ประมาณวันที่ 5 กันยายน 2559 แม่ผมมีอาการจุกท้อง จึงไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่ง ซึ่งหมอบอกว่าเป็นนิ่ว แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจครั้งที่2 หมอบอกเป็นโรคกระเพาะ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นอีก

วันที่28 กันยายน 2559 แม่ผมจึงตัดสินใจไปตรวจที่ศิริราช ปรากฏว่าคลำเจอเนื้องอกบริเวณรังไข่ ช่วงแแรกแม่ผมก็ไม่ยอมผ่าตัด เลือกจะไปรักษาธรรมชาติบำบัดกับหมอเขียว
แต่อาการไม่ดีขึ้น ปวดท้องมากจนทนไม่ไหว สุดท้ายจึงต้องยอมผ่าตัด (ผมอยากแนะนำสำหรับคนที่หมอให้ผ่าตัด รีบผ่าตัดเถอะครับ ยิ่งเร็วยิ่งดี)

วันที่1 พฤศจิกายน 2559 ผ่าตัดเนื้องอกครั้งแรก ที่โรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่ง ซึ่งไปพบอยู่บริเวณลำไส้เล็ก และรอผลตรวจ

วันที่4 มกราคม 2560 ผลตรวจออกมาพบว่าเป็นเนื้อร้าย เป็นมะเร็งGIST หลังจากนั้นหมอก็ให้ยาImatinib แม่ผมก็ไม่ค่อยได้กิน เนื่องจากยาตัวนี้ทานแล้วมีอาการอาเจียน ทานยาแก้อาเจียนก็ยังไม่หาย จนสุดท้ายก็ไม่ยอมกินยาImatinib แม่ผมก็เริ่มกลับไปดูแลตัวเองแบบธรรมชาติบำบัดอีก

สุดท้ายมะเร็งก็กลับมาอีก แต่รอบนี้แม่ผมเลือกที่จะไม่ผ่าตัด หมอจึงเพิ่มปริมาณยาImatinib (แต่แม่ผมก็ไม่ค่อยกิน เค้ากลัวไตวาย) ยังคงรักษาแบบธรรมชาติบำบัดอยู่ แต่อาการก็แย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีอาการปวดท้อง และตอนนี้แม่ผมเป็นมะเร็งอยู่ในระยะแพร่กระจายแล้ว หมอแจ้งว่าให้ทำใจแล้ว ยาImatinib ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแล้ว และผ่าตัดไม่ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้แม่ผมยังแข็งแรง เหมือนคนปกติ แต่คลำดูที่ท้องมีเนื้องอกประมาณ3เม็ด

ผมอยากทราบว่า
1. ผมจะยื้อชีวิตแม่ยังไงครับ ปัจจุบัน แพทย์แผนปัจจุบัน ยังมีแนวทางรักษาสำหรับมะเร็งGIST ระยะสุดท้ายไหมครับ เช่น ใช้ยาพุ่งเป้าตัวอื่นแทนImatinibได้ไหม
2.ในทางการรักษา ถ้าผมไปบอกหมอว่าที่ยาไม่ตอบสนอง เป็นเพราะแม่ไม่กินยา จะเป็นประโยชน์กับแม่ผมไหมครับ
3.แม่ผมจะอยู่ได้นานอีกแค่ไหนครับ
4.ผมอยากช่วยแม่ แต่ทำไรไม่ได้เลย ผมควรทำยังไงดีครับ

ขอขอบพระคุณทุกท่าน