สวัสดีค่าทุกคน กลับมาพบกับนิคกี้และหมวดแก็ทเจทอีกแล้ว ต้องยอมรับว่าตอนนี้นิคให้ความสำคัญกับเครื่องใช้ที่ช่วยเซฟสุขภาพและคุณภาพคุณภาพชีวิตมากๆ เพราะตั้งแต่ยุคโควิดครองเมือง อะไรๆก็ดูอันตรายไปหมด แม้แต่ฝุ่นในรถยังน่ากลัว นิคยิ่งเป็นคนภูมิน้อยอยู่ อะไรช่วยได้ก็ต้องเอาไว้ก่อน

นิคให้ความสำคัญกับอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากๆค่ะ เพราะนิคและลูกสาวเป็นภูมิแพ้ ในบ้านมีเครื่องกรองแล้ว ในรถก็ต้องมีด้วย เพราะนิคใช้เวลาขับรถไปรับส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน

เครื่องฟอกอากาศ Vita-Health V1 ตัวนี้มีดีที่ ช่วยดักจับฝุ่นละออง PM2.5 และสารระเหย อย่างควันไอเสีย แก๊สพิษ รวมถึงเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับผงฝุ่นละอองได้สูงสุดถึง 99.97% ด้วยการกรองถึง 3ขั้นตอนเลยค่ะ

- ชั้นแรกคือ Pre-Filter เป็นฟิวเตอร์กรองชั้นนอก จะทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ขนสัตว์ที่ลอยอยู่ภายในรถ
- ชั้นที่สองคือ แผ่นกรอง Hepa H13 ตัวนี้จะสามารถกรองได้ละเอียดสูงสุด 0.1 ไมครอน คือกรองได้แม้กระทั่งเชื้อโรค สารระเหย ควันไอเสีย แก๊สพิษเลยค่ะ
- ชั้นที่สามคือ แผ่นกรอง Active Carbon จะช่วยกำจัด ควันบุหรี่, ไวรัส, ก๊าซพิษและกลิ่น รวมถึง กรองมลพิษ เขม่าควันพิษ แบคทีเรีย สารระเหย มากถึง 99%
โดยเจ้าเครื่องนี้เค้าจะมีโหมดการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง คืออายุการใช้งาน 360 ชั่วโมง หรือระยะเวลาใช้งาน 4 เดือนเลยจ้า

เครื่องนี้จะแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลทาม อ่านค่าง่ายๆด้วย Digital LED 3 สี ค่ะ คือ สีน้ำเงินอากาศดี สีเหลืองปานกลาง สีแดงคุณภาพอากาศย่ำแย่ค่ะ โดยเครื่องจะปรับหมุนเวียนอากาศคุณภาพแย่ให้เป็นคุณภาพดีทันทีเมื่อมีฝุ่น มลพิษแบบออโต้เลยค่ะ

นอกจากตัวเครื่องจะกระทัดรัดสามารถวางในช่องใส่แก้วน้ำได้แล้ว การใช้งานเค้าก็ง่ายมากค่ะ แค่เสียบสายในช่อง USB หรือช่องจุดบุหรี่ เมื่อสตาร์ทรถ เครื่องก็จะทำงาน หน้าจอเป็น Touch Screen แบบดิจิทัลคอนโทรล ปรับเลือกโหมดการใช้งานได้อย่างง่ายดาย คือ กดที่ปุ่ม Power 1 ครั้ง คือลมต่ำ กดอีกครั้งคือเบอร์ 2 กดอีกครั้งก็เบอร์ 3 เครื่องนี้สามารถปรับระดับแรงลมได้ถึง 3 ระดับเพื่อเร่งการดูดทรงพลังและปรับการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานค่ะ ถ้ากด Power ค้างไว้คือปิดเครื่องค่ะ

