สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ไม่เชิงเป็นกระทู้คำถามแต่อยากจะมาระบาย และบอกเล่า และอยากทราบความเห็นของทุกๆคนว่ามันถูกต้องแล้วใช่ไหม เป็นพี่คนโตต้องทำทุกอย่างให้น้อง และต้องเสียสละในทุกเรื่อง
ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนว่า เรามีน้องชาย2คน อยู่ม.4 และ ม.6
งานในบ้านทุกอย่าง เราเป็นคนทำค่ะ เช่น ล้างจาน กรอกน้ำ กวาดพื้น ถูพื้น ซักผ้า รีดผ้า พับที่นอน และอื่นๆในชีวิตประจำวัน
ยังดีหน่อยที่สมัยนี้มีเครื่องซักผ้า เราก็เลยเบาไปบ้าง ทุกอย่างที่เราพิมพ์มา เราต้องทำให้น้องทั้งหมด รวมไปถึงกางเกงในต้องซักและพับเก็บใส่ตู้ให้
ส่วนเรื่องอาหารการกิน แม่จะทำให้น้องทุกเช้าก่อนไปรร. จัดโต๊ะให้เรียบร้อย แต่กับเราคือไม่เลยค่ะ เราต้องหากินเอง แม่คงคิดว่าเราโตแล้วหาเองได้
ในคราวที่แม่ไม่อยู่บ้าน แม่จะสั่งเราไว้ว่าให้หาข้าวให้น้องกินด้วย สั่งอาหารมาให้น้องด้วย และเมื่อไม่นานนี้ แม่สั่งให้เราแกะถุงกับข้าวใส่จานมาให้น้องกินค่ะ แบบนี้คือมันถูกต้องแล้วจริงๆใช่ไหม หรือเราคิดมากไปคะ พอเราไปพูดหรือบ่นกับญาติที่ใกล้ชิด เขามักจะบอกเราเสมอว่า ให้ดูแลน้องและรักน้องให้มากๆ เราบ่นว่าจะไม่รีดผ้าให้น้องแล้ว ให้น้องทำกันเอง ญาติบอกว่า น้องมันทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวแม่ก็มาทำแทนอีก แม่จะยิ่งเหนื่อยไปอีกเพราะแม่เป็นเสาหลักของที่บ้าน และถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ คงฉุกคิดขึ้นมาว่า แล้วทำไมไม่เอาไปคุยกับน้อง นั่นแหละค่ะ เราเคยคุยแล้ว บ่นไปกับแม่ก็หลายรอบว่า ทำไมต้องไปทำให้ แต่ผลที่ได้คือ น้องทำวันเดียวและวันต่อๆมาก็ไม่ทำอีกเลย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเราเอือมแล้วค่ะ น้องเราขี้เกียจมากๆ กิจวัตรประจำวันของน้องคือ ตื่นนอน มีอาหารที่แม่เตรียมไว้ให้กินก่อนไปเรียน และกลับมาบ้าน แม่ก็ซื้ออาหารมาใส่ชามจัดโต๊ะไว้ให้ ส่วนเราก็ทำงานบ้านให้น้องวนไป ผ้าห่มยังพับให้เลยค่ะตอนตื่นนอนถ้าน้องไม่ยอมพับ และยังมีอีกค่ะ เรื่องเงิน เวลาน้องจะไปเที่ยวข้างนอก แม่จะถามว่า มีเงินหรอไปเที่ยว แล้วแม่ก็จะให้ แต่กลับกัน เวลาเราออกไปเที่ยว ไม่เคยถามเลยว่ามีเงินไหม คงคิดว่าเราเป็นผู้หญิงและมีผู้ชายเลี้ยงค่าอาหารและอื่นๆตลอด และแม่จะเช็คเงินในกระเป๋าตังของน้องตลอด ถ้าเงินหมดก็จะเติมให้ แต่กับเราคือไม่เติมให้ ต้องไปขอก่อนถึงจะให้ค่ะ แม่ดูใส่ใจน้องมากๆและทำเหมือนน้องยังเด็กอยู่ตลอด เพราะแม่เคยบอกเราว่า น้องยังเด็กอยู่ คือเราก็มองย้อนกลับไปตอนอดีต ตอนเราอยู่ม.4และม.6 คือเราทำทุกอย่างในบ้านเป็นหมดแล้ว เอาตัวรอดได้แล้ว กลับบ้านเองได้แล้ว แต่น้อง(ม.4)คือยังให้แม่ไปรับอยู่เลยค่ะ นั่งรถเมล์กลับบ้านไม่ถูก นั่งไม่เป็น และเรียกgrab bike กลับบ้านยังทำไม่เป็นเลยค่ะ ต้องโทรมาบอกให้เราเรียกให้ บางทีเราก็น้อยใจว่าแม่ไม่รักเรา แคร์แต่น้อง ไม่เคยใช้น้องบ้างเลย อะไรก็เรียกใช้แต่เรา จริงๆเป็นเพราะน้องทำไรไม่เป็น แม่เลยเรียกใช้แต่เรา เบื่อชีวิตมากเลย ทำให้เราคิดอยากหนีออกจากบ้านตลอด น้องไม่คิดใฝ่รู้ ไม่เคยอยากทำอะไรด้วยตัวเองเลย ชีวิตมีแต่นั่งเล่นเกม ดูyoutube แค่นั้นเองค่ะ เราทั้งเรียน ทั้งทำงานบ้าน ในทุกๆวัน เราต้องรีบกลับมาบ้านเพื่อที่จะทำงานบ้าน ชีวิตส่วนตัวอยากไป fitness หรือห้าง ก็ไปแบบติดค้างคาใจว่ามีงานรออยู่ที่บ้าน ทั้งการบ้าน และงานบ้านทั้งบ้าน ก็ต้องรีบๆไปและรีบกลับ
เท่านี้ค่ะที่เราอยากมาระบาย ทุกคนมีความเห็นยังไงกันบ้างคะ ทุกอย่างเราคิดมากไปเองหรือป่าวคะ หรือว่าเราควรทำๆไปให้มันจบๆไปคะ
ถ้าแท็กห้องผิด หรือพิมพ์ผิดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เป็นพี่คนโต ต้องทำทุกอย่างมันถูกแล้วหรอ?
ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนว่า เรามีน้องชาย2คน อยู่ม.4 และ ม.6
งานในบ้านทุกอย่าง เราเป็นคนทำค่ะ เช่น ล้างจาน กรอกน้ำ กวาดพื้น ถูพื้น ซักผ้า รีดผ้า พับที่นอน และอื่นๆในชีวิตประจำวัน
ยังดีหน่อยที่สมัยนี้มีเครื่องซักผ้า เราก็เลยเบาไปบ้าง ทุกอย่างที่เราพิมพ์มา เราต้องทำให้น้องทั้งหมด รวมไปถึงกางเกงในต้องซักและพับเก็บใส่ตู้ให้
ส่วนเรื่องอาหารการกิน แม่จะทำให้น้องทุกเช้าก่อนไปรร. จัดโต๊ะให้เรียบร้อย แต่กับเราคือไม่เลยค่ะ เราต้องหากินเอง แม่คงคิดว่าเราโตแล้วหาเองได้
ในคราวที่แม่ไม่อยู่บ้าน แม่จะสั่งเราไว้ว่าให้หาข้าวให้น้องกินด้วย สั่งอาหารมาให้น้องด้วย และเมื่อไม่นานนี้ แม่สั่งให้เราแกะถุงกับข้าวใส่จานมาให้น้องกินค่ะ แบบนี้คือมันถูกต้องแล้วจริงๆใช่ไหม หรือเราคิดมากไปคะ พอเราไปพูดหรือบ่นกับญาติที่ใกล้ชิด เขามักจะบอกเราเสมอว่า ให้ดูแลน้องและรักน้องให้มากๆ เราบ่นว่าจะไม่รีดผ้าให้น้องแล้ว ให้น้องทำกันเอง ญาติบอกว่า