คุณเชื่อไหม ผมเคยเห็นอะไรที่เรียกว่า....2

จากที่ผมเคยเล่ามาแล้วในตอน " คุณเชื่อไหม ผมเคยเห็นอะไรทีเรียกว่า "

เรื่องคนปล่อยของ

วันนี้จะมาเล่าต่อตามไทม์ไลน์ของชีวิตในการเจอกับอะไรที่เราก็เรียกไม่ถูก

มีทั้งที่ผู้ใหญ่เค้าเรียกกันว่า แม่นางตะเคียน สัมภเวสี ผี หรืออะไรก็ตาม เหตุการที่สองที่พบเห็นเป็นเหตุการณ์ที่เค้าเรียกว่าผีเข้า และบุคคลที่ถูกผีเข้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น คุณแม่ของผมเอง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ผมอายุประมาณ 13-14 ปี ย้อนไปประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา แม่และป๊าผมท่านก็เป็นหนุ่มสาว โรงงานทั่วไป แต่ป๊ามีหน้าที่เป็นหัวหน้างานในแผนก แผนกหนึ่งส่วนแม่ทำอยู่อีกแผนกหนึง วันที่เกิดเหตุนั้นพวกเรานั่งล้อมวงกินข้าวเย็นกันบริเวณนอกชานบ้าน บ้านเป็นบ้านยกสูงมีห้องน้ำและห้องครัวอยู่ข้างล่าง ขึ้นบรรไดมาก็เจอชานบ้านก่อนเข้าไปในตัวบ้านและซ้ายมือเป็นห้องนอน ซึ่งป๊ากับแม่จะนอนในห้อง ส่วนผมกับน้องสาว กางมุ้งนอนตรงห้องด้านหน้าสำหรับดูทีวี คืนนั้นหลังจากกินข้าวเสร็จพวกเราก็นั่งดูทีวีกันไป สักพักน้องก็เริ่มง่วนนอน ป๊าเลยบอกว่ากางมุ้งให้น้องนองเถอะป๊ากับแม่ก็จะนอนแล้ว ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.30 โดยประมาณ

 หลังจากเข้านอนกันได้ไม่นาน น้องหลับไปแล้วส่วนตัวผมกำลังเคลิ้ม ได้ยินเสียงป๊าเรียกแม่ดังขึ้นมา 
แก...แก...แก....แกเป็นอะไร แกเป็นอะไร"ผมได้ยินจากเบา ๆ เสียงป๊าก็เริ่มดังขึ้นแต่ไม่ได้ยินเสียงแม่ตอบกลับมา สักพักผมก็เลยส่งเสียงถามป๊าว่าแม่เป็นไรครับ ป๊าเปิดประตูออกมาผมก็เลยลุกขึ้นจากที่นอนเข้าไปในห้องนอนป๊า ผมเห็นแม่นอนหลับตา ส่งเสียงหายใจแรง ฟืดดดดดด ฟืดดดด และ กัดฟันไปมา กรืดดดดด   กรืดดดดด ผมรีบปลุกแม่ เขย่าตัวแม่ แต่แม่เหมือนไม่รู้สึกตัวยังคงนอนหลับตาหายใจแรงและกัดฟันเช่นเดิม 

ไม่นานป๊าเหมือนนึกได้บอกให้ผมไปตามป้าบ้านฝั่งตรงข้ามมาหน่อย ป้าบ้านตรงข้ามสมมุติว่าชื่อ ป้าแดง นะครับผมจำชื่อแกไม่ได้ ป้าแดง มีอาชีพเก็บของเก่า แกปลูกเพิงพักอยู่ข้างป่าย่อม ๆ ของชุมชนอาศัยอยู่กับลุงและลูกชายสติไม่ค่อยดี เพิงพักแกไม่มีไฟฟ้าใ้ช้แกใช้ตะเกียง ระหว่างบ้านป้าแดงกับบ้านผมจะมีลานดินกว้าง ๆ ผืนหนึ่งกันกลาง ใจหนึ่งผมก็รู้สึกกลัวเพราะมันมืดมาก อีกใจก็เป็นห่วงแม่ทั้งยังไม่รู้ว่าป๊าให้ไปเรียกป้าแดงมาทำไม

