ขอวอนพี่ๆน้าช่วยหน่อยนะครับผมแปลไม่ได้ๆจริง
หน้า38
• บัดนั้น พวกทหารองอาจดังราชสีห์
ครั้นหักเข้าได้ในบุรี ขึ้นค้นทุกหน้าที่ทั่วไป
เก็บเอาหอกดาบปืนผา คัสตราอาวุธน้อยใหญ่
ขนมาศาลากลางวางไว้ ส่งให้นายหมวดนายกอง
บ้างจัดแจงแต่งพลโยธา ไปลาดหาเสบียงทุกบ้านช่อง
ให้เหล่าทหารปืนพื้นลำลอง ตั้งกองประจำไว้ในพารา
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา
•บัดนั้น. ฝ่ายขุนมหาดไทยใจกล้า
ถือหนังสือคุมคนโทษมา นอนทางกลางป่ามาหลายวัน
ลุถึงดาหาธานี ลงจากพาชีขมีขมัน
จึงนำเอาหนังสือบอกนั้น. พากันมายังวังใน
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
•ครั้นถึงจึงตรงไปศาลา. วางตราเสมียนเวรผู้ใหญ่
แล้วนำนักโทษนั้นเข้าไป กราบไหว้แจ้งการท่านเสนา
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
• บัดนั้น. ปาเตะได้ฟังไม่กังขา
ก็ลนลานลงจากศาลา รีบมาพระโรงคัลมิทันนาน
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
หน้าที่39
•ก้มเกล้ากราบทูลมูลเหตุ พระปิ่นปักนัคเรศราชฐาน
บัดนี้มีหนังสือกรมการ บอกขานข่าวศึกมาติดพัน
จับคนมาได้ให้การว่า จะเข้าตีพาราบุหราหงัน
ราษฎรผ่อนครัวเข้าไพรวัน พระทรงธรรม์จงทราบฝ่าธุลี
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น. พระผ่านภพดาหากรุงศรี
ได้ฟังข่าวราชไพรี. ภูมีสั่งปะหรัดกะติกา
ให้ตรวจทัพเมืองขึ้นของเรานั้น. มาพร้อมกันอยู่นอกดาหา
ให้ตั้งค่ายรายรอบพารา. รักษาเป็นสองชั้นมั่นไว้
ฯ ๔ คำ ฯ
บัดนั้น. ปะหรัดกะติกาบังคมไหว้
รับพระบัญชาแล้วคลาไคล. รีบไปเร็วพลันทันที
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
จึงบอกกล่าวท้าวพระยาทั้งหลาย. เร่งตั้งค่ายรายรอบกรุงศรี
ข้าศึกเห็นจะมาถึงธานี. รับสั่งครั้งนี้อย่านอนใจ
บัดนั้น. พระยาสามนต์น้อยใหญ่
ฟังกำหนดพจนารถภูวไนย. ก็ตรวจตราหาไพร่ให้พรั่งพร้อม
เร่งตั้งค่ายรายรอบกำแพงเมือง. ยักเยื้องมิให้บังหน้าป้อม
ชักปีกกาถึงกันเป็นหลั่นล้อม. วงอ้อมโอบรอบขอบคู
ยกหอรอหอคอยลอยตระหง่าน. สับกระดานต้านตั้งบังอยู่
รั้วขวากชั้นในไว้ประตู. เสากระทู้เขื่อนขัณฑ์มั่นคง
ทุกหน้าค่ายภายนอกออกไป. ก็โค่นไม้ขุดตอไม่หลอหลง
ฉายจอมปลวกปราบราบลง. ให้เตียนตรงป้อมปืนในพารา
สนามเพลาะในค่ายรายปืนน้อย. วางคนประจำคอยอยู่รักษา
แล้วนายกองรีบรัดจัดโยธา. เป็นหมู่หมวดตรวจตราทุกราตรี
ฯ ๑๐ คำ ฯ
เมื่อนั้น. ฝ่ายวิหยาสะกำเรืองศรี
ครั้นหักศึกมีชัยได้บุรี. ให้ตรวจเตรียมโยธีทุกกระทรวง
แล้วยกพลนิกายกองหน้า. ยาตราดำเนินนำทัพหลวง
ตีเมืองรายทางทั้งปวง. เลยล่วงไปตามมรคา
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
ขอบคุณครับ
