บุคคลแรกที่ได้รับการเก็บรักษาด้วยความเย็น


มนุษย์คนแรกที่ทำการแช่แข็งโดยใช้วิธี Cryonics (ไครโอนิกส์) คือ Dr.James Bedford ในปี 1967 ขณะนั้นเขามีอายุ 73 ปี ซึ่งมีข้อมูลถูกบันทึกเป็น เอกสารสารคดี โดยองค์กรผู้ดูแลและรับผิดชอบเทคโนโลยีนี้ในอเมริกาที่ชื่อว่า Alcor Life Extension Foundation
 
เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ที่ร่างของ Bedford นอนหลับอยู่ในถังอลูมิเนียม (อุณหภูมิติดลบ -196 องศาเซลเซียส) โดยไม่มีใครล่วงรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจใช้ร่างกายของตนเองเป็นสิ่งเดิมพันกับวิทยาการที่ยังไม่เคยทดลองสำเร็จมาก่อน จากประวัติของเขาอาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นเพราะความสนใจในวิทยาศาสตร์ ปรัชญาเกี่ยวกับมนุษย์ที่เขาเชี่ยวชาญ หรือต้องการเห็นโลกในอนาคต
 
Dr.James Hiram Bedford คือนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการเขียนหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาหลายเล่ม มีงานประจำคือ ศาสตราจารย์ประจำวิชาจิตวิทยา ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย  ก่อนจะเสียชีวิตเขาป่วยเป็นมะเร็งที่ไตจากนั้นก็ลามขึ้นปอดทำให้โอกาสที่จะรักษาหายนั้นยากและรู้ว่าความตายกำลังใกล้เข้ามา
 
ในขณะนั้น (ค.ศ.1965) โครงการแช่แข็งมนุษย์เพื่อรอวันฟื้นคืนชีพของ Alcor เป็นที่พูดถึงอย่างมากในอเมริกา  Bedford จึงส่งใบสมัครเป็นผู้ทดลองในโครงการ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ทดลองคนแรก โดยมีกฏว่าจะต้องได้รับการยินยอมจากคนในครอบครัวด้วย เขาตกลงพร้อมจ่ายเงินทันที
แต่ครอบครัวของเขาไม่เห็นด้วย เนื่องจาก Bedford เป็นคนดังและเป็นคนสำคัญของครอบครัว เขาควรได้รับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ญาติได้ทำการฟ้ององค์กร Alcor แต่คำฟ้องตกไป เพราะเจ้าของร่างกายจึงมีสิทธิ์ในการตัดสินใจได้เอง
 
Bedford จากไปในวันที่ 12 มกราคม 1967 หลังการตายระยะเวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง เมื่อทีม“ ผู้เชี่ยวชาญ” มาถึงและเริ่มเตรียมร่างกาย การดัดแปลงเทคนิคจากสาขาการแช่แข็งซึ่งศึกษาวัสดุที่อุณหภูมิต่ำ พวกเขาฉีดสารป้องกันการแข็งตัวระดับทางการแพทย์เข้าสู่กระแสเลือดของเขาในขณะที่สูบออกซิเจนผ่านระบบของเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสียหายต่อสมอง จากนั้นร่างของเขาถูกบรรจุไว้ในแคปซูลที่บรรจุด้วยน้ำแข็งแห้ง
(ประมาณ 79 องศาเซนติเกรด) ก่อนที่จะนำเขาไปอยู่ในสภาพแวดล้อมไนโตรเจนเหลวที่ –196 องศาเซนติเกรด
 
 
(Bedford ได้รับการฉีดไดเมทิลซัลฟอกไซด์หลังจากเสียชีวิตในบ่ายวันที่ 12 มกราคม1967)

 
ร่างของเขาก็ถูกบรรจุไว้ในถังอลูมิเนียมสูญญากาศที่เรียกว่า “Dewar Tank” (ถังดีวอร์)  ภายในจะมีระบบทำความเย็นโดยใช้ไนโตรเจนเหลวในการเก็บรักษาร่าง ซึ่งดำเนินมาจนกระทั่งอีก 24 ปีต่อมา (ค.ศ.1991) ได้มีการนำร่างของ Bedford มาตรวจสอบ จากการสังเกตด้วยตาเปล่านักวิจัยลงบันทึกว่า
 
