เมื่อ "ลูกผู้ชาย" อย่างผมถูกกระทำให้เป็น "ลูกสาว" : ประสบการณ์ชีวิตและความรักตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน ตอนที่ 1

ตอนแรกกะจะไม่เขียนเรื่องราวเหล่านี้นะครับ แต่เมื่อรู้สึกว่าในอนาคตผมอาจจะเป็นอัลไซเมอร์หรือเป็นโรคความจำเสื่อมถาวร
ก็เลยนึกอยากเขียนขึ้นมา (ปัจจุบัน โรคความจำสั้นที่เป็นอยู่ก็ดูจะทวีความรุนแรงมากขึ้น)

ผมเองเกิดปี 2514 ปัจจุบันอายุ 49 ปี แต่ถ้าจะถอยไปยังช่วงที่เกิดเรื่องราวต่างๆ ช่วงแรกมันจะเป็นช่วงที่ผมศึกษาอยู่ชั้น -
อนุบาล 1 - ป.5 กำเนิดเรื่องราวเหล่านี้มาจากการที่ญาติฝ่ายแม่และคนอื่นๆมีอาการเหม็นเบื่อพ่อและญาติฝ่ายพ่อ
ต้องยอมรับกันว่าพ่อเองและญาติฝ่ายพ่อหลายคนเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกดีและดูแมนมากๆ แต่ร้อยละ 90 -
ของพวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า คนจะเป็นลูกผู้ชายต้องพร้อมไปด้วย สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร ทำให้หนุ่มหล่อเหล่านี้
ล้วนมีความสามารถในสิ่งเหล่านี้แทบทั้งนั้น

พ่อผมเองก่อนจะมาแต่งงานกับแม่ผม เขาก็มีเมียมาแล้ว 1 คน และก็มีลูกชายมาแล้วถึง 5 คนด้วยกัน ลูกแต่ละคน
ล้วนแต่หล่อเหลาเอาการ เขาเองก็ทุ่มเทเลี้ยงลูกจนลูกชายทั้งห้าก็มากความสามารถไปทาง สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร
ตามพ่อไปด้วย ตอนพ่อไปจีบแม่ใหม่ๆ พ่อเองก็หลอกแม่ว่าเขาโสด ไม่เคยมีลูกมีเมียมาก่อน แม่ก็หลงเชื่อ 
ตอนน้นพ่อเองคงหว่านเสน่ห์เต็มที่จนแม่ถอนตัวไม่ขึ้น ขนาดปัจจุบันพ่อผมอายุ 80 กว่าปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูหล่อนะ
หุ่นยังดีอยู่เลย แถมเวลาเดินไปไหน สาวใหญ่สาวน้อยก็ยังหันมามอง 

ตอนผมอายุ 2 ขวบ พ่อกับยายทะเลาะกันอย่างรุนแรง ยายไล่พ่อออกจากบ้าน แต่ห้ามแม่ตามพ่อไป ไม่งั้น 
แม่จะถูกตัดออกจากกองมรดก แม่เองกลัวว่าผมจะกลายเป็นลูกไม่มีพ่อ จึงอุ้มผมตามพ่อออกไปด้วย 
ยายจึงตัดแม่ออกจากกองมรดก ตอนนั้นยายร่ำรวยมาก การที่ยายทำอย่างนั้นก็เพียงแค่ทำตามที่พูด ลึกๆแล้ว-
ยายคงเสียใจมาก ตามคำบอกเล่าของญาติทางแม่ ตอนนั้นยายหลงรักหลานชายอย่างผมมาก ตอนอายุ 2 ขวบ
ผมเองคงกำลังน่ารัก โชคดีที่ตอนก่อนยายจะเสีย ผมได้มีโอกาสไปกราบท่าน ท่านลูบหัวผม จ้องลึกไปในดวงตาของผม
น้ำตาแกไหลอาบแก้ม ผมเองก็น้ำตาซึมเหมือนกัน แล้วแกก็ตายในคืนนั้น ผมเองได้มีโอกาสขึ้นไปบนโถงชั้นสองที่ตึกใหญ่
ผมตกใจมากที่โถงตรงบันไดมีรูปผมตอนอายุสองขวบนอนคว่ำอยู่ กำลังน่ารักมาก ผมได้ยินมาว่าหลังจากแม่พาผมออกจากบ้านไป
ยายก็สั่งทำรูปนี้แล้วนำมาติดไว้ตรงนี้

