หลังจากผมมีลูกคนแรก ผมได้ซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้เพราะห่วงเรื่องอากาศในบ้านไม่ค่อยสะอาดเพราะผมเลี้ยงแมวด้วยครับ แต่ด้วยความอยากรู้และสงสัย ว่าฟอกอากาศแล้วจะสะอาดขึ้นมากแค่ไหน จริงๆที่เครื่องฟอกเองมีเซ็นเซอร์วัดค่าฝุ่นอยู่แล้ว แต่ด้วยความไม่มั่นใจ เลยซื้อที่วัดฝุ่นแยกมาอีกอันเพื่อ cross check อีกที และเผื่อเอาไปใช้วัดฝุ่นในรถ และในที่ต่างๆที่ไม่สามารถเอาเครื่องฟอกอากาศติดตัวไปได้ครับ
และพอซื้อมาแล้ว เมียเกิดรำคาญ เลยไล่ให้ผม "ไปเล่นไกลๆไป" บ้าง ไล่ให้ผม "ไปเล่นตรงนู้นไป" บ้าง ผมเลยเอาเครื่องนี้ไปเตร็ดเตร่วัดเล่นตามที่ต่างๆครับ โดยรายละเอียดของเครื่องวัดมีดังนี้..
คุณสมบัติหลักสินค้า
- เครื่องเล็กกระทัดรัด นำ้หนักเบาเพียง 86 กรัม
- มีแบตเตอรี่ในตัว สะดวกสบายพกพาไปได้ทุกที่
- ใช้งานง่าย เปิดสวิสต์ เครื่องวัดอัตโนมัติ อัพเดทตลอดเวลา
- วัดค่า PM2.5 วัดอุณหภูมิ วัดความชื้นในอากาศ
- เมื่อเปิดเครื่องแล้วเครื่องจะอยู่ได้ประมาณ 20-30 นาที และจะตัดการทำงานไปเองอัติโนมัติ
ข้อมุลตัวสินค้า
- PM2.5 Measuring: 0 - 500 microgram / m3
- Resolution: 1 microgram /m3
- PM2.5 Sensor: PLANTOWER Laser Particulate Matter Sensor
- Temperature range & accuracy: 10 - 50 derajat Celsius +- 0.3
- Humidity range & accuracy: 0-99% RH +- 3 RH
- Battery: 580mAh (4.5 jam)
มาตรฐาน USAQI และฝุ่น PM2.5
ลองนำไปใช้วัดตามสถานที่ต่างๆ
ผมขอจัดกลุ่มเป็นเซ็ตๆครับ โดยสถานที่ในกลุ่มเดียวกัน ผมจะวัดค่าบริเวณภายนอกร้านก่อน 1 ครั้ง แล้วจะเข้าไปวัดในร้าน 1-2-3 ต่อๆกันเลย นอกจากมีร้านไหนที่อยู่เดี่ยวๆไม่ไกล้กับร้านอื่นเลย ผมมจะจัดนอกร้านก่อนแล้วจึงเข้าไปวัดในร้านครับ
แต่ละสถานที่ผมจะพยายามเข้าไปในร้านแล้ววัดจุดที่เป็นโถงตรงกลางร้าน ให้ห่างจากประตูทางเข้าหน่อย เพราะการเปิดเข้าออกบ่อยๆมีผลต่อปริมาณฝุ่นครับ และจะเลี่ยงตรงที่แอร์ตกด้วยครับ
เนื่องจากเครืองวัดเป็นแบบ real time ค่าเปลี่ยนทุกประมาณ 0.5 วินาที ทุกที่ๆวัดค่าจะขึ้นๆลงๆ ผมจะพยายามรอและหาค่าเฉลี่ยตรงกลางของแต่ละที่ แต่อาจจะไม่ได้เป๊ะนะครับ มีความคลาดเคลื่อนประมาณนึง ส่วนสถานที่ๆใหญ่ๆเช่นร้านขายส่งขนาดใหญ่ ผมจะเดินจนทั่ว เพื่อหาค่าเฉลี่ย แล้วก็ไปวัดจุดตรงกลางโถงครับ
มาเริ่มลุยกันเลยครับ..
