- เหตุมันเกิดจาก เมื่อวันอาทิตย์ พาพ่อไปเชงเม้ง ที่บ้านบึง ในรอบ 10 ปี (เคยไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แล้วไม่เคยไปอีกเลย) คราวนี้ อยากทำตัวเป็นหลานที่ดีของ อากง มั่ง (จริงๆหวังผล) ก็เลยอาสา พาพ่อไป
- ขับรถออกมาสักพัก พ่อก็บอกว่า "รถญี่ปุ่น มันมีปัญญา ทำช่วงล่างได้แค่นี้เหรอวะ" นิ่มๆ โยกๆเยกๆ ..
เลยสวนไปว่า : "ป๊า ชินกับ Jazz แข็งๆดิ ไม่เคยนั่งรถนิ่มๆ
พ่อก็สวนทันควัน : "เฮ้ยยย สมัยก่อน volvo 760 คันแรก มันก็ยังดีกว่านี้นะ"
.............
- จริงๆ ถ้าไม่คิดอะไร มันก็คือ เรื่องขำๆ เป็นปกติ ที่พ่อลูกเจอกัน ก็จะเกทับไป เกทับมาแบบนี้ ในทุกๆเรื่องแหละ .. แต่ ผมดันคิด เพราะผมก็รู้สึกว่า รถมันโยกเยกมากกว่าปกติ ทั้งที่รถเพิ่งตั้งศูนย์ล้อเมื่อตอนต้นเดือน และช่างก็บอกว่า "มันตั้งตามสเปคไม่ได้ มันยังไหลซ้ายหน่อย"
ย้อนกลับไป .. ถ้าใครเคยผ่านตา จะทราบว่า รถคันนี้ (HONDA CR-V EHEV RS) เคยยางแตก จนต้องเปลี่ยนยาง 1 เส้น ซึ่งก็เบิก HONDA เพราะร้านข้างนอกไม่แยกขายเส้นเดียว แล้วยางที่ได้จากการเบิก HONDA ก็ดันเป็นยางรุ่นเดียวกับที่ติดรถ แต่คนละสเปค เพราะเป็นเกรด NO (Porsche Approve) มองผ่านๆ มันก็เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนตรงที่ ตั้งศูนย์ไม่จบ รถไหลซ้าย จนต้องสลับยางจากหลังซ้ายมา หลังขวา และมาเจอทีหลังว่า ดอกยางมันแค่คล้าย แต่มันไม่เหมือนกัน !!!
เส้นนอก คือ ยาง NO / เส้นใน คือ ยางติดรถ (สังเกต ร่องรีดน้ำ นอกสุด)

.............
หายางกัน
ก่อนนอน ก็เช็คราคายางที่ ติวานนท์ สักหน่อย
1. BS Alenza 001 = 7,650 บาท
2. BS Dueler H/P Sport = 6,000 บาท
3. ML PS4 SUV = 9,250 บาท
4. YK V105 = 7,700 บาท
เช้ามาก็โทรเฟิร์มอีกรอบ เพราะอยากรู้ปีที่ผลิต กับ ประเทศที่ผลิต ปรากฎว่า
1. BS Alenza 001 = 7,650 บาท .. อินโด
2. BS Dueler H/P Sport = 6,000 บาท .. โปแลนด์
3. ML PS4 SUV = 9,250 บาท .. จีน
4. YK V105 = 7,700 บาท .. ญี่ปุ่น
- เหมือนฟ้าผ่า .. เพราะหมายมั่นว่า จะเอา Alenza แต่พอผลิตอินโด ไม่รู้สิ ยังไงก็ไม่เอาครับ / ส่วน PS4 ราคาก็แรงมากไป แถมมาจากจีน อีก (หน้า web เค้าย่อว่า FRV น่าจะฝรั่งเศจนะ งงๆ) / YK ยังเฉยๆ เพราะเพื่อนลอง V107 เค้าบอก สู้ Alenza ไม่ได้
- สุดท้าย หากิ๊กเก่า ที่เคยใช้ในโอโม่ แหละ ประทับใจทุกอย่าง ยกเว้น เสียงดัง !!! เป็นยางตกปี คือ ผลิต 0624 (สัปดาห์ที่ 6 ปี 2024) ซึ่งไม่เป็นไร ผมรับได้