" ผิวหนังของเขายังอยู่ในสภาพดีและดูเหมือนจะหนุ่มขึ้นด้วย แต่แม้บริเวณหน้าอกจะยังมีขนบาง ๆ ปรากฏอยู่ แต่ตรงต้นคอด้านหน้ากลับมีผื่นแดงเกิดขึ้นประมาณ 2 ซม. อีกทั้งยังมีเลือดที่เป็นน้ำแข็งติดอยู่บริเวณจมูกและปาก ส่วนอวัยวะเพศนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีน้ำแข็งเกาะอยู่ที่อุปกรณ์สวมใส่อย่างแน่นหนา "

จนถึงปัจจุบันร่างกายของ Bedford ถูกเก็บไว้ในถังใบใหม่ต่อมาอีกเกือบสามสิบปี จนตอนนี้เขานอนอยู่ในถัง Dewar ครบ 53 ปีแล้ว (สาเหตุที่ปี 1991 ต้องนำตัวเขาออกมาเผชิญอากาศภายนอกก็เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายร่างไปยังถังใบใหม่ที่ถูกอัพเกรดให้ดีขึ้น)
อย่างไรก็ตาม Bedford ยังคงอยู่ในห้องเก็บความเย็นใน "สถานะแขวนลอยคล้ายกับอาการโคม่า" จากรายงานข่าวที่เผยแพร่โดย Alcor Life Extension Foundation  ระบุว่า“ ปัจจุบันยังไม่มีชีวิตอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เขาก็ไม่ตายเช่นกัน”
 
 
(การนำร่างออกมาเพื่อย้ายไปยังถังเก็บใบใหม่)


(ซ้าย – แช่แข็งธรรมดา) , (ขวา – แช่แข็งด้วยวิทยาการใหม่)
 

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่อง Cryonics (ไครโอนิกส์) เริ่มจากศาสตราจารย์ Robert Ettinger นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ได้ทำการทดลองนำสเปิร์มกบ และสเปิร์มวัวมา
ทดลองแช่แข็งเพื่อยืดอายุในการเก็บรักษา และเมื่อสำเร็จก็ทดลองต่อโดยการแช่แข็งตัวอ่อนของหนู และกระต่ายเพื่อทดลองว่าเซลล์ในร่างกายของพวกมันจะเสียหายหรือไม่  ปรากฏว่าเซลล์เหล่านั้นยังมีชีวิต
 
ศาสตราจารย์จึงเขียนผลการทดลองเผยแพร่ลงในหนังสือ “The Prospect of Immortality” (โอกาสที่จะเป็นอมตะ – เผยแพร่เมื่อ 1962) และเมื่อหนังสือถูกวางจำหน่าย หลายบริษัททั่วโลกก็พยายามที่จะทำให้มนุษย์เป็นอมตะได้สำเร็จ แม้ว่าตอนนี้จะยังชุบชีวิตของมนุษย์ขึ้นมาไม่ได้ แต่ปัจจุบันเทคนิค Cryonics ถูกนำมาใช้กับหลายวิทยาการเพื่อยืดอายุของสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่ อสุจิ ตัวอ่อน เนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ 
 
เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้พัฒนาเทคนิคการแช่แข็งรูปแบบใหม่ ชื่อว่า Vitrification เพื่อแก้ปัญหาที่ความเย็นติดลบ -196 องศา จะทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะได้รับความเสียหายจากการจับตัวกันเป็นผลึกน้ำแข็ง ซึ่งก่อให้เกิดเป็นความเสียหายระดับเซลลจนอวัยวะชิ้นนั้นไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป
 