ในรูป จะประกอบด้วย
- สถานที่วัดค่า (หน้าร้าน/ในร้าน)
- Tool หมายถึง ค่า pm2.5 ที่อ่านจากอุปกรณ์วัดค่าของผม
- App หมายถึง ค่า pm2.5 ที่อ่านจาก App: IQ Air ในมือถือ (ค่าอัพเดท ชม. ละ ครั้ง)
1. บ้านผม กับ บ้านเพื่อน
1.1 บ้านผม เลี้ยงแมว ไม่ค่อยเก็บกวาด แต่เปิดแอร์ + เครื่องฟอกอากาศ
1.2 บ้านเพื่อน สะอาดกว่าเยอะ เปิดแอร์ แต่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ
2. ร้านในปั๊ม ปตท ใกล้บ้าน
2.1 หน้าร้านตัดผม
2.2 ในร้านตัดผม
2.3 ในร้านอาหาร (ติดกับร้านตัดผม)
2.4 ร้านสะดวกซื้อ ซ (ไกล้ทางออกปั๊มติดถนน)
3. ร้านในคอมมิวนินี้มอลล์
3.1 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต ท
3.2 ในซุปเปอร์มาเก็ต ท
3.3 ในร้านขายไก่ทอด ค
3.4 หน้าร้านกาแฟ ส (วันที่ 2)
3.5 ในร้านกาแฟ ส (วันที่ 2)
4. ซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ข้างทาง
4.1 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต ล
4.2 ในซุปเปอร์มาเก็ต ล
4.3 ในซุปเปอร์มาเก็ต ม (ไกล้ๆกัน)
4.4 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต บ (ห่างจาก 2 ที่แรก)
4.5 ในซุปเปอร์มาเก็ต บ (ห่างจาก 2 ที่แรก)
5. ร้านสุกี้
6. ร้านข้าวมันไก่ outdoor ติดถนน
7. ร้านนวดแผนไทย
8. คลินิคสัตว์
9. ภายในรถ และท่อไอเสีย (รอบเดินเบา)
10. ที่ทำงานของผม
สรุปข้อมูล
สรุปผลการทดลอง
จากผลการทดลองวัดตามสถานที่ต่างๆ หากเครื่องมือวัดค่าได้ตรง จะพอทึกทักได้ว่า..
1. สถานที่ๆน่าตกใจมากคือร้านตัดผมครับ ก่อนตัดผมวัดได้ 51 (มีลูกค้าก่อนหน้า 1 ท่าน แต่ไปนานแล้ว) แต่หลังตัดเสร็จวัดได้ 206 ซึ่งค่าสูงมากๆครับ แอบสงสารช่างตัดผมเลยครับ ที่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้ทั้งวัน (แต่ค่าก็อาจจะไม่ได้สูงเท่านี้ทั้งวัน แล้วแต่จำนวนลูกค้า)
2. ที่ๆได้ผลผิดคาดอีกแห่งคือ ร้านสุกี้หรือชาบู ที่เราคิดว่ามีไอน้ำ ไม่น่าจะมีฝุ่น ก่อนกินวัดได้ 84 ระหว่างกิน 101 (จริงๆมีขึ้นไปถึง 12x ช่วงสั้นๆ) ความชื้นประมาณ 53 ก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่คิดครับ
3. เซฟโซนสำหรับผมคือ บ้าน ออฟฟิซ และ ในรถ (จริงๆบ้านกับรถก็ยังเป็นโซนสีส้มอ่อนๆ แต่ที่ออฟฟิซเป็นที่เดียวที่สะอาดจนเป็นโซนสีเหลือง) ในรถค่าฝุ่นพอรับได้ ลมที่ออกมาจากช่องแอร์ (ใช้กรองแอร์ของเทียบ และไม่ได้กรอง pm2.5 โดยเฉพาะ) ก็ยังได้ค่าที่ค่อนข้างโอเคทียบกับสถานที่อื่นๆครับ