อ้อ อีกอย่าง ได้ยางเกรด MO (Mercedes Original) ด้วยแฮะ

.............
ติวานนท์ ยางยนต์
- คุยจบก็ 10 โมง จัดการย้ายของในรถออก เอาล้อ momo ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ขึ้นรถ แล้ววิ่งไป ติวานนท์ กันเลย .. ไปถึงก็ บ่ายโมง ละ
- ทีแรก กะว่า ยางติดรถ ที่วิ่งแค่ 2.4 หมื่นกม. เค้าน่าจะรับเทิร์นสักหน่อย แต่คุยแล้ว ไม่รับเทิร์น ล้อก็ไม่รับ .. เพราะถ้ารับเทิร์น ก็จะได้เทิร์นไปเลย ขี้เกียจแบกขึ้นรถ แต่พอไม่รับ งั้นเดี๋ยวผมไปขายในคลับดีกว่า
- ร้านก็ คะยั้น คะยอ จะให้ผมเปลี่ยนกับเค้าให้ได้ (เปลี่ยนฟรี) ซึ่งผมก็บอกไปตรงๆว่า ผมมีร้านสนิทเดี๋ยวให้ร้านเปลี่ยน กลัวที่ร้านทำล้อเป็นรอย เพราะชอบยิงบล็อคลม เค้าก็บอก ตอนนี้ขันมือแล้ว .. แต่ยังไงก็ไม่ล่ะ เพราะร้านเค้าก็ถ่วงไม่นิ่งตามมาตรฐานผมอ่ะ ก็ต้องรื้อถ่วงใหม่อยู่ดี วุ่นวาย
รอสักแป้บ ก็ได้ยาง นี่คือ ผลของความพยามยัดลงรถ .. ออกจากร้านทีแรก เบรคที ยางพุ่งมาหน้ารถ จับเกือบไม่ทัน เลยต้องแวะปั๊มเรียงใหม่
11 Garage
- ไปถึง มีแต่ลูกค้ารอตั้งศูนย์ กับ ใส่สตรัท งานถอดใส่ถ่วงยาง ยังว่าง ก็เลยได้ทำเลย

- ทำไปเถอะ ขอบล้อไม่เป็นรอยแน่นอน ไม่ต้องลุ้น

- ผมบอก เจ้าของร้านว่า ล้อ momo ชุดนี้ ผลิตไต้หวัน (ผมได้มา หมื่นกว่าบาทเอง ตอนเค้าลดราคา) ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า จะถ่วงแล้วแปะตะกั่วน้อยไหม ? แต่ผลที่ได้ ก็น่าพอใจครับ เจ้าของร้านแจ้งว่า ยางชุดนี้นิ่งมากๆ นานๆจะเจอยางนิ่งขนาดนี้ รวมถึง ตะกั่วที่แปะ ถือว่า น้อยมาก
- เส้นในรูปแปะน้อยสุด ส่วนอีก 3 เส้น ตะกั่วรวม ราวๆ 50 กรัม ก็ถือว่า น้อย สำหรับล้อ 19 นิ้วครับ (ล้อติดรถ มาเป็นแผงเลย)

- อ้อ อีกอย่าง ที่คนอยากรู้ คือ น้ำหนักของเก่า กับ ของใหม่
เริ่มจาก ล้อ momo ขอบ 19 ก่อนนะครับ 13.5kg .. ถ้าเทียบกับพวก weds เจ้า weds มักจะเบากว่า

ต่อด้วย dueler h/p sport .. 13 kg ไม่รู้หนัก หรือ เบา

รวม ล้อ + ยาง ชุดใหม่ หนัก 26.5 kg นะครับ
ต่อด้วย ล้อ + ยาง ชุดเก่า ชั่งรวมกันทีเดียว เลขที่ออก 28.5 kg
เท่ากับ ล้อ + ยาง ชุดใหม่ เบากว่า ล้อ + ยาง ชุดเก่า 2 kg .. เค้าเรียกเยอะไหมนะ ???
ใส่ยาง + ถ่วงเรียบร้อย ก็เอาใส่รถ .. ร้านนี้ ไว้ใจได้ เรื่องไม่ทำล้อเป็นรอย ลูกบล็อค koken แบบมีปลอกกันเชียวนะ