 ระหว่างที่ผมกี่งวิ่งกึ่งเดินกำลังจะผ่านลานดินอยู่นั้นสายตาผมก็มองไปยังเพิงพักของป้าแดง เห็นแสงตะเกียงยังคงสว่างอยู่ กำลังจะร้องเรียกก็เห็นประตูสังกะสีค่อย ๆ เปิดแง้มออกพร้อมทื้งร่างป้าแดงในชุดนุ่งโจงกะเบนใส่เสื้อขาวและมีผ้าพาดไหล่สีขาวเหมือนคนถือศิล ในมือแกถือตะกร้าหวายร้องบอกผมว่า
"ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้ว ข้ากำลังจะไปช่วยแม่เอ็ง"  ในใจผมก็คิดแกรู้ได้ยังไงเพราะแกเตรียมตัวพร้อมมาก

 ด้วยความร้อนใจผมก็รีบเดินกลับบ้านนำหน้าแกมาพอสมควรก็ไม่ได้ยินเสียงเดินตาม เลยหันกลับไปดูไม่เห็นแก อ้าววววว แต่ใจยังเป็นห่วงแม่จึงหันกลับแล้วเดินต่อพอใกล้ถึงบ้านเห็นแกกำลังเดินขึ้นบันได ผมสงสัยมาก แต่แกร้องบอกว่า

" ไอ้หนูเอ็งรีบไปเก็บก้านมะยมข้างบ้านมาให้ข้าหน่อยเร็วเข้า 9 กานนะ" ผมจึงวิ่งไปข้างบ้านไม่ไกลจากลานดินนัก พอกลับมาถึงกำลังเดินขึ้นบันไดได้ยินเสียงป้าแกสวดมนต์ พอผมเดินขึ้นมาถึงชานบ้าน ภาพที่เห็นคือป๊านั่งประคองแม่อยู่โดยที่แม่นั่งหลับตากัดฟัน กรอดดดดดดเหมือนตอนเดิม ป้าแดงจุดธูป เทียน สวดมนต์ เสร็จแกส่งธูปมาให้ผม " ไอ้หนูเอ็งเอาไปปักกลางแจ้งนอกชายคาบ้านนะ " ผมรับธูปมาแล้วรีบไปปักอย่างไวเผื่อที่จะได้กลับมาดูป้าแดงแกทำพิธี กลับขึ้นมาคราวนี้ได้ยินเสียงแกถาม

" เป็นใคร มายุ่งกับเค้าทำไม" เสียงป้าแกดูแข็งกร้าวราวกับเสียงผู้ชายแก่ที่ดุดัน เงียบไม่มีเสียงตอบมาจากแม่ผม

" จะคุยกับกูดีดี รีอยากจะเจ็บตัว " ป้าแดงแกสัมทับไปอีกที เงียบอีกตามเคย

ป้าแดงแกท่องอะไรไม่รู้พึมพรัม แล้วเอาก้านมะยมที่ผมเก็บมาจุ่มลงในขันสะบัดใส่แม่ท้ังที่ยังท่องมนต์อยู่ แม่สะดุ้ง ส่งเสียงร้องออกมาแต่มันไม่ใช่เสียงแม่ผมเป็นเสียงผู้ชายร้อง

" โอ้ยยยยย อย่าทำข้าเลย เค้าใช้ข้ามา เค้าใช้ข้ามา " แม่ผมพูดทั้งที่ยังหลับตา 

" ใครใช้เอ็งมา " ป้าแดงถามต่อ

" ข้าบอกไม่ได้ เค้าจะทำร้ายเค้าจะเอาให้ตาย " เสียงแม่ผมบอก

" ถ้าอย่างนั้นเอ็งออกจากร่างเค้าก่อน ร่างเค้าแย่แล้ว " ป้าพยายามเจรจา

" ข้าออกไปข้าก็โดนเค้าทำร้ายเหมือนกัน " เสียงตอบมาจากร่างแม่ผมที่ยังคงหลับตา

การเจรจาระหว่างป้าแดงกับสิ่งที่เข้าร่างแม่ผมดำเนินไปพร้อมกับการสะบัดน้ำมนต์ใส่เป็นระยะ จนสุดท้ายได้ยินป้าแดงแกบอกว่า

" เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะให้เหล้าขาว ยาเส้น กับ ไก่ตัวนึง แล้วเอ็งออกมาไปอยู่กับข้าเดี๋ยวจัดการมันให้เอง "

สิ้นเสียงป้าแดงแม่ผมก็นั่งโอนเอนไปมาสักพักก็คว่ำหน้าลงนิ่งไป ป๊ารีบเข้าไปพยุงเรียกแม่ ไม่นานแม่ก็รู้สึกตัวลืมตาขึ้นเหมือนคนเพิ่งตื่น มองเห็นป้าแดงก็ถามว่าป้าแดงมาทำอะไร มีอะไรกัน ทำไมแกมานั่งอยู่ตรงนี้ แกจำได้ว่าแกเข้าห้องไปนอนแล้ว ป้าแดงก็ให้ป๊าเล่าให้แม่ฟัง

หลังจากแม่ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น แม่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนกำลังจะหลับเหมือนได้ยินเสียงคนมาเรียกชื่อแม่อยู่ที่หน้าชาน แกก็ขานรับว่าจ๊ะคำเดียว ป้าแดงถามกับแม่ว่าคิดว่าเกิดจากฝีมือใคร แม่คิดอยู่สักแป๊บก็ตอบว่าน่าจะเป็นพวกแขก ขายมุ้งเงินผ่อน สัปดาห์ก่อนมาเก็บเงินกับแม่แต่แม่ยืนยันว่าได้จ่ายหมดแล้ว เลยเกิดมาปากเสียงกัน แขกคงโกรธ

หลังจากไม่มีอะไรแล้ว ป้าแดงก็พรมน้ำมนต์ที่เหลือไปรอบบ้านและนัดแนะเรื่องเหล้าขาว ยาเส้น ไก่ต้ม วันพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้นป้าแดงมาเรียกแต่เช้า บอกให้ป๊าซื้อไก่ เหล้าขาว ยาเส้นมา จะทำพิธีก่อน 9.00 เช้า ป๊าต่งตัวไป ส่วนแม่ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ดูแม่ยังเพลียอยู่ แกบอกปวดฟันปวดกราม แน่แหละแม่เล่นกัดฟันตลอดแบบน้น 

หลังจากป๊ากลับมาพร้อมสิ่งของป้าแดงก็ให้ปูเสื่อกลางแจ้งแล้วเอาของวางป้าแดงก็ทำพิธีของแก  วันนี้แกมีหุ่นปั้นมาด้วย แกสวดมนต์ไปสักพักแกก็นั่งสมาธิเงียบไปพวกเราก็ได้แต่ยืนมองป้าแดง น่าจะสักสิบนาทีได้ป้าแดงลืมตาขึ้นมาแล้วบอกว่าที่แม่คิดว่าใครทำนั้นใช่   วิญญานที่เข้าแม่เมื่อวานยอมบอกแล้ว    มันเป็นวิญญานผีตาบอดโดนเลี้ยงไว้ใช้งาน   แต่ตอนนี้ป้าสะกดเอาไว้ได้แล้วให้เข้ามาอยู่ในหุ่นนี้   ส่วนแขกคนนั้นป้าแดงบอกว่าได้ส่งอะไรบางอย่างไปเตือนแล้วว่าอย่ามาเล่นของใส่คนชุมชนนี้อีก     หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก   แต่ไม่นานได้ข่าวว่าแขกขายมุ้งคนนั้นได้ย้ายจากชุมชนไป 

นี่เป็นประสบการณฺ์ที่สองในชีวิตยังมีอีกหลายเรื่องอยู่ถ้ามีคนอยากฟังจะทะยอยเล่านะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่