4. จริงๆในบ้านผมเคยทดลองเปิดเครื่องฟอกอากาศ 10 นาที ค่าฝุ่นลดลงไป 10 (จาก 50 เหลือ 40) อีก 20 นาทีต่อมา ลดลงอีก 5 (เหลือ 35) เปิดแอร์ช่วยอีกเหลือ 33 ก็ถือว่าเครื่องฟอกอากาศคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอยู่นะครับ
4. ท่อไอเสีย ไม่ได้ปล่อยฝุ่นมากมาย อย่างที่ผมคิดไว้ก่อนได้ลองวัดค่าจริงๆครับ (จริงอยู่ความเข้มของฝุ่นที่ออกมาไม่ได้สูง แต่เป็นการเติมฝุ่นเพิ่มเรื่อยๆ)
5. ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ค่อนข้างมีฝุ่นน้อยและค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่ร้านขนาดเล็ก เช่น ร้านขายไก่ทอด ร้านขายกาแฟ ฝุ่นด้านในน้อยกว่าด้านนอกก็จริง แต่ไม่ได้สะอาดขึ้นมากเท่ากับร้านใหญ่ๆ
6. การดูค่า pm2.5 จากแอพ จะได้ค่าฝุ่นที่ไกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยทั้งพื้นที่ แต่อย่าชะล่าใจ บางที่ๆเฉพาะเจาะจงค่าอาจจะต่างไปมากเลยก็ได้ ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพด้วยกันครับ
หมายเหตุ: ผลที่ได้เกิดจากการนำเครื่องวัดเครื่องหนึ่ง ไปวัดค่าในร้านๆหนึ่ง หรือเพียงสาขาๆหนึ่ง ในช่วงเวลาหนึ่ง เท่านั้น ไม่สามารถสรุปได้ว่าร้านต่างๆเหล่านั้นจะมีฝุ่นเท่านั้นตลอดไปนะครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆไม่มากก็น้อย ขอเป็นกระทู้ที่ทุกท่านดูเพื่อความบันเทิง ไม่สามารถนำข้อมูลไปอ้างอิงใดๆได้นะครับ แต่ก็หวังว่าจะใช้ประโยชน์ในการเตือนตัวเองและคนที่ท่านรัก เพื่อให้ตระหนัก ระแวดระวัง ส่งเสริมในการดูแลสุขภาพจากฝุ่น pm2.5 กันมากขึ้นครับ หากกระทู้นี้มีคำผิด ข้อความไม่สุภาพไม่เหมาะสม อันเกิดจากการไม่ตรวจทานให้ดี หรือจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจใดๆก็ตามของผม ต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
[CR] รีวิวสามัญชน: เอาเครื่องวัดฝุ่น PM2.5 SNDWAY ไปใช้วัดค่าฝุ่นในที่ต่างๆ
และพอซื้อมาแล้ว เมียเกิดรำคาญ เลยไล่ให้ผม "ไปเล่นไกลๆไป" บ้าง ไล่ให้ผม "ไปเล่นตรงนู้นไป" บ้าง ผมเลยเอาเครื่องนี้ไปเตร็ดเตร่วัดเล่นตามที่ต่างๆครับ โดยรายละเอียดของเครื่องวัดมีดังนี้..
