ฝันหวาน (Sweet dreams)

กระทู้สนทนา


.
             “ให้ความสุขมันเกิดขึ้นแค่ในฝัน” หลายคนตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ให้มันเกิดขึ้นแค่ในฝัน ไม่มีวันได้เกิดขึ้นจริง เธอเองก็เหมือนกัน ให้บางอย่างมันสร้างความสุขให้แค่ในฝัน ซึ่งความเป็นจริงฝันนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน มันจะเกิดขึ้นจริงไม่ได้ แม้จะอยากให้มันเป็นความจริงสักเพียงใดก็ตาม

              อยากจะถามดาวนั่นเคยรักใครบ้างไหม อยู่อย่างไรเมื่อต้องผิดหวัง...

               เป็นคำถามโง่ ๆ ของใครหลายคน เป็นคำถามที่ทราบคำตอบอยู่แล้ว เป็นคำถามที่มีไว้ปลอบใจตนเอง เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ รวมถึงเป็นคำถามของเธอด้วย

               พรนภานอนตะแคงหันหน้ามาทางตู้เสื้อผ้า หันหลังให้หน้าต่างห้อง ถัดจากเตียงนอนเป็นโต๊เครื่องแป้ง โต๊ะทีวีของกิ่งดาว เธอกำลังนอนที่ห้องของเพื่อนสนิท และนอนบนเตียงนอนของเพื่อน แต่ว่าตอนนี้เจ้าของห้องไม่อยู่ คงลงไปร้านสะดวกซื้อข้างล่าง เมื่อคืนนี้เธอค่อนข้างเมา จากการไปนั่งร้านเบียร์วุ้นคนเดียว เธอลืมตาตื่นจากการนอนหลับไหลไปชั่วค่อนคืน  กลับมาตอนสี่ทุ่มกว่า ยังทึ่งตัวเองอยู่เลยว่ากลับมาถึงห้องได้อย่างไร แต่ว่าสถานที่ ๆ เธอเลือกกลับไม่ใช่ห้องตัวเอง เป็นห้องของเพื่อนสนิท ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียน และยังมาทำงานที่เดียวกันอีก เธอไม่อยากกลับห้องตัวเอง ไม่อยากกลับไปเจออะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตในตอนนี้

             พรนภาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ระหว่างที่เธอหลับใหลมีใครติดต่อมาบ้าง ความจริงลึก ๆ ในใจ เธอต้องการเช็คว่าพี่โค้กห่วงเธอหรือเปล่าต่างหาก รองลงมาคือผู้ชายคนนั้นติดต่อเธอมามั้ย พบว่าพี่โค้กโทรตามเธอห้าสาย และเป็นข้อความยาว ๆ ฝากไว้ให้อ่าน นอกจากนั้นก็เป็นไลน์ของผู้ชายคนนั้น พรนภาจำเขาได้ เมธี! ชื่อไลน์ของเขา เขาสั่งเบียร์ให้เธอพร้อมขอเบอร์เป็นของแลกเปลี่ยน ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กล้าขอก็กล้าให้ ให้แล้วกลับถึงห้องค่อยบล็อกก็ได้ ตอนนี้ใครจะโง่ไม่เอาเบียร์ไว้ก่อน ไม่ได้จ่ายค่าเบียร์แลกกับเบอร์โทรศัพท์ ใครจะไม่เอา พอถึงห้องหัวลงหมอนก็นอนเลย ไม่ทันได้บล็อกไลน์เขาทิ้ง

               เธอลังเลมากว่าจะบล็อกทิ้งไปหรือเก็บไว้คุยดี พิจารณาจากเมื่อคืนเขาก็ดูดีใช่ย่อย ไม่ใช่คนแก่ขี้เหล้าธรรมดา ๆ หน้าตาก็โอเคใช้ได้ ด้วยความที่เธอเป็นสายรักสุขภาพอยู่แล้ว จะมองออกว่าใครผอมเพราะออกกำลังกาย หรือผอมเพราะยา จึงมองออกว่าผู้ชายคนนี้คงดูแลตัวเองดีอยู่เหมือนกัน คงจะออกกำลังกายเสมอ ถึงจะดืมแอลกอฮอล์ก็ตาม ก็เหมือน ๆ กันกับเธอนั่นแหละ