หลังจากแม่ออกจากบ้านตามพ่อไป ญาติทางแม่อีกกลุ่มนึงได้ชวนพ่อกับแม่ไปอยู่ที่หมู่บ้านละแวกเดียวกัน ตอนนั้นญาติทางพ่อกลุ่มนึง-
ได้ลงเอยกับญาติทางแม่กลุ่มนึง แล้วก็มาลงหลักปักฐานใกล้ๆกัน พ่อกับญาติทางพ่อร่วมมือกันทำธุรกิจจนมั่งคั่งร่ำรวย แต่พอรวยและมีทรัพย์สิน-
เงินทองกันมาก พวกเขาก็หมกมุ่นในสุรา นารี พาชี กีฬาบัตร และมักจะเที่ยวแล้วพากันค้างที่บริษัท ไม่ยอมกลับมาที่บ้าน
ญาติฝ่ายแม่กับแม่เลยมารวมตัวกันที่บ้านใหญ่ แล้วก็ต่างระบายทุกข์กันด้วยความโกรธแค้น ตอนนั้นเหมือนพวกเขาจะแค้นผู้ชายทั้งโลก
มีหลายครั้งที่พวกเขามาคุยกัน ปรึกษากัน และก็กอดกันร้องไห้ หลังจากนั้นเรื่องแปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้น

ตอนอยู่ที่บ้าน ผมมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ เช่น ร้อยมาลัย แกะสลักผลไม้ เย็บปักถักร้อย แต่ผมทำได้ไม่ค่อยดีนัก มีป้าคนนึงก็จะแนะนำ
ให้ผมฟังเพลงพวกเพลงคลาสสิก เพลงไทยเดิม เพลงพระราชนิพนธ์ ข้อห้ามก็มีมากมาย เช่น ห้ามดูข่าวกีฬา ห้ามดูมวย ห้ามดูหนัง action
ห้ามเล่นกีฬา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ห้ามเอาชายเสื้อออกนอกกางเกง ห้ามถอดเสื้อ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามเล่นกับเด็กผู้ชาย แม้กระทั่งญาติกัน
ก็ห้ามเล่น ข้อห้ามต่างๆยังมาอีกเป็นหางว่าว เรื่องราวเหล่านี้จะเกิดขึ้นประมาณปี 2519 - 2524 ตอนที่ผมศึกษาอยู่ชั้นอนุบาล 1 จนถึง ป.5
เรื่องราวออกจะวุ่นวายหลายเรื่อง โชคดีที่ผมเป็นคนว่านอนสอนง่าย ผมจึงไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน

แต่ลึกๆแล้ว ผมอยากเป็นทหาร ลึกๆแล้ว ผมชอบความสมบุกสมบัน ชอบลุยๆ ชอบชกต่อย ชอบออก action มันชอบอยู่ในใจลึกๆ 
แต่ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้แสดงออกในเรื่องพวกนี้เลย หนังจีนก็ชอบแนวชอร์บราเดอร์ ชอบหนังต่อสู้ บุกตะลุย 
เรื่องกลายเป็นว่าผมต้องเก็บอาการการชอบความสมบุกสมบันไว้ลึกมาก บุคลิกที่เผยออกมาคือเด็กผู้ชายที่เรียบร้อยจนเหลือเชื่อ
และผมกลายเป็นเด็กพูดน้อย จนแทบไม่พูดเลย แต่ในหัวก็ชอบวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆที่แวดล้อมเราอยู่

ถ้าจะให้ชัด ในจินตนาการของผม ผมอยากเป็นแบบที่หมอภาคย์เป็น อยากผ่านหลักสูตรโหดๆต่างๆ ตอนรู้จักหมอภาคย์จากปฏิบัติการถ้ำหลวงฯ
พอรู้ว่าแกผ่านหลักสูตรโหดๆทางการฝึกทหารมาจนครบ ผมอิจฉาแกมาก อิจฉามากๆ แต่ระหว่างที่กำลังอิจฉาแกอยู่ อีกร่างในตัวผมก็เกิดปรากฏตัวขึ้น
คือร่างของ Miss Universe มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร คือ ... มันค่อยเป็นค่อยไปอ่ะครับ

ตอนที่ทางญาติฝ่ายแม่ กับแม่ อยากให้ผมกลายเป็นลูกสาว มันดันลามไปถึงโรงเรียน ญาติฝ่ายแม่รู้จักกับ ผอ.โรงเรียน
ซึ่งเป็นผู้หญิง จึงขอร้องให้ผมอยู่กับเพื่อนผู้หญิง อยากให้ผมเล่นแต่เฉพาะกับเด็กผู้หญิง
อยากให้กันผมออกจากนักเรียนชายทั้งหมด ผอ.ก็ดันเออ ออห่อหมกตามไปด้วย ท่านคงจะเกรงใจแม่
จนทำให้ผมงงๆหน่อยว่า เราควรจะอยู่ตรงไหนดีนะ

ตอนเด็กๆเท่าที่จำได้ เด็กผู้ชายชอบเล่นเปิดกระโปรงเด็กผู้หญิง พวกเขาเล่นกันแบบเหมือนเป็นพิธีกรรมอะไรสักอย่าง 
ไอ้ผมเอง ตอนนั้นงงกับบทบาทของตัวเองมาก จะไปอยู่ฝ่ายเด็กผู้ชายก็ทำไม่ได้เพราะมีหลายคนจับจ้องอยู่ จะไปอยู่กับฝ่ายเด็กผู้หญิง
ผมก็ก้มมองดูตัวเอง "เออ กูไม่มีกระโปรงให้พวกมันเปิด" เวลาใช้สรรพนามแทนตัวเองในใจ ผมจะใช้คำว่า "กู" ตลอด แต่ตอนพูดกับคนอื่น
ผมจะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า "ผม" ตลอดคือมันต้องเป็นแบบนั้นไปก่อน