นอกจากนั้นเครื่องนี้ถือว่าใช้งานได้เอนกประสงค์ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ครอบคลุมพื้นที่การกรองอากาศ 3 ตารางเมตร เราก็เอามาตั้งที่โต๊ะทำงานหรือพกเวลาไปเที่ยวไหนก็ได้ค่ะ
ขอบคุณที่รับชมค่ะ
[SR] รีวิวเครื่องฟอกอากาศในรถ Vita-Health V1
นิคให้ความสำคัญกับอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากๆค่ะ เพราะนิคและลูกสาวเป็นภูมิแพ้ ในบ้านมีเครื่องกรองแล้ว ในรถก็ต้องมีด้วย เพราะนิคใช้เวลาขับรถไปรับส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน
เครื่องฟอกอากาศ Vita-Health V1 ตัวนี้มีดีที่ ช่วยดักจับฝุ่นละออง PM2.5 และสารระเหย อย่างควันไอเสีย แก๊สพิษ รวมถึงเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับผงฝุ่นละอองได้สูงสุดถึง 99.97% ด้วยการกรองถึง 3ขั้นตอนเลยค่ะ
- ชั้นแรกคือ Pre-Filter เป็นฟิวเตอร์กรองชั้นนอก จะทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ขนสัตว์ที่ลอยอยู่ภายในรถ
- ชั้นที่สองคือ แผ่นกรอง Hepa H13 ตัวนี้จะสามารถกรองได้ละเอียดสูงสุด 0.1 ไมครอน คือกรองได้แม้กระทั่งเชื้อโรค สารระเหย ควันไอเสีย แก๊สพิษเลยค่ะ
- ชั้นที่สามคือ แผ่นกรอง Active Carbon จะช่วยกำจัด ควันบุหรี่, ไวรัส, ก๊าซพิษและกลิ่น รวมถึง กรองมลพิษ เขม่าควันพิษ แบคทีเรีย สารระเหย มากถึง 99%
โดยเจ้าเครื่องนี้เค้าจะมีโหมดการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง คืออายุการใช้งาน 360 ชั่วโมง หรือระยะเวลาใช้งาน 4 เดือนเลยจ้า
เครื่องนี้จะแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลทาม อ่านค่าง่ายๆด้วย Digital LED 3 สี ค่ะ คือ สีน้ำเงินอากาศดี สีเหลืองปานกลาง สีแดงคุณภาพอากาศย่ำแย่ค่ะ โดยเครื่องจะปรับหมุนเวียนอากาศคุณภาพแย่ให้เป็นคุณภาพดีทันทีเมื่อมีฝุ่น มลพิษแบบออโต้เลยค่ะ
นอกจากตัวเครื่องจะกระทัดรัดสามารถวางในช่องใส่แก้วน้ำได้แล้ว การใช้งานเค้าก็ง่ายมากค่ะ แค่เสียบสายในช่อง USB หรือช่องจุดบุหรี่ เมื่อสตาร์ทรถ เครื่องก็จะทำงาน หน้าจอเป็น Touch Screen แบบดิจิทัลคอนโทรล ปรับเลือกโหมดการใช้งานได้อย่างง่ายดาย คือ กดที่ปุ่ม Power 1 ครั้ง คือลมต่ำ กดอีกครั้งคือเบอร์ 2 กดอีกครั้งก็เบอร์ 3 เครื่องนี้สามารถปรับระดับแรงลมได้ถึง 3 ระดับเพื่อเร่งการดูดทรงพลังและปรับการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานค่ะ ถ้ากด Power ค้างไว้คือปิดเครื่องค่ะ
นอกจากนั้นเครื่องนี้ถือว่าใช้งานได้เอนกประสงค์ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ครอบคลุมพื้นที่การกรองอากาศ 3 ตารางเมตร เราก็เอามาตั้งที่โต๊ะทำงานหรือพกเวลาไปเที่ยวไหนก็ได้ค่ะ
ขอบคุณที่รับชมค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้