น้องมันทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวแม่ก็มาทำแทนอีก แม่จะยิ่งเหนื่อยไปอีกเพราะแม่เป็นเสาหลักของที่บ้าน และถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ คงฉุกคิดขึ้นมาว่า แล้วทำไมไม่เอาไปคุยกับน้อง นั่นแหละค่ะ เราเคยคุยแล้ว บ่นไปกับแม่ก็หลายรอบว่า ทำไมต้องไปทำให้ แต่ผลที่ได้คือ น้องทำวันเดียวและวันต่อๆมาก็ไม่ทำอีกเลย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเราเอือมแล้วค่ะ น้องเราขี้เกียจมากๆ กิจวัตรประจำวันของน้องคือ ตื่นนอน มีอาหารที่แม่เตรียมไว้ให้กินก่อนไปเรียน และกลับมาบ้าน แม่ก็ซื้ออาหารมาใส่ชามจัดโต๊ะไว้ให้ ส่วนเราก็ทำงานบ้านให้น้องวนไป ผ้าห่มยังพับให้เลยค่ะตอนตื่นนอนถ้าน้องไม่ยอมพับ และยังมีอีกค่ะ เรื่องเงิน เวลาน้องจะไปเที่ยวข้างนอก แม่จะถามว่า มีเงินหรอไปเที่ยว แล้วแม่ก็จะให้ แต่กลับกัน เวลาเราออกไปเที่ยว ไม่เคยถามเลยว่ามีเงินไหม คงคิดว่าเราเป็นผู้หญิงและมีผู้ชายเลี้ยงค่าอาหารและอื่นๆตลอด และแม่จะเช็คเงินในกระเป๋าตังของน้องตลอด ถ้าเงินหมดก็จะเติมให้ แต่กับเราคือไม่เติมให้ ต้องไปขอก่อนถึงจะให้ค่ะ แม่ดูใส่ใจน้องมากๆและทำเหมือนน้องยังเด็กอยู่ตลอด เพราะแม่เคยบอกเราว่า น้องยังเด็กอยู่ คือเราก็มองย้อนกลับไปตอนอดีต ตอนเราอยู่ม.4และม.6 คือเราทำทุกอย่างในบ้านเป็นหมดแล้ว เอาตัวรอดได้แล้ว กลับบ้านเองได้แล้ว แต่น้อง(ม.4)คือยังให้แม่ไปรับอยู่เลยค่ะ นั่งรถเมล์กลับบ้านไม่ถูก นั่งไม่เป็น และเรียกgrab bike กลับบ้านยังทำไม่เป็นเลยค่ะ ต้องโทรมาบอกให้เราเรียกให้ บางทีเราก็น้อยใจว่าแม่ไม่รักเรา แคร์แต่น้อง ไม่เคยใช้น้องบ้างเลย อะไรก็เรียกใช้แต่เรา จริงๆเป็นเพราะน้องทำไรไม่เป็น แม่เลยเรียกใช้แต่เรา เบื่อชีวิตมากเลย ทำให้เราคิดอยากหนีออกจากบ้านตลอด น้องไม่คิดใฝ่รู้ ไม่เคยอยากทำอะไรด้วยตัวเองเลย ชีวิตมีแต่นั่งเล่นเกม ดูyoutube แค่นั้นเองค่ะ เราทั้งเรียน ทั้งทำงานบ้าน ในทุกๆวัน เราต้องรีบกลับมาบ้านเพื่อที่จะทำงานบ้าน ชีวิตส่วนตัวอยากไป fitness หรือห้าง ก็ไปแบบติดค้างคาใจว่ามีงานรออยู่ที่บ้าน ทั้งการบ้าน และงานบ้านทั้งบ้าน ก็ต้องรีบๆไปและรีบกลับ
เท่านี้ค่ะที่เราอยากมาระบาย ทุกคนมีความเห็นยังไงกันบ้างคะ ทุกอย่างเราคิดมากไปเองหรือป่าวคะ หรือว่าเราควรทำๆไปให้มันจบๆไปคะ
ถ้าแท็กห้องผิด หรือพิมพ์ผิดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