คุณสมบัติหลักสินค้า
- เครื่องเล็กกระทัดรัด นำ้หนักเบาเพียง 86 กรัม
- มีแบตเตอรี่ในตัว สะดวกสบายพกพาไปได้ทุกที่
- ใช้งานง่าย เปิดสวิสต์ เครื่องวัดอัตโนมัติ อัพเดทตลอดเวลา
- วัดค่า PM2.5 วัดอุณหภูมิ วัดความชื้นในอากาศ
- เมื่อเปิดเครื่องแล้วเครื่องจะอยู่ได้ประมาณ 20-30 นาที และจะตัดการทำงานไปเองอัติโนมัติ
ข้อมุลตัวสินค้า
- PM2.5 Measuring: 0 - 500 microgram / m3
- Resolution: 1 microgram /m3
- PM2.5 Sensor: PLANTOWER Laser Particulate Matter Sensor
- Temperature range & accuracy: 10 - 50 derajat Celsius +- 0.3
- Humidity range & accuracy: 0-99% RH +- 3 RH
- Battery: 580mAh (4.5 jam)
มาตรฐาน USAQI และฝุ่น PM2.5
ลองนำไปใช้วัดตามสถานที่ต่างๆ
ผมขอจัดกลุ่มเป็นเซ็ตๆครับ โดยสถานที่ในกลุ่มเดียวกัน ผมจะวัดค่าบริเวณภายนอกร้านก่อน 1 ครั้ง แล้วจะเข้าไปวัดในร้าน 1-2-3 ต่อๆกันเลย นอกจากมีร้านไหนที่อยู่เดี่ยวๆไม่ไกล้กับร้านอื่นเลย ผมมจะจัดนอกร้านก่อนแล้วจึงเข้าไปวัดในร้านครับ
แต่ละสถานที่ผมจะพยายามเข้าไปในร้านแล้ววัดจุดที่เป็นโถงตรงกลางร้าน ให้ห่างจากประตูทางเข้าหน่อย เพราะการเปิดเข้าออกบ่อยๆมีผลต่อปริมาณฝุ่นครับ และจะเลี่ยงตรงที่แอร์ตกด้วยครับ
เนื่องจากเครืองวัดเป็นแบบ real time ค่าเปลี่ยนทุกประมาณ 0.5 วินาที ทุกที่ๆวัดค่าจะขึ้นๆลงๆ ผมจะพยายามรอและหาค่าเฉลี่ยตรงกลางของแต่ละที่ แต่อาจจะไม่ได้เป๊ะนะครับ มีความคลาดเคลื่อนประมาณนึง ส่วนสถานที่ๆใหญ่ๆเช่นร้านขายส่งขนาดใหญ่ ผมจะเดินจนทั่ว เพื่อหาค่าเฉลี่ย แล้วก็ไปวัดจุดตรงกลางโถงครับ
มาเริ่มลุยกันเลยครับ..
ในรูป จะประกอบด้วย
- สถานที่วัดค่า (หน้าร้าน/ในร้าน)
- Tool หมายถึง ค่า pm2.5 ที่อ่านจากอุปกรณ์วัดค่าของผม
- App หมายถึง ค่า pm2.5 ที่อ่านจาก App: IQ Air ในมือถือ (ค่าอัพเดท ชม. ละ ครั้ง)
1. บ้านผม กับ บ้านเพื่อน
1.1 บ้านผม เลี้ยงแมว ไม่ค่อยเก็บกวาด แต่เปิดแอร์ + เครื่องฟอกอากาศ
1.2 บ้านเพื่อน สะอาดกว่าเยอะ เปิดแอร์ แต่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ
2. ร้านในปั๊ม ปตท ใกล้บ้าน
2.1 หน้าร้านตัดผม
2.2 ในร้านตัดผม
2.3 ในร้านอาหาร (ติดกับร้านตัดผม)
2.4 ร้านสะดวกซื้อ ซ (ไกล้ทางออกปั๊มติดถนน)
3. ร้านในคอมมิวนินี้มอลล์
3.1 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต ท
3.2 ในซุปเปอร์มาเก็ต ท
3.3 ในร้านขายไก่ทอด ค
3.4 หน้าร้านกาแฟ ส (วันที่ 2)
3.5 ในร้านกาแฟ ส (วันที่ 2)
4. ซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ข้างทาง
4.1 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต ล
4.2 ในซุปเปอร์มาเก็ต ล
4.3 ในซุปเปอร์มาเก็ต ม (ไกล้ๆกัน)
4.4 หน้าซุปเปอร์มาเก็ต บ (ห่างจาก 2 ที่แรก)
4.5 ในซุปเปอร์มาเก็ต บ (ห่างจาก 2 ที่แรก)
5. ร้านสุกี้
6. ร้านข้าวมันไก่ outdoor ติดถนน
7. ร้านนวดแผนไทย
8. คลินิคสัตว์
9. ภายในรถ และท่อไอเสีย (รอบเดินเบา)
10. ที่ทำงานของผม
สรุปข้อมูล
สรุปผลการทดลอง
จากผลการทดลองวัดตามสถานที่ต่างๆ หากเครื่องมือวัดค่าได้ตรง จะพอทึกทักได้ว่า..