แต่เทคโนโลยีใหม่ดังกล่าวจะทำการแช่แข็งอวัยวะหรือเนื้อเยื่อให้อยู่ในสภาพแข็งเหมือนแก้ว เพราะสามารถยับยั้งการก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็ง จึงทำให้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อสามารถแข็งตัวได้โดยไม่เกิดความเสียหายต่อเซลล์ แต่ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า ดีเซลลูไลซ์เซชั่น (decelluarization) หรือการลบล้างเซลล์ในอวัยวะเพื่อให้เกิดอวัยวะเปล่าเพื่อจะใส่เซลล์ใหม่เข้าไป เป็นความหวังใหม่ในการฟื้นคืนชีพ
 
อุปสรรคสำคัญของเทคนิคนี้ก็คือยังไม่สามารถใช้ได้กับวัตถุที่มีขนาดใหญ่ เช่น ร่างกายมนุษย์ทั้งร่าง เนื่องจากเรายังไม่มีเทคนิคที่สามารถทำให้อุณหภูมิภายในแกนกลางของวัตถุลดลงได้ในอัตราเดียวกันกับส่วนด้านนอก ซึ่งหากอวัยวะภายในและภายนอกถูกแช่ด้วยอุณหภูมิที่ไม่เท่ากัน ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าวิธีเดิมได้
ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีการใช้เทคนิค Vitrification กับส่วนหัวหรือสมองเป็นหลัก เพราะมีขนาดเล็กกว่า และหากร่างกายเสียหายแต่สมองยังคงอยู่ ก็เพียงหาร่างใหม่เพื่อทำการเชื่อมต่อกับสมอง เจ้าของสมองผู้นั้นก็อาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้จริง
 
 
(Decelluarization / Cr.ภาพ midwestresearchswine.com/)

 
ด้วยความหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จึงเป็นแรงผลักดันให้ลูกค้าเข้าสู่ cryonics เชิงพาณิชย์อีกสามแห่งในโลก ได้แก่  Alcor, Cryonics Institute ใน Clinton Township, Michigan และ KrioRus ใกล้กับ Moscow ปัจจุบันมีร่างกายและสมองกว่า 300 ชิ้นถูกเก็บรักษาไว้ในระหว่างสถานที่เหล่านี้และอีก 3,000 คนที่ลงชื่อเข้าร่วม ซึ่งรวมถึงคนส่วนใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ตามด้วยสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลียและเยอรมนี

รวมถึงบุคคลชั้นนำของโลกก็ให้ความสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรชื่อดังของ CNN อย่าง ลาร์รีย์ คิง, ปารีส ฮิลตัน, บริทนีย์ สเปียร์ และ ไซมอน โคเวลล์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะแช่แข็งตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายจริงๆ
 
โดยเฉพาะตัวเลขจากรายงานของ Alcor ล่าสุดระบุว่า  ปี 2020 นี้พวกเขาดูแลร่างกายของผู้ที่รอวันคืนชีพแล้วกว่า 176 คน (ผู้ชาย 129 ผู้หญิง 46) และยังมีผู้ที่ลงชื่อรอเข้าร่วมอีกกว่า 1,296 คน ซึ่งตัวเลขของผู้ที่ลงชื่อสนใจเข้าร่วมนี้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี และวันที่ 12 มกราคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันที่ Bedford
เสียชีวิต ถูกยกให้เป็นวันสำคัญของการแช่แข็งมนุษย์  โดยถูกเรียกว่า “Bedford Day”

(สำหรับการแช่แข็งร่างกายด้วยเทคโนโลยี Cryonics ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอยู่ที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการแช่แข็งทั้งร่าง และ 80,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการแช่เฉพาะสมอง)

 
Cr.ภาพของสมองที่ถูกแช่แข็งโดย Fer Gregory จาก Shutterstock.com
 
Cr.https://www.flagfrog.com/cryonics-science-story/โดย ManoshFiz
Cr.https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1451183
Cr.https://sapparot.co/2017/08/22/china-husband-cryo-preserved-his-late-wife-body/ (ผู้ใช้บริการ cryonics)
Cr.https://board.postjung.com/924589 (ผู้ใช้บริการ cryonics)
Cr.https://www.amusingplanet.com/2019/02/james-hiram-bedford-first-person-to-be.html / KAUSHIK PATOWARY
 
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่