พรรคทักษิณ ยุค “รวมเพื่อไทยรักษาชาติ” ตั้ง 10 ทีม คืนฟอร์มแกนนำฝ่ายค้าน

พรรคทักษิณ ยุค “รวมเพื่อไทยรักษาชาติ” ตั้ง 10 ทีม คืนฟอร์มแกนนำฝ่ายค้าน



นัดแรกของการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ภายหลัง “ปลดแอก” จากยุคที่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” คุมบังเหียนเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กำหนดทิศทางการเมืองพรรค

มาสู่ยุค “รวมเพื่อไทยรักษาชาติ” ดึงเอานักการเมืองรุ่นเก่า – กลาง – ใหม่ ซุ้มนายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร ทั้งอดีตไทยรักไทย เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ กลับมาชี้ขาดยุทธศาสตร์พรรคอีกคำรบ ลดบทบาท เจ้าแม่ กทม.ไปเป็นผู้ชมอยู่ข้างสนาม

แม้ว่าหัวหน้าพรรคยังเป็นคนเดิม “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ ไม่เปลี่ยนคน เพราะการันตีสายตรงตระกูลชินวัตร พ่วงดีกรีความอาวุโสสูงสุดในหมู่พรรคฝ่ายค้าน แต่ตำแหน่งอื่นๆ รีเซ็ตกันเกือบยกทีม และต้องรอกว่า 12 วันหลังจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรค มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เคาะ กก.บห.ชุดใหม่ 24 คน ถึงจะมีการตั้งคณะทำงานใหม่ เซ็ตซีโร่โครงสร้างใหม่ทั้งเซ็ต

คณะทำงานใหม่ 10 คณะ ในยุค “รวมเพื่อไทยรักษาชาติ” ประกอบด้วย
1. คณะทำงานกิจการสภา มี นายสมพงษ์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค ที่ว่ากันว่าเป็นสายตรง “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรงดูไบ
และ นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้าน ส่วนเลขานุการ คือ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.

2. คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจมีความรุนแรงและจำเป็นต้องรวบรวมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในหลากหลายมิติเศรษฐกิจ พรรคจึงมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ 2 รองหัวหน้าพรรค สายตรง “ยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ ชินวัตร” มาช่วยกันรับผิดชอบในมิติต่างๆ

3. คณะทำงานด้านนโยบายและวิชาการ มี นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษากฎหมายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนศูนย์ข้อมูลนโยบาย – วิชาการ มีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค คนใกล้ชิดภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำกลุ่มแคร์ มารับผิดชอบ

4. คณะทำงานด้านการสื่อสารการเมือง และกองโฆษก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ “นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” โดยมีโฆษกพรรคที่เป็นอดีตไทยรักษาชาติ คือ นางสาวอรุณี กาสยานนท์

5. คณะทำงานด้านการพัฒนาฐานสมาชิก มอบหมายให้ นายจักรพงษ์ แสงมณี ผู้อำนวยการพรรค ศูนย์ข้อมูลสมาชิก นายทะเบียนพรรค เป็นหัวขบวน

6. คณะทำงานพัฒนาพื้นที่เลือกตั้ง ผู้รับผิดชอบ คือ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค โดยจะจัดแบ่งโซนภาคเพื่อบริหารจัดการเขตเลือกตั้ง และจะมอบหมายให้มีกรรมการบริหารพรรคมาช่วยทำงานในพื้นที่ที่ตนถนัด

7. คณะทำงานบริหารและพัฒนากิจการพรรค เลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการพรรค

8. คณะทำงานด้านกฎหมาย มี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” เป็นผู้รับผิดชอบในฐานะกุนซือกฎหมายตามระเบียบ

9. คณะทำงานด้านต่างประเทศ นางนลินี ทวีสิน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ซึ่งเคยถูกวางเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยก่อนเลือกตั้ง 2562 ถูกดึงกลับมาดูงานต่างประเทศให้กับพรรค

10. คณะทำงานเครือข่ายและแนวร่วมกลุ่มวิชาชีพต่างๆ มีผู้รับผิดชอบคือ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค



ส่วน “คณะผู้บริหาร” ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะทำหน้าที่เหมือน “โปลิตบูโร” ยังไม่มีการตั้งขึ้นในการประชุม กก.บห.นัดแรก จากคำยืนยันของ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” รองหัวหน้าพรรค “ยังไม่มีการตั้งคณะผู้บริหาร เพราะช่วงแรกต้องให้ กก.บห.ชุดใหม่ทำหน้าที่ตามกฎหมายไปก่อน”

อย่างไรก็ตาม หลังแบ่งโครงสร้างใหม่เสร็จสรรพ “สมพงษ์” หัวหน้าพรรค ประกาศ 3 เรื่องสำคัญที่เป็นเข็มทิศใหม่ของเพื่อไทย อันเป็นปัญหาหลักที่พรรคเพื่อไทยจะเร่งให้ความสำคัญ มี 3 เรื่อง