1. สถานที่ๆน่าตกใจมากคือร้านตัดผมครับ ก่อนตัดผมวัดได้ 51 (มีลูกค้าก่อนหน้า 1 ท่าน แต่ไปนานแล้ว) แต่หลังตัดเสร็จวัดได้ 206 ซึ่งค่าสูงมากๆครับ แอบสงสารช่างตัดผมเลยครับ ที่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้ทั้งวัน (แต่ค่าก็อาจจะไม่ได้สูงเท่านี้ทั้งวัน แล้วแต่จำนวนลูกค้า)
2. ที่ๆได้ผลผิดคาดอีกแห่งคือ ร้านสุกี้หรือชาบู ที่เราคิดว่ามีไอน้ำ ไม่น่าจะมีฝุ่น ก่อนกินวัดได้ 84 ระหว่างกิน 101 (จริงๆมีขึ้นไปถึง 12x ช่วงสั้นๆ) ความชื้นประมาณ 53 ก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่คิดครับ
3. เซฟโซนสำหรับผมคือ บ้าน ออฟฟิซ และ ในรถ (จริงๆบ้านกับรถก็ยังเป็นโซนสีส้มอ่อนๆ แต่ที่ออฟฟิซเป็นที่เดียวที่สะอาดจนเป็นโซนสีเหลือง) ในรถค่าฝุ่นพอรับได้ ลมที่ออกมาจากช่องแอร์ (ใช้กรองแอร์ของเทียบ และไม่ได้กรอง pm2.5 โดยเฉพาะ) ก็ยังได้ค่าที่ค่อนข้างโอเคทียบกับสถานที่อื่นๆครับ
4. จริงๆในบ้านผมเคยทดลองเปิดเครื่องฟอกอากาศ 10 นาที ค่าฝุ่นลดลงไป 10 (จาก 50 เหลือ 40) อีก 20 นาทีต่อมา ลดลงอีก 5 (เหลือ 35) เปิดแอร์ช่วยอีกเหลือ 33 ก็ถือว่าเครื่องฟอกอากาศคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอยู่นะครับ
4. ท่อไอเสีย ไม่ได้ปล่อยฝุ่นมากมาย อย่างที่ผมคิดไว้ก่อนได้ลองวัดค่าจริงๆครับ (จริงอยู่ความเข้มของฝุ่นที่ออกมาไม่ได้สูง แต่เป็นการเติมฝุ่นเพิ่มเรื่อยๆ)
5. ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ค่อนข้างมีฝุ่นน้อยและค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่ร้านขนาดเล็ก เช่น ร้านขายไก่ทอด ร้านขายกาแฟ ฝุ่นด้านในน้อยกว่าด้านนอกก็จริง แต่ไม่ได้สะอาดขึ้นมากเท่ากับร้านใหญ่ๆ
6. การดูค่า pm2.5 จากแอพ จะได้ค่าฝุ่นที่ไกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยทั้งพื้นที่ แต่อย่าชะล่าใจ บางที่ๆเฉพาะเจาะจงค่าอาจจะต่างไปมากเลยก็ได้ ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพด้วยกันครับ
หมายเหตุ: ผลที่ได้เกิดจากการนำเครื่องวัดเครื่องหนึ่ง ไปวัดค่าในร้านๆหนึ่ง หรือเพียงสาขาๆหนึ่ง ในช่วงเวลาหนึ่ง เท่านั้น ไม่สามารถสรุปได้ว่าร้านต่างๆเหล่านั้นจะมีฝุ่นเท่านั้นตลอดไปนะครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆไม่มากก็น้อย ขอเป็นกระทู้ที่ทุกท่านดูเพื่อความบันเทิง ไม่สามารถนำข้อมูลไปอ้างอิงใดๆได้นะครับ แต่ก็หวังว่าจะใช้ประโยชน์ในการเตือนตัวเองและคนที่ท่านรัก เพื่อให้ตระหนัก ระแวดระวัง ส่งเสริมในการดูแลสุขภาพจากฝุ่น pm2.5 กันมากขึ้นครับ หากกระทู้นี้มีคำผิด ข้อความไม่สุภาพไม่เหมาะสม อันเกิดจากการไม่ตรวจทานให้ดี หรือจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจใดๆก็ตามของผม ต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้