...............
Before
After

- ผลของ offset +35 ล้อก็จะยื่นออกมาพอดีซุ้ม

.............
ลองขับกันดีกว่า
- ประกอบล้อเรียบร้อย ให้ช่างขันทอร์ค 130 nm (สูงกว่ารุ่นธรรมดาหน่อย) ก็ลองรถกันเลยครับ ศูนย์ล้อไม่ได้ตั้ง เพราะช่างศูนย์ล้อยุ่งกับการใส่ KW ใน C43 อยู่ครับ น่าจะอีกยาว
- ลมยาง 35 psi เหมือนล้อชุดเดิม
1. พวงมาลัย .. "คมขึ้น" นี่คือ สิ่งที่ประทับใจ ออกจากร้าน เจอโค้งแรก หักเข้าไป ก็ร้องว้าวละ .. นี่แหละ คือ BS ที่ผมรัก มันต้องคมแบบนี้ ต้องตามมือแบบนี้ (ถ้าเส้นติดรถ มันจะยุบ หรือ ขอคิดนิด แล้วค่อยไป) การเปลี่ยนเลนกระทันหันไปตามมือทันที
2. เสียง .. "ดังขึ้น" ถ้าถนนเรียบๆ อาจจะบอกว่า สัก 10% ที่ดังขึ้น (เทียบตอนยางติดรถออกมาใหม่ๆนะ) แต่ถ้าเจอถนนหยาบๆ อันนี้ ดังแบบชัดเจนมากๆครับ ซึ่งแน่นอนว่า พอมันมีอายุ คุณก็นึกถึง RE003 / 004 ได้เลยครับ (จากประสบการณ์ที่เคยใช้มา)
3. ความนุ่มนวล .. "เฟิร์มขึ้น" .. ถ้า Latitude sport 3 พาคุณรูดผ่านฝาท่อ ทางขรุขระ ได้แบบแทบไม่รู้สึก ... เจ้า Dueler จะทำให้คุณรู้สึกได้สัก 15 % แต่ยังไม่เรียกว่า สะเทือน หรือ กระด้าง ครับ
4. ออกตัวไวขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น ประหยัดขึ้น .. ออกมาลองกับเจ้าของร้าน แว้บเดียว ผมก็พูดว่า รถมันวิ่งดีขึ้น ติดเท้าขึ้น ศูนย์ล้อก็ไม่ได้ตั้ง ดีขึ้นได้ไงฟะ นึกไปนึกมา อ๋อ ล้อ+ยาง มันเบาลงนี่หว่า !! .. ที่สำคัญ ขับกลับปราจีน เจอตัวเลข 19.2 กม/ลิตร (ตั้งแต่ออกรถมา ไม่เคยทำได้เลยนะ) ผมเติมเต็มถังที่ปราจีน วิ่งเข้ากทม. แล้วก็กลับมาปราจีน นะ
เอาว่า โดยรวม มันคือ ยางที่สปอร์ตขึ้น ขับสนุกขึ้น แลกกับเสียงดัง โวยวายครับ ซึ่งคงแล้วแต่คนชอบแหละ ผมชอบยางสไตล์นี้อยู่แล้ว บอกเลยว่า ขับกลับปราจีน มีความสุขมาก เจอโค้งนี่ จะสาดอย่างเดียว มันมั่นใจน่ะครับ (เสียดาย potenza sport มีเหลือแค่ 2 เส้น ไม่งั้น เจ้านี่ ตุ้กแก ชัดๆเลยล่ะ)
ส่วนล้อ + ยางเก่า .. ก็ขายเพื่อนในคลับไป ในราคามิจ (ถูกเหมือน มิจ 55+) post แป้บๆ เพื่อนๆจองหมดละ เหลือแต่เส้นเจ้าปัญหา ยาง NO แหละ อันนั้น เดี๋ยวเก็บไว้สำรอง เผื่อน้องสาว เอาล้อไปทะเลาะกับฟุตบาทละกัน