1 การแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เราจะร่วมมือกับประชาชนและภาคธุรกิจ ค้นหาและสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ SME นำความคิดริเริ่มจากบริษัทของคนรุ่นใหม่มาขยายผล ช่วยธุรกิจให้ปรับตัวสู่การค้าขายแบบ New Normal

รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในภาคเกษตรเพื่อเป็นอาหาร ที่เราจะนำประสบการณ์ที่สำเร็จแล้วมาถ่ายทอด เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนมาอีกครั้ง เราจะเตรียมการร่วมกับประชาชน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง ผ่านนโยบายที่ชัดเจน เช่น ทิศทางการส่งเสริมการลงทุนในทุกภาคของการลงทุน และนโยบายภาษี รวมทั้งอีกหลายนโยบายจากประสบการณ์ของเราที่สามารถสร้าง “ประชาธิปไตยกินได้” กลับมาอีกครั้ง

2.การร่วมขับเคลื่อนกับเครือข่ายทุกภาคส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งการผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มพลังฝ่ายประชาธิปไตยของประชาชน ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับเริ่มจากการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพื่อทวงคืนอำนาจของประชาชนจากการสืบทอดอำนาจของฝ่ายรัฐประหาร ผ่านกลไกการเลือกตั้งที่ยุติธรรม

3.การแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ สร้างรากฐานการพลิกเปลี่ยนประเทศในระยะยาว โดยเราจะร่วมกับประชาชน ผลักดันการปฏิรูประบบการศึกษาให้เท่าทันพัฒนาการด้านเทคโนโลยี

สร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเป็นธรรม สร้างพื้นฐานเรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อเปิดประตูการเรียนรู้ค้นคว้าด้วยตัวเองในโลก internet ส่งเสริมเสรีภาพในการเรียนรู้ ปลดปล่อยพลังความริเริ่มสร้างสรรค์ รวมถึงการจัดการกับโครงสร้างการกระจายอำนาจออกจากราชการส่วนกลาง ร่วมกับท้องถิ่นที่มีศักยภาพ

พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันและยึดมั่น “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ทุกจังหวะการคิด และการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย “หัวใจยังคงอยู่ที่ประชาชน”

ด้าน “ประเสริฐ” เลขาธิการพรรค กล่าวว่า โครงสร้างใหม่ของพรรคเพือ่ไทย จะเป็นการผนึกกำลังกันจากรุ่นสู่รุ่น เอาประสบการณ์ของผู้ใหญ่ในพรรค มารวมกับความคิดเห็นของรุ่นน้องซึ่งมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ มุ่งเน้นที่กระจายอำนาจ

นอกจากนี้ ในประเด็นเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็นข่าวในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่ามีความพร้อมในการดำเนินการในรายละเอียด โดยเบื้องต้น พรรคเตรียมตั้งคณะอำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับ ซึ่งหัวหน้าพรรคจะเป็นประธานคณะ และเลขาธิการพรรคจะรับหน้าที่เลขานุการคณะ เพื่อให้พร้อมทำงานทันทีที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งท้องถิ่น

21 ตุลาคม 2563 “เพื่อไทย” จะเปิดตัว “ทีมเศรษฐกิจ” 14 คน ของพรรคเพื่อไทย ในงาน “เพื่อไทย Talk” เรื่อง “คิดใหม่ ทำใหม่ กู้มหาวิกฤตเศรษฐกิจไทย”

1.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ 2. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 3. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี
5. นายนพ ชีวนันท์ 6. นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ 7.นางสาวจิราภรณ์ สินธุไพร 8.นายไชยา พรหมา
9.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม 10.นายกิตติกร โล่ห์สุนทร  11. นางสาวอรุณี กาสยานนท์ 12.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ 13.นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ 14.นายพลนชชา จักรเพ็ชร

โดยแบ่งเป็น “นายพิชัย” คุมการตอบโต้ประเด็นเศรษฐกิจ และดูเรื่องเศรษฐกิจมหภาค ส่วน “นายกิตติรัตน์” ดูเรื่องตลาดเงิน – ตลาดทุน

นอกจากนี้ ก่อนสิ้นเดือนตุลาคม “พรรคเพื่อไทย” เตรียมจัดการสัมมนาพรรคเพื่อระดมความคิดหลังจาก ส.ส.ปิดสมัยการประชุมสภา รับฟังความคิดเห็น ระดมความคิดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของประชาชน นอกจากนั้น เตรียมความพร้อมให้ ส.ส.ในการทำงานในและนอกสภา กำหนดให้มีการอบรม ส.ส. และอดีตสมาชิก

การตั้ง 10 คณะทำงานอยู่บนพื้นฐาน กระจายอำนาจ ล้างความขัดแย้ง ให้เพื่อไทยกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง

https://www.prachachat.net/politics/news-536018
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่