               พิจารณาจากลำตัวที่เรียบแน่น พุงไม่ย้วย ต้นแขนมีก้ามเป็นมัดเล็กน้อย แขนเสื้อรัดแน่นไม่หลวม ทรงผมลองทรงสีดำเป็นเงา ใสเสื้อโปโลสีนำเงินกางเกงยีนส์ ผิวขาวและสูง ตอนหนุ่ม ๆ คงจะฮ็อตไม่เบา พรนภาแอบนั่งพิจารณาเขาคนเดียวเงียบ ๆ เสียอย่างเดียวอายุน่าจะแตะเลขสี่เผลอ ๆ จะไปห้าแล้วล่ะ เธอคาดคะเนเขา รวม ๆ แล้วดูดีในสายตาของเธอ

               พอนึกถึงฝันเมื่อคืน ทำเอายิ้มไม่หุบเลย ฝันบ้าอะไรเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ เธอฝันว่าตนเองได้คบและคุยกับคุณเมธี จนได้อยู่ด้วยกันขนาดนั้น คุณเมธีในฝันก็ช่างอ่อนละมุนเสียจริง ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ต่างกับพี่โค้กของเธออย่างสิ้นเชิง พรนภาดูหน้าจอโทรศัพท์ของตน กดเข้าไปที่ข้อมูลไลน์ของเมธี ที่หน้าจอเป็นรูปโปรไฟล์ของเขาในชุดทำงาน ดูดีมากต่างจากเมื่อคืน ภายในใจก็ลังเลว่าจะลบไม่ลบดี ใจหนึ่งก็อยากสานต่อเล่น ๆ ประชดบางคน ใจหนึ่งก็ไม่อยากติดต่อ รู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงที่ร้านเบียร์ เป็นใครมีภรรยาอยู่แล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ ในฝันเธอทำงานที่เดียวกันกับเขาด้วย ฝันตลกชะมัด ฝันตลก ๆ แบบฝันดี จนเธอนึกชอบและอยากฝันแบบนี้อีก นึกแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว

               “มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะภา ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเธออยากจะให้มันเป็น บ้า! เขาก็น่าจะมีครอบครัวแล้ว เธอก็อีกคนยัยนภา มีพี่โค้กอยู่ทนโท่ แล้วทำไมจะเลิกไม่ได้ คนอื่นผัวสองเมียสามก็มี มีลูกด้วยกันเขายังเลิกกันได้” เธอคุยกับตัวเองอย่างกะคนเป็นบ้า ถ้ามีใครมาเห็นคงจะคิดว่าเธอเป็นบ้าแน่นอน คุยคนเดียว

               ไลน์! เสียงข้อความไลน์ดัง เมธีส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มให้เธอ พรนภาตกใจโยนโทรศัพท์ทิ้งบนที่นอนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดว่าคุณเมธีจะไลน์หา ขณะที่ตนเองก็ตัดสินใจว่าจะลบไม่ลบ เขาก็ดันไลน์มาเสียนี่

               “ใจกล้าเหมือนกันนะเนี่ย รุกเก่ง!” เธอยิ้มและพูดคนเดียวลอย ๆ อีกแล้ว ใครจะไปคิดว่าเขาจะกล้าทักมา นึกว่าเมื่อคืนขอเบอร์ไปเล่น ๆ อย่างนั้นเอง แต่ความรู้สึกของเธอยังไม่หายไปไหน ยังลังเลว่าจะลบหรือไม่ลบดี เธอยังไม่ตอบเขาไป ที่หน้าจอของเขามันคงขึ้นสถานะอ่านแล้ว คงรอเธอตอบกลับไปอยู่หรือเปล่านะ พรนภาไม่ได้หลงตัวเอง สาว ๆ ของเขาคงมีมากมายหลายคน

               และแล้วนิ้วของเธอก็สไลด์แชทของเขาไปข้าง ๆ แล้วกดคำว่าซ่อนแทนที่คำว่าลบ และไม่บล็อคอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ตอบเขาไป กลับมานึกถึงความฝันเมื่อคืน ใจของเธอมันก็ไม่อยากลบไลน์ของเขา ไม่อยากลืมความฝันที่แสนหวานนี้ เมื่อใดลืมก็แอบกดเข้าไปดูเขาได้ ความฝันมันก็จะได้ผุดขึ้นมาให้จำได้อีก