ช่วยถอดคำประพันธ์ อิเหนาตอนศึกกะหมังกุหนิง หน้า38-39หน่อยครับ(ผมไม่เก่งวิชาภาษาไทยครับ)
หน้า38
• บัดนั้น พวกทหารองอาจดังราชสีห์
ครั้นหักเข้าได้ในบุรี ขึ้นค้นทุกหน้าที่ทั่วไป
เก็บเอาหอกดาบปืนผา คัสตราอาวุธน้อยใหญ่
ขนมาศาลากลางวางไว้ ส่งให้นายหมวดนายกอง
บ้างจัดแจงแต่งพลโยธา ไปลาดหาเสบียงทุกบ้านช่อง
ให้เหล่าทหารปืนพื้นลำลอง ตั้งกองประจำไว้ในพารา
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา
•บัดนั้น. ฝ่ายขุนมหาดไทยใจกล้า
ถือหนังสือคุมคนโทษมา นอนทางกลางป่ามาหลายวัน
ลุถึงดาหาธานี ลงจากพาชีขมีขมัน
จึงนำเอาหนังสือบอกนั้น. พากันมายังวังใน
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
•ครั้นถึงจึงตรงไปศาลา. วางตราเสมียนเวรผู้ใหญ่
แล้วนำนักโทษนั้นเข้าไป กราบไหว้แจ้งการท่านเสนา
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
• บัดนั้น. ปาเตะได้ฟังไม่กังขา
ก็ลนลานลงจากศาลา รีบมาพระโรงคัลมิทันนาน
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
หน้าที่39
•ก้มเกล้ากราบทูลมูลเหตุ พระปิ่นปักนัคเรศราชฐาน
บัดนี้มีหนังสือกรมการ บอกขานข่าวศึกมาติดพัน
จับคนมาได้ให้การว่า จะเข้าตีพาราบุหราหงัน
ราษฎรผ่อนครัวเข้าไพรวัน พระทรงธรรม์จงทราบฝ่าธุลี
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น. พระผ่านภพดาหากรุงศรี
ได้ฟังข่าวราชไพรี. ภูมีสั่งปะหรัดกะติกา
ให้ตรวจทัพเมืองขึ้นของเรานั้น. มาพร้อมกันอยู่นอกดาหา
ให้ตั้งค่ายรายรอบพารา. รักษาเป็นสองชั้นมั่นไว้
ฯ ๔ คำ ฯ
บัดนั้น. ปะหรัดกะติกาบังคมไหว้
รับพระบัญชาแล้วคลาไคล. รีบไปเร็วพลันทันที
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
จึงบอกกล่าวท้าวพระยาทั้งหลาย. เร่งตั้งค่ายรายรอบกรุงศรี
ข้าศึกเห็นจะมาถึงธานี. รับสั่งครั้งนี้อย่านอนใจ
บัดนั้น. พระยาสามนต์น้อยใหญ่
ฟังกำหนดพจนารถภูวไนย. ก็ตรวจตราหาไพร่ให้พรั่งพร้อม
เร่งตั้งค่ายรายรอบกำแพงเมือง. ยักเยื้องมิให้บังหน้าป้อม
ชักปีกกาถึงกันเป็นหลั่นล้อม. วงอ้อมโอบรอบขอบคู
ยกหอรอหอคอยลอยตระหง่าน. สับกระดานต้านตั้งบังอยู่
รั้วขวากชั้นในไว้ประตู. เสากระทู้เขื่อนขัณฑ์มั่นคง
ทุกหน้าค่ายภายนอกออกไป. ก็โค่นไม้ขุดตอไม่หลอหลง
ฉายจอมปลวกปราบราบลง. ให้เตียนตรงป้อมปืนในพารา
สนามเพลาะในค่ายรายปืนน้อย. วางคนประจำคอยอยู่รักษา
แล้วนายกองรีบรัดจัดโยธา. เป็นหมู่หมวดตรวจตราทุกราตรี
ฯ ๑๐ คำ ฯ
เมื่อนั้น. ฝ่ายวิหยาสะกำเรืองศรี
ครั้นหักศึกมีชัยได้บุรี. ให้ตรวจเตรียมโยธีทุกกระทรวง
แล้วยกพลนิกายกองหน้า. ยาตราดำเนินนำทัพหลวง
ตีเมืองรายทางทั้งปวง. เลยล่วงไปตามมรคา
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
ขอบคุณครับ