สุดท้าย ท้ายสุด .. ถึงปราจีน ก็เอาไปไล่ไนโตรเจนใหม่ ที่บีควิก อีกรอบ
...................
สรุปสุดท้าย
- ถ้าถามผมตรงๆเลยนะ .. ผมว่า "ล้อเดิมสวยกว่า" มันดูวงใหญ่กว่า ดูยางบางกว่า ลวดลายก็ดูเท่ห์ น่าค้นหา ในขณะที่ momo แอบเรียบไปนิด .. แต่ !! ถ้าว่าเรื่องสมรรถนะ การขับขี่ ชุดใหม่นี่ "รักเลย" เปลี่ยนจากรถยวบยาบ น่าเบื่อๆ ให้กลายเป็นรถที่ขับสนุกได้เลยครับ
สำหรับค่าใช้จ่าย
- ค่าใส่ยาง 4 วง = 1,500 บาท
- ค่าถ่วง 4 วง = 800 บาท
รวม 2,300 บาท ครับ
* * * จับ แตงโม มาเปลี่ยนรองเท้า หลังจากโดนพ่อบ่นว่า "รถญี่ปุ่น มีปัญญาทำช่วงล่างได้แค่นี้เหรอ" * * *
- ขับรถออกมาสักพัก พ่อก็บอกว่า "รถญี่ปุ่น มันมีปัญญา ทำช่วงล่างได้แค่นี้เหรอวะ" นิ่มๆ โยกๆเยกๆ ..
เลยสวนไปว่า : "ป๊า ชินกับ Jazz แข็งๆดิ ไม่เคยนั่งรถนิ่มๆ
พ่อก็สวนทันควัน : "เฮ้ยยย สมัยก่อน volvo 760 คันแรก มันก็ยังดีกว่านี้นะ"
.............
- จริงๆ ถ้าไม่คิดอะไร มันก็คือ เรื่องขำๆ เป็นปกติ ที่พ่อลูกเจอกัน ก็จะเกทับไป เกทับมาแบบนี้ ในทุกๆเรื่องแหละ .. แต่ ผมดันคิด เพราะผมก็รู้สึกว่า รถมันโยกเยกมากกว่าปกติ ทั้งที่รถเพิ่งตั้งศูนย์ล้อเมื่อตอนต้นเดือน และช่างก็บอกว่า "มันตั้งตามสเปคไม่ได้ มันยังไหลซ้ายหน่อย"
ย้อนกลับไป .. ถ้าใครเคยผ่านตา จะทราบว่า รถคันนี้ (HONDA CR-V EHEV RS) เคยยางแตก จนต้องเปลี่ยนยาง 1 เส้น ซึ่งก็เบิก HONDA เพราะร้านข้างนอกไม่แยกขายเส้นเดียว แล้วยางที่ได้จากการเบิก HONDA ก็ดันเป็นยางรุ่นเดียวกับที่ติดรถ แต่คนละสเปค เพราะเป็นเกรด NO (Porsche Approve) มองผ่านๆ มันก็เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนตรงที่ ตั้งศูนย์ไม่จบ รถไหลซ้าย จนต้องสลับยางจากหลังซ้ายมา หลังขวา และมาเจอทีหลังว่า ดอกยางมันแค่คล้าย แต่มันไม่เหมือนกัน !!!
เส้นนอก คือ ยาง NO / เส้นใน คือ ยางติดรถ (สังเกต ร่องรีดน้ำ นอกสุด)
.............
หายางกัน
ก่อนนอน ก็เช็คราคายางที่ ติวานนท์ สักหน่อย
1. BS Alenza 001 = 7,650 บาท
2. BS Dueler H/P Sport = 6,000 บาท
3. ML PS4 SUV = 9,250 บาท
4. YK V105 = 7,700 บาท
เช้ามาก็โทรเฟิร์มอีกรอบ เพราะอยากรู้ปีที่ผลิต กับ ประเทศที่ผลิต ปรากฎว่า
1. BS Alenza 001 = 7,650 บาท .. อินโด
2. BS Dueler H/P Sport = 6,000 บาท .. โปแลนด์
3. ML PS4 SUV = 9,250 บาท .. จีน
4. YK V105 = 7,700 บาท .. ญี่ปุ่น
- เหมือนฟ้าผ่า .. เพราะหมายมั่นว่า จะเอา Alenza แต่พอผลิตอินโด ไม่รู้สิ ยังไงก็ไม่เอาครับ / ส่วน PS4 ราคาก็แรงมากไป แถมมาจากจีน อีก (หน้า web เค้าย่อว่า FRV น่าจะฝรั่งเศจนะ งงๆ) / YK ยังเฉยๆ เพราะเพื่อนลอง V107 เค้าบอก สู้ Alenza ไม่ได้