               วันเวลาผ่านไปหลายวัน พรนภากลับมาใช้ชีวิตปกติกับแฟนหนุ่ม โดยเก็บเรื่องนั้นไว้เป็นความลับ ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเพื่อน ๆ ของเธอ หลายครั้งคิดจะตอบกลับไป แต่มันคงไม่เหมาะแล้วล่ะ เพราะข้อความมันถูกส่งมาหลายวันแล้ว จะตอบกลับไปตอนนี้มันคงสายเกินไป เขาอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ เผลอ ๆ งงด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร นึกแล้วเธอก็ตลกตัวเอง ตลกแบบบอกความรู้สึกไม่ถูก ว่าเป็นความรู้สึกตลกแบบไหน นี่เธอจะนอกใจแฟนตัวเองเหรอ ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะทำ เธอจะใจแตกตอนนี้เหรอ บ้าไปแล้วพรนภา!

               ไลน์! เสียงไลน์จากโทรศัพท์ของเธอแจ้งเตือนอีกแล้วพรนภาชาร์จแบตโทรศัพท์ทิ้งไว้ ไม่สนใจเดินไปดู คงจะเป็นกลุ่มงาน หรือเพื่อน ๆ ของเธอแหละ แต่มีบางอย่างดลใจให้เธออยากไปดู ว่าเป็นไลน์จากใคร

               เมธี สิมะสุวรรณ เป็นชื่อไลน์ของเขา  หัวใจของเธอเต้นแรง นี่เธอกำลังตื่นเต้นอยู่เหรอ นี่เธอกำลังรอเขางั้นหรือ เธอกดเข้าไปอ่านเป็นสติกเกอร์ยิ้มให้อีกแล้ว ในใจก็ลังเลว่าจะตอบกลับไปหรือเปล่า

               “เอาวะ! กล้าทักมาก็กล้าตอบ” เธอบอกกับตัวเอง เหลี่ยมมาเหลี่ยมกลับไม่โกง เมื่อคิดได้เช่นนี้พรนภาจึงพิมพ์ไลน์ตอบกลับไป

               “ค่ะ” สั้น ๆ และกดส่งไป แล้วข้อความก็ส่งมาเรื่อย ๆ คุยไปคุยมาก็สนุกดี คุณเมธีเขาก็คุยสนุกดี

                “เมื่อไหร่หนูจะมานั่งร้านเบียร์วุ้นครับ”

               “วันไหนพี่ไม่ไปวันนั้นแหละหนูจะไป “ พร้อมส่งสติกเกอร์หัวเราะให้

               “กับใคร”

               “กับแฟนสิคะ”

               “ครับ”

               จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเป็นเดือน ๆ เกือบปี พรนภากับเมธีก็ยังคุยกันเรื่อย ๆ เรื่องราวที่คุยกันก็เจาะลึกลงไปอีกขั้น แต่ไม่ได้คุยกันทุกวัน ไม่ได้คุยกันตลอดเวลา วันละสองสามประโยคเท่านั้นเอง แต่ละวันเมธีจะทักหาเธอก่อนเสมอ จนบางครั้งวันไหนที่เขาไม่ทักหาเธอ เหมือนมีบางอย่างขาดหายไป และเธอก็ไม่ทักไปก่อนแน่นอน มันเป็นกฎเหล็กที่เธอตั้งขึ้นเอง ถ้าเขาอยากจะคุยเขาต้องทักมาเอง หายไปคือหายไปเลย ไม่เคยนัดเจอกัน แม้ลึก ๆ ลึกที่สุดของความรู้สึกเธออยากจะเจอเขามากแค่ไหนก็ไม่ทำ ยกเว้นเป็นเรื่องบังเอิญ

               “พี่เมธีหายไปไหนมา” ผ่านไปเกือบอาทิตย์ที่เขาหายไป พึ่งทักไลน์หาเธอ ก็ถามไปอย่างนั้นแหละ เขาก็คงมีครอบครัว ระหว่างที่หายเงียบไป เธอก็ไม่ทักตามด้วย อย่างที่บอกถ้าเขาจะคุยเขาต้องทักมาเอง

               “ไม่ได้หาย ก็หนูไม่ตอบไลน์พี่ ก็นึกว่าไม่อยากคุยแล้ว จะให้ทักไปนอกเวลางาน หนูก็สั่งพี่เด็ดขาดว่าห้ามทักมา มีขู่ด้วยว่าทักมาจะบล็อก” ตามด้วยสติกเกอร์งอนส่งให้เธอ

