9 ต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดสารพิษ เพิ่มออกซิเจน

การปลูกต้นไม้ภายในบ้านหรือภายในคอนโด นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในที่อยู่อาศัยแล้ว ยังช่วยดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ และช่วยฟอกอากาศด้วย วันนี้ THE STATES TIMES EARTH ขอแนะนำ 9 ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ควรค่าแก่การปลูกในบ้าน



1.พลูด่าง
เป็นพืชไม้เลื้อยที่ปลูกง่ายมาก และใช้เวลาในการเจริญเติบโตไม่นาน ลำต้นทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ถือเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตราบรื่นเป็นสุข มีคนมารักมีคนมาหลง

สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 75% และยังสามารถคายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางวัน ได้ถึง 100% จึงเหมาะสำหรับการนำมาปลูกภายในบ้านเป็นต้นไม้ฟอกอากาศชั้นดี

วิธีการดูแลรักษา เนื่องจากพลูด่างปลูกได้หลายวิธีตามสายพันธุ์ แต่โดยรวมเป็นพืชที่ไม่ต้องการแสงมากนักจึงเหมาะกับการปลูกในอาคาร หากปลูกบนดินควรรดน้ำ 3 ครั้งต่อวัน หากปลูกในน้ำควรเปลี่ยนน้ำเดือนละครั้ง

2. ลิ้นมังกร
อีกชื่อหนึ่งคือหอกพระอินทร์ ไม้ประดับที่ปลูกและดูแลรักษาได้ง่าย รวมทั้งยังมีคุณประโยชน์หลากหลาย และมีความพิเศษกว่าต้นไม้พันธุ์อื่น เนื่องจากเป็นพืชที่คายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน แต่จะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในตอนกลางวัน จึงเหมาะสำหรับการปลูกในห้องนอน นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศให้ปราศจากฝุ่นละลองอีกด้วย

วิธีการดูแลรักษา เพราะขึ้นชื่อเรื่องความทนทายาดเป็นอย่างมาก สามารถปลูกในพื้นที่ที่แดดแรงจัดได้ แต่ห้ามรดน้ำมากเกินไป อาจจะเพียงวันเว้นวัน และไม่ให้แฉะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นไม้ตายได้

3. ว่านหางจระเข้
ไม้ประดับมากสรรพคุณที่นอกจากจะใช้ดูแลรักษาแผลผุพองได้ดีจนถึงใช้ประโยชน์ในเรื่องความสวยความงามแล้ว ยังเป็นไม้ประดับที่สามารถปลูกในห้องนอนได้เนื่องจากเป็นพืชที่คายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังช่วยฟอกอากาศในบ้านให้ปราศจากฝุ่น รวมถึงมีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษจำพวกฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งพบในสารเคลือบต่าง ๆ ทั้งยาทาเล็บ ยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ และสีทาบ้าน

วิธีการดูแลรักษา ควรตั้งในพื้นที่ที่มีแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ควรระวังเรื่องการรดน้ำปริมาณมากเกินไป และทำให้น้ำขัง เพราะจะทำให้ต้นเน่าและตายได้

4. เดหลี
ไม้ล้มลุก ที่มีจุดเด่นทั้งเรื่องกลิ่นหอมและยังมีดอกสวยงาม โดยต้นเดหลีเหมาะจะเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่นำมาปลูกในบ้าน เนื่องจากมีความสามารถในการดูดซับสารพิษในบ้านได้ด้วย โดยช่วยดูดสารพิษประเภทกาว อะซิโตนซึ่งมีอยู่ในเครื่องสำอาง น้ำยาทาเล็บ น้ำยาลบคำผิด สารไตรคลอโรเอทีลีน ซึ่งมีอยู่ในเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร เตาแก๊ส น้ำยาเคลือบเงาไม้ รวมทั้งเบนซินและฟอร์มาลดีไฮด์

วิธีการดูแลรักษา ควรรดน้ำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ให้เพียงหน้าดินชุ่ม ควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่แสงรำไร และอากาศไม่ร้อนมาก

5. กล้วยไม้
ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และสามารถในการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถคายก๊าซออกซิเจนได้ในปริมาณมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะกล้วยไม้สกุลหวาย สามารถดูดไอระเหยจากสารเคมีจำพวกแอลกอฮอล์ อะซิโตน ฟอร์มาลดีไฮด์ และคลอโรฟอร์มจากอากาศได้ดีเป็นพิเศษด้วย

วิธีการดูแลรักษา ควรตั้งหรือแขวนไว้ในพื้นที่ที่มีแดดรำไร และรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ

6. เยอบีร่า
ไม้ประดับที่มีขนาดเล็กและออกดอกสวยงาม เหมาะกับการนำมาประดับตกแต่งห้องต่าง ๆ ภายในบ้านหรือคอนโด ซึ่งนอกจากจะให้ความสวยงามแบบเฉพาะตัวแล้ว ยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้อากาศสดชื่นตลอดวัน

วิธีการดูแลรักษา ทำได้ง่าย ๆ เพียงตั้งทิ้งไว้ในที่ที่มีแดด และรดน้ำปานกลาง อย่าให้แฉะจนเกินไป

7. เบญจมาศ
ไม้ดอกที่มีความต้องการทางเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากกุหลาบ เบญจมาศโดยเฉพาะส่วนของดอกจะมีรูปลักษ์ภายนอกและสีได้หลายแบบตามสายพันธุ์ จุดเด่นของเบญจมาศคือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่เป็นมลพิษ เช่น กลิ่นจากสีทาบ้าน กาว พลาสติก และผงซักฟอก ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ได้

วิธีการดูแลรักษา แค่วางให้โดนแสงแดด เช่น ริมหน้าต่าง และหมั่นรดน้ำเป็นประจำ เนื่องจากเบญจมาศเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก เพราะใบมีการคายน้ำสูง

8. เสน่ห์จันทร์แดง
ไม้ประดับที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม เนื่องจากมีใบเป็นรูปหัวใจ มีสีเขียวตัดกับสีแดงเข้มของก้านใบ มีความสามารถดีเยี่ยมในการเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ โดยช่วยดูดสารพิษจำพวกแอมโมเนีย นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกภายในบ้านเพื่อเสริมสิริมงคลในด้านของโชคแก่ผู้อยู่อาศัย

วิธีการดูแลรักษา เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ค่อยทนทานจึงต้องประคบประหงมกันสักหน่อย โดยต้องให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอ และอย่าให้โดนแสงแดดมาก ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกผสมน้ำรดเดือนละครั้ง

9. เศรษฐีเรือนใน
ไม้ประดับที่มักนิยมปลูกในบ้าน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสิริมงคล เสริมโชคลาภและป้องกันภัยให้กับผู้อยู่อาศัย ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ โดยช่วยดูดสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์ รวมถึงคาร์บอนมอนอกไซด์ และไซลีน ซึ่งเป็นสารสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติกและใยสังเคราะห์ และพวกทินเนอร์ แลคเกอร์ กาว สีทาบ้าน ยาทาเล็บ และยาล้างเล็บ

วิธีการดูแลรักษา ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ และรดน้ำพอประมาณอย่าให้น้ำขัง

ที่มา: มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

https://www.facebook.com/share/p/16Rh953mKj/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่