- สุดท้าย หากิ๊กเก่า ที่เคยใช้ในโอโม่ แหละ ประทับใจทุกอย่าง ยกเว้น เสียงดัง !!! เป็นยางตกปี คือ ผลิต 0624 (สัปดาห์ที่ 6 ปี 2024) ซึ่งไม่เป็นไร ผมรับได้
อ้อ อีกอย่าง ได้ยางเกรด MO (Mercedes Original) ด้วยแฮะ
.............
ติวานนท์ ยางยนต์
- คุยจบก็ 10 โมง จัดการย้ายของในรถออก เอาล้อ momo ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ขึ้นรถ แล้ววิ่งไป ติวานนท์ กันเลย .. ไปถึงก็ บ่ายโมง ละ
- ทีแรก กะว่า ยางติดรถ ที่วิ่งแค่ 2.4 หมื่นกม. เค้าน่าจะรับเทิร์นสักหน่อย แต่คุยแล้ว ไม่รับเทิร์น ล้อก็ไม่รับ .. เพราะถ้ารับเทิร์น ก็จะได้เทิร์นไปเลย ขี้เกียจแบกขึ้นรถ แต่พอไม่รับ งั้นเดี๋ยวผมไปขายในคลับดีกว่า
- ร้านก็ คะยั้น คะยอ จะให้ผมเปลี่ยนกับเค้าให้ได้ (เปลี่ยนฟรี) ซึ่งผมก็บอกไปตรงๆว่า ผมมีร้านสนิทเดี๋ยวให้ร้านเปลี่ยน กลัวที่ร้านทำล้อเป็นรอย เพราะชอบยิงบล็อคลม เค้าก็บอก ตอนนี้ขันมือแล้ว .. แต่ยังไงก็ไม่ล่ะ เพราะร้านเค้าก็ถ่วงไม่นิ่งตามมาตรฐานผมอ่ะ ก็ต้องรื้อถ่วงใหม่อยู่ดี วุ่นวาย
รอสักแป้บ ก็ได้ยาง นี่คือ ผลของความพยามยัดลงรถ .. ออกจากร้านทีแรก เบรคที ยางพุ่งมาหน้ารถ จับเกือบไม่ทัน เลยต้องแวะปั๊มเรียงใหม่
11 Garage
- ไปถึง มีแต่ลูกค้ารอตั้งศูนย์ กับ ใส่สตรัท งานถอดใส่ถ่วงยาง ยังว่าง ก็เลยได้ทำเลย
- ทำไปเถอะ ขอบล้อไม่เป็นรอยแน่นอน ไม่ต้องลุ้น
- ผมบอก เจ้าของร้านว่า ล้อ momo ชุดนี้ ผลิตไต้หวัน (ผมได้มา หมื่นกว่าบาทเอง ตอนเค้าลดราคา) ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า จะถ่วงแล้วแปะตะกั่วน้อยไหม ? แต่ผลที่ได้ ก็น่าพอใจครับ เจ้าของร้านแจ้งว่า ยางชุดนี้นิ่งมากๆ นานๆจะเจอยางนิ่งขนาดนี้ รวมถึง ตะกั่วที่แปะ ถือว่า น้อยมาก
- เส้นในรูปแปะน้อยสุด ส่วนอีก 3 เส้น ตะกั่วรวม ราวๆ 50 กรัม ก็ถือว่า น้อย สำหรับล้อ 19 นิ้วครับ (ล้อติดรถ มาเป็นแผงเลย)
- อ้อ อีกอย่าง ที่คนอยากรู้ คือ น้ำหนักของเก่า กับ ของใหม่
เริ่มจาก ล้อ momo ขอบ 19 ก่อนนะครับ 13.5kg .. ถ้าเทียบกับพวก weds เจ้า weds มักจะเบากว่า
ต่อด้วย dueler h/p sport .. 13 kg ไม่รู้หนัก หรือ เบา
รวม ล้อ + ยาง ชุดใหม่ หนัก 26.5 kg นะครับ
ต่อด้วย ล้อ + ยาง ชุดเก่า ชั่งรวมกันทีเดียว เลขที่ออก 28.5 kg
เท่ากับ ล้อ + ยาง ชุดใหม่ เบากว่า ล้อ + ยาง ชุดเก่า 2 kg .. เค้าเรียกเยอะไหมนะ ???
ใส่ยาง + ถ่วงเรียบร้อย ก็เอาใส่รถ .. ร้านนี้ ไว้ใจได้ เรื่องไม่ทำล้อเป็นรอย ลูกบล็อค koken แบบมีปลอกกันเชียวนะ
...............
Before
After
- ผลของ offset +35 ล้อก็จะยื่นออกมาพอดีซุ้ม