คำสั่งห้ามไม่ให้ไปเล่นกับเด็กผู้ชายคนอื่น ยังคงมีอยู่ตลอด ผมเลยต้องมาเล่นคนเดียว ผมมักจะซื้อกระดาษเทาขาวจำนวนมากมาทำตึกระฟ้าหลายๆตึก
แล้วเอาพวกของแถมที่ได้มาจากการซื้อรองเท้านักเรียนยี่ห้อหนึ่งมาเล่นประกอบ มันมีของแถมจำนวนมาก แต่จำได้แม่นตรงเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก
ผมชอบเห็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กเครื่องนั้นบินผ่านตึกเทาขาวที่ผมสร้างขึ้น แต่ป้าอินดันมาเห็นเข้า ตึกที่ทำจากกระดาษเทาขาวของผมจึงถูกทำลาย
หลังจากนั้นป้าอินก็ให้งานผมมากขึ้น ร้อยมาลัยมากขึ้น แกะสลักพวกผักและผลไม้ เย็บปักถักร้อย แล้วก็ให้ไปนั่งพับเพียบช่วยงานในครัว

แล้วป้าอินชอบมาเล่าให้ผมฟังว่าผู้ชายเป็นเพศที่เลวร้ายมาก เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ เราควรอยู่ให้ไกล ผมงงกับสิ่งที่ป้าอินกำลังสื่อสารกับผม 
ตอนนั้นผมคิดแต่ว่า กูก็มีองคชาตินะ ป้าอินลืมไปแล้วเหรอ ผมรู้สึกว่าป้าอินเริ่มหนักข้อกว่าแม่หลายเท่าตัว เวลานั่งคุยกับป้าอิน 
ผมว่าผมเข้าใจแกนะ แกคงทุกข์หนักมาก ผมลองมองๆดูญาติฝ่ายแม่ละแวกนี้ ก็ดูสวย น่ารักกันทุกคนเลยนะ แต่ทำไมญาติฝ่ายพ่อ-
ถึงชอบทิ้งๆขว้างๆ ทำไมเลือกเขาแล้ว ไม่ดูแลเขา ไม่อยู่กับเขา ไม่เอาใจใส่เขาให้มากกว่านี้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้

เรื่องราวเริ่มเลวร้ายเมื่อป้าอินปรึกษาทุกคนว่า "ให้เติ้ลมันแต่งเป็นนักเรียนหญิงไปเลยมั้ย เธอทำได้อยู่แล้วนี่ เธอเองก็มีบุญคุณกับแม่ ผอ.นั่น
มันทำได้ไม่ยากหรอก" หลังจากป้าอินหลุดปาก ทุกคนก็ช้อคไปตามกัน ภายในไม่กี่วันเรื่องราวเหล่านี้ก็ไปเข้าหูพ่อ คงเข้าแบบจังๆเลยแหละ
พ่อกับอาครรชิตเลยมาที่บ้านหลังจากวันนั้นประมาณ 4 วัน แล้วก็เกิดการปะทะคารมกันครั้งใหญ่ระหว่างพ่อกับป้าอิน

"นั่นมันลูกชายผมนะ มีสิทธิอะไรจะมาทำกันแบบนี้"

"แต่เติ้ลมันก็หลานรักของฉัน ฉันทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นมันเลวเหมือนกับพวกแก"

ขณะที่การเถียงกันเข้าขั้นวิกฤต แม่นั่งร้องไห้อยู่อีกห้อง แกคงได้ยินทุกอย่าง จริงๆแล้วแม่คงยังรักพ่อมาก แต่ ... เออ
เรื่องราวมันโกลาหลแบบนี้แหละครับ ผมเองถูกจับไปซ่อนอีกห้องหนึ่ง โดยมีพี่รุ้งนั่งเป็นเพื่อนผม
แกเป็นญาติฝ่ายแม่ที่สาวและสวยมากๆ โชคชะตากำลังจะเล่นตลกกับแก เพราะอีกไม่กี่วัน พี่พล ญาติฝ่ายพ่อเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้
ผมไม่แน่ใจนะว่าพี่พลเข้ามาเองหรือว่าพ่อส่งมา สำหรับผมในตอนนั้น พี่รุ้งคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก
ส่วนพี่พลคือผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก สงครามโลกกำลังจะเกิด ในฐานะคนกลาง ผมให้กำลังใจทุกฝ่ายนะ
โชคดีมากที่ผมมองโลกในแง่ดีและเป็นคนคิดบวกมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากความโกลาหลที่มันเกิดขึ้น
และกำลังจะเกิดขึ้น

ไปว่ากันต่อในตอนที่ 2 ก็แล้วกันนะครับ ผมต้องไปทำธุระแล้ว ..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่