โรงเตี๊ยมถ้าง้อบ - อำเภอไชยปราการ เชียงใหม่

เป็นภาพเมื่อปี พ.ศ. 2556
ขณะเมื่อขับรถวนเที่ยวจากเชียงดาว ไปบ้านอรุโณทัย อ่างขาง ฝาง วนกลับมาเชียงดาว
ที่นี่คือสันติวนา หรือ ถ้ำง้อบ ตั้งอยู่บน ทล.1340 ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ เชียงใหม่

( ส่วนนี้อ่านมาจากเน็ท แล้วย่อความ )
จากกการสู้รบของ รัฐบาลก๊กมินตั๋ง ได้พ่ายแพ้แก่กองทัพแดงของเหมา เจ๋อ ตุง จึงต้องทิ้งแผ่นดินใหญ่เดินทางไปยังเกาะ ฟอร์โมซา ( ไต้หวัน )
กองทัพรัฐบาลก๊กมินตั๋งในมณฑลยูนนานมีกองทัพที่ 26 , ในกองทัพที่ 26 มี กอลพล 93 ทำหนัาที่ป้องกันการติดตาม
กองพล 93 นี้ถูกกองทัพแดงตีแตก ได้หนีเข้ามายังประเทศพม่า บริเวณเมืองท่าขี้เหล็ก
ต่อมาถูกโจมตีโดยรัฐบาลพม่า ก็ย้ายฐานที่มั่นไปยังเมืองสาด ไต้หวันได้ส่งนายพล หลี่ หมี มาเป็นผู้บัญชาการ มีการจัดกำลังพล เป็น กองทัพที่ 1,2,3,4 และ 5
พ.ศ.2503 เป็นต้นมารัฐบาลพม่าได้ทำการปราบปรามทหารจีนพลัดถิ่นอย่างจริงจัง ได้ขอกองทัพจีนคอมมูนิสต์เข้ามาช่วยกวาดล้าง
กองกำลังทหารจีนคณะชาติพลัดถิ่นพ่ายแพ้
กองทัพที่ 3 ของกองพล 93 โดย นายพล หลี่ เหวิน ฮ้วน ได้หลบหนีเข้าเขตประเทศไทยตั้งมั่นที่บ้าน ถ้ำง้อบ อ.ฝาง ในเขตจังหวัด เชียงใหม่
กองทัพที่ 5 ของนายพล ต้วน ซี เหวินได้เข้ามาตั้งมั่น ในจังหวัดเชียงราย บนดอย แม่สะลอง

รัฐบาลพม่าได้ร้องเรียนไปยังองค์การสหประชาชาติ ให้ช่วยถอนทหารจีนคณะชาติพลัดถิ่นที่ตั้งฐานปฏิบัติการในเขตประเทศพม่าให้ออกไป
กองทัพ 1,2 และ 4 ยินยอมที่จะถอนกำลัง และเดินทาง ไปยังไต้หวัน กองทัพ 3 และ 5 ไม่ยินยอมที่จะเดินทางไปยังไต้หวัน
ทั้งสองกองทัพได้ช่วยดำเนินการต่อสู้กับ พรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท) ในยุคนั้น
กองกำลังจาก ท 5 คือผู้พิชิต ผกค. ที่ดอยหลวง และ ดอยยาว
ส่วนกองกำลังจาก ท 3 คือผู้พิชิต ผกค. ที่ดอยผาหม่น ในจังหวัดเชียงราย และได้ไปช่วยรบที่เขาค้ออีกด้วย
หลังจาการศึกครั้งนี้เป็นผลให้อดีตทหารจีนคณะชาติ และ ครอบครัวได้รับสัญชาติไทย
นายพล หลี่ เหวิน ฮ้วน มีชื่อไทยว่า นาย ชัย ชัยศิริ
นายพล ต้วน ชี เหวิน มือชื่อไทยว่า นายชีวิน คำลือ