               “เอ๋าพี่เมธีก็ หนูก็ติดงานอยู่ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ตอบ แล้วหนูก็รอพี่ พี่ก็หายไปหลายวัน เอ้าพี่เมธีหาย!ลืมกันแล้วมั้ง อ้อคงอยู่กับเมียอะไรประมาณนี้”

               เธอประชดคืนบ้าง เขาจะมีไม่มีไม่ใช่ประเด็นของเธอ เพราะไม่ได้จริงจังอยู่แล้ว แต่คุยกับเขาแล้วมันมีความสุขพิลึก มีความสุขเหมือนเมื่อหลายปีก่อนนู้น ที่เธอเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นแล้ว มันหายไปตอนไหนช่วงไหนเธอก็ไม่รู้

               “บ้า! พี่ไม่มีครอบครัวครับ ลูกก็ไม่มี หนูแหละบอกแฟนดี ๆ แล้วกันว่าไม่มีพี่”

              ในช่วงพักเที่ยงทุกวัน ที่เขาทักมาคุยกับเธอ เธอไม่สนใจหรอกว่าใครจะคิดอย่างไร เพราะไม่มีใครรู้ ทุกคนจะไม่รู้เรื่องนี้ แม้กระทั่งพี่โค้กก็จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้ ตั้งแต่เจอกันวันนั้นก็นานมากแล้ว เธอไม่เคยไปเจอเขาอีก แม้อยากไปก็ไม่กล้าไป สักวันเมธีคงเบื่อไปเอง ไม่มีใครคุยได้นานหรอกโดยที่ไม่ได้คบ และเห็นหน้า และคุยได้ตลอดเวลาเหมือนคนอื่น คุยแค่ตอนพักเที่ยง วันละสองสามประโยคเท่านั้นเอง แต่ก็คุยกันมาได้เกือบปีเชียว

               บางครั้งเธอก็สับสนตัวเอง ในบางวันที่เธอขับรถผ่านร้านเบียร์ร้านนั้น เห็นเขานั่งอยู่คนเดียว หัวใจก็กระวนกระวายยังไม่รู้ ทั้งที่เขาอาจจะนั่งรอคนอื่น ขอเบอร์คนอื่นเหมือนเธอก็ได้ และทั้ง ๆ ที่เธอนั่งรถไปกับพี่โค้ก เธอเป็นอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หึงหวงเมธี เขาจะคุยกับใครก็ได้ เพราะเธอเป็นอย่างที่เขาหวังไม่ได้อยู่แล้ว แต่อาการกระวนกระวายใจมันเป็นอาการออกไปทางตื่นเต้นมากกว่า ตื่นเต้นที่ได้เจอเขา หัวใจเศร้า ๆ มันก็มีความสุข

              “พี่เมธีเมื่อวานหนูเจอพี่ที่ร้านเบียร์วุ้นด้วยแหละ” พักเที่ยงเวลาเดิมที่เขาทักมา และเธอตอบเขาไป “หนูไปธุระผ่านไปแถวนั้นพอดี”

               “ทำไมหนูไม่แวะหาพี่ เสียดายอยากเจอเหมือนกันเด้อ ลืมหน้าแล้วเนี่ย”

                “แวะได้ไงล่ะหนูไปกับเพื่อน ลืมหน้าอะไร ก็รูปโปรไฟล์ไง หนูอัพเดตตลอดแหละ พี่เมธีนะรูปเดิมตลอดเว”

               แล้วเขาก็ส่งสติกเกอร์หัวเราะกลับมา พรนภาเห็นแล้วก็แอบหัวเราะตาม มันเป็นความสุขเล็ก ๆ ในมุมอับของเธอ ในมุมมืดที่ไม่มีแสงใดสามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ ให้ความสุขมันเกิดขึ้นแค่ในความฝันเท่านั้นพอ แค่ฝัน ฝันที่ไม่เป็นจริง แม้อยากให้มันเป็นความจริงสักแค่ไหน มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เธอชำเลืองมองพี่โค้กกำลังเล่นเกมอยู่แบบเอาเป็นเอาตาย ปล่อยให้เขาอยู่ในโลกของเขาเถอะ ความสุขของเขา ส่วนความสุขของเธอมีคนทำให้แทนแล้ว

...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่