลายก้อนว่าเป็นหินยี่ห้อแอนทีโลปหรือนิกัว เพราะของที่ทำจากคนละคนหรือคนละแหล่งมันจะมีข้อแตกต่างให้พอแยกแยะกันได้
หินอาคันซอหรือหินน้ำมันน่าจะใช่ ถ้าไม่ไปคว้าเอาหินเมืองจีนมานะครับ มีขายปนอยู่กับหินเยอรมันเหมือนกัน แต่เรื่องหินโปร่งแสงนี่ไม่ใช่ทุกก้อน เพราะในเว็บต้นทางหรือเว็บซื้อขายของฝรั่งก็ยังวางขายแยกระหว่างหินฮาร์ดกับหินทรานสลูเซ็นท์ คือมันมีแบบโปร่งแสงกับแบบไม่โปร่งแสง
หินอาร์คันซอเนื้อละเอียดมากและแข็งมากสมัยก่อนช่วงสี่สิบห้าสิบปีที่แล้วเค้ายังไม่แยกระหว่างหินทรูฮาร์ดกับหินทรานสลูเซ็นท์นะครับ เค้าขายปนกันไป หาดูฉลากเก่าของหินอาคันซอส์อย่างยี่ห้อนอร์ตัน ดูง่ายที่สุด มีทั้งแบบโปร่งแสงและแบบไม่โปร่งแสง มีช่วงหลังไม่นานมานี่เองที่เค้าแยกหินเนื้อละเอียดที่โปร่งแสงออกมาเป็นหินอีกหมวดหรืออีกชนิดนึง
ถ้าดูตามหลักการแยกชนิดหินของแดนส์ ที่ว่าหินโนวาคูไลต์หรือหินอาคันซอส์แยกกันด้วยความหนาแน่นหรือความถ่วงจำเพาะไม่ใช่ที่สี เพราะฉนั้นหินสีเดียวกันก็อาจจะเป็นหินคนละประเภทได้ แต่เรื่องความหนาแน่นหรือความถ่วงจำเพาะของหิน ผมยังไม่เข้าใจ อธิบายหรือเล่าให้ใครฟังไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนมา คาถาไม่เพียงพอ
ถ้าวัดหรือแยกกันด้วยลักษณะของการกินเหล็ก และค่าความละเอียดของหินหรือกริต หรือลักษณะเกรนของหิน อันนี้พอจะเข้าใจได้ เลือกเอามาลับมีดได้ถูก ไม่งงเท่าไหร่