เพราะกองทัพที่ 3 และ กองทัพที่ 5 นี้ต้องหารายได้มาเลี้ยงดูกำลังพล
ทำให้กองกำลังจากทัพทั้งสองได้เข้าไปมีส่วนรับจ้างลำเลียงฝิ่น หรือเก็บภาษีเถื่อน จากพ่อค้าฝิ่น
ปี พ.ศ.2515 นายพลต้วน และนาย พลเลาลี ได้ให้สัญญาสุภาพบุรุษกับนายกรัฐมนตรีของไทย (จอมพล ถนอม กิตติขจร) ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝิ่นอีกต่อไป
อดีตทหารจีนคณะชาติต้องปรับสภาพชุมชนจากค่ายทหาร มาเป็นชาวบ้านธรรมดาต้องประกอบอาชีพเกษตรกรรม
โดยเฉพาะโครงการปลูกชาให้เป็นอุตสาหกรรมโดยนำชาพันธุ์ดีจากไต้หวันมาปลูก และปลูกพืชเมืองหนาว เพื่อนทดแทนการปลูกฝิ่น

ณ ที่นี้ ถ้ำง๊อบ  เป็นที่ตั้งของกองกำลังก๊กมินตั๋ง โดย นายพล ลีเหวินฮ้วน หรือนายพลลี


ซ้าย ... ร้านอาหารยูนาน กลาง ... บ้านนายพลลี

วันนั้นเป็นวันที่ไม่คึกคัก ไกด์ว่างพอที่จะพาเรานำชมบ้านนายพลลี จึงได้เรื่องราวนี้มาฝาก


แนวกำแพงซุ้มประตูบ้านมีห้องซ้ายขวา ใช้เป็นห้องรับประทานอาหาร ถัดเข้ามาด้านในจะมีสนามเพลาะ
ซึ่งจะเชื่อมกับสนามเพลาะด้านในอีกชั้น (กำแพงเขียว) ... ไม่มีทหารอ้วนแน่ ๆ

ขึ้นบันไดอีกชุดเพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน

หลังคาซุ้มประตูมองกลับลงไป


เป็นบ้านรูปตัว Lตรงกลาง ... ประตูที่ปิดอยู่ ... เป็นห้องรับรอง
ซ้ายมือเป็นห้องพักของท่านนายพลลี

 

ดอกประทัดยักษ์

กำแพงบ้านรอบ ๆ 

ช่องทางลับฉุกเฉินเพื่อหนีออกจากตัวบ้าน

มะนาวควาย

ออกมาด้านนอกแล้ว
อาคารนี้ จำไม่ได้ ? ผนังทำจาก ฟาง ดินเหนียว ขี้วัว ? ... ฉาบปูนที่นำมาจากพม่า

เลาะบ้านไปต่อโรงเลี้ยงม้า


คุกไว้ขังพวกที่มาสอดแนม หาข่าว ด้านล่างจะเป็นผาสูงมีน้ำเชี่ยว มักจะทิ้งศพของศัตรูลงไป


การปฏิบัติการ
เมื่อจะกวาดล้างที่ไหน จะไม่ให้เหลือแม้สัตว์เลี้ยง
เมื่อเดินทางในป่าจะผูกไฟฉายไว้ที่เข่าเพื่อส่องทางเดิน
อาหารจะเป็นข้าวผสมกับ ทำให้สุกแล้วตากแห้ง เมื่อแช่น้ำก็ทานได้ทันที ... นึกถึงแหนมเนือง

นี่คือกรงไก่ดำรอเชือด ... เมื่อลูกค้าสั่งอาหารไก่ดำตุ๋น โชคดีที่อิ่มมาแล้ว


ร้านอาหาร

ข้างบนโน้นเคยเป็นฐานปืนใหญ่


ที่พัก เดิมเคยเป็นที่พักของทหาร เข้าไปดูกัน

ห้องน้ำรวม แต่แยกชายหญิง


มีน้ำร้อน ... ตักไปอาบเอง


ในอดีต


บันทึกไว้เทื่อ 30 มกราคม 2556 ; 11:38 น.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่