.............
ลองขับกันดีกว่า
- ประกอบล้อเรียบร้อย ให้ช่างขันทอร์ค 130 nm (สูงกว่ารุ่นธรรมดาหน่อย) ก็ลองรถกันเลยครับ ศูนย์ล้อไม่ได้ตั้ง เพราะช่างศูนย์ล้อยุ่งกับการใส่ KW ใน C43 อยู่ครับ น่าจะอีกยาว
- ลมยาง 35 psi เหมือนล้อชุดเดิม
1. พวงมาลัย .. "คมขึ้น" นี่คือ สิ่งที่ประทับใจ ออกจากร้าน เจอโค้งแรก หักเข้าไป ก็ร้องว้าวละ .. นี่แหละ คือ BS ที่ผมรัก มันต้องคมแบบนี้ ต้องตามมือแบบนี้ (ถ้าเส้นติดรถ มันจะยุบ หรือ ขอคิดนิด แล้วค่อยไป) การเปลี่ยนเลนกระทันหันไปตามมือทันที
2. เสียง .. "ดังขึ้น" ถ้าถนนเรียบๆ อาจจะบอกว่า สัก 10% ที่ดังขึ้น (เทียบตอนยางติดรถออกมาใหม่ๆนะ) แต่ถ้าเจอถนนหยาบๆ อันนี้ ดังแบบชัดเจนมากๆครับ ซึ่งแน่นอนว่า พอมันมีอายุ คุณก็นึกถึง RE003 / 004 ได้เลยครับ (จากประสบการณ์ที่เคยใช้มา)
3. ความนุ่มนวล .. "เฟิร์มขึ้น" .. ถ้า Latitude sport 3 พาคุณรูดผ่านฝาท่อ ทางขรุขระ ได้แบบแทบไม่รู้สึก ... เจ้า Dueler จะทำให้คุณรู้สึกได้สัก 15 % แต่ยังไม่เรียกว่า สะเทือน หรือ กระด้าง ครับ
4. ออกตัวไวขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น ประหยัดขึ้น .. ออกมาลองกับเจ้าของร้าน แว้บเดียว ผมก็พูดว่า รถมันวิ่งดีขึ้น ติดเท้าขึ้น ศูนย์ล้อก็ไม่ได้ตั้ง ดีขึ้นได้ไงฟะ นึกไปนึกมา อ๋อ ล้อ+ยาง มันเบาลงนี่หว่า !! .. ที่สำคัญ ขับกลับปราจีน เจอตัวเลข 19.2 กม/ลิตร (ตั้งแต่ออกรถมา ไม่เคยทำได้เลยนะ) ผมเติมเต็มถังที่ปราจีน วิ่งเข้ากทม. แล้วก็กลับมาปราจีน นะ
เอาว่า โดยรวม มันคือ ยางที่สปอร์ตขึ้น ขับสนุกขึ้น แลกกับเสียงดัง โวยวายครับ ซึ่งคงแล้วแต่คนชอบแหละ ผมชอบยางสไตล์นี้อยู่แล้ว บอกเลยว่า ขับกลับปราจีน มีความสุขมาก เจอโค้งนี่ จะสาดอย่างเดียว มันมั่นใจน่ะครับ (เสียดาย potenza sport มีเหลือแค่ 2 เส้น ไม่งั้น เจ้านี่ ตุ้กแก ชัดๆเลยล่ะ)
ส่วนล้อ + ยางเก่า .. ก็ขายเพื่อนในคลับไป ในราคามิจ (ถูกเหมือน มิจ 55+) post แป้บๆ เพื่อนๆจองหมดละ เหลือแต่เส้นเจ้าปัญหา ยาง NO แหละ อันนั้น เดี๋ยวเก็บไว้สำรอง เผื่อน้องสาว เอาล้อไปทะเลาะกับฟุตบาทละกัน
สุดท้าย ท้ายสุด .. ถึงปราจีน ก็เอาไปไล่ไนโตรเจนใหม่ ที่บีควิก อีกรอบ
...................
สรุปสุดท้าย
- ถ้าถามผมตรงๆเลยนะ .. ผมว่า "ล้อเดิมสวยกว่า" มันดูวงใหญ่กว่า ดูยางบางกว่า ลวดลายก็ดูเท่ห์ น่าค้นหา ในขณะที่ momo แอบเรียบไปนิด .. แต่ !! ถ้าว่าเรื่องสมรรถนะ การขับขี่ ชุดใหม่นี่ "รักเลย" เปลี่ยนจากรถยวบยาบ น่าเบื่อๆ ให้กลายเป็นรถที่ขับสนุกได้เลยครับ
สำหรับค่าใช้จ่าย
- ค่าใส่ยาง 4 วง = 1,500 บาท
- ค่าถ่วง 4 วง = 800 บาท
รวม 2,300 บาท ครับ